เสพความสุขจากอุปสรรค และประสบการณ์แห่งการเดินทาง
ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่...ผมเชื่ออย่างนั้น แม้บางครั้งเราจะไม่สามารถรับความสุข ณ ที่ตรงนั้น เวลานั้นเข้ามาได้ อาจด้วยเหตุว่าความเศร้าใจกำลังบังทาง จนเรามองไม่เห็นความสุขที่อยู่ตรงหน้า แต่นั้นก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นที่ใจเป็นปัจจัยหลัก เป็นสำคัญ
มีพี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนติดตามการเดินทางและ สอบถามข้อมูลกับเรามาพอสมควร ผมมักจะแนะนำไปหลายคนว่า ก่อนจะเริ่มเดินทาง ต้อง ‘เริ่มเปิดใจก่อน’ ศึกษาหาข้อมูลคร่าว ๆ เพื่อให้รู้ว่าเรากำลังจะไปเจอกับอะไร และเปิดใจเพื่อรับความสุขในวิถีของการเดินทางนี้
ทางที่ดูยากลำบาก ไม่สะดวก ไม่สบาย แต่มีอีกหลายคนที่ค้นพบความสุขจากประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้ ถ้าการเดินทางไม่มีดี...ก็คงไม่มีใครอีกหลาย ๆ คนหลงไหลมัน มันคงขึ้นอยู่ว่า เราค้นพบมันหรือเปล่าเสียมากกว่า
เพราะไม่ว่าจะยาก ดี มี จน ลำบาก เหนื่อย หรือล้า มันก็มีความสุข และกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีให้กับเราได้ เพียงแค่เปิดใจเท่านั้นเอง
“ก่อนจะเริ่มเดินทาง ต้องเริ่มเปิดใจก่อน”
เราจึงเห็นคนที่เหนื่อยจนเหงื่อท่วมกาย ยังคงมีรอยยิ้มอยู่ได้อย่างอิ่มสุข มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ และจะเป็นเช่นนี้สมอ เมื่อคุณเปิดใจ และยอมรับมัน
ยืนเกาะราวตากผ้าที่อยู่ในบ้าน ตามองท้องฟ้าที่มีเมฆขาว ดูเป็นวันที่ฟ้าสดใสดี แม้ในห้องจะดูมืด ๆ แต่ผมก็มองออกไปแล้วก็กลับมานั่งเขียนบทความชิ้นนี้ต่อ
จุดเริ่มต้นจากการทิ้งความวุ่นวายใจ เข้าสู่ภวังค์แห่งวิถีของการเดินทาง
เกือบทุกครั้งที่เตรียมตัวเดินทางได้น้อย ความวุ่นวายจะทำให้เกิดความขุ่นมั่วในใจ มองไม่เห็นความสวยงามที่ได้พบเจอ แต่มันจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับตามระยะทางที่ไกลห่างออกไป ไกลออกไป และกว้างมากพอที่จะทำให้เรารับรู้ว่า เราหลุดออกมาแล้ว ความคิดเริ่มตกผลึก ความกังวลเริ่มเปลี่ยนเป็นเข้าใจ และนอนนิ่งในก้นของจิตใจ จากค่ำมืดเป็นช่วงเวลาที่ผมมักเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพ รถไม่ติด ลมเย็น จนฟ้าย่ำสว่าง แสงทองเรือนรอง บรรยากาศสวยงาม และมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนฟ้ามืด เผื่อถ่ายรูปเล่นกลางทาง เผื่อหลง ทำให้เรานิ่งสนิท และมีสติอยู่กับสิ่งตรงหน้าจริง ๆ ซักที
ทุ่งนา เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ดูมีเสน่ห์เสมอสำหรับผม ผมสัญญาไว้กับตัวเองว่าจะมาถ่ายนาขั้นบันไดที่ป่าบงเปียงปีนี้ 3 รอบ แต่ทำได้แค่ 2 รอบเท่านั้นเอง และยังฝันไว้ว่าจะได้โอกาสขี่มอเตอร์ไซค์ในเวียดนามไปถ่ายภาพนาขั้นบันไดที่นั้นด้วย
