เริ่มเรื่องเลยแล้วกันครับ  
          เมื่อวันที่ 16/11  เพื่อนผมเข้าโรงพยาบาลเพราะถ่ายไม่หยุด พอไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ได้นอนพักที่โรงพยาบาลให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อ ประมาณ 3 วัน อาการถ่าย ท้องเสียก็ดีขึ้น เป็นปกติ แต่ผู้ป่วยกลับมีอาการ พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง ใบหน้าผิดรูป ยิ้มปากเบี้ยว แต่ก็ยังมีสติ พูดคุยได้เหมือนคนปกติแต่คำพูดก็ไม่เป็นคำ เหมือนคนพม่าพูดไทย ประมาณนั้นครับ หมอสงสัยว่าจะเป็นอัมพาต เลยส่งตัวไปเอ็กเซเรย์สมองต่อที่ รพ.ในเมืองสุโขทัย และให้คนป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และให้ยาไปรับประทาน ก็มียาสลายลิ่มเลือดและอื่นๆ ครับ  (ออกจากโรงพยาบาลวันที่ 20)
          วันที่ 21 โรงพยาบาลอำเภอ โทรตามให้เข้าไปตรวจเพิ่มเติม และแจ้งผล จากการที่ได้ไปเอ็กเซเรย์สมองวันก่อน ซึ่งผลก็คือ มีเส้นเลือดตีบ ทำให้มีเนื้อเยื่อสมองบางส่วนฝั่งขวาตาย เพราะเลือดไปเลี้ยงไม่ได้ แต่หมอก็ยังไม่แน่ใจ และได้ทำใบส่งตัวคนป่วยเพื่อไปตรวจ รักษาต่อที่โรงพยาบาลในเมืองสุโขทัย (ผลวิเคราะห์ตามรูปไฟล์ด้านล่างครับ ผมแปลไม่ค่อยออก )
          วันที่ 22  เมื่อเพื่อนผมไปถึงโรงพยาบาลจังหวัด เพื่อทำการเจาะเลือด เพื่อหาสาเหตุของโรคอัมพาต ทางเจ้าหน้าทีแจ้งว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเจาะเลือด ขั้นต่ำประมาณ 6000 และต้องส่งผลเลือดตรวจวิเคราะห์ที่กรุงเทพฯ และต้องรอผลเลือดประมาณ 1 เดือน

          ข้อมูลเพิ่มเติม คือเพื่อนผมเพศชาย อายุ 28 ใช้สิทธิ์การรักษา 30 บาท  และมีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือ ไทรอยด์
          เลยอยากจะรบกวนถามคุณหมอหรือท่านที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยครับ คือ
          1.โรคอัมพาต ถ้าปล่อยให้คนป่วยรอผลเป็นเดือนแบบนี้ จะมีผลอะไรไหมครับ เพราะว่าโรคนี้เท่าที่ผมหาข้อมูลจากเน็ต น่าจะได้รับการรักษาโดยเร็ว แต่นี้คือ ต้องรอผลเลือดเป็นเดือนถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ
         2. สิทธิ์การรักษา 30 บาท และถูกส่งตัวไปรักษาต่อ และเคสนี้คือ ค่าเจาะเลือดส่งตรวจ ค่าใช้จ่ายตามที่ผมบอกด้านบนถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ เพราะผมเข้าใจว่า บางเคสบางกรณีอาจจะต้องจ่ายเอง แต่จากประสบการณ์ที่แม่ป่วยเป็นมะเร็งก็ใช้สิทธิ์ 30 บาทเหมือนกัน รักษาหลายโรงพยาบาลก็ไม่ได้เสียตังค์ แต่เคสนี้ยังงง ๆ อยู่

         ผลวิเคราะห์จากการที่ไปเอ็กเซเรย์ครับ