
เวลา คือหายนะที่แท้จริง
.....ย่างเข้าวันที่ 19 เมษายน ปี 1961 เวลา 00:00 น. การโจมตีหัวหาดโดยกองทัพคิวบาเริ่มเบาบางลง มันเหมือนอ๊อกซิเจนยื้อลมหายใจให้ทหารกบฏที่นอนขดอ่อนแรงอยู่ในหลุมดินตื้นๆ กลิ่นศพเพื่อนทหารยังคงลอยคละคลุ้งโชยสายลมทะเล มันเหมือนเครื่องกระตุ้นหัวใจ ที่คอยปั้มโสตประสาทรับรู้ให้พวกเขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอาหาร ไม่มีกระสุน ไม่มีความหวังที่จะได้เหยียบแผ่นดินใหญ่ในฐานะผู้ปลดปล่อยคิวบา ทางเลือกมีเพียงสองทางเท่านั้น ชูมือของคุณขึ้น หรือจะกำปืนสู้ต่อ...?
เวลา 01:00 น. ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา
ภายในห้องลับซึ่งไร้หน้าต่าง กลุ่มคนในชุดสูทดำและนายทหาร ยังคงประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เนื้อหาเกี่ยวข้องกับกฎการเข้าร่วมทำสงครามในคิวบา พวกเขากำลังพิจารณาถึงหลักมูลฐาน ของการมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ เคเนดี้ ปธน. และลินดอน บีจอห์นสัน รอง ปธน. ต่างขมวดคิ้วพิจารณาแผนที่ยุทธศาสตร์อย่างคร่ำเครียด โดยมี รมต.กระทรวงกลาโหม นายโรเบิร์ต แมคนามารา (Robert Strange McNamara) และ รมต. กระทรวงต่างประเทศ นายดีน รักก์ (Dean Rusk) พลเรือเอกอาร์เลห์ เบิร์ก (Arleigh Burke) เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ร่วม พลเรือเอกเบิร์ก ได้เสนอแผนส่งเครื่องบินเจ็ทเข้าโจมตีเครื่องบินของกองทัพอากาศคิวบา แต่เคนเนดี้สั่งระงับเด็ดขาด เพราะแผนช่วยเหลือครั้งนี้ ต้องอยู่ในชั้นความลับสุดยอด จะส่งกำลังหรือความช่วยเหลือใดๆ โดยเปิดเผยไม่ได้ ในขณะที่สถานการณ์ยังหัวหาด ล่อแหลมเข้าขั้นวิกฤตทุกทีนั้น ในที่สุดผลการประชุมลับ เคนเนดี้อนุมัติกำลังสนับสนุนทางอากาศได้ แต่อากาศยานกู้ภัยลำดังกล่าว ต้องติดสัญลักษณ์กองทัพอากาศคิวบา และให้ระยะเวลาปฏิบัติการจาก 06:30 ถึง 07:30 เท่านั้น

.....รหัสขึ้นบินกู้ภัย ถูกส่งไปยังฐานส่งกำลังสนับสนุนทางอากาศของซีไอเอ ในนิคารากัวทันที มันเป็นเหตุกระชั้นชิดอย่างมาก ด้วยคำสั่งเดิมที่ห้ามขึ้นบิน เป็นเหตุให้นักบิน และเจ้าหน้าที่ยุทธการ ไม่ได้ศึกษาถึงแผนการช่วยเหลือ ซ้ำร้ายข้อมูลโซนเวลา ระหว่างประเทศนิคารากัวกับคิวบานั้น มีความแตกต่างกันถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม !
เวลา คือหายนะที่แท้จริง

และตอนนี้ อ๊อกซิเจนใกล้หมดถังแล้ว นักรบกบฏตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากปลาที่นอนหายใจพะงาบๆ อยู่บนบก...
19 เมษายน ปี 1961
เวลา 05:00 น.
