ปัญหาคือ แม่ไปค้ำประกันให้ข้าราชการครูคนหนึ่งเขาไปกู้เงินของสหกรณ์แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เขาไม่ชดใช้หนี้ของเขาเลย ปัญหาเลยมาตกที่ผู้ค้ำประกันซึ่งก็คือ "แม่" ความจริงผู้ค้ำมีทั้งหมด 3 คน รวมแม่ด้วย แต่ 2 คนนั้นเขาไม่มีเงินเหลือในบัญชี ทางสหกรณ์เลยไม่สามารถหักเงินได้ มีแต่แม่ของฉันที่เหลือเงินไม่มากนัก ซึ่งจะโดนหักไปประมาณเดือนละ พันกว่าบาท โดนหักมาแล้ว 3-4เดือน สงสารแม่มาก ทางบ้านฉันก็มีปัญหาเรื่องเงินทองอยู่แล้ว ไม่ได้มีฐานะอะไรมาก ซึ่งมันไม่ยุติธรรมเลย คนกู้ไม่สนใจอะไรเลย คืออยากทราบว่า ทางสหกรณ์มีสิทธิ์ที่จะมาหักเงินแม่ดิฉันได้อย่างไร ในเมื่อเขายังไม่เคยฟ้องร้องคนกู้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ยังไม่เคยที่จะสืบทรัพย์ผู้กู้เลย เล่นมาหักเงินแม่กันเฉยๆเลย พอแม่ไปติดต่อ เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่บอก ให้ไปทำสัญญายอมรับสภาพหนี้ร่วมกับผู้กู้ ซึ่งมันก็ไม่ยุติธรรมเลย จนบางครั้งแม่ก็เปรยๆว่า การฆ่าตัวตายคือทางออกที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหา ฉันไม่อยากให้แม่ต้องฆ่าตัวตายเหมือนผู้ค้ำคนอื่นๆ ฟังแม่พูดละหมดแรงมากค่ะ หลังจากพ่อดิฉันตาย ก็เหลือแต่แม่ที่เป็นที่พึ่งพิง และกำลังใจสุดท้าย ตัวฉันเองก็ช่วยแม่ไม่ได้มากค่ะ สามีฉันก็ทิ้งฉันไปตั้งแต่ลูกไม่เกิด ฉันจึงต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียว เงินเดือนฉันไม่ถึงหมื่น แต่อาศัยว่าใกล้บ้านตัดปัญหาค่าใช้จ่ายบางส่วนได้บ้าง ใครพอทราบกฏหมายพอที่จะช่วยแนะนำได้บ้างคะ?
1. ทางสหกรณ์สามารถหักเงินผู้ค้ำได้โดยไม่ฟ้องร้องผู้กู้ได้รึปล่าว?
2.ทำไมทางสหกรณ์ไม่ดำเนินคดีกับผู้กู้ก่อน
3.แล้วคนค้ำที่เหลืออีก 2 คนล่ะคะ
ขอร้องล่ะค่ะ ผู้กู้ทุกๆคน นึกถึงวันที่คุณมาขอให้ค้ำหน่อยนะคะ คุณแทบกราบให้ค้ำ สัญญานักหนาว่าจะไม่ให้เดือดร้อน พอตอนนี้มีปัญหามาคุณกลับไม่สนใจอะไรเลย หากฉันต้องสูญเสียแม่ไป ฉันจะทำอย่างไร ไหนจะลูก จะตาที่ป่วยโรคไต ยายที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบอีก ฉันก็มีแต่แม่ที่คอยให้กำลังใจ ฉันมาตลอด อย่าให้ฉันต้องสูญเสียแม่ไปเพราะคนเห็นแก่ตัวอย่างพวกคุณเลยค่ะ จิตใต้สำนึกพวกคุณอยู่ที่ไหนกันคะ?