ตอนแรก (20 ตุลาคม 2559) : Bangkok - Taoyuan – Beitou
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมไปไต้หวัน ครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้วเป็นการเที่ยวรอบๆ เกาะไต้หวันใช้เวลา 7 วัน เลือกไปจุดสำคัญๆ อาทิเช่น เมืองไท้จง (Taichung), เขาอาลีซาน (Alishan), ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake), ฉิงจิ่ง (Cingjing), Toroko National Park, ฮวาเลียน (Hualien), อุทยานหินเย่ลิ่ว (Yehliu Geopark) ส่วนที่ไม่ได้ไปหรือที่จริงๆ แล้วคือไปไม่ทันนั่นก็คือ ถนนสายเก่าจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Road) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คาใจและทำให้ต้องแวะไปไต้หวันอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งการไปในครั้งที่สองนี้เกิดขึ้นหลังจากครั้งแรกสามปี เป็นการแวะในระหว่างที่เดินทางไปฮอกไกโด เพราะผมบินไปฮอกไกโดด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ถึงยังไงๆ ก็ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวันอยู่แล้ว ก็เลยถือโอกาส Stop Over หนึ่งวันเพื่อแวะไปจิ่วเฟิ่นให้หายคาใจ แล้วจึงค่อยบินต่อไปฮอกไกโด
ครั้งที่สามนี้ก็เช่นกัน ผมใช้บริการไชน่าแอร์ไลน์เพื่อบินไปฮอกไกโด (อ่านรีวิวฮอกไกโดได้ที่ -->
http://ppantip.com/topic/35778470) เพราะแทนที่จะเลือกสายการบินที่บินรวดเดียว 6-7 ชั่วโมง ผมพอใจกับการไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวันซึ่งเป็นครึ่งทางระหว่างไทยกับฮอกไกโด ทำให้แบ่งช่วงบินออกเป็นสองช่วงสั้นๆ ช่วงละสามชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น ไม่รู้สึกว่านั่งเครื่องนานเกินไป และที่สำคัญก็คือราคาค่าตั๋วถูกกว่าสายการบินที่บินตรงพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมเองก็รู้สึกดีกับสายการบินไชน่าแอร์ไลน์นี้ตั้งแต่ช่วงที่ไปออกตั๋วที่สำนักงานแล้ว ก็ดูที่นั่งที่เขาให้ผมซิ สะดวกสบายไม่แพ้ชั้นธุรกิจเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมติดใจได้อย่างไร
Flight CI 834 ออกจากสุวรรณภูมิ 11.15 น. ถึงสนามบินเทาหยวน (Taoyuan) เวลา 15.55 น. (เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าเวลาไทยหนึ่งชั่วโมง) ผมเลือกที่จะนั่งรถบัสของบริษัทกั๋วกวง (Kuokuang) จากสนามบินเข้าไทเป เป็นรถเบอร์ 1819 ซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์เบอร์ 7 หรือ 8 ราคา 125 $ (1 $ไต้หวัน = 1.10 บาท) ได้ตั๋วแล้วก็เดินไปขึ้นรถที่ช่องจอดรถเบอร์ 5 ที่อยู่หน้าอาคารได้เลย รถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ระหว่างทางจะมีจอดตามป้ายเป็นระยะๆ ซึ่งคนขับจะประกาศบอกว่าถึงไหนแล้ว ผมลงป้ายสุดท้าย (สุดสาย) คือที่สถานีรถไฟไทเป (Taipei Main Station) สังเกตง่ายๆ ก็คือป้ายที่คนลงกันหมดทั้งรถนั่นแหละ ลงรถแล้วก็กลับหลังหันเดินเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ๆ ที่อยู่ตรงนั้น จะมีป้ายบอกทางที่จะไปใช้บริการรถไฟใต้ดิน (MRT)
