สวัสดีครับ
ผมได้ไปโอซาก้ามา เมื่อวันที่ 6 – 11 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา ก็อยากเอามาแชร์ประสบการณ์ และเป็นการไปครั้งแรกคนเดียวของผมด้วย เนื่องจากผมชวนเพื่อนหลายคน บางคนก็ไม่ว่าง บางคนก็เรื่องมาก บางคนก็กลัวเครื่องบิน บางคนถามไปก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับ สุดท้ายเลยกลายเป็นผมที่ฉายเดี่ยวเลย ผมว่าหลายคนก็คงเจอแบบผม เลยอยากเป็นอีกเสียงหนึ่งที่สนับสนุนว่าถ้าไปคนเดียวได้ก็ไปเลย ไม่น่ากลัวเลยครับ
ผมอาจจะเล่าเรื่องอะไรไม่เก่งนะครับ ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ
เตรียมตัว
ทริปนี้ ผมจองเครื่องบินไป-กลับ สายการบิน SCOOT ครับ ผมจองนานเกือบข้ามปีเลย หลังๆ ผมก็แอบกลัวนะ ที่มีข่าวเรื่องปฏิเสธผู้โดยสารจาก overbooking วันเดินทางผมเลยรีบไป check-in แต่เช้าเลย สุดท้ายก็ได้ขึ้นแหละครับ เป็นเครื่องลำใหญ่ นั่งสบาย แอร์น่าจะเป็นสาวสิงคโปร์ เพราะมันเป็นสายการบินของสิงคโปร์ และ Flight ขาไปก็มาจากสิงคโปรและมาแวะรับที่ดอนเมือง
ส่วนที่พัก ผมเลือกจองที่พัก 5 คืน ที่โอซาก้าเลยครับ และใช้วิธีนั่งไป-กลับ เอา เพราะแต่ละเมืองที่ไปก็ไม่ได้ไกลมากมายอะไรและขี้เกียจย้ายกระเป๋าเปลี่ยนโรงแรมด้วย ซึ่งผมจองผ่าน expedia เพราะตอนนั้นมีโปร ผมเลยรีบจองเลย และก็เลือกที่พักแถว Uehonmachi ซึงออกจาก Namba มาไม่ไกล เป็นห้องแบบ Single Room รวมห้องน้ำในตัว ก็เป็นส่วนตัวดีครับ ห้องจะเล็กหน่อย แต่ผมก็แค่เอาพอนอนได้ (ผมดันลืมถ่ายรูปห้องพักมาด้วย TT)
ส่วนเรื่องตั๋วต่างๆ ผมซื้อบัตรจากที่ไทยก่อนทั้งหมดเลย โดยซื้อ Kansai Thru Pass 3 Days มาแค่ 1 ใบครับ สามารถใช้ขึ้นรถไฟได้หมด (ยกเว้น JR) รถบัส รถไฟได้ดิน (Subway) ในภูมิภาคคันไซได้หมดเลย ซึงผมใช้แค่ 3 วัน ส่วนวันที่เหลือผมก็ซื้อตั๋วที่ตู้ตามสถานีเอาครับ และนอกจากนี้ผมซื้อบัตรเข้า Universal Studios Japan ด้วย โดยผมหาซื้อจาก Agency ตามเว็บต่างๆ และก็ซึ้อ Express 4 Standard ที่สามารถเข้าทางด่วนโซน Harry Potter และอีก 3 เครื่องเล่น โดยที่ลัดคิวมาเยอะแยะเลยด้วย (จริงๆ มันจอง Online ได้นะ แต่บัตรเครดิตผมเหมือนมีปัญหากับระบบเลยใช้จองผ่าน Agency แทน)
สุดท้ายเรื่องซิมการ์ดครับ ผมซื้อ Sim2FLY ของ AIS ราคา 399 บาท แล้วเปิด Roaming เอา ก็สามารถใช้ได้ดีนะครับ
DAY 1 GO AHEAD TO OSAKA
เช้าวันแรก วันเดินทาง ผมไปเช็คอินที่สนามบินดอนเมืองตั้งแต่ 6 โมงครึ่งเลยครับ คนมาต่อแถวรอเช็คอินเต็มเลย จัดการโหลดกระเป๋าเสร็จแล้วก็ผ่าน ตม. ไปรอที่เกตเลยครับ เครื่องดีเลย์นิดหน่อยครับ ประมาณ 10 นาทีได้
นั่งเครื่องมาประมาณเกือบ 6 ชม. ฟ้ามืดแล้ว และก็ถึงสนามบินคันไซครับ ผ่าน ตม. ของญี่ปุ่น แต่ของผมพิเศษหน่อย เนื่องจากว่าผมมาคนเดียว ผมเลยต้องเปิดกระเป๋าสัมภาระด้วย และก็โดนเรียกไปค้นตัวอะไรนิดหน่อย ซึ่งผมก็ยินดีนะ ไม่ได้มีท่าทางตุกติก ก็ไม่มีอะไร แล้วเขาก็ให้ผ่านออกไป พร้อมกับบอกว่าเที่ยวให้สนุกนะ
ผมเลือกนั่ง Nankai ไปที่ Namba ครับ
