มาอีกแล้วมาเลเซีย!
เมื่อช่วงต้นปีพาคุณพ่อไปเที่ยวที่ปีนัง แต่รอบนี้สองสาวพี่น้องขอมาเที่ยวที่กัวลาลัมเปอร์กันเอง
เพื่อจะมาเยี่ยมเพื่อนสุดที่รักของพี่สาวที่ทำงานอยู่ที่ KL มาร่วม 8 เดือน เราจึงขอเรียกเธอว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ในการเดินทางครั้งนี้
และด้วยเหตุนี้การบันทึกการเดินทาง Sketchbook จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
เริ่มบันทึกหน้าแรก
บันทึกจากไร่ชา
บันทึกจาก…คาเมรอนไฮแลนด์ (Cameron Highlands)
หัวหน้าแก๊งค์ขับรถเดินทางออกจาก KL ใช้เวลาประมาณ 3...4 ชั่วโมง ก็ถึงคาเมรอนไฮแลนด์ ประมาณ 4 โมง พอที่จะเห็นวิวไร่ชาข้างทางที่เขียวมากๆ เขียวไปทั้งภูเขา ตัดกับสีฟ้าใสๆของท้องฟ้า อากาศก็สดชื่นจริงๆ ข้างทางมีตลาดเล็กๆพอให้แวะซื้อของกับชมวิวเป็นจุดๆ (แก้เมารถ) พบเจอผลไม้หน้าตาประหลาดเหมือนลองกองบ้านเราแต่ลูกบิ๊กกว่า เปลือกหนากว่า แต่รสชาดค่อนข้างฝาดเปรี้ยวนำหวานและเนื้อน้อย จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันเรียกว่าลูกอะไร?
ขับรถขึ้นไปอีกเรื่อยๆก็แวะไปเก็บสตรอเบอรี่ มีไร่เล็กๆให้เลือกแวะเป็นจุดตามสะดวก แต่ดูเหมือนเราจะเจอแต่ลูกเล็กๆ ไม่เห็นเจอเหมือนรีวิวอื่นๆเลย ที่เจอลูกเบ้อเริ้มมม แต่ก็เก็บสตรอเบอรี่แค่เอาบรรยากาศเก๋ๆ ก็พอนะ จะได้เอาไปกินเล่นตอนก่อนนอน
(ข้อควรระวัง เก็บลูกโตๆฉ่ำๆ ระวังเจอหนอนน้อยนะ)
Stawberry ลูกขนาดพอคำ
วันต่อมารีบตื่นเช้าๆมาทานขนมปังกับจิบชาร้อนที่ไร่ชา BOH ถ้ามาก่อน 9 โมง อาจจะมีลุ้นได้นั่งริมระเบียงชิวๆ แต่ถ้าช้าละก็นั่งด้านในนะจ๊ะ ว่าแล้วก็ไปต่อคิวสั่งอาหารที่ย้าวๆยาว มองเมนูโน้นเมนูนี้...เหลือบตาไปเห็นเบเกอรี่หน้าตาประหลาด เขียนว่าเป็น Nasi Lamak Cheesecake ห๊ะ!อะไรนะ! นาสิลามัก มันคือของอาหารคาวมิใช่รือออออ ไฉนจึงมาเป็นชีสเค็กได้ ...เลยใจกล้าขอมาลองชิมสักครั้งในชีวิต รสชาดนั้นบรรยายได้เป็นคำๆ คือ ปลาแห้ง พริกป่นเผ็ดปลาย ถั่วต้ม และชีสเค้ก และโอริโอ้ ใครส่งสัยลองไปหาในครัวที่มาผสมๆชิมดูนะ
ไร่ชา BOH
Cheesecake Nasi lamak
สมุดบันทึกจาก…ปุตราจายา
บันทึกจาก…ปุตราจายา (Putrajaya)
ปูตราจายาอยู่ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ไปทางใต้ ประมาณ 25 กม. การเดินทางจาก KL Sentral -----> Putrajaya (Airport KLIA) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รถไฟนั่งสบายมาก ทั้งสะอาดและดูปลอดภัย ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าบาท ส่วนสถานีปุตราจายาก็ดูสะอาดเรียบร้อย ห้องน้ำที่นี่ก็ถือว่าสะอาดเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ เมื่อเดินลงไปข้างล่างก็ต้องรอรถบัสเพื่อไป Putrajaya ยืนรออีก 15 นาที และนั่งไปอีก 15 นาทีก็ถึงแล้ว
ชุดในการเดินชม ไม่ต้องเสียค่าชุดนะจ้ะ ยืมฟรีจ้า
ที่รู้มาคือปุตราจายานั้นเป็นเมืองใหม่...ที่นี่สวยจริงๆ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นที่ตั้งของสถานราชการซึ่งเรียกว่า เปอร์ดานาปูตรา ส่วนยอดบนมีลักษณะคล้ายรูปโดมของมัสยิด เดินถ่ายรูปรอบๆแป๊ปก็หมดละ ไม่มีนิทรรศการหรือร้านขายของที่น่าสนใจมากนัก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะแค่เดินเที่ยวชม ถ่ายรูปแช๊ะๆ แล้วก็ก็กลับไป ทีนี้แหละขากลับ ยืนรอรถบัส 15 นาที…30 นาที... จน ชั่วโมงนึงละ ก็ไม่มีวี่แวว เลยตัดสินใจหารค่าแท๊กซี่กับนักท่องเที่ยวคนไทยที่มายืนรรร่วมชั่วโมงเหมือนกัน นาทีนี้...ยืนรอไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ (ค่า TAXI ประมาณ 16 Rm.)
