สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ถามว่ามีไหม ?
ตอบเลยแบบไม่ต้องคิด.... " มีครับ "
แต่ทุกอย่างบนโลกใบนี้มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง....
อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง กับ แต่งก่อนอยู่ด้วยกัน ก็เช่นเดียวกัน....
(โปรดสังเกตว่าผมใช้คำว่า " อยู่ด้วยกัน " ไม่ใช่ " มีอะไรกัน " )
แต่งก่อนอยู่ด้วยกัน.... คือขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม....
ทำให้ฝ่ายชายเห็นคุณค่าของฝ่ายหญิง.... เพราะลำบากมามาก
กว่าจะฝ่าฟันจนถึงวันที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...
แต่......... การแต่งก่อนอยู่ด้วยกัน ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะอยู่กันได้ยืดยาว...
มีอยู่ไม่น้อยที่คบหากันมาเป็นสิบปี แต่พอแต่งงานมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ
ปรากฏว่าเตียงหัก... อยู่กันได้ไม่ถึงปี.... ไปไม่รอด...
เพราะอะไร ? เพราะชีวิตในแต่ละวันของคนเรามี 24 ชม.
แต่เราได้เห็นพฤติกรรมของคนที่เราคบหา 24 ชม. หรือเปล่า ?
เปล่าเลย.... เขาแสดงให้เราเห็นเฉพาะพฤติกรรมในด้านที่ดีเท่านั้น...
- นอนกรนเสียงดังลั่นบ้าน
- ถอดกางเกงในม้วนเป็นเลข 8 โยนๆไว้
- ผ้าไม่ซัก 2-3 อาทิตย์ หมกไว้มุมห้อง
- กินข้าวไม่ล้างจาน แช่น้ำไว้ส่งกลิ่นเหม็นเป็นอาทิตย์
- งานบ้านไม่แตะ
- เกี่ยงกันเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน
- sex ห่วย ล่มปากอ่าว นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เอาตัวรอดคนเดียวตลอด
- ฯลฯ
หลายๆคนหลายๆคู่มาเจอเอาพฤติกรรมเหล่านี้หลังจากแต่งงานไปแล้ว...
ฝ่ายหญิงรับไม่ได้.... ฝ่ายชายก็ไม่ยอมปรับปรุง.... เพราะถือว่าคบกันมาตั้งนานทำไมเพิ่งมาโวยวายเอาป่านนี้
(ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าสันดานจะเป็นแบบนี้) สุดท้ายก็เลยต่างคนต่างไป...
ทีนี้ลองมาดู อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง บ้าง...
แน่นอนว่างานนี้ฝ่ายหญิงเสียเปรียบเต็มๆ และความเสี่ยงสูงมาก....
ผู้ชายหลายๆคนเมื่อได้ " ลิ้มลอง " แล้วก็ไม่เห็นค่าอีก... ปล่อยปละละเลย ไม่สนใจ ไม่แคร์...
ของที่ได้มาง่ายๆ... มักไม่ค่อยมีคุณค่า....
แต่หากคุณโชคดี.... จะมีผู้ชายจำนวนนึงที่เห็นคุณค่า...
ผู้ชายกลุ่มนี้จะรู้สึกว่าคนๆนี้คือผู้หญิงของเขา... ผู้หญิงคนนี้เลือกเขาแล้ว...
โดยเดิมพันความรักของเธอด้วยทุกอย่างที่เธอมี.... เขาจะต้องไม่ทำให้เธอผิดหวัง...
ผู้ชายกลุ่มนี้จะทำทุกอย่างเพื่อฝ่าฟันไปให้ถึงวันที่ได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน...
แม้จะมีอยู่น้อย... แต่ผู้ชายกลุ่มนี้ก็มีอยู่จริง....
ตอบเลยแบบไม่ต้องคิด.... " มีครับ "
แต่ทุกอย่างบนโลกใบนี้มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง....
อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง กับ แต่งก่อนอยู่ด้วยกัน ก็เช่นเดียวกัน....
(โปรดสังเกตว่าผมใช้คำว่า " อยู่ด้วยกัน " ไม่ใช่ " มีอะไรกัน " )
แต่งก่อนอยู่ด้วยกัน.... คือขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม....
ทำให้ฝ่ายชายเห็นคุณค่าของฝ่ายหญิง.... เพราะลำบากมามาก
กว่าจะฝ่าฟันจนถึงวันที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...
แต่......... การแต่งก่อนอยู่ด้วยกัน ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะอยู่กันได้ยืดยาว...
มีอยู่ไม่น้อยที่คบหากันมาเป็นสิบปี แต่พอแต่งงานมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ
ปรากฏว่าเตียงหัก... อยู่กันได้ไม่ถึงปี.... ไปไม่รอด...
เพราะอะไร ? เพราะชีวิตในแต่ละวันของคนเรามี 24 ชม.
แต่เราได้เห็นพฤติกรรมของคนที่เราคบหา 24 ชม. หรือเปล่า ?
เปล่าเลย.... เขาแสดงให้เราเห็นเฉพาะพฤติกรรมในด้านที่ดีเท่านั้น...