.....เสียงคลื่นวิทยุส่งกำลังสูงดังแซด แซด เป็นระยะถูกปล่อยสัญญานออกมาจากจุด Blue Beach ซาน โรมานซ์ (San Roman) ผู้บัญชาการรบกองพัน 2506 ตะโกนกรอกหูขอความช่วยเหลือ " พวกแกไม่เข้าใจสถานการณ์ของพวกเราตอนนี้เลยหรือไงวะ เราหมดหวังแล้ว เราต้องการการสนับสนุนทางอากาศ ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่รอดแน่ ไอ้บ้าเอ้ยยย ! "

เวลา 05:50
.....ฐานสนับสนุนทางอากาศซีไอเอ ในนิการากัว สนามบิน Puerto Cabezas ทุกอย่างดูอลหม่านโกลาหล เครื่องบินลำเลียงโจมตีทางอากาศแบบ B - 26 และเครื่อง C -46 จำนวน 16 ลำ เร่งโหลดกระสุน จรวด เสบียง แผนที่ เวชภัณฑ์ เครื่องส่งวิทยุ และอุปกรณ์จำเป็นทางภาคสนามขึ้นเต็มลำ เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว เครื่องยนต์ขนาด 2,000 แรงม้าก็กระหึ่มดังไปทั่วฐานพราง ฝูงบินป้อมปืนลอยฟ้าก็พุ่งทะยาน ถือเข็มมุ่งไปยังหัวหาดยุทธการที่คิวบาในทันที
เวลา 06:00 น.
.....ทหารราบคิวบาหลายพันนายเข้ากระชากสายออกซิเจน กำลังทหารรัฐบาลคิวบาเข้าปิดล้อม และเริ่มยิงปืนใหญ่กดดันฝ่ายกบฏอีกครั้ง กระสุนปืนเล็กเริ่มระดมยิงอย่างหนาแน่น ผบ.กบฏกองพัน 2506 ซานโรมานซ์ เริ่มวิทยุแจ้งขอความช่วยเหลืออีกครั้ง ระหว่างนี้ที่ท้องฟ้าเริ่มเปิด เครื่องบินรบ T - 33 ของกองทัพอากาศคิวบา ก็ทะยานบินออกมาจากแนวป่าฝั่งแผ่นดินใหญ่ ภารกิจคือตรวจหาความเคลื่อนไหว ของกองเรือกบฏที่ยังหลงเหลืออยู่
เวลา 08:00 - 09:00 น.
.....สองชั่วโมงผ่านไป ยังไร้วี่แววฝูงบินกู้ภัย กองพล 2506 ที่เหลือรอดเริ่มมองตากันปริบๆ ชูมือขึ้นหรือจะกำปืนสู้ต่อดีวะ ระหว่างนี้เอง นักบินกองทัพอากาศคิวบา ตรวจจับคลื่นวิทยุส่งขอความช่วยเหลือในภาษาอังกฤษ เป็นที่แน่ชัดว่าอาจมีกำลังสนับสนุนกลุ่มกบฏ จะถูกส่งเข้ามาช่วยเหลือต่อสู้ยังภาคพื้น ไม่กี่อึดใจเดียว นักบินทัพอากาศคิวบาก็ตรวจพบฝูงบินข้าศึก มุ่งตรงเข้ามายังหาด มันเป็นฝูงบินเจ็ต แบบ A4 Skyhawk หกลำ นักบินทัพอากาศคิวบารีบรายงานการตรวจพบ พร้อมกับถลาเครื่องบินของตัวเองที่เก่าคร่ำครึกว่า หนีกลับเข้าไปยังแนวป่าฝั่งแผ่นดินใหญ่ ปล่อยให้ฝูงบินลึกลับบินโฉบเข้ามา และบินวนก่อกวนอยู่เช่นนั้น โดยไม่มีการยิงอาวุธเข้าโจมตีภาคพื้นดินแต่อย่างใด เจตนาของอากาศยานไร้สัญชาติฝูงนี้ เพียงแค่ต้องการสร้างความเกรงกลัว และเรียกขวัญกำลังใจให้แก่กองพล 2506 ที่อยู่ในขั้นวิกฤติเท่านั้น ระหว่างนี้ ที่มันบินก่อกวนอยู่ห่างๆ ฝูงบินลึกลับอีกฝูงก็โผล่มาจากขอบฟ้าไกล

