Billy Lynn's Long Halftime Walk (Ang Lee,2016) คะแนน C+
By Form Corleone
"ภาวะของแห่งการเสพติดสงคราม" ไม่น่าเชื่อว่านี้คืองานของผู้กำกับที่เราชื่นชอบมาตลอด เพราะภาพรวมของหนังเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมากๆ แม้ข้อความที่หนังต้องการสื่อให้กับคนดูจะมีมาเป็นช่วงๆให้พอจับต้องได้ แต่พอยุบรวมเป็นภาพใหญ่ หนังไม่ได้ให้ประเด็นอะไรที่แปลกใหม่หรือน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย ปัญหาที่เราไม่ชอบมากๆคือการลำดับภาพ+สลับภาพเล่าเหตุการณ์ไปมาที่ดูไม่เข้ากันและขัดใจ+ขัดอารมณ์จนไม่รู้สึกร่วมไปกับพล็อตเรื่องเท่าที่ควรจะเป็น หนังเปิดประเด็นได้เบามาก จุดไคลแมกซ์ของหนังก็เบาเกินไป เหมือนตัว 'Ang Lee' พยายามจะสร้างความแปลกใหม่ ด้วยงานภาพแนวทดลอง ใส่เทคนิคใหม่ๆเข้ามาจนทำให้จุดเด่นของตัวเขาเองที่มักจะมีบทภาพยตร์ที่ดีมากๆเป็นตัวนำหายไปเกือบหมด งานนี้เลยกลายร่างเป็นการโชว์งานภาพเสียมากกว่า ถึงกระนั้นความดีงามของ 'Billy Lynn's' ก็ยังหลงเหลือให้เราสัมผัสสภาวะของตัวละครได้อยู่
'Billy Lynn's Long Halftime Walk' ถือว่าเป็นอีกงานที่เราจะได้มองเรื่องราวต่างๆ ผ่านสายตาของตัวละครในเรื่อง 'บิลลี่ ลินน์' นายทหารหนุ่มและเพื่อนร่วมรบในสงครามอิรัก พวกเขาคือ 'ฮี่โร่' และถูกเชิญให้เข้าร่วมโครงการ Victory tour ในฐานะวีรบุรุษ เบื้องหลังการจัดฉากต่างๆ ภาวะทางอารมณ์ของเหล่าเพื่อนร่วมรบ ความหลอกลวง การเสพติดสงครามเข้าเส้นเลือด ภาวะหลังสงครามที่ตามหลอกหลอนในทุกขณะ สิ่งเหล่านี้ยังคงสะท้อนผลกระทบหลังสงครามเสมอ ซึ่งตัว 'บิลลี่ ลินน์' อาจเป็นตัวแทนเหล่าทหารกล้าที่ยอมตายเพื่อหน้าที่ และยอมกลับไปเผชิญผู้ก่อการร้าย พร้อมถือปืนยิงถล่มในสงครามดีกว่าต้องโชว์เปิดตัวละครสัตว์หลอกลวงแบบนี้มากกว่า ตลอดระยะเวลาในสนามกีฬา+ตัดภาพสลับเหตุการณ์ในสงครามอิรัก ผ่านสายตาบิลลี่ ทำให้ภาวะความสับสนในจิตใจก่อตัวขึ้นตลอดทั้งเรื่อง แต่จนแล้วจนรอดหนังก็ไม่ได้แสดงพลังอะไรออกมาให้เราเห็นเลย รวมไปถึงตัวนักแสดงเองด้วย ยิ่งไปกว่านั้นภาพของผู้คนที่ดูถูกพวกเขาล้อเลียนต่างๆนานา นายทุนที่หวังเพียงผลกำไรจากเรื่องราววีรกรรมสงคราม ผนวกรวมกับพี่สาวที่ต้องการให้เขาอยู่ต่อกับครอบครัว จึงเป็นช่วงเวลาการตัดสินใจว่าจะเดินไปสู่สนามรบอีกครั้งหรือถอยหลังกลับ
สิ่งสะท้อนของการเสพติดสงครามที่เราชอบของหนังเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเปรียบเทียบคำว่า 'บ้าน' ของตัวละครในเรื่อง ในวันที่เราไม่รู้สึกว่าอเมริกาคือบ้านของเราอีกต่อไป การกลับบ้านที่แท้จริง คือมุ่งหน้าสู่สนามรบ ที่เขารู้สึกว่าปลอดภัย เป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก คนธรรมดาที่ไหนกันจะคิดว่า 'สนามรบ' คือบ้านที่ปลอดภัยและเป็นสถานที่ ที่เราคุ้นเคย สะทือนใจดี!! สิ่งที่ทำให้เราตลกมากๆคือ 'Kristen Stewart' และ 'Vin Diesel' คือไม่ต้องมาก็ได้ สามารถใช้นักแสดงที่ไม่ต้องมีชื่อขนาดนี้ก็ได้ ดูไร้ประโยชน์และใช้งานได้ไม่คุ้มค่าจริงๆ 'Vin Diesel' ไม่เสียดายเท่าไหร่ แต่ 'Kristen Stewart' สามารถที่จะเล่นได้มากกว่านี้ แต่บทที่มีก็น้อยเกินไป น่าเสียดาย!!
