สถาบันผู้นำเขาใหญ่
ก่อนอื่นผมต้องออกต้วก่อนว่า ผมเพิ่งได้มีโอกาสมาที่สถาบันบันผู้นำ ที่ในไลน์ชอบส่งซ้ำๆว่า บ้านท่านประธานธนินท์ แม้จะแก้ข่าว100 ครั้งว่า..เป็นศูนย์พัฒนาผู้นำ คนก็ยังคงค้างคาใจว่า "ศูนย์ผู้นำคืออะไร?
ซึ่งตัวผมเองก็ตื่นเต้นมากเพราะวันนี้ ผมจะได้มาที่ๆเค้าว่ากันว่า จะเป็นศูนย์สร้างผู้นำระดับโลกที่ดีที่สุด รถยนต์ออกจากกรุงเทพประมาณ2 ชัวโมงก็มาถึงประมาณ8โมงเช้า ผมถามพี่ที่นำคณะมา เค้าเล่าว่า "คุณธนินท์ บอกว่า ทุนมนุษย์สำคัญและยากที่สุด ดังนั้น หากต้องการสร้างความเปลี่ยนแผลง ไม่ว่าจะด้านธุรกิจ สังคม หรือประเทศนั้น ต้องสร้างผู้นำ เลยเป็นที่มาของการสร้างศูนย์นี้
ผมเลยถามต่อว่า แล้วศูนย์ผู้นำเค้าเรียนอะไรกัน เจ้าหน้าที่บอกว่า ที่นี่เค้าใช้วิธีการ Action Learning ถอดบดเรียนจากการลงมือปฏิบัติ เคล็ดลับของซีพี คือเค้าให้คนรุ่นใหม่ลองทำเรื่องใหม่ แล้วแลกเปลี่ยนความรู้ ทลายไซโล แล้วมาทำเป็นหลักสูตร
ถึงแล้วครับ ต้องร้อง โอโห...กับความใหญ่ของสถานที่ ทำให้ผมนึกถึง ผมพยายามเปรียบเทียบกับสถาบันผู้นำระดับโลกอื่นๆ เช่น GE หรือซัมซุง หรือหัวเหว่ย ผมว่า ของไทยเราสู้ได้แน่นอน เอาหล่ะผมต้องลงรถแล้ว
ถึงแล้วครับ..สถาบันผู้นำ!!! เมื่อมาถึงก็เจอคนมาต้อนรับ และมีน้ำดื่มเย็นๆ ข้อดีคือมีกาแฟหลายแบบให้เลือก ปลุกความสดชื่น หลังนั่งรถมานาน..เค้ายังไม่ยอมให้เข้า ให้มา Networking กับผู้เข้าร่วมสัมมนาท่านอื่นก่อน ภายใต้โจทย์ที่ว่า ให้คุยกับคนที่คุณไม่รู้จักเท่านั้น..(แอบกดดันเล็กๆ)
ผมไปคุยกับคุณโต้ง..คุณโต้งบอกว่า..ที่นี่..ดัดแปลง" โมเดลการสร้างคนที่ประสบความสำเร็จของ General Electric (GE ) ในช่วงที่มี ซีอีโอชื่อก้องโลกอย่าง แจ็ค เวลท์ (Jack Welch) นั่งเป็นผู้นำองค์กร โดยได้เอาโปรเฟสเซอร์จากมิชิแกน มาช่วยวางหลักสูตร แต่หลักๆผู้นำต้องเรียนรู้จากการลงมือทำ และที่สำคัญเค้าบอกว่าต้องวัดผลได้ (ชักอยากรู้แล้วว่าเป็นยังไง)
เข้าห้องได้แล้วค่ะ!!!! เสียงเรียกเข้าสู่ Auditorium ใหญ่ น่าจะจุคนได้ซัก 700 คนได้มั้งครับ..เริ่มด้วยวีดีโอกาีหนีไฟ พิธีการเชิญคุณธนินท์ ขึ้นพูดแล้วครับ
ท่านบอกว่า ท่านเปิดโอกาสให้คนเก่งและคนดี ที่นี่จะเป็นที่ๆ จะเอาเรื่องที่ท้าทาย มาคุยกัน แล้ววางแผนลงมือทำ ท่านขยายความว่า คนชอบเข้าใจผิดที่ผมพูดว่า "คนทั้งโลกเป็นของซีพี" ผมหมายความว่า คนเก่งๆต้องดึงมาประเทศไทย ระดับ Professor เก่งๆ ต้องเอามาช่วยทำวิจัยร่วมกับคนไทย และคนไทยเก่งๆก็ต้องออกไปทำงานระดับโลกด้วย สำหรับซีพี การบอกว่าคนเก่งทั้งโลกเป็นของซีพี อยากให้เรามองว่า ให้รู้จักให้โอกาสความเก่งของผู้อื่น ซีพีไปร่วมทุนที่ประเทศไหน ก็เปิดโอกาสให้คนเก่งประเทศนั้นๆบริหารด้วย ไม่ใช่เราเอามาทำเองหมด ดังนั้นคนทั้งโลก เราต้องมองเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า