(A-4 Skyhawks )

(USS Essex)
ปัง ปัง ปังๆๆ ปังๆๆ ปังๆๆ!!! บึม บึม บึมๆๆ เปรี๊ยะ ๆๆ !!! หน่วยทหารปืนยิงต่อสู้อากาศยานคิวบา ต้อนรับด้วยกระสุนปืนกลหนัก และกระสุนปืนใหญ่แตกกลางอากาศเข้าใส่ฝูงบินกบฏทันที B-26 อัดกระสุนสงครามปืนโต้ตอบยังภาคพื้น เพื่อเปิดทางให้เครื่อง C-46 ทิ้งยุทธภัณฑ์ลงไป แต่พลาดเป้าหมายทั้งหมด เพราะถูกยิงสกัดขึ้นมาอย่างหนาแน่น B- 26 อีกลำโฉบยิงจรวดนาปาล์มใส่กองกำลังรัฐบาลคิวบาที่จุด Central Australia แต่ก็ถูกยิงสวนกลับมาอย่างหนักหน่วง มันบ่ายหัวหลบกระสุน ในขณะที่อีกลำก็ปล่อยระเบิดถล่มซ้ำที่หมายเดิม และเร่งเครื่องตวัดแพนหางหนีสะเก็ดระเบิดไป ปล่อยให้อีกลำที่กำลังบินฝ่ากลุ่มควันระเบิดสีดำ โฉบโจมตีอีกเป็นระลอกที่สาม แต่คราวนี้โชคเข้าข้างทหารรัฐบาล กระสุนแตกกลางอากาศทำงานเต็มประสิทธิภาพ มันฉีกเครื่องบินลำนั้นออกเป็นเสี่ยงๆ B-26 เคราะห์ร้ายลำนั้นบินหนี และร่อนตกไปในที่สุด ไม่ได้ต่างไปจากลำอื่นๆเลย ห้วงเวลาปฏิบัติการคลาดเคลื่อนไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม เครื่องบินสนับสนุน 9 ในจำนวน 16 ลำถูกยิงตก ห่างออกไปหนึ่งไมล์จากจุดโรงน้ำตาลบริเวณ Central Australia บางลำร่อนลงกระแทกพื้นไฟลุกท่วมป่าอ้อย ควันไฟสีดำทมิฬค่อยๆ ลอยสูงเหนือยอดมะพร้าวมองเห็นได้แต่ไกล ขวัญกำลังใจของกองพัน 2506 หายเกลี้ยง ! เครื่องบินสนับสนุนทั้ง 9 ลำตกอยู่หลังแนวข้าศึก ทหารรัฐบาลคิวบาฮ่อตะบึงรถบรรทุกเข้าตรวจยึด พบศพนักบินสัญชาติอเมริกัน 4 นาย สังหารนักบินสัญชาติคิวบาอีก 2 นาย เพราะขัดขืนการจับกุม นักบินและลูกเรือเคราะห์ร้ายลำอื่นๆ Kill in Action ไหม้ ! เป็นตอตะโกคาห้องนักบิน อีกเจ็ดลำที่หนีรอดออกไปได้ ก็ซมซานกลับไปยังฐานในสภาพสะบักสะบอม



เสียงปืนเริ่มเบาบางลงอีกครั้งและเงียบสงบไป ชายฉกรรจ์ในเครื่องแบบลายพรางเนื้อตัวมอมแมมนับพันนาย ค่อยๆ เดินเยื้ยย่างหมดแรงออกมาจากแนวป่า สองมือพวกเขาชูขึ้นไร้การขัดขืน ปืนทุกกระบอกถูกวางเรียงรายอยู่ตามชายหาด
.....รัฐบาลสหรัฐฯ นิ่งเฉย
.....สายลมทะเลนิ่งเฉย
.....ไม่มีคำอวยพรหรือปลอบประโลม ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าพวกเขาจะรอดหรือไม่
.....มีเพียงคำถามเดียวที่ยังดังสู้เสียงหวีดในแก้วหูของพวกเขา
..... ใคร ?... สมควรรับผิดชอบ ต่อการตายของสหายร่วมรบในครั้งนี้ !