สุดท้าย 'Billy Lynn's Long Halftime Walk' ไม่ได้ส่งพลังถึงคนดูเท่าที่ควร หนังออกแนวเส้นตรง ราบขนานไปเรื่อยๆ ถึงจะมีจุดพีคแต่ก็ทำได้ไม่ถึง เป็นงานที่ไม่น่าใช่งาน 'Ang Lee' โดยแท้ หรือ เรื่องนี้อาจเป็นงานทดลองของเจ้าตัวที่ต้องการใส่เทคนิคอะไรใหม่ๆลงไป โดยไม่สนใจของดีที่ตัวเองเคยทำไว้เลย คงต้องรอเรื่องถัดๆไปหลังจากนี้ อาจมีอะไรมาให้เราเซอร์ไพรส์ก็ได้ หวังเพียงว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์ในทางที่ดี ยังไงก็ยังรอคอยอยู่เสมอ
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Billy Lynn's Long Halftime Walk (Ang Lee,2016) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ภาวะของแห่งการเสพติดสงคราม" ไม่น่าเชื่อว่านี้คืองานของผู้กำกับที่เราชื่นชอบมาตลอด เพราะภาพรวมของหนังเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมากๆ แม้ข้อความที่หนังต้องการสื่อให้กับคนดูจะมีมาเป็นช่วงๆให้พอจับต้องได้ แต่พอยุบรวมเป็นภาพใหญ่ หนังไม่ได้ให้ประเด็นอะไรที่แปลกใหม่หรือน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย ปัญหาที่เราไม่ชอบมากๆคือการลำดับภาพ+สลับภาพเล่าเหตุการณ์ไปมาที่ดูไม่เข้ากันและขัดใจ+ขัดอารมณ์จนไม่รู้สึกร่วมไปกับพล็อตเรื่องเท่าที่ควรจะเป็น หนังเปิดประเด็นได้เบามาก จุดไคลแมกซ์ของหนังก็เบาเกินไป เหมือนตัว 'Ang Lee' พยายามจะสร้างความแปลกใหม่ ด้วยงานภาพแนวทดลอง ใส่เทคนิคใหม่ๆเข้ามาจนทำให้จุดเด่นของตัวเขาเองที่มักจะมีบทภาพยตร์ที่ดีมากๆเป็นตัวนำหายไปเกือบหมด งานนี้เลยกลายร่างเป็นการโชว์งานภาพเสียมากกว่า ถึงกระนั้นความดีงามของ 'Billy Lynn's' ก็ยังหลงเหลือให้เราสัมผัสสภาวะของตัวละครได้อยู่
'Billy Lynn's Long Halftime Walk' ถือว่าเป็นอีกงานที่เราจะได้มองเรื่องราวต่างๆ ผ่านสายตาของตัวละครในเรื่อง 'บิลลี่ ลินน์' นายทหารหนุ่มและเพื่อนร่วมรบในสงครามอิรัก พวกเขาคือ 'ฮี่โร่' และถูกเชิญให้เข้าร่วมโครงการ Victory tour ในฐานะวีรบุรุษ เบื้องหลังการจัดฉากต่างๆ ภาวะทางอารมณ์ของเหล่าเพื่อนร่วมรบ ความหลอกลวง การเสพติดสงครามเข้าเส้นเลือด ภาวะหลังสงครามที่ตามหลอกหลอนในทุกขณะ สิ่งเหล่านี้ยังคงสะท้อนผลกระทบหลังสงครามเสมอ ซึ่งตัว 'บิลลี่ ลินน์' อาจเป็นตัวแทนเหล่าทหารกล้าที่ยอมตายเพื่อหน้าที่ และยอมกลับไปเผชิญผู้ก่อการร้าย พร้อมถือปืนยิงถล่มในสงครามดีกว่าต้องโชว์เปิดตัวละครสัตว์หลอกลวงแบบนี้มากกว่า ตลอดระยะเวลาในสนามกีฬา+ตัดภาพสลับเหตุการณ์ในสงครามอิรัก ผ่านสายตาบิลลี่ ทำให้ภาวะความสับสนในจิตใจก่อตัวขึ้นตลอดทั้งเรื่อง แต่จนแล้วจนรอดหนังก็ไม่ได้แสดงพลังอะไรออกมาให้เราเห็นเลย รวมไปถึงตัวนักแสดงเองด้วย ยิ่งไปกว่านั้นภาพของผู้คนที่ดูถูกพวกเขาล้อเลียนต่างๆนานา นายทุนที่หวังเพียงผลกำไรจากเรื่องราววีรกรรมสงคราม ผนวกรวมกับพี่สาวที่ต้องการให้เขาอยู่ต่อกับครอบครัว จึงเป็นช่วงเวลาการตัดสินใจว่าจะเดินไปสู่สนามรบอีกครั้งหรือถอยหลังกลับ
สิ่งสะท้อนของการเสพติดสงครามที่เราชอบของหนังเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเปรียบเทียบคำว่า 'บ้าน' ของตัวละครในเรื่อง ในวันที่เราไม่รู้สึกว่าอเมริกาคือบ้านของเราอีกต่อไป การกลับบ้านที่แท้จริง คือมุ่งหน้าสู่สนามรบ ที่เขารู้สึกว่าปลอดภัย เป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก คนธรรมดาที่ไหนกันจะคิดว่า 'สนามรบ' คือบ้านที่ปลอดภัยและเป็นสถานที่ ที่เราคุ้นเคย สะทือนใจดี!! สิ่งที่ทำให้เราตลกมากๆคือ 'Kristen Stewart' และ 'Vin Diesel' คือไม่ต้องมาก็ได้ สามารถใช้นักแสดงที่ไม่ต้องมีชื่อขนาดนี้ก็ได้ ดูไร้ประโยชน์และใช้งานได้ไม่คุ้มค่าจริงๆ 'Vin Diesel' ไม่เสียดายเท่าไหร่ แต่ 'Kristen Stewart' สามารถที่จะเล่นได้มากกว่านี้ แต่บทที่มีก็น้อยเกินไป น่าเสียดาย!!
สุดท้าย 'Billy Lynn's Long Halftime Walk' ไม่ได้ส่งพลังถึงคนดูเท่าที่ควร หนังออกแนวเส้นตรง ราบขนานไปเรื่อยๆ ถึงจะมีจุดพีคแต่ก็ทำได้ไม่ถึง เป็นงานที่ไม่น่าใช่งาน 'Ang Lee' โดยแท้ หรือ เรื่องนี้อาจเป็นงานทดลองของเจ้าตัวที่ต้องการใส่เทคนิคอะไรใหม่ๆลงไป โดยไม่สนใจของดีที่ตัวเองเคยทำไว้เลย คงต้องรอเรื่องถัดๆไปหลังจากนี้ อาจมีอะไรมาให้เราเซอร์ไพรส์ก็ได้ หวังเพียงว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์ในทางที่ดี ยังไงก็ยังรอคอยอยู่เสมอ
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
ตัวอย่างหนัง
ฝากกด like page ด้วยนะครับ
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/