ส่วนเรื่องที่บอกว่า "ตลาดในโลกนี้เป็นของซีพี" ก็ถูกโจมตีเยอะ แต่ก็อยากขยายความว่า ซีพีเป็นบริษัทคนไทยที่เป็นองค์กรในระดับโลก ไม่ใช่มองแค่ในประเทศ แต่จะแข่งกับตลาดทั่วโลกได้ยังไง ในฐานะผู้นำ ไม่ใช่เค้ก1 ก้อน เราต้องขยาย Marketshare ในเค้กก้อนเดิมให้หมด มันไม่ใช่แนวทางซีพี ..แต่ผมหมายถึง..เราต้องไปตลาดต่างประเทศ มีสัดส่วนเท่าเดิม แต่ขยายเค้กให้ก่อนใหญ่ขึ้น นั่นคือขยายตลาดนั่นเอง..
คุณธนินท์ยกตัวอย่างข้าวโพด! "ที่ราบมีตั้งมากมาย แถมให้ผลผลิตดีกว่าบนเขาตั้ง3 เท่า และในต่างประเทศก็มีที่ราบเยอะมาก ทำไมซีพีต้องสนับสนุนปลูกบนเขา? การที่คนเอาไปปลูกบนเขา ทั้งยาก ทั้งอันตราย ผลผลิตก็ไม่ดี เป็นเพราะเค้ายากจน ไม่มีอย่างอื่นให้เค้าทำ ..ซึ่งซีพีชัดเจนว่า ผิดกฏหมายซีพีไม่ทำ ดังนั้นซีพีไม่สนับสนุนให้ไปปลูกบนเขา และจะรับซื้อถ้าภาครัฐรับรองการฟื้นฟูป่าเท่านั้น...คุณธนินท์พูดเรื่องอนาคตซีพีว่า ผมเคยพูดเรื่อง 3 ประโยชน์คือ คิดถึงประเทศชาติ ประชาชน แล้วค่อยบริษัท อยากขยายความว่า ซีพีจะทำธุรกิจต้องนึกถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย เห็นคนมาว่าทางอินเตอร์เนต สอ่งที่เราต้องทำคือ การปรับปรุงตัวเอง นี่คือโอกาสที่มีคนมาบอกเรา เราต้องเอาเป็นกระจกสะท้อนแล้วพัฒนาตัวเอง ดูว่าสังคมต้องการอะไร แต่จะทำอะไร ช่วยสังคมแล้ว..ต้องยั่งยืน เมื่อเราปล่อยมือ เค้าต้องยืนเองได้ ..อันนี้สำคัญ
จบช่วงแรกแล้วครับ... เบรก1 ชั่วโมง ผมถือโอกาสเดินรอบๆ ที่นี่มีห้องฝึกอบรมครบทุกรูปแบบครับ ชั้นบนเป็นห้องพักผู้มาอบรม น่าจะ 200 ห้องได้มั้งครับ มีห้องสัมมนา ห้องล่ามแปลภาษา มีระบบเครื่องเสียงบรรยายที่สุดยอดและที่สำคัญ มีระบบ Teleconference ไปทั่วโลก
ผมได้มีโอกาสคุยกับผู้จัดการที่ศูนย์ เค้าเล่าว่า ที่ศูนย์นี้ คนจากทั่วโลกมาเรียนที่นี่ กลับไปทำงานจริงที่ประเทศเค้าแล้วกลับมาแลกเปลี่ยนบทเรียน ผมถามผู้จัดการว่า จำกัดเฉพาะพนักงานซีพีรึป่าว..ผู้จัดการบอกว่า" อย่างที่ท่านประธานบอกว่า ผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลก สำคัญสำหรับซีพี ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากเอกชน คู่ค้า นักเรียนทุน ผู้นำภาครัฐ ผู้นำจากต่างประเทศ Professor ดังๆ ล้วนเป็นแขกของท่ีนี่
ผมต้องอยู่อีก 2 วัน เดี๋ยวผมจะมาเขียนต่อครับ..ขอบคุณที่ติดตาม
รีวิว...สถาบันผู้นำซีพี เขาใหญ่ แหล่งสร้างทุนมนุษย์ ผู้นำที่เก่งและดี!!!