การเดินทางในไต้หวัน ถ้าเรามี Easy Card หรือบัตรเติมเงินแล้วจะสะดวกมาก นอกจากใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินหรือรถบัสแล้วยังสามารถใช้ซื้อของต่างๆ ตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ บัตร Easy Card มีส่วนรถ 20% ให้กับค่าโดยสารทุกเที่ยว สะดวกกว่าการใช้เงินสดมากแถมประหยัดค่าโดยสารด้วย บัตรนี้หาซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติตามสถานีรถไฟฟ้า หรือที่ Easy Card Customer Service Center ในสถานีรถไฟ หรือตามร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไป
คืนแรกนี้ผมจองโรงแรม Chyuan Du Spring Resort ไว้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สถานี Xinbeitou นั่งรถไฟสายสีแดงจาก Taipei Main Station มาลงที่สถานี Beitou แล้วต่อสายที่ไป Xinbeitou โรงแรมอยู่ใกล้มากเดินออกมาจากสถานี Xinbeitou เห็นสี่แยก (ห้าแยก) ใหญ่ๆ เห็นป้ายร้าน Wellcome (ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงข้าม KFC) โรงแรมอยู่บนร้าน Wellcome ร้านใหญ่ๆ นั้นเลย เดินลากกระเป๋ามาแค่ 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว หลังจากเข้า Check-in เสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมาที่สถานี Xinbeitou ตั้งใจจะขึ้นรถไฟฟ้าย้อนกลับไปที่สถานี Beitou ทราบว่าแถวๆ นั้นมีร้านอาหารและมีตลาด นอกจากนั้นภรรยายังอ่านรีวิวในพันทิปรู้ว่ามีร้านรองเท้าราคาไม่แพง ชื่อร้าน Family Shoe อยู่แถวๆ นั้นด้วย
ก่อนจะขึ้นไปสถานี Xinbeitou เห็นข้างๆ สถานีเขามีงาน มีบู๊ทขายอาหารอยู่หลายบู๊ท บางบู๊ทมีคนต่อคิวยาวก็เลยต้องเข้าไปสำรวจตลาดกันหน่อย จึงได้รู้ว่าเป็นร้านขายไส้กรอกหมูป่าย่าง ก็เลยจัดการรองท้องกันไปคนละไม้ ก่อนที่จะไปหามื้อใหญ่กินกันในตลาดแถวๆ Beitou
ร้านขายไส้กรอกหมูป่าย่าง
รถไฟฟ้า Xinbeitou วิ่งแค่สถานีเดียวคือระหว่าง Beitou กับ Xinbeitou เท่านั้น ขบวนรถไฟค่อนข้างจะมีสีสันมาก นอกจากนั้นภายในตัวรถยังมีลูกเล่น เช่นทำเป็นรูปถังแช่น้ำแร่ แต่ที่จริงแล้วเป็นจอให้เรากดอ่าน Information เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนี้
พอมาถึงสถานี Beitou ก็มุ่งหน้าเดินไปทางตลาด ระหว่างทางก็ผ่านร้านอาหารมากมาย แต่เราก็ไม่สนใจร้านอาหาร เพราะต้องการจะไปกินในตลาดมากกว่า
พอเข้ามาใกล้ๆ บริเวณตลาดก็จะเห็นร้านค้ามากมาย เห็นร้านรองเท้าที่มองหา แต่ว่าหลังจากเข้าไปเดินดูได้สักพักก็เปลี่ยนใจเดินออกมา อาจเป็นเพราะว่าตอนนั้นเริ่มหิวแล้ว และเห็นร้านที่อยู่ตรงข้าม (เยื้องกับ) ร้านรองเท้ามีคนยื่นรอเข้าร้าน (โต๊ะเต็ม) ก็ตัดสินใจไปต่อคิวกันทันที และนี่คือรูป (บางส่วน) ของอาหารมื้อแรกในไต้หวัน จริงๆ แล้วก็สั่งไม่เป็นเหมือนกัน ใช้วิธีชี้ไปที่โต๊ะข้างๆ แล้วทำภาษาใบ้กับเขาว่าเราต้องการแบบนั้น
ทานของคาวเสร็จก็ไปเดินเลียบๆ เคียงๆ ดูของหวาน เลือกร้านที่มีคิวอีกเช่นเคย เป็นขนมน้ำแข็งใสที่คิวค่อนข้างยาว ขายถูกมาก ดูที่ตักใส่ชามซิ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็เดินชมร้านชมเมืองไปเรื่อยๆ ขากลับนี้ตกลงกันว่าจะไม่ใช้บริการรถไฟฟ้าแล้ว เพราะแค่สถานีเดียวเดินย่อยอาหารกันดีกว่า แต่ว่าในระหว่างที่เดินมาก็ต้องพยายามห้ามใจไม่ให้ซื้ออะไรมากินอีก ทั้งๆ ที่เห็นว่าบางร้านมีคนรอคิวกันก็ตาม
คนตัดขนมท่าทางตั้งใจมาก
เดินไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พัก
เป็นการจบรีวิวตอนแรกที่ยังไม่มีรูปให้ดูมากนัก แต่ขอบอกไว้ล่วงหน้าว่าสามตอนที่เหลือ รับรองว่ารูปเยอะมากกกก
อ่านรีวิวตอนที่สอง ได้ที่
http://ppantip.com/topic/35832582