** ส่วนตัวคิดว่าน่าจะซื้อแพคเกจพาเที่ยวชมเมืองปุตราจายา จากสถานี Putrajaya เลยดีกว่า ราคา 20 Rm. รถบัสพาเที่ยว จอดให้ถ่ายรูปเป็นจุดๆ และกลับมายังสถานีเลย เพราะแต่ละสถานที่ก็มีแค่จุดถ่ายรูปเหมือนๆกัน เดินนานๆก็ร้อนมาก สุดท้ายก็คิดว่าน่าจะ ซื้อแพคเกจไปเลยดีกว่า
บันทึกจาก…Central Market
เริ่มเดินเที่ยวจากสถานี Masjid Jamek … เดินต่อที่ Merderka Square… รู้สึกโชคไม่ค่อยดีเลยเรา ดันมาเที่ยวตอนที่มัสยิดจาเม็กปิดปรับปรุง และถนนเส้น Merderka Square ก็มีการปรับปรุงตลอดสาย การเดินเล่นถ่ายรูปจึงเต็มไปด้วยฝุ่น และฟุตบาทที่เดินค่อนข้างยาก ถ่ายรูปออกมาก็มีเศษก่อสร้างตลอดทาง โชคไม่ดีเลยจริงๆเรา
สุดท้ายก็เดินที่เซ็นทรัลมาร์กเก็ต เป็นช้อปปิ้งมอลที่คล้ายดิโอสยามเลยอะ ข้างในมีแอร์เย็นๆ เดินเล่นสบายๆ สินค้าที่ขายกันเยอะๆกุญแจ แม็กเนต และของที่ระลึกเต็มไปหมด ราคาถูกกว่า KL City Gallery อีก ดูไปดูมาบางอย่างของก็เหมือนเจเจ หรือโอทอปบ้านเราเลยนะ
บันทึกเมนูเปิดใจ
บันทึก...เมนูเปิดใจ
โรตี จาลา (Roti Jala)
แผ่นแป้งโรตีเหลืองอร่าม ม้วนเป็นกลมๆคล้ายๆโรตีไสไหมบ้านเราแต่เนื้อแป้งจะหนาและเหนียว กินคู่กับแกงเนื้อรสเผ็ดหอมใบมะกรูดและกลิ่นเครื่องเทศ อร่อยใช้ได้
ข้าวมันไก่ อิโป้ (Tauge Ayam)
จากเส้นทางจาก KL สู่คาเมร่อน หัวหน้าแก๊งของเราขับรถแวะพาไปชิมข้าวมันไก่ที่เมืองอิโป ทุกร้านในย่านนี้ขายข้าวมันไก่เหมือนกันหมดเลย มีแต่ไก่ห้อยเต็มเลย เดินไปไหนก็มีแต่ไก่ สุดท้ายเราเลือกกินที่ร้าน Lou Wong Chicken พนักงานทุกคนใส่เสื้อเหมือนกันและดูพร้อมเสริฟมาก พอนั่งปุ๊ป เคาก็นับจำนวนคนและเสริฟไก่มาเลย ข้าวมันไก่ที่นี้ไม่เหมือนบ้านเรา เนื้อไก่มันช่างมั๊นมัน ผัดกับน้ำซอสซีอิ้วก็ยิ่งมันย่องเค้าไปอีก แต่ช่างหอมอร่อยเหลือกเกิน อร่อยจริงๆ รสเค็มหวานหอมซีอิ้วมันเค้ากันดี ทานคู่กับผัดถั่วงอก ก็อร่อยต่างกับบ้านเราไปอีกแบบ
แกงตับกับขนมปัง (Chicken Livers)
ร้าน Nando’s หาได้ไม่ยากใน KL เมนูมีภาพประกอบและภาษาอังกฤษบรรยาย ราคาก็ระบุอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับการลองอาหารใหม่ๆแบบไม่ยุ่งยาก เลยเลิกเมนูนี้ ‘แกงตับกับขนมปัง’ และเลือกระดับความเผ็ดแบบกลาง ลักษณะแกงเป็นแบบครีมมี่ และเปรี่ยวปริ้ด มีกลิ่นเครื่องเทศหอมๆไม่หนักเกิน ใส่ตับไก่ 5-6 ชิ้น ไม่มีผักเจือปนแต่อย่างใด เสริฟคู่กับขนมปังอบและเนยสด กินคำแรกรสชาติเหมือนจะอร่อยแบบแปลก แต่ก็ยังไม่คุ้นชิน พอกินไปเรื่อยๆก็อร่อยดีเหมือนกัน (ตอนนี้ยังทานอีกเลย ฮ่าๆ)