ยิ่งการเดินทางครั้งนี้ด้วยแล้ว ข้อมูลได้มาว่าข้าวในนากำลังถูกเกี่ยว ทำให้กำหนดการออกเดินทางจากวันที่ 7 พ.ย. 59 ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 4 ช่วงตี 2 ที่ล้อรถผมเคลื่อนออกจากตัวบ้านพร้อมกับอาการวุ่นวายใจ เพราะไม่ได้นอน ถึงแม้พยายามจะหลับตาบนเตียงอยู่ให้ได้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำก็ตาม
‘ป่าบงเปียง’ นาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของไทย ปีนี้ผมจะต้องไปถ่ายให้ได้ซัก 3 รอบ นั้นคือ ช่วงนาน้ำ (กำลังดำนา) ซึ่งผมได้ไปถ่ายมาแล้ว (
http://ppantip.com/topic/35452677) แต่ก็พลาดนาเขียว ตอนทุ่งนาเต็มไปด้วยต้นข้าวสีเขียว และครั้งนี้นาสีทอง กับฤดูการเกี่ยวข้าว ผมจะพลาดอีกไม่ได้
ความไม่พร้อมในหลาย ๆ เรื่องมันคงทำให้วุ่นวายใจลึก ๆ แต่ผมรู้ดีว่า ทุกครั้งที่เราออกเดินทางไปเรื่อย ๆ ใจเราจะเริ่มสงบขึ้น เหมือนกับความรู้สึกที่เคยบอกเล่า (
https://www.facebook.com/notes/piroon-thaicharoen/wild-อยู่ในความกว้าง-เพื่อให้แคบพอที่จะเข้าใจ/1127561173972814) ไว้หลังจากดูหนังเรื่อง Wild
"อยู่ในความกว้าง เพื่อให้แคบพอที่จะเข้าใจ"
มันแปลกแต่จริงที่เรานั่งคิดถึงเรื่องอื่นที่อยู่ภายนอกห้องนอนให้ตาย ก็ทำได้แค่วุ่นวายใจ และหาคำตอบที่แท้จริงได้ยาก ตรงกันข้ามกับการออกสู่โลกกว้างที่ดูเหมือนน่ากังวล แต่กลับทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า เราได้อยู่กับตัวเราเองจริง ๆ
YAMAHA M-Slaz เจ้ามอเตอร์ไซค์คู่ทุกข์คู่ยากที่บุกไปทุกที่กับผมมาแล้วทั่วทิศ มาวันนี้มันมาดื้อกับผมระหว่างเดินทางเป็นครั้งแรก
เปิดใจรับความสุขจากวิถีของการเดินทาง - ภาคป่าบงเปียง
ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่...ผมเชื่ออย่างนั้น แม้บางครั้งเราจะไม่สามารถรับความสุข ณ ที่ตรงนั้น เวลานั้นเข้ามาได้ อาจด้วยเหตุว่าความเศร้าใจกำลังบังทาง จนเรามองไม่เห็นความสุขที่อยู่ตรงหน้า แต่นั้นก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นที่ใจเป็นปัจจัยหลัก เป็นสำคัญ
มีพี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนติดตามการเดินทางและ สอบถามข้อมูลกับเรามาพอสมควร ผมมักจะแนะนำไปหลายคนว่า ก่อนจะเริ่มเดินทาง ต้อง ‘เริ่มเปิดใจก่อน’ ศึกษาหาข้อมูลคร่าว ๆ เพื่อให้รู้ว่าเรากำลังจะไปเจอกับอะไร และเปิดใจเพื่อรับความสุขในวิถีของการเดินทางนี้
ทางที่ดูยากลำบาก ไม่สะดวก ไม่สบาย แต่มีอีกหลายคนที่ค้นพบความสุขจากประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้ ถ้าการเดินทางไม่มีดี...ก็คงไม่มีใครอีกหลาย ๆ คนหลงไหลมัน มันคงขึ้นอยู่ว่า เราค้นพบมันหรือเปล่าเสียมากกว่า
เพราะไม่ว่าจะยาก ดี มี จน ลำบาก เหนื่อย หรือล้า มันก็มีความสุข และกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีให้กับเราได้ เพียงแค่เปิดใจเท่านั้นเอง
เราจึงเห็นคนที่เหนื่อยจนเหงื่อท่วมกาย ยังคงมีรอยยิ้มอยู่ได้อย่างอิ่มสุข มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ และจะเป็นเช่นนี้สมอ เมื่อคุณเปิดใจ และยอมรับมัน