OPERATION 40 ลงขันฆ่า...!? องค์กรมหาประลัย C.I.A (ตอนที่ 5)
เวลา คือหายนะที่แท้จริง
.....ย่างเข้าวันที่ 19 เมษายน ปี 1961 เวลา 00:00 น. การโจมตีหัวหาดโดยกองทัพคิวบาเริ่มเบาบางลง มันเหมือนอ๊อกซิเจนยื้อลมหายใจให้ทหารกบฏที่นอนขดอ่อนแรงอยู่ในหลุมดินตื้นๆ กลิ่นศพเพื่อนทหารยังคงลอยคละคลุ้งโชยสายลมทะเล มันเหมือนเครื่องกระตุ้นหัวใจ ที่คอยปั้มโสตประสาทรับรู้ให้พวกเขาต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอาหาร ไม่มีกระสุน ไม่มีความหวังที่จะได้เหยียบแผ่นดินใหญ่ในฐานะผู้ปลดปล่อยคิวบา ทางเลือกมีเพียงสองทางเท่านั้น ชูมือของคุณขึ้น หรือจะกำปืนสู้ต่อ...?
เวลา 01:00 น. ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา
ภายในห้องลับซึ่งไร้หน้าต่าง กลุ่มคนในชุดสูทดำและนายทหาร ยังคงประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เนื้อหาเกี่ยวข้องกับกฎการเข้าร่วมทำสงครามในคิวบา พวกเขากำลังพิจารณาถึงหลักมูลฐาน ของการมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ เคเนดี้ ปธน. และลินดอน บีจอห์นสัน รอง ปธน. ต่างขมวดคิ้วพิจารณาแผนที่ยุทธศาสตร์อย่างคร่ำเครียด โดยมี รมต.กระทรวงกลาโหม นายโรเบิร์ต แมคนามารา (Robert Strange McNamara) และ รมต. กระทรวงต่างประเทศ นายดีน รักก์ (Dean Rusk) พลเรือเอกอาร์เลห์ เบิร์ก (Arleigh Burke) เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ร่วม พลเรือเอกเบิร์ก ได้เสนอแผนส่งเครื่องบินเจ็ทเข้าโจมตีเครื่องบินของกองทัพอากาศคิวบา แต่เคนเนดี้สั่งระงับเด็ดขาด เพราะแผนช่วยเหลือครั้งนี้ ต้องอยู่ในชั้นความลับสุดยอด จะส่งกำลังหรือความช่วยเหลือใดๆ โดยเปิดเผยไม่ได้ ในขณะที่สถานการณ์ยังหัวหาด ล่อแหลมเข้าขั้นวิกฤตทุกทีนั้น ในที่สุดผลการประชุมลับ เคนเนดี้อนุมัติกำลังสนับสนุนทางอากาศได้ แต่อากาศยานกู้ภัยลำดังกล่าว ต้องติดสัญลักษณ์กองทัพอากาศคิวบา และให้ระยะเวลาปฏิบัติการจาก 06:30 ถึง 07:30 เท่านั้น
.....รหัสขึ้นบินกู้ภัย ถูกส่งไปยังฐานส่งกำลังสนับสนุนทางอากาศของซีไอเอ ในนิคารากัวทันที มันเป็นเหตุกระชั้นชิดอย่างมาก ด้วยคำสั่งเดิมที่ห้ามขึ้นบิน เป็นเหตุให้นักบิน และเจ้าหน้าที่ยุทธการ ไม่ได้ศึกษาถึงแผนการช่วยเหลือ ซ้ำร้ายข้อมูลโซนเวลา ระหว่างประเทศนิคารากัวกับคิวบานั้น มีความแตกต่างกันถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม !
เวลา คือหายนะที่แท้จริง
และตอนนี้ อ๊อกซิเจนใกล้หมดถังแล้ว นักรบกบฏตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากปลาที่นอนหายใจพะงาบๆ อยู่บนบก...
19 เมษายน ปี 1961
เวลา 05:00 น.