- นอนกรนเสียงดังลั่นบ้าน
- ถอดกางเกงในม้วนเป็นเลข 8 โยนๆไว้
- ผ้าไม่ซัก 2-3 อาทิตย์ หมกไว้มุมห้อง
- กินข้าวไม่ล้างจาน แช่น้ำไว้ส่งกลิ่นเหม็นเป็นอาทิตย์
- งานบ้านไม่แตะ
- เกี่ยงกันเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน
- sex ห่วย ล่มปากอ่าว นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เอาตัวรอดคนเดียวตลอด
- ฯลฯ
หลายๆคนหลายๆคู่มาเจอเอาพฤติกรรมเหล่านี้หลังจากแต่งงานไปแล้ว...
ฝ่ายหญิงรับไม่ได้.... ฝ่ายชายก็ไม่ยอมปรับปรุง.... เพราะถือว่าคบกันมาตั้งนานทำไมเพิ่งมาโวยวายเอาป่านนี้
(ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าสันดานจะเป็นแบบนี้) สุดท้ายก็เลยต่างคนต่างไป...
ทีนี้ลองมาดู อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง บ้าง...
แน่นอนว่างานนี้ฝ่ายหญิงเสียเปรียบเต็มๆ และความเสี่ยงสูงมาก....
ผู้ชายหลายๆคนเมื่อได้ " ลิ้มลอง " แล้วก็ไม่เห็นค่าอีก... ปล่อยปละละเลย ไม่สนใจ ไม่แคร์...
ของที่ได้มาง่ายๆ... มักไม่ค่อยมีคุณค่า....
แต่หากคุณโชคดี.... จะมีผู้ชายจำนวนนึงที่เห็นคุณค่า...
ผู้ชายกลุ่มนี้จะรู้สึกว่าคนๆนี้คือผู้หญิงของเขา... ผู้หญิงคนนี้เลือกเขาแล้ว...
โดยเดิมพันความรักของเธอด้วยทุกอย่างที่เธอมี.... เขาจะต้องไม่ทำให้เธอผิดหวัง...
ผู้ชายกลุ่มนี้จะทำทุกอย่างเพื่อฝ่าฟันไปให้ถึงวันที่ได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน...
แม้จะมีอยู่น้อย... แต่ผู้ชายกลุ่มนี้ก็มีอยู่จริง....
ความคิดเห็นที่ 12
เรามองว่ามันไม่เกี่ยวกันนะ
โดยปกติ ช มีความต้องการตามปกติ ถ้าถาม ช ก็คงอยากมี
แต่ว่ามันก็ไม่เกี่ยวกับว่าจะอยู่กันจนหลังแต่งงานหรือเปล่าเลยซักนิด
มีไม่มีเราว่าไม่ต่างกัน เพียงแต่คนที่มีแล้วไปกันไม่รอด
ญ มักจะคิดว่าเสียอะไรบางอย่างไป ซึ่งจริงๆมันเป็นแค่ค่านิยมเท่านั้นเอง
มีหลายๆที่ในประเทศอื่นๆไม่ได้สนใจ
จริงๆ ช ก็ไม่ได้สนใจมากหรอกว่า ญ จะซิงหรือเปล่า
การที่มีเยื่อบางในช่องคลอดหรือไม่มีไม่ได้เป็นตัวการันตีว่า
เราจะอยู่กับคนๆนี้ไปชั่วชีวิต
โดยปกติ ช มีความต้องการตามปกติ ถ้าถาม ช ก็คงอยากมี
แต่ว่ามันก็ไม่เกี่ยวกับว่าจะอยู่กันจนหลังแต่งงานหรือเปล่าเลยซักนิด
มีไม่มีเราว่าไม่ต่างกัน เพียงแต่คนที่มีแล้วไปกันไม่รอด
ญ มักจะคิดว่าเสียอะไรบางอย่างไป ซึ่งจริงๆมันเป็นแค่ค่านิยมเท่านั้นเอง
มีหลายๆที่ในประเทศอื่นๆไม่ได้สนใจ
จริงๆ ช ก็ไม่ได้สนใจมากหรอกว่า ญ จะซิงหรือเปล่า
การที่มีเยื่อบางในช่องคลอดหรือไม่มีไม่ได้เป็นตัวการันตีว่า
เราจะอยู่กับคนๆนี้ไปชั่วชีวิต
แสดงความคิดเห็น
ยังมีอยู่ไหมค่ะ คนที่คบกันแบบถูกจารีตประเพณีไทย ไม่ชิงสุกก่อนห่าม
ตอนเช้ามาอาจไปนั่งกินข้าวกันแล้วแยกย้ายกันทำงานตกเย็นกินข้าวแล้วไปส่งฝ่ายหญิงแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
หรืออยู่ไกลกันอาจเจอกันเดือนละครั้งโดยแค่ออกมานั่งพูดคุยกินข้าวแล้วแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน
ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันต้องนอนแยกห้อง เข้าไปนอนด้วยกันมีอะไรกันหลังแต่งงาน
คือทางบ้านเราเขาต้องการให้เป็นแบบนี้กับแฟนที่กำลังคบอยู่ ปัจจุบันก็ทำแบบนี้แต่กลัวว่าไม่นานเขาก็คงเบื่อๆแล้วก็คงหาคนอื่นละ แล้วพอเรามีแฟนใหม่ก็จะทำแบบนี้แล้วจะโดนเบื่ออีก
เลยมาลองตั้งกระทู้ถามว่าในกรณีนี้มีใครคบกันได้ถึงแต่งงานไหม แล้วเราควรแก้ปัญหายังไงดีหรือก็ปล่อยเป็นแบบนี้ละ