จากนั้นก็รีบไปซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพื่อไปที่โรงแรม โดยผมต้องนั่งจากสนามบินไปที่ Namba และก็ต่อรถไฟอีกสายไปประมาณ 2 สถานี เดินอีกนิดหน่อยก็ถึงโรงแรมครับ จัดการเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยก็ออกมาหาอะไรกินแถวนั้นแล้วก็พักเลยครับ เก็บแรงเที่ยวให้เต็มอิ่ม
DAY 2 KYOTO-ARASHIYAMA
ผมออกมาจากที่พักตั้งแต่ 6.00 น. เพื่อนั่งรถไฟไปเกียวโตครับ (Kintetsu Line) ซึ่งวันนี้ตรงกับวันจันทร์พอดี ผมว่าผมออกมาเช้าแล้วนะ แต่คนนี่เบียดมาก อย่างกับ BTS ตอนเช้าๆ เลย มีเปลี่ยนสถานีอยู่ 1 ที่ ใช้เวลาไปน่าจะประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงสถานีเกียวโตครับ
ตอนเช้าๆ คนยังไม่เยอะครับ แต่อีกสักพักคนมากันเต็มเลยครับ ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้จริงๆ
หาซื้ออะไรกินรองท้องหน่อยและก็นั่ง Subway แล้วต่อรถราง Randen ซึ่งหน้าตาจะเหมือนรถบัสเลยครับ แต่วิ่งบนรางจนถึงสถานี Arashiyama แล้วก็เดินไปนั่งรถไฟสายโรแมนติกหรือซากาโนะ เพื่อชมวิวครับ เป็นรถไฟรางเดียว วิ่งไปกลับ ผมซื้อตั๋วทั้งไปกลับเลย
จากนั้นก็ไปที่ถนนป่าไผ่ครับ คนเยอะมากๆ และก็แวะที่วัดเท็นริวจิหน่อยครับ
จากนั้นก็นั่งรถราง Randen มาขึ้นรถบัสไปวัดคิคันคุจิหรือวัดพลับพลาทองหรือวัดอิคคิวซังครับ
ถึงตอนนี้ ฟ้าก็มืดแล้วครับ นั่งรถบัสกลับมาที่เกียวโต เดินเล่นและหาอะไรกินก่อนที่จะกลับไปที่โรงแรมครับ
พรุ่งนี้ค่อยมาต่อนะครับ
โอซาก้า คนเดียวก็เฟี้ยวได้ ไม่ง้อทัวร์
ผมได้ไปโอซาก้ามา เมื่อวันที่ 6 – 11 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา ก็อยากเอามาแชร์ประสบการณ์ และเป็นการไปครั้งแรกคนเดียวของผมด้วย เนื่องจากผมชวนเพื่อนหลายคน บางคนก็ไม่ว่าง บางคนก็เรื่องมาก บางคนก็กลัวเครื่องบิน บางคนถามไปก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับ สุดท้ายเลยกลายเป็นผมที่ฉายเดี่ยวเลย ผมว่าหลายคนก็คงเจอแบบผม เลยอยากเป็นอีกเสียงหนึ่งที่สนับสนุนว่าถ้าไปคนเดียวได้ก็ไปเลย ไม่น่ากลัวเลยครับ
ผมอาจจะเล่าเรื่องอะไรไม่เก่งนะครับ ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ
เตรียมตัว
ทริปนี้ ผมจองเครื่องบินไป-กลับ สายการบิน SCOOT ครับ ผมจองนานเกือบข้ามปีเลย หลังๆ ผมก็แอบกลัวนะ ที่มีข่าวเรื่องปฏิเสธผู้โดยสารจาก overbooking วันเดินทางผมเลยรีบไป check-in แต่เช้าเลย สุดท้ายก็ได้ขึ้นแหละครับ เป็นเครื่องลำใหญ่ นั่งสบาย แอร์น่าจะเป็นสาวสิงคโปร์ เพราะมันเป็นสายการบินของสิงคโปร์ และ Flight ขาไปก็มาจากสิงคโปรและมาแวะรับที่ดอนเมือง
ส่วนที่พัก ผมเลือกจองที่พัก 5 คืน ที่โอซาก้าเลยครับ และใช้วิธีนั่งไป-กลับ เอา เพราะแต่ละเมืองที่ไปก็ไม่ได้ไกลมากมายอะไรและขี้เกียจย้ายกระเป๋าเปลี่ยนโรงแรมด้วย ซึ่งผมจองผ่าน expedia เพราะตอนนั้นมีโปร ผมเลยรีบจองเลย และก็เลือกที่พักแถว Uehonmachi ซึงออกจาก Namba มาไม่ไกล เป็นห้องแบบ Single Room รวมห้องน้ำในตัว ก็เป็นส่วนตัวดีครับ ห้องจะเล็กหน่อย แต่ผมก็แค่เอาพอนอนได้ (ผมดันลืมถ่ายรูปห้องพักมาด้วย TT)
