*คำเตือน การ Flash Firmware ข้าม Zone มีความเสี่ยง เลียนแบบได้ แต่ถ้าเกิดปัญหา จขกท ไม่ขอรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น
ความเป็นมาก่อนจะเขียน review นี้
ขอเล่าความเป็นมาก่อนละกันครับ Router D-Link DIR-816L ตัวนี้ซื้อมานานเกินปีได้แล้วครับ ตั้งแต่วางจำหน่ายในไทยตอนแรกๆ ซื้อมาใช้งานทั่วไป กระจายสัญญาณ Wireless กับใช้เป็น Media server คู่กับเครื่องเล่น blu-ray และลองใช้ mydlink Service กับ mydlink SharePort อยู่บ้าง เคยเอามาต่อ Bridge กับ ADSL modem พักนึง
จนล่าสุด อยากโหลดบิทแบบปิดคอม เลยไปสอย ASUS RT-AC51U มาใช้แทน ก่อนปลดประจำการเลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ media server ของ router ตัวนี้ แล้วไปอ่านเจอคู่มือจากเว็บๆ นึง ว่ามันมีส่วนของการโหลดบิทได้ เลยไล่ดูว่าเป็นจากประเทศไหน จนเจอว่ามันมาจาก dlink.ru เลยตามไปดู แล้วโหลดมาลองเสี่ยง Flash Firmware ลงไปใน Router ที่มีอยู่ แล้วรอด เลยเริ่มเขียนรีวิวนี้ขึ้นมา
Hardware Review
Hardware ที่ผมมีเป็น version B1 ส่วน Firmware ติดเครื่องมาตอนแรกเป็น v2.00(SG)
spec เดิมๆ ไปดูที่ link ข้างล่างนี้ครับ
http://www.dlink.co.th/product/dir-816l-ac750-wireless-dualband-fast-ethernet-cloud-router/#nf_specs
ส่วน spec สำหรับ firmware รัสเซีย ไปดูได้ที่ dlink รัสเซีย(ส่วนของ มองโกเลีย จะแสดงเป็นภาษาอังกฤษ)
http://www.dlink.ru/mn/products/5/1962_b.html
ทำไมฟังชั่นมันต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยเนี่ย
ด้านบน มี led status ของ power, internet, wifi, lan 1 - 4
ด้านล่าง มีข้อมูลเกี่ยวกับ Router แล้วก็รูเล็กๆ สำหรับจิ้มเพื่อทำ Hard Reset ไม่มีรูระบายอากาศ และไม่สามารถแขวนผนังได้
ด้านขวา มีปุ่ม WPS
ด้านซ้าย มีช่องระบายอากาศ
ข้างหน้า เป็นช่องระบายอากาศ
ข้างหลัง เป็นเสา WiFi 5dBi 2 เสา, LAN 10/100Mbps 4 ช่อง, Internet (WAN) 10/100Mbps, USB v2.0 1 ช่อง, ปุ่ม on/off, ช่องเสียบอะแอปเตอร์
เสา WiFi แบบติดเครื่อง ถอดไม่ได้ หมุนได้ 180 องศา ปรับตั้งได้ 3 ระดับ 0,45,90 องศา
อะแดปเตอร์ 12V/1A
ขนาดเครื่องไม่ได้ใหญ่ แต่กล่องใหญ่มากครับ สงสัยเขากลัวว่าให้กล่องเล็กแล้วดูเหมือนของถูก 555 เสียดายไม่มีปุ่มปิด WiFi แต่ก็ยังดีเอา WPS ไว้ด้านข้าง ไม่เอาไว้ข้างหลัง ส่วนตัวว่า ถ้าเอาไว้ด้านข้างมันกดสะดวกกว่า ถึงจะไม่เคยใช้เลยก็ตาม (จริงๆ น่าจะย้าย USB มาด้านข้างด้วยก็ดีนะ)
Software Review
ของเดิมล่าสุดก่อนที่จะใช้ firmware ตัวนี้จะเป็น version 2.05.B02 แล้ว up 2.06.B09_BETA ซ้ำ
http://support.dlink.com/ProductInfo.aspx?m=DIR-816L
