สอบถามค่ะ โดยปกติเรามีโรคประจำตัวคือ โรคซึมเศร้า
ทานยาคลายเครียด ยานอนหลับ เป็นบางครั้งบางคราที่มีอาการรุนแรง
เช่น นอนไม่หลับ จิตตก เครียด ทำงานทำการไม่ได้ถึงค่อยใช้ยา

เรารู้ตัวเลยว่า เวลาทานยาปฏิชีวนะเช่น
เป็นไซนัสอักเสบ ทานยาปฏิชีวนะ Amoxicillin 800mg , ท้องเสีย ทานยาปฏิชีวนะ Ciprofloxacin 500mg
เราทานยาปฏิชีวนะทีใดที่ป่วย ท้องเสียมั่ง ไซนัสอักเสบมั่ง
อาการทางจิตเวชจะกำเริบแบบ ผิดสังเกตได้ทันที
จากที่ไม่เครียดอะไร คุมตัวเองได้ ไม่มีเรื่องกังวลใจใดๆ
เรียกว่า ปกติสุขดี กลายเป็นหงุดหงิดโมโหร้ายตาขวาง ทำร้ายร่างกายคนข้างๆขึ้นมาซะงั้น

อย่าหาว่าเราอุปทาน หรือ เกิดจากโรคจิตเวชเดิมที่มีอยู่นะคะ
เราสงสัยว่า ยาปฏิชีวนะ มันมีผลต่อสารในสมองอย่างมีนัยยะหรือเปล่า
เพราะใช้ยาทุกครั้ง จะกำเริบทุกครั้ง คุมอารมตัวเองไม่ได้
พอหยุดใช้ยา อาการจิตเวชก็หายไปเองค่ะภายใน 2-3 วัน
เหมือนถูกกระตุ้นจากยาปฏิชีวนะ หมอที่เคยจ่ายยาพวกนี้ให้ก็บอกว่า
ใช้ยาแล้วอาจจะ เบื่อโลก เบื่ออาหาร ได้กลิ่นอะไรก็เหม็นไปหมด หงุดหงิดง่ายนิดหน่อยนะ
(แต่เขาไม่รู้ว่าเรารักษาโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย)

เราไม่สามารถใช้ยาปฏิชีวนะได้เลยยยยย เพราะไปรบกวนโรคซึมเศร้ามาก
เรียกว่าคนในครอบครัว วุ่นวายกันเลยทีเดียวถ้าเรากินยารักษาไซนัสขึ้นมา
เผื่อเภสัชกรจะให้คำตอบเรื่องนี้ได้ค่ะ ว่ามันเกี่ยวกับโรคจิตเวชไหมยาปฏิชีวนะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล.เวลาใช้ยาปฏิชีวนะขนานน้อยๆเช่น Amoxiciliin 500mg จะไม่เป็น Norfloxacin 400mg จะไม่เป็น
แต่ถ้าได้รับโดสแรงๆ หรือยาปฏิชีวนะที่แรงขึ้นอย่าง Ciprofloxacin อาการก้าวร้าว จิตตก เครียดหนัก คลุ้มคลั่งจะมาทันทีค่ะ
เป็นเฉพาะกับยาปฏิชีวนะที่แรงๆ หรือโดสสูงเท่านั้น