[SR] ppantip.com ร่วมกับ ททท. ตามรอยพ่อ ด้วยความคิดถึง เชียงใหม่ #2 : เส้นทางดอยปุย


หลังจากที่เราได้กลับไปพักผ่อนออมแรงกันอย่างเต็มที่แล้ว ครั้งนี้เราออกเดินทางไปสัมผัสกับไอหมอกและอากาศหนาวๆ ตามรอยเส้นทางของพ่อกันต่อที่ "ดอยปุย"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปทางถนนหมายเลข 1004 ผ่านหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ ผ่านพระตำหนักหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งไม่ไกลกันมากนักประมาณ 4 กิโลเมตร หากใครที่ไม่ได้นำรถยนต์ส่วนตัวมา ก็มีรถสองแถวแดงเข้าหมู่บ้านม้งดอยปุยด้วยเช่นกัน

ระหว่างที่ขึ้นมานั้น เราได้จอดรถถ่ายรูปกันที่สถานีวิจัยดอยปุย ซึ่งเป็นทางขึ้นไปยังหมู่บ้านม้งดอยปุยพอดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตอนที่เราเดินทางมาถึงประมาณ 9 โมงกว่าเข้าไปแล้ว แต่ยังคงมีหมอกจางๆ ให้เราได้เห็นอยู่เลย แวะถ่ายรูปเสพอากาศสดชื่นกันจนเต็มปอดแล้ว ก็เดินทางกันต่อไปยังด้านบนหมู่บ้านม้งดอยปุย

แหมๆ วิวสวยขนาดนี้ไม่ถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ได้แล้ว

เมื่อถึงที่หมาย จะมีน้องๆ มัคคุเทศก์น้อยวิ่งเข้ามา เพื่ออาสานำทางเราเข้าไปเที่ยวชมหมู่บ้าน  ส่วนค่าใช้จ่ายในการเยี่ยมชม ก็แล้วแต่เราจะให้กับน้องๆ

เดิมทีบริเวณนี้เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวแม้วบ้านดอยปุยมาก่อน และรายได้หลักอีกอย่าง คือการเก็บท้อพื้นเมืองขาย ซึ่งมีผลที่เล็ก แต่สามารถทำเงินได้เท่าๆ กับการปลูกฝิ่น เมื่อในหลวงทรงทราบว่าสถานีทดลองดอยปุยที่อยู่ใกล้ๆ กันนี้  สามารถนำกิ่งท้อลูกใหญ่ของฝรั่งมาต่อกับต้นต่อของพันธุ์พื้นเมืองได้ จึงได้พระราชทานเงิน 200,000 บาท เพื่อจัดหาที่ดินบริเวณใกล้กับสถานีดอยปุย สำหรับการวิจัยไม้ผลเขตหนาว มาทดแทนการปลูกฝิ่นให้กับชาวเขา

ที่มา : http://www.royalprojectthailand.com/about

น้องๆ มัคคุเทศก์ น่ารักกก

ระหว่างที่เดินชมหมู่บ้าน ก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่ชาวเขานำออกมาวางขายกันมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกของฝาก ของที่ระลึก เช่น ใบชาสำเร็จรูป และ แก้วชงชา

ใบชาสำเร็จรูปสำหรับไปชงน้ำร้อนดื่ม มีทั้งชาอู่หลง ชามะลิ


แก้วสำหรับชงชา ที่มีขายกันตลอดเส้นทางเดิน มีลวดลายสวยงามให้เราได้เลือกอย่างมากมาย

เมื่อเดินมาถึงด้านบนจะเจอกับพิพิธภัณฑ์ชาวเขาบ้านม้ง ดอยปุย ค่าเข้าชมอยู่ที่คนละ 10 บาท

ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ จะจำลองบ้านเสมือนจริงของชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น แม้ว ม้ง มูเซอ อีก้อ และลีซอ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน จุดประสงค์ของที่นี่ ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมถึงความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของชาวเขานั่นเอง

ดอยปุยนั้นเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีวิถีชีวิตน่าสนใจ จึงมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามามากมาย ทำให้หมู่บ้านที่แสนธรรมดาแห่งนี้ กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  เมื่อชาวม้งมีรายได้มากขึ้น เด็กและผู้ใหญ่จึงมีงานทำ การปลูกฝิ่นจึงค่อยๆ หายไป จนเหลือแค่แปลงทดลองขนาดย่อม ที่ปลูกไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมต้นฝิ่นอย่างใกล้ชิด


และด้วยดอยปุยมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี จึงเหมาะแก่การปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาว เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมหรือจะถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ หรือถ้าอยากให้เก๋กว่านั้น ที่นี่ยังมีบริการเช่าชุดของชาวเขาเผ่าต่างๆ ไว้อีกด้วย

ใครไปก็อย่าลืมใส่แล้วถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกนะ

ระหว่างทางที่เดินลงมายังจุดจอดรถ เราได้แวะชมสวนน้ำตกดอยปุย โดยจะต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ซึ่งตอนที่เราไปน้ำค่อนข้างน้อย แต่ภายในก็ตกแต่งไปด้วยไม้ประดับมากมายเลยทีเดียว และด้วยความเขียวขจีนี้เอง จึงทำให้ให้มองดูแล้วเย็นสบายตายิ่งนัก



น้ำจากน้ำตกที่ไหลมาตามกระบอกไม้ไผ่ จะไหลลงไปยังบ่อกักเก็บน้ำของหมู่บ้าน

ชื่อสินค้า:   ดอยสุเทพ
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่