บันทึกเมนูเปิดใจต่อมา...
Steamboat (สุกี้เรือไอน้ำ)
เมนูนี้คนไทยน่าจะคุ้นชินที่สุดเพราะคล้ายกับสุกี้ หรือจิ้มจุ่มบ้านเรา แต่ต่างกันที่น้ำจิ้ม ...ซึ่งถ้าจะให้ถูกปากจริงๆต้องเอาน้ำสุกี้ไทยๆไปด้วย เพราะน้ำจิ้มบ้านเค้าจะมีรสเค็มเหมือนซีอิ้วขาวปกติ ราคาต่อหัวอยู่ที่ 20 Rm.ขึ้นไป มีเนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้งไม่ใหญ่มาก ปลาหมึก และผักหลากหลาย น้ำซุปมีให้เลือกอยู่ 2..3 แบบ คือ ต้มยำ และสมุนไพร เราว่าเลือกสมุนไพรน่าจะปลอดภัยมากกว่า
ไฮไลท์ก็น่าจะเป็นหม้อที่มีปล่องซานต้าสูงๆแบบนี้ ถึงจะได้บรรยากาศ Steamboat เต็มรูปแบบ
มือเป็นระวิงงงง
ปูชีสสส (Butter Crab)
คนไทยเรียกปูชีส แต่เมนูจริงๆชื่อ Butter Crab เมนูนี้... ความเห็นส่วนตัวขอจัดว่าเด็ดดวง!! ปูทะเลจานใหญ่ (กระเทาะกระดองมาเรียบร้อย) เสริฟมาในหม้อใหญ่มีไฟอุ่นให้หม้อร้อน พร้อมกับจับตาดูครีมมี่หอมเนยที่ค่อยๆเดือดปุดๆ ทานคู่กับแป้งกลมคล้ายๆซาลาเปาทอด น้ำซุปข้นหวานหอมมันคล้ายกับคาโบนาร่า แต่หอมเนยแบบหนักๆ ราดข้าวสวยร้อนๆ มันช่างง... ฟินจริงๆ
บันทึกสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความทรงจำที่อร่อยเนอะ
บันทึกไปบันทึกมา เต็มเล่มซะแล้ว
เริ่มบันทึกไปเที่ยวญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ – ฮิโรชิมา – เกียวโต – โอซาก้า
http://ppantip.com/topic/34924228
ต่อด้วย ปีนัง
http://ppantip.com/topic/35043339
ตามมาด้วย ไต้หวัน
http://ppantip.com/topic/35187501
จบเล่มที่ กัวลาลัมเปอร์ ปีหน้าจะมีบันทึกอะไรอีกน้อออออออ
ปีหน้าจะมีบันทึกอะไรอีกน้อออออออ
[CR] บันทึกเที่ยวกัวลาลัมเปอร์ –คาเมรอนไฮแลนด์ – ปุตราจายา กับ My Sketchbook By บ่มิguide
เมื่อช่วงต้นปีพาคุณพ่อไปเที่ยวที่ปีนัง แต่รอบนี้สองสาวพี่น้องขอมาเที่ยวที่กัวลาลัมเปอร์กันเอง
เพื่อจะมาเยี่ยมเพื่อนสุดที่รักของพี่สาวที่ทำงานอยู่ที่ KL มาร่วม 8 เดือน เราจึงขอเรียกเธอว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ในการเดินทางครั้งนี้
และด้วยเหตุนี้การบันทึกการเดินทาง Sketchbook จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
เริ่มบันทึกหน้าแรก
บันทึกจากไร่ชา
บันทึกจาก…คาเมรอนไฮแลนด์ (Cameron Highlands)