[CR] *** Four Days in Taipei ไปไต้หวันกี่ครั้งก็ยังไม่พอ (1) ***
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมไปไต้หวัน ครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้วเป็นการเที่ยวรอบๆ เกาะไต้หวันใช้เวลา 7 วัน เลือกไปจุดสำคัญๆ อาทิเช่น เมืองไท้จง (Taichung), เขาอาลีซาน (Alishan), ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake), ฉิงจิ่ง (Cingjing), Toroko National Park, ฮวาเลียน (Hualien), อุทยานหินเย่ลิ่ว (Yehliu Geopark) ส่วนที่ไม่ได้ไปหรือที่จริงๆ แล้วคือไปไม่ทันนั่นก็คือ ถนนสายเก่าจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Road) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คาใจและทำให้ต้องแวะไปไต้หวันอีกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งการไปในครั้งที่สองนี้เกิดขึ้นหลังจากครั้งแรกสามปี เป็นการแวะในระหว่างที่เดินทางไปฮอกไกโด เพราะผมบินไปฮอกไกโดด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ถึงยังไงๆ ก็ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวันอยู่แล้ว ก็เลยถือโอกาส Stop Over หนึ่งวันเพื่อแวะไปจิ่วเฟิ่นให้หายคาใจ แล้วจึงค่อยบินต่อไปฮอกไกโด
ครั้งที่สามนี้ก็เช่นกัน ผมใช้บริการไชน่าแอร์ไลน์เพื่อบินไปฮอกไกโด (อ่านรีวิวฮอกไกโดได้ที่ --> http://ppantip.com/topic/35778470) เพราะแทนที่จะเลือกสายการบินที่บินรวดเดียว 6-7 ชั่วโมง ผมพอใจกับการไปเปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวันซึ่งเป็นครึ่งทางระหว่างไทยกับฮอกไกโด ทำให้แบ่งช่วงบินออกเป็นสองช่วงสั้นๆ ช่วงละสามชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น ไม่รู้สึกว่านั่งเครื่องนานเกินไป และที่สำคัญก็คือราคาค่าตั๋วถูกกว่าสายการบินที่บินตรงพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมเองก็รู้สึกดีกับสายการบินไชน่าแอร์ไลน์นี้ตั้งแต่ช่วงที่ไปออกตั๋วที่สำนักงานแล้ว ก็ดูที่นั่งที่เขาให้ผมซิ สะดวกสบายไม่แพ้ชั้นธุรกิจเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมติดใจได้อย่างไร
Flight CI 834 ออกจากสุวรรณภูมิ 11.15 น. ถึงสนามบินเทาหยวน (Taoyuan) เวลา 15.55 น. (เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าเวลาไทยหนึ่งชั่วโมง) ผมเลือกที่จะนั่งรถบัสของบริษัทกั๋วกวง (Kuokuang) จากสนามบินเข้าไทเป เป็นรถเบอร์ 1819 ซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์เบอร์ 7 หรือ 8 ราคา 125 $ (1 $ไต้หวัน = 1.10 บาท) ได้ตั๋วแล้วก็เดินไปขึ้นรถที่ช่องจอดรถเบอร์ 5 ที่อยู่หน้าอาคารได้เลย รถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ระหว่างทางจะมีจอดตามป้ายเป็นระยะๆ ซึ่งคนขับจะประกาศบอกว่าถึงไหนแล้ว ผมลงป้ายสุดท้าย (สุดสาย) คือที่สถานีรถไฟไทเป (Taipei Main Station) สังเกตง่ายๆ ก็คือป้ายที่คนลงกันหมดทั้งรถนั่นแหละ ลงรถแล้วก็กลับหลังหันเดินเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ๆ ที่อยู่ตรงนั้น จะมีป้ายบอกทางที่จะไปใช้บริการรถไฟใต้ดิน (MRT)
