บัณฑิต vs ช่างภาพ (ฝ่ายบัณฑิต)

หนูเป็นฝ่ายของบัณฑิต จะมาชี้แจงในส่วนของปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
คือ 1. เรื่องของเวลานัดหมาย (ตากล้องมาเลท)
      2. ส่งรูปช้า (ไม่ตรงตามที่นัดหมายไว้)
      3. ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
      4. ตากล้องไม่มีจรรยาบรรณเอาลูกค้ามาประจานรวมถึงบุพการี

1. เรื่องของเวลานัดหมาย (ตากล้องมาเลท)
    ต้องบอกก่อนเลยว่าบัณฑิตจ้างช่างภาพทั้งหมด 2 วัน คือ วันที่ 6 ซ้อมใหญ่และ วันที่ 13 วันรับจริง อย่างละครึ่งวัน

    - วันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 (วันซ้อม) -
  
         เรานัดตากล้อง 10 โมงกว่า-11โมง ที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งเราไปเจอตากล้องประมาณ 10 โมงครึ่ง

การสนทนาเป็นการสนทนาก่อนวันที่ 6 ซึ่งได้มีการตกลงเวลากันตามนี้

    
อันนี้คือวันที่6นัดเจอกันที่ศาลเจ้าพระเสือผ่านไปได้ด้วยดี

แฟนตากล้องโพสต์

     -  13 พฤศจิกายน 2559 -



มาสายค่ะแต่ไม่มีคำขอโทษใดๆ มีแต่คำแก้ตัว แถมกลับตรงเวลาเป๊ะเลยค่ะ 4ชั่วโมงเป๊ะเลยค่ะ (14.00 น. - 18.00 น.)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. ส่งรูปช้า (ไม่ตรงตามที่นัดหมายไว้)
วันที่6หลังจากที่ถ่ายงานเสร็จ รูปของวันที่6ได้ประมาณวันไหน ตากล้องตอบว่า5-6วัน จะทยอยส่งรูปให้ หลังจากนั้นเห็นว่ามันเกินกำหนดที่บอกแล้วก็เลยมีการไปถามถึงรูปวันที่6 ทักแชททักไลน์ไปตากล้องไม่ตอบ แต่ก็เห็นว่าออนเฟสอยู่อัพสเตตัสอยู่ตลอดเวลา เราเลยเสียความรู้สึก จะตอบเราหน่อยก็ไม่ได้เลยหรอว่าอะไรยังไง เราก็เลยโพสต์ไปถามเขาว่ารูปได้ประมาณวันไหนคะ ตากล้องก็ตอบว่าตามคิวครับ เราก็ งง จะมารับปากทำไมว่า 5-6 วัน ได้รูป หลังจากนั้นเราก็ตั้งสเตตัสว่า อยากลงรูปจังทำยังไงดี หลังจากนั้น ช่างกล้องก็ได้มีการโพสต์สเตตัส เหมือนเป็นการดูหมิ่นลูกค้าว่าจ้างงานราคาถูก หมิ่นเงินน้อย  


เอาลูกค้ามาประจานแบบนี้เป็นตากล้องที่ไม่มีจรรยาบรรณเอาซะเลย ขายอาชีพตัวเอง


   3. ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ตกลงไว้แล้วตากล้องโอเครับงาน คือ 3000 ครึ่งวัน + 1000 ค่ารถ 2 วันเท่ากับ 8000 บาท ย้ำว่า!! ราคาคุยตกลงกันก่อนเรียบร้อยแล้วก็เท่ากับว่าตากล้องโอเคกับเรทราคานี้แล้วใช่ไหมคะ วอนผู้รู้ช่วยตอบที
- ตากล้องบ่นว่าเข้าเนื้อตัวเองคือเราก็งงว่า เขามีสิทธิ์มาพูดทีหลังได้ด้วยหรอ ซึ่งคุณเป็นคนตกลงรับเรทราคานี้เอง ดีลราคานี้ก่อนจะมาถ่ายงานเรียบร้อยแล้ว
- ตากล้องบอกว่าเราเบี้ยวเงิน ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างส่วนที่เหลือ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ให้ไปแล้ว 3000 แล้วก็ได้มีการตกลงกับตากล้องว่าจะจ่ายส่วนที่เหลือก็ต่อเมื่อได้รูปของวันที่ 6 ครบ นี้ยังไม่รวมรูปวันที่ 13 นะคะ คือขอแค่รูปวันที่ 6 อย่างเดียว เพราะใจก็ไม่กล้าจ่ายไปเต็มจำนวนเพราะกลัวว่าจะส่งงานช้าเกินไปหรืออาจจะโดนชิ่งเหมือนกรณีอื่นๆ
- ตากล้องได้ส่งไฟล์รูปมาในทางแชทเฟสตอนตี 2 ตอนนั้น และได้ตั้งสเตตัส จากนั้นเราก็ได้แคปไว้ทันก่อนที่ตากล้องเขาจะลบโพสต์ไป เราเลยรู้สึกไม่โอเค เลยจะขอยกเลิกไม่เอารูปแล้วเพราะเสียความรู้สึกมาก จากนั้นพี่สาวตากล้องได้มีการทักแชทมาต่อว่าเราก่อน บอกว่าแม่เราหนีกลับ ไม่ยอมจ่ายค่ารูป บังคับให้เราจ่ายเดี๋ยวนั้น ซึ่งเราไม่โอเคแล้ว ไม่เอาแล้ว พอแล้ว เราจึงตัดสินใจไม่เอารูปแล้วแคนเซิลไปเพราะส่งงานไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด นั่นคือ คุณผิดสัญญา

4. ตากล้องไม่มีจรรยาบรรณเอาลูกค้ามาประจานรวมถึงบุพการี
  ดูถูกคนอื่น เหยียดยามความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรี จนแล้วยังไงหรอคะ ค่าความเป็นคนมันไม่มีหรอถึงต้องมาดูถูกพาดพิงถึงบุพการีกันด้วย ข้อนี้ขอเดือดหน่อยจริงๆนะคะ ใครจะว่ายังไม่สนแล้ว แม่ใครใครก็รัก ซึ่งประเด็นนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับปัญหาที่เกิดขึ้นเลย คือต้องการอะไรหรอ ถึงต้องเอาเรื่องบุพการีมาพูด มาประจานในที่สาธารณะ ถึงจะให้แม่จนกว่านี้แม่ก็คือแม่ แม่จนๆนี้แหละที่เลี้ยงลูกจนจบธรรมศาสตร์ได้

จริงๆแม่ไม่ได้บอกให้มาบ่าย3 แต่บอกว่าน้องเข้าหอประชุมบ่าย3 แต่ก็อาจเป็นการเข้าใจผิดกันได้ แต่อย่างน้อยคุณมาสายคุณควรขอโทษบ้างเพราะคุณผิดไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีวินัยในตัวเองและไม่มีความเป็นมืออาชีพ



งานรับปริญญามันเป็นงานครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจของตัวบัณฑิตเอง แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวด้วย แค่อยากจะมีรูปดีๆที่เป็นความภาคภูมิใจครั้งนึงในชีวิตแค่นั้นเอง

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ผิดตรงไหนสามารถทักท้วงกันได้เลยนะคะ น้อมรับทุกคำติชม และยินดีขอโทษเรื่องที่ทำผิดค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่