สวัสดีค่ะ จากศิษย์เก่า AFS อเมริกา รุ่น 7 ปี 1969 - 1970 😉😊
กระทู้นี้มาตามคำขอของแฟนจากกระทู้นี้ค่ะ http://ppantip.com/topic/31799539
มีกระทู้ถามเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ AFS อยู่บ่อยๆ แล้วก็มักจะมีคนโจมตีว่าไม่ใช่ทุนสักหน่อย เป็นธุรกิจหากำไรจากเด็กนักเรียนต่างหาก แล้วผู้หวังดีเหล่านั้นมักจะแนะนำว่า ถ้าไปกับ AFS น่ะจะเสียเงินเสียเวลาเปล่าๆ ให้รอไปเรียนต่างประเทศหลังจากจบปริญญาตรีแล้ว จะได้ไม่เสียเวลาและจะคุ้มกับค่าใช้จ่ายกว่าไปกับ AFS
ป้าขอแย้งในฐานะศิษย์เก่า AFS ว่าไม่เป็นการเสียเวลาอะไรเลย เพราะผลประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้มากมายมหาศาล หาอะไรมาเที่ยบเท่าไม่ได้อีกเลย
ป้าไปอเมริกากับโครงการ AFS เมื่ออายุ 16 ปี กลับไปซ้ำชั้นมัธยมปลาย แล้วเข้าเรียนที่ธรรมศาสตร์ช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แถมย้ายคณะเมื่ออยู่ปีสอง เลยยิ่งช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปอีกหนึ่งปี ป้าไปเรียนที่ฝรั่งเศสเมื่ออายุ 24 ปี
ขณะนี้ ป้าอายุ 68 ปี ขอบอกอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า แม้จะจบชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัยช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปตั้งสองปี ป้าไม่เสียใจอะไรเลยที่มีโอกาสไปต่างประเทศกับโครงการ AFS ไม่เห็นว่าเป็นการเสียเวลาแม้แต่น้อย เพราะประสบการณ์หนึ่งปีจาก AFS นั้น มีคุณค่ามหาศาล ไม่มีอะไรเทียบได้อีกเลยในชีวิตนี้ เพราะว่าเป็นปีที่ให้โอกาสผู้ร่วมโครงการได้พัฒนาตัวเอง ได้เสริมสร้างทัศนวิสัย ได้เปิดหูเปิดตาเปิดใจเปิดโอกาสเปิดโลกทัศน์เพื่อเรียนรู้ตัวเองและผู้อื่น ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้เสริมสร้างไหวพริบและหัดแก้ปัญหาด้วยตนเอง ได้ฝึกหัดตัดสินใจและรับผิดชอบความประพฤติของตนเอง เป็นการสร้างความมั่นใจในตัวเอง รวมแล้วเป็นโอกาสสร้างพื้นฐานในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคตอย่างยอดเยี่ยมแล้วค่ะ
แก้ไขเพื่อปรับข้อมูล
[CR] เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS มันดียังไงคะ
กระทู้นี้มาตามคำขอของแฟนจากกระทู้นี้ค่ะ http://ppantip.com/topic/31799539
มีกระทู้ถามเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ AFS อยู่บ่อยๆ แล้วก็มักจะมีคนโจมตีว่าไม่ใช่ทุนสักหน่อย เป็นธุรกิจหากำไรจากเด็กนักเรียนต่างหาก แล้วผู้หวังดีเหล่านั้นมักจะแนะนำว่า ถ้าไปกับ AFS น่ะจะเสียเงินเสียเวลาเปล่าๆ ให้รอไปเรียนต่างประเทศหลังจากจบปริญญาตรีแล้ว จะได้ไม่เสียเวลาและจะคุ้มกับค่าใช้จ่ายกว่าไปกับ AFS
ป้าขอแย้งในฐานะศิษย์เก่า AFS ว่าไม่เป็นการเสียเวลาอะไรเลย เพราะผลประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้มากมายมหาศาล หาอะไรมาเที่ยบเท่าไม่ได้อีกเลย
ป้าไปอเมริกากับโครงการ AFS เมื่ออายุ 16 ปี กลับไปซ้ำชั้นมัธยมปลาย แล้วเข้าเรียนที่ธรรมศาสตร์ช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แถมย้ายคณะเมื่ออยู่ปีสอง เลยยิ่งช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปอีกหนึ่งปี ป้าไปเรียนที่ฝรั่งเศสเมื่ออายุ 24 ปี
ขณะนี้ ป้าอายุ 68 ปี ขอบอกอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า แม้จะจบชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัยช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปตั้งสองปี ป้าไม่เสียใจอะไรเลยที่มีโอกาสไปต่างประเทศกับโครงการ AFS ไม่เห็นว่าเป็นการเสียเวลาแม้แต่น้อย เพราะประสบการณ์หนึ่งปีจาก AFS นั้น มีคุณค่ามหาศาล ไม่มีอะไรเทียบได้อีกเลยในชีวิตนี้ เพราะว่าเป็นปีที่ให้โอกาสผู้ร่วมโครงการได้พัฒนาตัวเอง ได้เสริมสร้างทัศนวิสัย ได้เปิดหูเปิดตาเปิดใจเปิดโอกาสเปิดโลกทัศน์เพื่อเรียนรู้ตัวเองและผู้อื่น ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้เสริมสร้างไหวพริบและหัดแก้ปัญหาด้วยตนเอง ได้ฝึกหัดตัดสินใจและรับผิดชอบความประพฤติของตนเอง เป็นการสร้างความมั่นใจในตัวเอง รวมแล้วเป็นโอกาสสร้างพื้นฐานในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคตอย่างยอดเยี่ยมแล้วค่ะ
แก้ไขเพื่อปรับข้อมูล
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น