หัวหน้าแก๊งค์ขับรถเดินทางออกจาก KL ใช้เวลาประมาณ 3...4 ชั่วโมง ก็ถึงคาเมรอนไฮแลนด์ ประมาณ 4 โมง พอที่จะเห็นวิวไร่ชาข้างทางที่เขียวมากๆ เขียวไปทั้งภูเขา ตัดกับสีฟ้าใสๆของท้องฟ้า อากาศก็สดชื่นจริงๆ ข้างทางมีตลาดเล็กๆพอให้แวะซื้อของกับชมวิวเป็นจุดๆ (แก้เมารถ) พบเจอผลไม้หน้าตาประหลาดเหมือนลองกองบ้านเราแต่ลูกบิ๊กกว่า เปลือกหนากว่า แต่รสชาดค่อนข้างฝาดเปรี้ยวนำหวานและเนื้อน้อย จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันเรียกว่าลูกอะไร?
ขับรถขึ้นไปอีกเรื่อยๆก็แวะไปเก็บสตรอเบอรี่ มีไร่เล็กๆให้เลือกแวะเป็นจุดตามสะดวก แต่ดูเหมือนเราจะเจอแต่ลูกเล็กๆ ไม่เห็นเจอเหมือนรีวิวอื่นๆเลย ที่เจอลูกเบ้อเริ้มมม แต่ก็เก็บสตรอเบอรี่แค่เอาบรรยากาศเก๋ๆ ก็พอนะ จะได้เอาไปกินเล่นตอนก่อนนอน
(ข้อควรระวัง เก็บลูกโตๆฉ่ำๆ ระวังเจอหนอนน้อยนะ)
Stawberry ลูกขนาดพอคำ
วันต่อมารีบตื่นเช้าๆมาทานขนมปังกับจิบชาร้อนที่ไร่ชา BOH ถ้ามาก่อน 9 โมง อาจจะมีลุ้นได้นั่งริมระเบียงชิวๆ แต่ถ้าช้าละก็นั่งด้านในนะจ๊ะ ว่าแล้วก็ไปต่อคิวสั่งอาหารที่ย้าวๆยาว มองเมนูโน้นเมนูนี้...เหลือบตาไปเห็นเบเกอรี่หน้าตาประหลาด เขียนว่าเป็น Nasi Lamak Cheesecake ห๊ะ!อะไรนะ! นาสิลามัก มันคือของอาหารคาวมิใช่รือออออ ไฉนจึงมาเป็นชีสเค็กได้ ...เลยใจกล้าขอมาลองชิมสักครั้งในชีวิต รสชาดนั้นบรรยายได้เป็นคำๆ คือ ปลาแห้ง พริกป่นเผ็ดปลาย ถั่วต้ม และชีสเค้ก และโอริโอ้ ใครส่งสัยลองไปหาในครัวที่มาผสมๆชิมดูนะ
ไร่ชา BOH
Cheesecake Nasi lamak
สมุดบันทึกจาก…ปุตราจายา
บันทึกจาก…ปุตราจายา (Putrajaya)
ปูตราจายาอยู่ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ไปทางใต้ ประมาณ 25 กม. การเดินทางจาก KL Sentral -----> Putrajaya (Airport KLIA) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รถไฟนั่งสบายมาก ทั้งสะอาดและดูปลอดภัย ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าบาท ส่วนสถานีปุตราจายาก็ดูสะอาดเรียบร้อย ห้องน้ำที่นี่ก็ถือว่าสะอาดเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ เมื่อเดินลงไปข้างล่างก็ต้องรอรถบัสเพื่อไป Putrajaya ยืนรออีก 15 นาที และนั่งไปอีก 15 นาทีก็ถึงแล้ว
ชุดในการเดินชม ไม่ต้องเสียค่าชุดนะจ้ะ ยืมฟรีจ้า