.....เสียงคลื่นวิทยุส่งกำลังสูงดังแซด แซด เป็นระยะถูกปล่อยสัญญานออกมาจากจุด Blue Beach ซาน โรมานซ์ (San Roman) ผู้บัญชาการรบกองพัน 2506 ตะโกนกรอกหูขอความช่วยเหลือ " พวกแกไม่เข้าใจสถานการณ์ของพวกเราตอนนี้เลยหรือไงวะ เราหมดหวังแล้ว เราต้องการการสนับสนุนทางอากาศ ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่รอดแน่ ไอ้บ้าเอ้ยยย ! "
เวลา 05:50
.....ฐานสนับสนุนทางอากาศซีไอเอ ในนิการากัว สนามบิน Puerto Cabezas ทุกอย่างดูอลหม่านโกลาหล เครื่องบินลำเลียงโจมตีทางอากาศแบบ B - 26 และเครื่อง C -46 จำนวน 16 ลำ เร่งโหลดกระสุน จรวด เสบียง แผนที่ เวชภัณฑ์ เครื่องส่งวิทยุ และอุปกรณ์จำเป็นทางภาคสนามขึ้นเต็มลำ เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว เครื่องยนต์ขนาด 2,000 แรงม้าก็กระหึ่มดังไปทั่วฐานพราง ฝูงบินป้อมปืนลอยฟ้าก็พุ่งทะยาน ถือเข็มมุ่งไปยังหัวหาดยุทธการที่คิวบาในทันที
เวลา 06:00 น.
.....ทหารราบคิวบาหลายพันนายเข้ากระชากสายออกซิเจน กำลังทหารรัฐบาลคิวบาเข้าปิดล้อม และเริ่มยิงปืนใหญ่กดดันฝ่ายกบฏอีกครั้ง กระสุนปืนเล็กเริ่มระดมยิงอย่างหนาแน่น ผบ.กบฏกองพัน 2506 ซานโรมานซ์ เริ่มวิทยุแจ้งขอความช่วยเหลืออีกครั้ง ระหว่างนี้ที่ท้องฟ้าเริ่มเปิด เครื่องบินรบ T - 33 ของกองทัพอากาศคิวบา ก็ทะยานบินออกมาจากแนวป่าฝั่งแผ่นดินใหญ่ ภารกิจคือตรวจหาความเคลื่อนไหว ของกองเรือกบฏที่ยังหลงเหลืออยู่
เวลา 08:00 - 09:00 น.
.....สองชั่วโมงผ่านไป ยังไร้วี่แววฝูงบินกู้ภัย กองพล 2506 ที่เหลือรอดเริ่มมองตากันปริบๆ ชูมือขึ้นหรือจะกำปืนสู้ต่อดีวะ ระหว่างนี้เอง นักบินกองทัพอากาศคิวบา ตรวจจับคลื่นวิทยุส่งขอความช่วยเหลือในภาษาอังกฤษ เป็นที่แน่ชัดว่าอาจมีกำลังสนับสนุนกลุ่มกบฏ จะถูกส่งเข้ามาช่วยเหลือต่อสู้ยังภาคพื้น ไม่กี่อึดใจเดียว นักบินทัพอากาศคิวบาก็ตรวจพบฝูงบินข้าศึก มุ่งตรงเข้ามายังหาด มันเป็นฝูงบินเจ็ต แบบ A4 Skyhawk หกลำ นักบินทัพอากาศคิวบารีบรายงานการตรวจพบ พร้อมกับถลาเครื่องบินของตัวเองที่เก่าคร่ำครึกว่า หนีกลับเข้าไปยังแนวป่าฝั่งแผ่นดินใหญ่ ปล่อยให้ฝูงบินลึกลับบินโฉบเข้ามา และบินวนก่อกวนอยู่เช่นนั้น โดยไม่มีการยิงอาวุธเข้าโจมตีภาคพื้นดินแต่อย่างใด เจตนาของอากาศยานไร้สัญชาติฝูงนี้ เพียงแค่ต้องการสร้างความเกรงกลัว และเรียกขวัญกำลังใจให้แก่กองพล 2506 ที่อยู่ในขั้นวิกฤติเท่านั้น ระหว่างนี้ ที่มันบินก่อกวนอยู่ห่างๆ ฝูงบินลึกลับอีกฝูงก็โผล่มาจากขอบฟ้าไกล