ส่วน Software ที่เอามารีวิวจะเป็น version 2.5.3
โหลดมาจาก ftp.dlink.ru 2 ไฟล์ แล้ว Flash จากตัว alpha ก่อน แล้วค่อย up ตัว sdk.master ซ้ำลงไป
http://ftp.dlink.ru/pub/Router/DIR-816L/Firmware/
หน้าตา Web config ไม่มีเค้าโครงของเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว สำหรับคนที่เคยใช้ อุปกรณ์ D-Link หน้าจอโทนดำส้มมาก่อน น่าจะไม่ชินกับหน้าตาใหม่แบบนี้
Login จะไม่เหมือนกับของเดิมเลย
หน้า Monitor แสดงเป็นกราฟฟิค(ทำไม firmware เดิมไม่มีมั่งนะ)
หน้า Home จะแสดงรายละเอียดคร่าวๆ และการตั้งค่าแบบ Wizard ของส่วนต่างๆ บางส่วน
Status บอกรายละเอียดของส่วนต่างๆ
ส่วนของ Net เอาไว้ตั้งค่า WAN/LAN และสามารถเลือกว่าจะให้อะไรเป็น WAN หลัก และ สำรอง (WAN/3G/LTE)
WiFi 2.4GHz
WiFi 5GHz
WiFi Security
WiFi Mac filter
List of WiFi Client
WPS
Additional settings เอาไว้ปรับตั้งค่าอื่นๆ มี TX Beamforming ด้วย ไม่รู้จะใช่ที่เข้าใจรึเปล่า Firmware ของเดิมไม่มี
WMM
WiFi Client
Advanced => VLAN
Speed and Duplex กำหนดความเร็วของ LAN/WAN ว่าจะให้ช่องไหนวิ่งที่ความเร็ว 10 หรือ 100 และเป็นแบบ Full/Half Duplex
Redirect
DDNS ใช้ของ DLinkDDNS, DynDNS.com หรือ NoIP add ได้แค่ชื่อเดียว แต่ถ้าของเดิมจะใส่ชื่อ DDNS Server เองได้
Remote Access ตั้งค่าให้สามารถ access เข้ามาทาง WAN เพื่อ Config Router ได้
Virtual Server จากรูปต้องตั้งค่าให้ Transmission เพื่อสามารถ remote ผ่าน WAN เข้ามาใช้งานได้ ซึ่ง router โดยส่วนใหญ่ไม่ต้องตั้งค่าส่วนนี้
3G/LTE Modem รองรับ USB AirCard และ Android (ใช้ USB Tethering ได้ ลองแล้วคร่าวๆ กับ Lenovo Vibe Shot) ถ้าเป็น Firmware เดิมไม่รองรับส่วนนี้
USB Storage แสดงรายละเอียดของ USB Storage และมีไว้ unmount และเอาไว้เปิดปิด Service Print-server/Samba/FTP/DLNA (Print-server กับ FTP ของเดิมรู้สึกไม่มี)
Transmission หน้า settings ส่วนของโปรแกรมสำหรับโหลดบิท!!! ไม่น่าเชื่อว่า D-Link จะมีฟังชั่นนี้ด้วย
Control
Yandex DNS ส่วนนี้คืออะไรไม่รู้ รอคนอื่นที่รู้มาบอกละกัน ส่วนผมไม่ได้ใช้ แต่น่าจะเป็น DNS เอาไว้กรองพวกเว็บโป๊ หรือไม่เหมาะสม กันเด็กๆ หลุดเข้าเว็บอื่นๆ
Device Mode หน้านี้เอาไว้ปรับว่าจะใช้เป็น Access Point หรือ Router
Transmission Web Interface หน้านี้เอาไว้โหลดบิท ลองดูไฟล์นึง ก็โหลดได้นะ
ฟังชั่นที่แตกต่างกัน
ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจาก Firmware เดิมคือ โหลดบิทได้, FTP, Multi SSID up to 4, รองรับ 3G/LTE modem, รองรับ USB Tethering, รองรับ Print-server, Beamforming???
