ขอเรียนปรึกษาผู้รู้ทุกท่าน
ดิฉันได้ค้ำประกันให้กับพี่ที่ทำงานเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันผู้กู้เขายังมียอดหนี้คงค้างอยู่ 1 ล้านกว่าๆ...โดยผู้ค้ำประกันมีทั้งหมด 4 คน ก็ติดต่อกันดีมาตลอด จนกระทั่งอยู่ๆ..ดิฉันได้รับข่าวจากผู้ค้ำอีกคนว่า..พี่ที่กู้ทำเรื่องขอย้ายข้ามกรม แล้วตอนนี้หนังสือจากกรมก็ส่งมายังหน่วยงาน..ซึ่งพอเราทราบจึงสอบถามมายังเจ้าตัวว่า พี่ไม่เห็นแจ้งให้ทราบเรื่องย้ายเลยแล้วเรื่องหนี้หล่ะ พี่จะดำเนินการอย่างไร??? แล้วคำตอบที่ได้ คือไม่ต้องกังวลนะพี่ยังค้ำได้เหมือนเดิม
แต่จากที่ดิฉันสอบถามไปยังสหกรณ์กรม ปรากฎว่ามันไม่สามารถจะทำได้ทั้งกู้และค้ำเพราะคุณได้ย้ายออกไปอยู่กรมอื่น..และที่สำคัญผู้กู้รายนี้ไม่มีการแจ้งไปยังสหกรณ์ถึงเรื่องที่ตนเองย้ายว่าตนเองจะต้องดำเนินการเรื่องหนี้สิ้นอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นคำสั่งให้โอนย้ายมีผลแล้ว
ดิฉันจึงได้ปรึกษากับผู้ค้ำทุกคนว่าเราควรจะทำอย่างไรดี ก็เลยรวมตัวกันขอให้ผู้ใหญ่ในหน่วยงานช่วยเป็นตัวกลางพูดกับผู้กู้ให้ดำเนินการชำระหนี้สิ้นให้แล้วเสร็จ ผู้กู้ก็มานั่งบีบน้ำตาว่าไม่ได้คิดจะหนี ไม่รู้จริงๆว่าต้องแจ้ง (เออ..หนี้ของคุณล้านกว่านะไม่ใช่บาทสองบาทแล้วมาบอกกับเราว่าพี่สามารถค้ำได้คืออะไร???) ...ผู้กู้ขอเวลาสักระยะ (แล้วระยะของคุณเมื่อไหร่...ตอบไม่ได้ และคุณกำลังจะไปทำงานที่อื่น ความน่าเชื่อถือศูนย์ หลักประกันก้อไม่มีว่าผู้กู้จะดำเนินการชำระหนี้) ...จากที่คุยกันมากับสหกรณ์เอง...มันทำให้เราไม่อยากจะไว้ใจเขาเพราะพฤติกรรมที่เขากระทำมันบ่งบอกว่า เพิกเฉยต่อหนี้สิ้น
ขอสอบถามดังนี้ค่ะ
1. การที่ข้าราชการจะย้ายข้ามกรมนั้น หน่วยงานที่ทำอยู่ปัจจุบันและสหกรณ์ไม่มีกระบวนการใดๆมาตรวจสอบเรื่องหนี้สิ้นก่อนขอย้ายหรือทั้งที่เป็นหนี้สหกรณ์กรมที่เขาทำงานอยู่...ถ้าเป็นแบบนี้ผู้ค้ำทุกคนก็เสียเปรียบ หรือถ้าผู้ใดอยากหนีหนี้ก็เพียงทำเรื่องขอโอนย้ายอย่างนี้หรือ...
2.ผู้ค้ำควรดำเนินการต่อไปอย่างไรดี...ซึ่งตอนนี้เราได้ให้ผู้กู้ทำเอกสารไปยังสหกรณ์กรมแจ้งเรื่องการย้ายและการขอชำระหนี้ โดยโอนหนี้ไปที่ทำงานใหม่ ซึ่งตอนนี้กำลังรอลุ้น... อยู่ว่าผู้กู้จะดำเนินอย่างที่เราได้บอกไว้หรือไม่ แต่หากเขาไม่ทำเราควรดำเนินการอย่างไรค่ะ เพราะดิฉันไม่อยากให้คนแบบนี้ไปทำกับใครอีก ตัวเขาเองก็เป็นข้าราชการและสามีก็เป็นอจ. ความรับผิดชอบและความซื่อสัตย์ยังไม่มีแล้วจะไปทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างไร...