(A-4 Skyhawks )
(USS Essex)
ปัง ปัง ปังๆๆ ปังๆๆ ปังๆๆ!!! บึม บึม บึมๆๆ เปรี๊ยะ ๆๆ !!! หน่วยทหารปืนยิงต่อสู้อากาศยานคิวบา ต้อนรับด้วยกระสุนปืนกลหนัก และกระสุนปืนใหญ่แตกกลางอากาศเข้าใส่ฝูงบินกบฏทันที B-26 อัดกระสุนสงครามปืนโต้ตอบยังภาคพื้น เพื่อเปิดทางให้เครื่อง C-46 ทิ้งยุทธภัณฑ์ลงไป แต่พลาดเป้าหมายทั้งหมด เพราะถูกยิงสกัดขึ้นมาอย่างหนาแน่น B- 26 อีกลำโฉบยิงจรวดนาปาล์มใส่กองกำลังรัฐบาลคิวบาที่จุด Central Australia แต่ก็ถูกยิงสวนกลับมาอย่างหนักหน่วง มันบ่ายหัวหลบกระสุน ในขณะที่อีกลำก็ปล่อยระเบิดถล่มซ้ำที่หมายเดิม และเร่งเครื่องตวัดแพนหางหนีสะเก็ดระเบิดไป ปล่อยให้อีกลำที่กำลังบินฝ่ากลุ่มควันระเบิดสีดำ โฉบโจมตีอีกเป็นระลอกที่สาม แต่คราวนี้โชคเข้าข้างทหารรัฐบาล กระสุนแตกกลางอากาศทำงานเต็มประสิทธิภาพ มันฉีกเครื่องบินลำนั้นออกเป็นเสี่ยงๆ B-26 เคราะห์ร้ายลำนั้นบินหนี และร่อนตกไปในที่สุด ไม่ได้ต่างไปจากลำอื่นๆเลย ห้วงเวลาปฏิบัติการคลาดเคลื่อนไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม เครื่องบินสนับสนุน 9 ในจำนวน 16 ลำถูกยิงตก ห่างออกไปหนึ่งไมล์จากจุดโรงน้ำตาลบริเวณ Central Australia บางลำร่อนลงกระแทกพื้นไฟลุกท่วมป่าอ้อย ควันไฟสีดำทมิฬค่อยๆ ลอยสูงเหนือยอดมะพร้าวมองเห็นได้แต่ไกล ขวัญกำลังใจของกองพัน 2506 หายเกลี้ยง ! เครื่องบินสนับสนุนทั้ง 9 ลำตกอยู่หลังแนวข้าศึก ทหารรัฐบาลคิวบาฮ่อตะบึงรถบรรทุกเข้าตรวจยึด พบศพนักบินสัญชาติอเมริกัน 4 นาย สังหารนักบินสัญชาติคิวบาอีก 2 นาย เพราะขัดขืนการจับกุม นักบินและลูกเรือเคราะห์ร้ายลำอื่นๆ Kill in Action ไหม้ ! เป็นตอตะโกคาห้องนักบิน อีกเจ็ดลำที่หนีรอดออกไปได้ ก็ซมซานกลับไปยังฐานในสภาพสะบักสะบอม
เสียงปืนเริ่มเบาบางลงอีกครั้งและเงียบสงบไป ชายฉกรรจ์ในเครื่องแบบลายพรางเนื้อตัวมอมแมมนับพันนาย ค่อยๆ เดินเยื้ยย่างหมดแรงออกมาจากแนวป่า สองมือพวกเขาชูขึ้นไร้การขัดขืน ปืนทุกกระบอกถูกวางเรียงรายอยู่ตามชายหาด
.....รัฐบาลสหรัฐฯ นิ่งเฉย
.....สายลมทะเลนิ่งเฉย
.....ไม่มีคำอวยพรหรือปลอบประโลม ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าพวกเขาจะรอดหรือไม่
.....มีเพียงคำถามเดียวที่ยังดังสู้เสียงหวีดในแก้วหูของพวกเขา
..... ใคร ?... สมควรรับผิดชอบ ต่อการตายของสหายร่วมรบในครั้งนี้ !