ความลำเอียงในการตัดสินใจลงทุน: อย่ายึดติด (Functional fixedness)

กระทู้คำถาม
ในการซื้อขายหุ้นนั้น หลาย ๆ ครั้ง เราจะมีเครื่องมือจำนวนมาก

ถ้าเป็นทางด้านเทคนิค เราก็มี Indicator ต่าง ๆ จำนวนไม่น้อย รวมถึง Chart อีกจำนวนมหาศาล

ถ้าเป็นด้านพื้นฐาน เราก็มีอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ ที่จะเป็นเครื่องมือให้เราวิเคราะห์ความน่าสนใจของบริษัทที่เราจะเข้าไปลงทุน

คราวนี้สิ่งที่เราเจอคือ เครื่องมือต่าง ๆ เหล่านี้ มันก็มีวัตถุประสงค์ต่าง ๆ กันออกไป เช่นอัตราส่วนระหว่างหนี้ต่อทุน (D/E Ratio) ก็อาจจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเราวิเคราะห์ว่าบริษัทมีหนี้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับทุนที่บริษัทมี

หรือจะเป็น Chart ต่าง ๆ ทางด้านเทคนิค ซึ่งมีสัญญาณต่าง ๆ จำนวนมาก แต่ละสัญญาณก็จะมีวัตถุประสงค์ต่าง ๆ กัน ไม่ว่าใช้เพื่อดูจุดซื้อขาย หรือใช้เพื่อประเมินแนวโน้ม

คราวนี้บางทีเรามักจะยึดติดกับเครื่องมือเหล่านี้ โดยใช้เครื่องมือเหล่านี้สำหรับวัตถุประสงค์ที่มันถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้น

ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเหล่านี้มันอาจจะมีประโยชน์มากกว่านั้นก็ได้

เราเรียกอาการนี้ว่า Functional fixedness ครับ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่าสมมุติว่าเราต้องการหาที่ทับกระดาษ เพื่อให้กระดาษปลิว แต่เรามองเห็นแต่ค้อนที่วางอยู่ หลายคนก็มองข้ามไป เพราะเราคิดแค่ว่าค้อนนั้นใช้ได้แต่ตอกตะปูเท่านั้น !!!
จริง ๆ ค้อนก็เอามาทับกระดาษได้นะครับ

จากงานวิจัยของ German และ Defeyter แห่ง University of Essex ในปี 2000 พบว่าอาการแบบนี้ไม่เกิดกับเด็กอายุ 5 ขวบเลยแต่พอโตขึ้นมาสัก 7 ขวบ เราก็จะเริ่มสร้างกรอบของตัวเองขึ้นมา

ลองมองดูอายุเราตอนนี้สิครับ ป่านนี้เราคงสร้างกรอบไว้เยอะแยะไปหมด

ลองกลับไปดูเครื่องมือที่เราใช้ ๆ กันอยู่นะครับ
แล้วถามตัวเองว่า มันสามารถใช้งานอื่น ๆ อะไรได้อีก

หรือในทางกลับกัน หากมีปัญหาหรือคำถามเกิดขึ้น
ลองมองดูเครื่องมือแบบอื่น ๆ บ้างว่ามันสามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้หรือไม่นะครับ

ติดตามอ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับความลำเอียงในการตัดสินใจได้ที่ https://www.facebook.com/DataAnalysisforDecisionMaking/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่