ขอบคุณค่ะ
เราควรทำอย่างไรดีกับ...ผู้กู้เงินสหกรณ์กรมแล้วจะชิงหนีโอนย้ายไปกรมอื่น..(หัวอกคนค้ำ)
ดิฉันได้ค้ำประกันให้กับพี่ที่ทำงานเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันผู้กู้เขายังมียอดหนี้คงค้างอยู่ 1 ล้านกว่าๆ...โดยผู้ค้ำประกันมีทั้งหมด 4 คน ก็ติดต่อกันดีมาตลอด จนกระทั่งอยู่ๆ..ดิฉันได้รับข่าวจากผู้ค้ำอีกคนว่า..พี่ที่กู้ทำเรื่องขอย้ายข้ามกรม แล้วตอนนี้หนังสือจากกรมก็ส่งมายังหน่วยงาน..ซึ่งพอเราทราบจึงสอบถามมายังเจ้าตัวว่า พี่ไม่เห็นแจ้งให้ทราบเรื่องย้ายเลยแล้วเรื่องหนี้หล่ะ พี่จะดำเนินการอย่างไร??? แล้วคำตอบที่ได้ คือไม่ต้องกังวลนะพี่ยังค้ำได้เหมือนเดิม
แต่จากที่ดิฉันสอบถามไปยังสหกรณ์กรม ปรากฎว่ามันไม่สามารถจะทำได้ทั้งกู้และค้ำเพราะคุณได้ย้ายออกไปอยู่กรมอื่น..และที่สำคัญผู้กู้รายนี้ไม่มีการแจ้งไปยังสหกรณ์ถึงเรื่องที่ตนเองย้ายว่าตนเองจะต้องดำเนินการเรื่องหนี้สิ้นอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นคำสั่งให้โอนย้ายมีผลแล้ว
ดิฉันจึงได้ปรึกษากับผู้ค้ำทุกคนว่าเราควรจะทำอย่างไรดี ก็เลยรวมตัวกันขอให้ผู้ใหญ่ในหน่วยงานช่วยเป็นตัวกลางพูดกับผู้กู้ให้ดำเนินการชำระหนี้สิ้นให้แล้วเสร็จ ผู้กู้ก็มานั่งบีบน้ำตาว่าไม่ได้คิดจะหนี ไม่รู้จริงๆว่าต้องแจ้ง (เออ..หนี้ของคุณล้านกว่านะไม่ใช่บาทสองบาทแล้วมาบอกกับเราว่าพี่สามารถค้ำได้คืออะไร???) ...ผู้กู้ขอเวลาสักระยะ (แล้วระยะของคุณเมื่อไหร่...ตอบไม่ได้ และคุณกำลังจะไปทำงานที่อื่น ความน่าเชื่อถือศูนย์ หลักประกันก้อไม่มีว่าผู้กู้จะดำเนินการชำระหนี้) ...จากที่คุยกันมากับสหกรณ์เอง...มันทำให้เราไม่อยากจะไว้ใจเขาเพราะพฤติกรรมที่เขากระทำมันบ่งบอกว่า เพิกเฉยต่อหนี้สิ้น
ขอสอบถามดังนี้ค่ะ
1. การที่ข้าราชการจะย้ายข้ามกรมนั้น หน่วยงานที่ทำอยู่ปัจจุบันและสหกรณ์ไม่มีกระบวนการใดๆมาตรวจสอบเรื่องหนี้สิ้นก่อนขอย้ายหรือทั้งที่เป็นหนี้สหกรณ์กรมที่เขาทำงานอยู่...ถ้าเป็นแบบนี้ผู้ค้ำทุกคนก็เสียเปรียบ หรือถ้าผู้ใดอยากหนีหนี้ก็เพียงทำเรื่องขอโอนย้ายอย่างนี้หรือ...
2.ผู้ค้ำควรดำเนินการต่อไปอย่างไรดี...ซึ่งตอนนี้เราได้ให้ผู้กู้ทำเอกสารไปยังสหกรณ์กรมแจ้งเรื่องการย้ายและการขอชำระหนี้ โดยโอนหนี้ไปที่ทำงานใหม่ ซึ่งตอนนี้กำลังรอลุ้น... อยู่ว่าผู้กู้จะดำเนินอย่างที่เราได้บอกไว้หรือไม่ แต่หากเขาไม่ทำเราควรดำเนินการอย่างไรค่ะ เพราะดิฉันไม่อยากให้คนแบบนี้ไปทำกับใครอีก ตัวเขาเองก็เป็นข้าราชการและสามีก็เป็นอจ. ความรับผิดชอบและความซื่อสัตย์ยังไม่มีแล้วจะไปทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างไร...
ขอบคุณค่ะ