การเดินทางในไต้หวัน ถ้าเรามี Easy Card หรือบัตรเติมเงินแล้วจะสะดวกมาก นอกจากใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินหรือรถบัสแล้วยังสามารถใช้ซื้อของต่างๆ ตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ บัตร Easy Card มีส่วนรถ 20% ให้กับค่าโดยสารทุกเที่ยว สะดวกกว่าการใช้เงินสดมากแถมประหยัดค่าโดยสารด้วย บัตรนี้หาซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติตามสถานีรถไฟฟ้า หรือที่ Easy Card Customer Service Center ในสถานีรถไฟ หรือตามร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไป
คืนแรกนี้ผมจองโรงแรม Chyuan Du Spring Resort ไว้ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สถานี Xinbeitou นั่งรถไฟสายสีแดงจาก Taipei Main Station มาลงที่สถานี Beitou แล้วต่อสายที่ไป Xinbeitou โรงแรมอยู่ใกล้มากเดินออกมาจากสถานี Xinbeitou เห็นสี่แยก (ห้าแยก) ใหญ่ๆ เห็นป้ายร้าน Wellcome (ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงข้าม KFC) โรงแรมอยู่บนร้าน Wellcome ร้านใหญ่ๆ นั้นเลย เดินลากกระเป๋ามาแค่ 2-3 นาทีก็ถึงแล้ว หลังจากเข้า Check-in เสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมาที่สถานี Xinbeitou ตั้งใจจะขึ้นรถไฟฟ้าย้อนกลับไปที่สถานี Beitou ทราบว่าแถวๆ นั้นมีร้านอาหารและมีตลาด นอกจากนั้นภรรยายังอ่านรีวิวในพันทิปรู้ว่ามีร้านรองเท้าราคาไม่แพง ชื่อร้าน Family Shoe อยู่แถวๆ นั้นด้วย
ก่อนจะขึ้นไปสถานี Xinbeitou เห็นข้างๆ สถานีเขามีงาน มีบู๊ทขายอาหารอยู่หลายบู๊ท บางบู๊ทมีคนต่อคิวยาวก็เลยต้องเข้าไปสำรวจตลาดกันหน่อย จึงได้รู้ว่าเป็นร้านขายไส้กรอกหมูป่าย่าง ก็เลยจัดการรองท้องกันไปคนละไม้ ก่อนที่จะไปหามื้อใหญ่กินกันในตลาดแถวๆ Beitou
ร้านขายไส้กรอกหมูป่าย่าง
รถไฟฟ้า Xinbeitou วิ่งแค่สถานีเดียวคือระหว่าง Beitou กับ Xinbeitou เท่านั้น ขบวนรถไฟค่อนข้างจะมีสีสันมาก นอกจากนั้นภายในตัวรถยังมีลูกเล่น เช่นทำเป็นรูปถังแช่น้ำแร่ แต่ที่จริงแล้วเป็นจอให้เรากดอ่าน Information เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนี้
พอมาถึงสถานี Beitou ก็มุ่งหน้าเดินไปทางตลาด ระหว่างทางก็ผ่านร้านอาหารมากมาย แต่เราก็ไม่สนใจร้านอาหาร เพราะต้องการจะไปกินในตลาดมากกว่า
พอเข้ามาใกล้ๆ บริเวณตลาดก็จะเห็นร้านค้ามากมาย เห็นร้านรองเท้าที่มองหา แต่ว่าหลังจากเข้าไปเดินดูได้สักพักก็เปลี่ยนใจเดินออกมา อาจเป็นเพราะว่าตอนนั้นเริ่มหิวแล้ว และเห็นร้านที่อยู่ตรงข้าม (เยื้องกับ) ร้านรองเท้ามีคนยื่นรอเข้าร้าน (โต๊ะเต็ม) ก็ตัดสินใจไปต่อคิวกันทันที และนี่คือรูป (บางส่วน) ของอาหารมื้อแรกในไต้หวัน จริงๆ แล้วก็สั่งไม่เป็นเหมือนกัน ใช้วิธีชี้ไปที่โต๊ะข้างๆ แล้วทำภาษาใบ้กับเขาว่าเราต้องการแบบนั้น
ทานของคาวเสร็จก็ไปเดินเลียบๆ เคียงๆ ดูของหวาน เลือกร้านที่มีคิวอีกเช่นเคย เป็นขนมน้ำแข็งใสที่คิวค่อนข้างยาว ขายถูกมาก ดูที่ตักใส่ชามซิ
หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็เดินชมร้านชมเมืองไปเรื่อยๆ ขากลับนี้ตกลงกันว่าจะไม่ใช้บริการรถไฟฟ้าแล้ว เพราะแค่สถานีเดียวเดินย่อยอาหารกันดีกว่า แต่ว่าในระหว่างที่เดินมาก็ต้องพยายามห้ามใจไม่ให้ซื้ออะไรมากินอีก ทั้งๆ ที่เห็นว่าบางร้านมีคนรอคิวกันก็ตาม
คนตัดขนมท่าทางตั้งใจมาก
เดินไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พัก
เป็นการจบรีวิวตอนแรกที่ยังไม่มีรูปให้ดูมากนัก แต่ขอบอกไว้ล่วงหน้าว่าสามตอนที่เหลือ รับรองว่ารูปเยอะมากกกก
อ่านรีวิวตอนที่สอง ได้ที่ http://ppantip.com/topic/35832582