ส่วนเรื่องตั๋วต่างๆ ผมซื้อบัตรจากที่ไทยก่อนทั้งหมดเลย โดยซื้อ Kansai Thru Pass 3 Days มาแค่ 1 ใบครับ สามารถใช้ขึ้นรถไฟได้หมด (ยกเว้น JR) รถบัส รถไฟได้ดิน (Subway) ในภูมิภาคคันไซได้หมดเลย ซึงผมใช้แค่ 3 วัน ส่วนวันที่เหลือผมก็ซื้อตั๋วที่ตู้ตามสถานีเอาครับ และนอกจากนี้ผมซื้อบัตรเข้า Universal Studios Japan ด้วย โดยผมหาซื้อจาก Agency ตามเว็บต่างๆ และก็ซึ้อ Express 4 Standard ที่สามารถเข้าทางด่วนโซน Harry Potter และอีก 3 เครื่องเล่น โดยที่ลัดคิวมาเยอะแยะเลยด้วย (จริงๆ มันจอง Online ได้นะ แต่บัตรเครดิตผมเหมือนมีปัญหากับระบบเลยใช้จองผ่าน Agency แทน)
สุดท้ายเรื่องซิมการ์ดครับ ผมซื้อ Sim2FLY ของ AIS ราคา 399 บาท แล้วเปิด Roaming เอา ก็สามารถใช้ได้ดีนะครับ
DAY 1 GO AHEAD TO OSAKA
เช้าวันแรก วันเดินทาง ผมไปเช็คอินที่สนามบินดอนเมืองตั้งแต่ 6 โมงครึ่งเลยครับ คนมาต่อแถวรอเช็คอินเต็มเลย จัดการโหลดกระเป๋าเสร็จแล้วก็ผ่าน ตม. ไปรอที่เกตเลยครับ เครื่องดีเลย์นิดหน่อยครับ ประมาณ 10 นาทีได้
นั่งเครื่องมาประมาณเกือบ 6 ชม. ฟ้ามืดแล้ว และก็ถึงสนามบินคันไซครับ ผ่าน ตม. ของญี่ปุ่น แต่ของผมพิเศษหน่อย เนื่องจากว่าผมมาคนเดียว ผมเลยต้องเปิดกระเป๋าสัมภาระด้วย และก็โดนเรียกไปค้นตัวอะไรนิดหน่อย ซึ่งผมก็ยินดีนะ ไม่ได้มีท่าทางตุกติก ก็ไม่มีอะไร แล้วเขาก็ให้ผ่านออกไป พร้อมกับบอกว่าเที่ยวให้สนุกนะ
ผมเลือกนั่ง Nankai ไปที่ Namba ครับ
จากนั้นก็รีบไปซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพื่อไปที่โรงแรม โดยผมต้องนั่งจากสนามบินไปที่ Namba และก็ต่อรถไฟอีกสายไปประมาณ 2 สถานี เดินอีกนิดหน่อยก็ถึงโรงแรมครับ จัดการเช็คอินโรงแรมเรียบร้อยก็ออกมาหาอะไรกินแถวนั้นแล้วก็พักเลยครับ เก็บแรงเที่ยวให้เต็มอิ่ม
DAY 2 KYOTO-ARASHIYAMA
ผมออกมาจากที่พักตั้งแต่ 6.00 น. เพื่อนั่งรถไฟไปเกียวโตครับ (Kintetsu Line) ซึ่งวันนี้ตรงกับวันจันทร์พอดี ผมว่าผมออกมาเช้าแล้วนะ แต่คนนี่เบียดมาก อย่างกับ BTS ตอนเช้าๆ เลย มีเปลี่ยนสถานีอยู่ 1 ที่ ใช้เวลาไปน่าจะประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงสถานีเกียวโตครับ
ตอนเช้าๆ คนยังไม่เยอะครับ แต่อีกสักพักคนมากันเต็มเลยครับ ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้จริงๆ
หาซื้ออะไรกินรองท้องหน่อยและก็นั่ง Subway แล้วต่อรถราง Randen ซึ่งหน้าตาจะเหมือนรถบัสเลยครับ แต่วิ่งบนรางจนถึงสถานี Arashiyama แล้วก็เดินไปนั่งรถไฟสายโรแมนติกหรือซากาโนะ เพื่อชมวิวครับ เป็นรถไฟรางเดียว วิ่งไปกลับ ผมซื้อตั๋วทั้งไปกลับเลย
จากนั้นก็ไปที่ถนนป่าไผ่ครับ คนเยอะมากๆ และก็แวะที่วัดเท็นริวจิหน่อยครับ
จากนั้นก็นั่งรถราง Randen มาขึ้นรถบัสไปวัดคิคันคุจิหรือวัดพลับพลาทองหรือวัดอิคคิวซังครับ
ถึงตอนนี้ ฟ้าก็มืดแล้วครับ นั่งรถบัสกลับมาที่เกียวโต เดินเล่นและหาอะไรกินก่อนที่จะกลับไปที่โรงแรมครับ
พรุ่งนี้ค่อยมาต่อนะครับ