ส่วนที่หายไป คือ Service ของ mydlink ทั้งหมด, WiFi Guest Zone, QoS
ความเห็นส่วนตัว ขอบ่นหน่อยเถอะ
ไม่น่าเชื่อว่า D-Link จะมี Firmware แบบนี้ด้วย ถ้าฟังชั่นอย่างนี้มาแต่แรก ผมว่ามันน่าจะขายได้ค่อนข้างดีเลยนะ ถึงฟังชั่นบางตัวมันจะหายไปก็ตาม แค่นี้ก็แทบจะใกล้เคียงกับ ASUS RT-AC51U แล้ว ถ้าไม่ใช้ cloud service ของ mydlink ผมว่า firmware รัสเซียถือว่าเจ๋งมากเลย (ถ้าเทียบกับ d-link โซนอื่นๆ และ ยี่ห้ออื่นๆ บางรุ่น) คะแนน 4 ดาวที่ให้มาจากส่วนของ firmware เลยครับ ถ้าเป็น firmware เก่า เอาไป 3 ก็พอ
โดยส่วนตัวใช้อุปกรณ์ network d-link มาพอสมควร แต่ส่วนใหญ่จะหา firmware นอกที่ hardware version ตรงกันมา flash เพราะของนอกส่วนใหญ่ ใหม่กว่า หรือไม่ก็เสถียรกว่า firmware ไทย จากประสบการณ์ที่ใช้มา
มีหลายเมนูผมไม่ได้เทสนะครับ เพราะไม่รู้จะเทสยังไง และเอาไว้ใช้ทำอะไรก็ไม่รู้ ส่วนเรื่องความทนทาน คงไม่ต้องถามผมนะครับ ผมตอบไม่ได้ ผมตอบได้แค่คร่าวๆ ว่ามันน่าจะทำอะไรได้บ้างเท่านั้น
ถ้ามีเวลาว่างเดี๋ยวจะเขียน รีวิว ASUS RT-AC51U เป็นตัวถัดไปครับ spec ก็ไล่ๆ กับ router ตัวนี้แหละครับ แต่ firmware ของ AsusWRT โดยรวมฟังชั่นค่อนข้างดีกว่า หลายๆ ยี่ห้อครับ ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ บาย
[CR] [Review] D-Link DIR-816L แต่ใช้ Firmware รัสเซีย!!!
ขอเล่าความเป็นมาก่อนละกันครับ Router D-Link DIR-816L ตัวนี้ซื้อมานานเกินปีได้แล้วครับ ตั้งแต่วางจำหน่ายในไทยตอนแรกๆ ซื้อมาใช้งานทั่วไป กระจายสัญญาณ Wireless กับใช้เป็น Media server คู่กับเครื่องเล่น blu-ray และลองใช้ mydlink Service กับ mydlink SharePort อยู่บ้าง เคยเอามาต่อ Bridge กับ ADSL modem พักนึง
จนล่าสุด อยากโหลดบิทแบบปิดคอม เลยไปสอย ASUS RT-AC51U มาใช้แทน ก่อนปลดประจำการเลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ media server ของ router ตัวนี้ แล้วไปอ่านเจอคู่มือจากเว็บๆ นึง ว่ามันมีส่วนของการโหลดบิทได้ เลยไล่ดูว่าเป็นจากประเทศไหน จนเจอว่ามันมาจาก dlink.ru เลยตามไปดู แล้วโหลดมาลองเสี่ยง Flash Firmware ลงไปใน Router ที่มีอยู่ แล้วรอด เลยเริ่มเขียนรีวิวนี้ขึ้นมา
Hardware ที่ผมมีเป็น version B1 ส่วน Firmware ติดเครื่องมาตอนแรกเป็น v2.00(SG)
spec เดิมๆ ไปดูที่ link ข้างล่างนี้ครับ
http://www.dlink.co.th/product/dir-816l-ac750-wireless-dualband-fast-ethernet-cloud-router/#nf_specs
ส่วน spec สำหรับ firmware รัสเซีย ไปดูได้ที่ dlink รัสเซีย(ส่วนของ มองโกเลีย จะแสดงเป็นภาษาอังกฤษ)