ที่รู้มาคือปุตราจายานั้นเป็นเมืองใหม่...ที่นี่สวยจริงๆ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นที่ตั้งของสถานราชการซึ่งเรียกว่า เปอร์ดานาปูตรา ส่วนยอดบนมีลักษณะคล้ายรูปโดมของมัสยิด เดินถ่ายรูปรอบๆแป๊ปก็หมดละ ไม่มีนิทรรศการหรือร้านขายของที่น่าสนใจมากนัก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะแค่เดินเที่ยวชม ถ่ายรูปแช๊ะๆ แล้วก็ก็กลับไป ทีนี้แหละขากลับ ยืนรอรถบัส 15 นาที…30 นาที... จน ชั่วโมงนึงละ ก็ไม่มีวี่แวว เลยตัดสินใจหารค่าแท๊กซี่กับนักท่องเที่ยวคนไทยที่มายืนรรร่วมชั่วโมงเหมือนกัน นาทีนี้...ยืนรอไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆๆ (ค่า TAXI ประมาณ 16 Rm.)
** ส่วนตัวคิดว่าน่าจะซื้อแพคเกจพาเที่ยวชมเมืองปุตราจายา จากสถานี Putrajaya เลยดีกว่า ราคา 20 Rm. รถบัสพาเที่ยว จอดให้ถ่ายรูปเป็นจุดๆ และกลับมายังสถานีเลย เพราะแต่ละสถานที่ก็มีแค่จุดถ่ายรูปเหมือนๆกัน เดินนานๆก็ร้อนมาก สุดท้ายก็คิดว่าน่าจะ ซื้อแพคเกจไปเลยดีกว่า
บันทึกจาก…Central Market
เริ่มเดินเที่ยวจากสถานี Masjid Jamek … เดินต่อที่ Merderka Square… รู้สึกโชคไม่ค่อยดีเลยเรา ดันมาเที่ยวตอนที่มัสยิดจาเม็กปิดปรับปรุง และถนนเส้น Merderka Square ก็มีการปรับปรุงตลอดสาย การเดินเล่นถ่ายรูปจึงเต็มไปด้วยฝุ่น และฟุตบาทที่เดินค่อนข้างยาก ถ่ายรูปออกมาก็มีเศษก่อสร้างตลอดทาง โชคไม่ดีเลยจริงๆเรา
สุดท้ายก็เดินที่เซ็นทรัลมาร์กเก็ต เป็นช้อปปิ้งมอลที่คล้ายดิโอสยามเลยอะ ข้างในมีแอร์เย็นๆ เดินเล่นสบายๆ สินค้าที่ขายกันเยอะๆกุญแจ แม็กเนต และของที่ระลึกเต็มไปหมด ราคาถูกกว่า KL City Gallery อีก ดูไปดูมาบางอย่างของก็เหมือนเจเจ หรือโอทอปบ้านเราเลยนะ
บันทึกเมนูเปิดใจ
บันทึก...เมนูเปิดใจ
โรตี จาลา (Roti Jala)
แผ่นแป้งโรตีเหลืองอร่าม ม้วนเป็นกลมๆคล้ายๆโรตีไสไหมบ้านเราแต่เนื้อแป้งจะหนาและเหนียว กินคู่กับแกงเนื้อรสเผ็ดหอมใบมะกรูดและกลิ่นเครื่องเทศ อร่อยใช้ได้
ข้าวมันไก่ อิโป้ (Tauge Ayam)
จากเส้นทางจาก KL สู่คาเมร่อน หัวหน้าแก๊งของเราขับรถแวะพาไปชิมข้าวมันไก่ที่เมืองอิโป ทุกร้านในย่านนี้ขายข้าวมันไก่เหมือนกันหมดเลย มีแต่ไก่ห้อยเต็มเลย เดินไปไหนก็มีแต่ไก่ สุดท้ายเราเลือกกินที่ร้าน Lou Wong Chicken พนักงานทุกคนใส่เสื้อเหมือนกันและดูพร้อมเสริฟมาก พอนั่งปุ๊ป เคาก็นับจำนวนคนและเสริฟไก่มาเลย ข้าวมันไก่ที่นี้ไม่เหมือนบ้านเรา เนื้อไก่มันช่างมั๊นมัน ผัดกับน้ำซอสซีอิ้วก็ยิ่งมันย่องเค้าไปอีก แต่ช่างหอมอร่อยเหลือกเกิน อร่อยจริงๆ รสเค็มหวานหอมซีอิ้วมันเค้ากันดี ทานคู่กับผัดถั่วงอก ก็อร่อยต่างกับบ้านเราไปอีกแบบ