ยืนเกาะราวตากผ้าที่อยู่ในบ้าน ตามองท้องฟ้าที่มีเมฆขาว ดูเป็นวันที่ฟ้าสดใสดี แม้ในห้องจะดูมืด ๆ แต่ผมก็มองออกไปแล้วก็กลับมานั่งเขียนบทความชิ้นนี้ต่อ
เกือบทุกครั้งที่เตรียมตัวเดินทางได้น้อย ความวุ่นวายจะทำให้เกิดความขุ่นมั่วในใจ มองไม่เห็นความสวยงามที่ได้พบเจอ แต่มันจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับตามระยะทางที่ไกลห่างออกไป ไกลออกไป และกว้างมากพอที่จะทำให้เรารับรู้ว่า เราหลุดออกมาแล้ว ความคิดเริ่มตกผลึก ความกังวลเริ่มเปลี่ยนเป็นเข้าใจ และนอนนิ่งในก้นของจิตใจ จากค่ำมืดเป็นช่วงเวลาที่ผมมักเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพ รถไม่ติด ลมเย็น จนฟ้าย่ำสว่าง แสงทองเรือนรอง บรรยากาศสวยงาม และมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนฟ้ามืด เผื่อถ่ายรูปเล่นกลางทาง เผื่อหลง ทำให้เรานิ่งสนิท และมีสติอยู่กับสิ่งตรงหน้าจริง ๆ ซักที
ทุ่งนา เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ดูมีเสน่ห์เสมอสำหรับผม ผมสัญญาไว้กับตัวเองว่าจะมาถ่ายนาขั้นบันไดที่ป่าบงเปียงปีนี้ 3 รอบ แต่ทำได้แค่ 2 รอบเท่านั้นเอง และยังฝันไว้ว่าจะได้โอกาสขี่มอเตอร์ไซค์ในเวียดนามไปถ่ายภาพนาขั้นบันไดที่นั้นด้วย
ยิ่งการเดินทางครั้งนี้ด้วยแล้ว ข้อมูลได้มาว่าข้าวในนากำลังถูกเกี่ยว ทำให้กำหนดการออกเดินทางจากวันที่ 7 พ.ย. 59 ต้องเลื่อนเป็นวันที่ 4 ช่วงตี 2 ที่ล้อรถผมเคลื่อนออกจากตัวบ้านพร้อมกับอาการวุ่นวายใจ เพราะไม่ได้นอน ถึงแม้พยายามจะหลับตาบนเตียงอยู่ให้ได้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำก็ตาม
‘ป่าบงเปียง’ นาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของไทย ปีนี้ผมจะต้องไปถ่ายให้ได้ซัก 3 รอบ นั้นคือ ช่วงนาน้ำ (กำลังดำนา) ซึ่งผมได้ไปถ่ายมาแล้ว (http://ppantip.com/topic/35452677) แต่ก็พลาดนาเขียว ตอนทุ่งนาเต็มไปด้วยต้นข้าวสีเขียว และครั้งนี้นาสีทอง กับฤดูการเกี่ยวข้าว ผมจะพลาดอีกไม่ได้
ความไม่พร้อมในหลาย ๆ เรื่องมันคงทำให้วุ่นวายใจลึก ๆ แต่ผมรู้ดีว่า ทุกครั้งที่เราออกเดินทางไปเรื่อย ๆ ใจเราจะเริ่มสงบขึ้น เหมือนกับความรู้สึกที่เคยบอกเล่า (https://www.facebook.com/notes/piroon-thaicharoen/wild-อยู่ในความกว้าง-เพื่อให้แคบพอที่จะเข้าใจ/1127561173972814) ไว้หลังจากดูหนังเรื่อง Wild
มันแปลกแต่จริงที่เรานั่งคิดถึงเรื่องอื่นที่อยู่ภายนอกห้องนอนให้ตาย ก็ทำได้แค่วุ่นวายใจ และหาคำตอบที่แท้จริงได้ยาก ตรงกันข้ามกับการออกสู่โลกกว้างที่ดูเหมือนน่ากังวล แต่กลับทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า เราได้อยู่กับตัวเราเองจริง ๆ
YAMAHA M-Slaz เจ้ามอเตอร์ไซค์คู่ทุกข์คู่ยากที่บุกไปทุกที่กับผมมาแล้วทั่วทิศ มาวันนี้มันมาดื้อกับผมระหว่างเดินทางเป็นครั้งแรก