http://www.dlink.ru/mn/products/5/1962_b.html
ทำไมฟังชั่นมันต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยเนี่ย
ด้านบน มี led status ของ power, internet, wifi, lan 1 - 4
ด้านล่าง มีข้อมูลเกี่ยวกับ Router แล้วก็รูเล็กๆ สำหรับจิ้มเพื่อทำ Hard Reset ไม่มีรูระบายอากาศ และไม่สามารถแขวนผนังได้
ด้านขวา มีปุ่ม WPS
ด้านซ้าย มีช่องระบายอากาศ
ข้างหน้า เป็นช่องระบายอากาศ
ข้างหลัง เป็นเสา WiFi 5dBi 2 เสา, LAN 10/100Mbps 4 ช่อง, Internet (WAN) 10/100Mbps, USB v2.0 1 ช่อง, ปุ่ม on/off, ช่องเสียบอะแอปเตอร์
เสา WiFi แบบติดเครื่อง ถอดไม่ได้ หมุนได้ 180 องศา ปรับตั้งได้ 3 ระดับ 0,45,90 องศา
อะแดปเตอร์ 12V/1A
ขนาดเครื่องไม่ได้ใหญ่ แต่กล่องใหญ่มากครับ สงสัยเขากลัวว่าให้กล่องเล็กแล้วดูเหมือนของถูก 555 เสียดายไม่มีปุ่มปิด WiFi แต่ก็ยังดีเอา WPS ไว้ด้านข้าง ไม่เอาไว้ข้างหลัง ส่วนตัวว่า ถ้าเอาไว้ด้านข้างมันกดสะดวกกว่า ถึงจะไม่เคยใช้เลยก็ตาม (จริงๆ น่าจะย้าย USB มาด้านข้างด้วยก็ดีนะ)
ของเดิมล่าสุดก่อนที่จะใช้ firmware ตัวนี้จะเป็น version 2.05.B02 แล้ว up 2.06.B09_BETA ซ้ำ
http://support.dlink.com/ProductInfo.aspx?m=DIR-816L
ส่วน Software ที่เอามารีวิวจะเป็น version 2.5.3
โหลดมาจาก ftp.dlink.ru 2 ไฟล์ แล้ว Flash จากตัว alpha ก่อน แล้วค่อย up ตัว sdk.master ซ้ำลงไป
http://ftp.dlink.ru/pub/Router/DIR-816L/Firmware/
หน้าตา Web config ไม่มีเค้าโครงของเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว สำหรับคนที่เคยใช้ อุปกรณ์ D-Link หน้าจอโทนดำส้มมาก่อน น่าจะไม่ชินกับหน้าตาใหม่แบบนี้
Login จะไม่เหมือนกับของเดิมเลย
หน้า Monitor แสดงเป็นกราฟฟิค(ทำไม firmware เดิมไม่มีมั่งนะ)
หน้า Home จะแสดงรายละเอียดคร่าวๆ และการตั้งค่าแบบ Wizard ของส่วนต่างๆ บางส่วน
Status บอกรายละเอียดของส่วนต่างๆ
ส่วนของ Net เอาไว้ตั้งค่า WAN/LAN และสามารถเลือกว่าจะให้อะไรเป็น WAN หลัก และ สำรอง (WAN/3G/LTE)
WiFi 2.4GHz
WiFi 5GHz
WiFi Security
WiFi Mac filter
List of WiFi Client
WPS
Additional settings เอาไว้ปรับตั้งค่าอื่นๆ มี TX Beamforming ด้วย ไม่รู้จะใช่ที่เข้าใจรึเปล่า Firmware ของเดิมไม่มี
WMM
WiFi Client
Advanced => VLAN
Speed and Duplex กำหนดความเร็วของ LAN/WAN ว่าจะให้ช่องไหนวิ่งที่ความเร็ว 10 หรือ 100 และเป็นแบบ Full/Half Duplex
Redirect
DDNS ใช้ของ DLinkDDNS, DynDNS.com หรือ NoIP add ได้แค่ชื่อเดียว แต่ถ้าของเดิมจะใส่ชื่อ DDNS Server เองได้