แกงตับกับขนมปัง (Chicken Livers)
ร้าน Nando’s หาได้ไม่ยากใน KL เมนูมีภาพประกอบและภาษาอังกฤษบรรยาย ราคาก็ระบุอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับการลองอาหารใหม่ๆแบบไม่ยุ่งยาก เลยเลิกเมนูนี้ ‘แกงตับกับขนมปัง’ และเลือกระดับความเผ็ดแบบกลาง ลักษณะแกงเป็นแบบครีมมี่ และเปรี่ยวปริ้ด มีกลิ่นเครื่องเทศหอมๆไม่หนักเกิน ใส่ตับไก่ 5-6 ชิ้น ไม่มีผักเจือปนแต่อย่างใด เสริฟคู่กับขนมปังอบและเนยสด กินคำแรกรสชาติเหมือนจะอร่อยแบบแปลก แต่ก็ยังไม่คุ้นชิน พอกินไปเรื่อยๆก็อร่อยดีเหมือนกัน (ตอนนี้ยังทานอีกเลย ฮ่าๆ)
บันทึกเมนูเปิดใจต่อมา...
Steamboat (สุกี้เรือไอน้ำ)
เมนูนี้คนไทยน่าจะคุ้นชินที่สุดเพราะคล้ายกับสุกี้ หรือจิ้มจุ่มบ้านเรา แต่ต่างกันที่น้ำจิ้ม ...ซึ่งถ้าจะให้ถูกปากจริงๆต้องเอาน้ำสุกี้ไทยๆไปด้วย เพราะน้ำจิ้มบ้านเค้าจะมีรสเค็มเหมือนซีอิ้วขาวปกติ ราคาต่อหัวอยู่ที่ 20 Rm.ขึ้นไป มีเนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้งไม่ใหญ่มาก ปลาหมึก และผักหลากหลาย น้ำซุปมีให้เลือกอยู่ 2..3 แบบ คือ ต้มยำ และสมุนไพร เราว่าเลือกสมุนไพรน่าจะปลอดภัยมากกว่า
ไฮไลท์ก็น่าจะเป็นหม้อที่มีปล่องซานต้าสูงๆแบบนี้ ถึงจะได้บรรยากาศ Steamboat เต็มรูปแบบ
มือเป็นระวิงงงง
ปูชีสสส (Butter Crab)
คนไทยเรียกปูชีส แต่เมนูจริงๆชื่อ Butter Crab เมนูนี้... ความเห็นส่วนตัวขอจัดว่าเด็ดดวง!! ปูทะเลจานใหญ่ (กระเทาะกระดองมาเรียบร้อย) เสริฟมาในหม้อใหญ่มีไฟอุ่นให้หม้อร้อน พร้อมกับจับตาดูครีมมี่หอมเนยที่ค่อยๆเดือดปุดๆ ทานคู่กับแป้งกลมคล้ายๆซาลาเปาทอด น้ำซุปข้นหวานหอมมันคล้ายกับคาโบนาร่า แต่หอมเนยแบบหนักๆ ราดข้าวสวยร้อนๆ มันช่างง... ฟินจริงๆ
บันทึกสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความทรงจำที่อร่อยเนอะ
บันทึกไปบันทึกมา เต็มเล่มซะแล้ว
เริ่มบันทึกไปเที่ยวญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ – ฮิโรชิมา – เกียวโต – โอซาก้า
http://ppantip.com/topic/34924228
ต่อด้วย ปีนัง
http://ppantip.com/topic/35043339
ตามมาด้วย ไต้หวัน
http://ppantip.com/topic/35187501
จบเล่มที่ กัวลาลัมเปอร์ ปีหน้าจะมีบันทึกอะไรอีกน้อออออออ
ปีหน้าจะมีบันทึกอะไรอีกน้อออออออ