ทำไมคนไทยไปเรียนเมืองนอก เวลาคบแฟน ถึงไม่ค่อยดูโปรไฟล์ หรือการศึกษา ฐานะ การเงินเท่าไหร่?

เราเห็นเพื่อนๆหลายคน เช่นเด้ก afs เด็กไปเรียนเมืองนอกเอง จะไม่ค่อยยึดติดกับค่านิยมที่ว่า เราฐานะดี การศึกษาดี จะต้องเลือกแฟนที่ ฐานะดี การงานเงินดี การศึกษาดี

เด็กนอกหลายคน คบแม้กระทั่งคนไม่ได้เรียนก็มี เป็นจิ้กโก๋ก็มี นักเลงก็มี กรรมกร ยังมีเลยเอ๊า แม้บางคนคบแล้วเลิก แต่ก็ไม่รู้สึกว่าคบผิดคนอย่างไร ไม่แคร์ ฐานะแฟน ประวัติแฟนเท่าไหร่ พ่อแม่บางที ก็ไม่แคร์นะ ขอให้ลูกชอบก็พอ

เป็นเพราะอะไร ?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมมาตอบให้ครับ ผมเรียนตรีที่ธรรมศาสตร์ 4 ปี ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เทคโนโลยี ซิดนีย์ 2 ปี (UTS)
ก่อนหน้านี้ อยู่กับพ่อแม่ตลอด ชีวิตสบายครับ ไม่ค่อยได้ทำอะไรเอง
แล้วผมก็เคยคิดนะว่าต้องสนใจเรื่องฐานะหรือได้คนที่พอๆกับเรา หรือต้องสวยแบบนั้นแบบนี้ที่เราชอบ ต้องสมศักดิ์ศรีกับชีวิตเรา
แต่พอเวลามันอยู่คนเดียวที่ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ทุกคนมันเท่ากันหมดแหละครับ ทัศนคติมันเปลี่ยนไปทันทีเลยครับ หลายครั้งที่เข้าตาจน เจอปัญหาบางอย่าง (ไม่ใช่เรื่องเงินนะ) แต่คนที่หยิบยื่นมือมาช่วยเหลือ ไม่ใช่คนที่ผมเคยคาดหวังไว้เลย กลับเป็นคนที่ผมไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาจริงๆ
คุณค่าของคนมันเลยกลายเป็นว่าอยู่ที่จิตใจแทนน่ะครับ ซึ่งจริงๆผมก็อยากบอกเลยว่าไม่ว่าสังคมไหนๆ ควรจะ Value คนดี integrity สูง ชื่นชมคนเก่ง ให้มากๆ
สังคมที่นู่นค่อนข้างให้โอกาสคนด้วยนะผมว่า มันไม่ใช่ว่าสมมติตอนนี้คุณอายุ 26 เป็นกรรมกร แล้วคุณจะต้องเป็นกรรมกรไปตลอดชีวิต ในคณะผม (วิศวะ) ผมยังเห็นพนักงานรถไฟอายุ 52 มาเรียนป.ตรี อดีตช่างไม้อายุ 26 มาเรียนป.ตรีโยธา ของแบบนี้มันวัดกันไม่ได้หรอก ไม่เหมือนสังคมไทยครับ ถ้าคุณไม่จบ ป.ตรีภายใน 25-28 คุณจะถูกกล่าวหาว่าเป็นไอหน้าโง่ไม่เอาถ่านไปตลอดชีวิต ต่อให้เรียนจบไปทำงานบริษัทไหนเขาก็ไม่ค่อยจะรับกันหรือให้โอกาสน้อยกว่ามากๆ
ความคิดเห็นที่ 28
เราเรียนที่เมืองนอกค่ะ อยู่มา8ปีละ มีเเฟนอยู่ไทย ไม่ใช่ไฮโซ เป็นคนธรรมดา กากๆเเบบที่ จขกท ยกตัวอย่างก็เคยมี 5555

ด้วยสังคม ครอบครัว หรือ วัฒนธรรมของที่นี่ ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่มีใครมาสนใจเรื่องฐานะกัน ไม่มีใครเข้าไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวกัน ถึงจะเป็นเเม่ลูกกันยังไม่ก้าวก่ายเลยค่ะ ไม่มีทวงบุญคุณ ไม่มีเอาลูกไปเปรียบกับใคร ไม่มีการกดดันว่าจะต้องคบคนมีฐานะ มันเหมือนกับว่า สังคมมันสอนให้เราเเคร์ความสุขของเราเองมากกว่าการไปสนใจชาวบ้านหรือญาติพี่น้องเเล้วต้องเลือกคนรวยๆ ฐานะดีๆ เพื่อเอาหน้า ยกเว้นเเต่ว่า คนๆนั้นเลือกเองที่จะหาคนรวยๆ ให้ค่าของสิ่งเหล่านั้นเอง

ทีนี้พอสังคมมันเป็นเเบบนี้ เราเคยมีทัศนคติเเบบนั้นมาจากไทย พอมาอยู่ที่นี่ มันซึมซับนะ เริ่มจากการทักทายคนตามท้องถนนเวลาเดินผ่านกัน คนเก็บขยะ กวาดพื้น คนเดินจูงหมา บลาๆ เค้าทักกันหมด พอคบเพื่อนก็เริ่มไม่เเบ่งชนชั้น คุยกับใครก็ไม่ได้ไปถามถึงฐานะเค้า มันเลยกลายเป็นว่า เรามองเห็นทุกคนเท่ากัน มีไลฟ์สไตล์เป็นของเค้าเองเเบบมีความสุข เค้าพอใจที่จะมีเท่าที่เค้าอยากจะมี การมีน้อยไม่ได้เเปลว่าเค้าไม่มีความสุข

ผู้หญิงที่นี่ก็ดูเเลตัวเองได้ เด็กที่นี่พอ18เค้าก็หางานทำรับผิดชอบชีวิตตัวเองกันเเล้ว ใครๆก็ทำงานกัน ทำให้เราซึมซับไปอีกว่า เราดูเเลตัวเองได้ ชีวิตเราเรารับผิดชอบได้ พอจะมีคนข้างกายเลยรู้สึกว่า ขอคนที่ทำให้เรามีความสุขดีกว่า เพราะชีวิตเราไม่ได้ขาดอะไร ถ้าฐานะดีก็ต่อยอดกันไป ถ้าฐานะไม่ดีก็เเค่ช่วยกันทำมาหากินดูเเลตัวเองได้ ถ้าช่วยกันก็ดูเเลลูกได้อีกคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่