Remote Access ตั้งค่าให้สามารถ access เข้ามาทาง WAN เพื่อ Config Router ได้
Virtual Server จากรูปต้องตั้งค่าให้ Transmission เพื่อสามารถ remote ผ่าน WAN เข้ามาใช้งานได้ ซึ่ง router โดยส่วนใหญ่ไม่ต้องตั้งค่าส่วนนี้
3G/LTE Modem รองรับ USB AirCard และ Android (ใช้ USB Tethering ได้ ลองแล้วคร่าวๆ กับ Lenovo Vibe Shot) ถ้าเป็น Firmware เดิมไม่รองรับส่วนนี้
USB Storage แสดงรายละเอียดของ USB Storage และมีไว้ unmount และเอาไว้เปิดปิด Service Print-server/Samba/FTP/DLNA (Print-server กับ FTP ของเดิมรู้สึกไม่มี)
Transmission หน้า settings ส่วนของโปรแกรมสำหรับโหลดบิท!!! ไม่น่าเชื่อว่า D-Link จะมีฟังชั่นนี้ด้วย
Control
Yandex DNS ส่วนนี้คืออะไรไม่รู้ รอคนอื่นที่รู้มาบอกละกัน ส่วนผมไม่ได้ใช้ แต่น่าจะเป็น DNS เอาไว้กรองพวกเว็บโป๊ หรือไม่เหมาะสม กันเด็กๆ หลุดเข้าเว็บอื่นๆ
Device Mode หน้านี้เอาไว้ปรับว่าจะใช้เป็น Access Point หรือ Router
Transmission Web Interface หน้านี้เอาไว้โหลดบิท ลองดูไฟล์นึง ก็โหลดได้นะ
ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจาก Firmware เดิมคือ โหลดบิทได้, FTP, Multi SSID up to 4, รองรับ 3G/LTE modem, รองรับ USB Tethering, รองรับ Print-server, Beamforming???
ส่วนที่หายไป คือ Service ของ mydlink ทั้งหมด, WiFi Guest Zone, QoS
ไม่น่าเชื่อว่า D-Link จะมี Firmware แบบนี้ด้วย ถ้าฟังชั่นอย่างนี้มาแต่แรก ผมว่ามันน่าจะขายได้ค่อนข้างดีเลยนะ ถึงฟังชั่นบางตัวมันจะหายไปก็ตาม แค่นี้ก็แทบจะใกล้เคียงกับ ASUS RT-AC51U แล้ว ถ้าไม่ใช้ cloud service ของ mydlink ผมว่า firmware รัสเซียถือว่าเจ๋งมากเลย (ถ้าเทียบกับ d-link โซนอื่นๆ และ ยี่ห้ออื่นๆ บางรุ่น) คะแนน 4 ดาวที่ให้มาจากส่วนของ firmware เลยครับ ถ้าเป็น firmware เก่า เอาไป 3 ก็พอ
โดยส่วนตัวใช้อุปกรณ์ network d-link มาพอสมควร แต่ส่วนใหญ่จะหา firmware นอกที่ hardware version ตรงกันมา flash เพราะของนอกส่วนใหญ่ ใหม่กว่า หรือไม่ก็เสถียรกว่า firmware ไทย จากประสบการณ์ที่ใช้มา
มีหลายเมนูผมไม่ได้เทสนะครับ เพราะไม่รู้จะเทสยังไง และเอาไว้ใช้ทำอะไรก็ไม่รู้ ส่วนเรื่องความทนทาน คงไม่ต้องถามผมนะครับ ผมตอบไม่ได้ ผมตอบได้แค่คร่าวๆ ว่ามันน่าจะทำอะไรได้บ้างเท่านั้น
ถ้ามีเวลาว่างเดี๋ยวจะเขียน รีวิว ASUS RT-AC51U เป็นตัวถัดไปครับ spec ก็ไล่ๆ กับ router ตัวนี้แหละครับ แต่ firmware ของ AsusWRT โดยรวมฟังชั่นค่อนข้างดีกว่า หลายๆ ยี่ห้อครับ ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ บาย