ก่อนอื่นผมต้องออกต้วก่อนว่า ผมเพิ่งได้มีโอกาสมาที่สถาบันบันผู้นำ ที่ในไลน์ชอบส่งซ้ำๆว่า บ้านท่านประธานธนินท์ แม้จะแก้ข่าว100 ครั้งว่า..เป็นศูนย์พัฒนาผู้นำ คนก็ยังคงค้างคาใจว่า "ศูนย์ผู้นำคืออะไร?
ซึ่งตัวผมเองก็ตื่นเต้นมากเพราะวันนี้ ผมจะได้มาที่ๆเค้าว่ากันว่า จะเป็นศูนย์สร้างผู้นำระดับโลกที่ดีที่สุด รถยนต์ออกจากกรุงเทพประมาณ2 ชัวโมงก็มาถึงประมาณ8โมงเช้า ผมถามพี่ที่นำคณะมา เค้าเล่าว่า "คุณธนินท์ บอกว่า ทุนมนุษย์สำคัญและยากที่สุด ดังนั้น หากต้องการสร้างความเปลี่ยนแผลง ไม่ว่าจะด้านธุรกิจ สังคม หรือประเทศนั้น ต้องสร้างผู้นำ เลยเป็นที่มาของการสร้างศูนย์นี้
ผมเลยถามต่อว่า แล้วศูนย์ผู้นำเค้าเรียนอะไรกัน เจ้าหน้าที่บอกว่า ที่นี่เค้าใช้วิธีการ Action Learning ถอดบดเรียนจากการลงมือปฏิบัติ เคล็ดลับของซีพี คือเค้าให้คนรุ่นใหม่ลองทำเรื่องใหม่ แล้วแลกเปลี่ยนความรู้ ทลายไซโล แล้วมาทำเป็นหลักสูตร
ถึงแล้วครับ ต้องร้อง โอโห...กับความใหญ่ของสถานที่ ทำให้ผมนึกถึง ผมพยายามเปรียบเทียบกับสถาบันผู้นำระดับโลกอื่นๆ เช่น GE หรือซัมซุง หรือหัวเหว่ย ผมว่า ของไทยเราสู้ได้แน่นอน เอาหล่ะผมต้องลงรถแล้ว
ถึงแล้วครับ..สถาบันผู้นำ!!! เมื่อมาถึงก็เจอคนมาต้อนรับ และมีน้ำดื่มเย็นๆ ข้อดีคือมีกาแฟหลายแบบให้เลือก ปลุกความสดชื่น หลังนั่งรถมานาน..เค้ายังไม่ยอมให้เข้า ให้มา Networking กับผู้เข้าร่วมสัมมนาท่านอื่นก่อน ภายใต้โจทย์ที่ว่า ให้คุยกับคนที่คุณไม่รู้จักเท่านั้น..(แอบกดดันเล็กๆ)
ผมไปคุยกับคุณโต้ง..คุณโต้งบอกว่า..ที่นี่..ดัดแปลง" โมเดลการสร้างคนที่ประสบความสำเร็จของ General Electric (GE ) ในช่วงที่มี ซีอีโอชื่อก้องโลกอย่าง แจ็ค เวลท์ (Jack Welch) นั่งเป็นผู้นำองค์กร โดยได้เอาโปรเฟสเซอร์จากมิชิแกน มาช่วยวางหลักสูตร แต่หลักๆผู้นำต้องเรียนรู้จากการลงมือทำ และที่สำคัญเค้าบอกว่าต้องวัดผลได้ (ชักอยากรู้แล้วว่าเป็นยังไง)
เข้าห้องได้แล้วค่ะ!!!! เสียงเรียกเข้าสู่ Auditorium ใหญ่ น่าจะจุคนได้ซัก 700 คนได้มั้งครับ..เริ่มด้วยวีดีโอกาีหนีไฟ พิธีการเชิญคุณธนินท์ ขึ้นพูดแล้วครับ
ท่านบอกว่า ท่านเปิดโอกาสให้คนเก่งและคนดี ที่นี่จะเป็นที่ๆ จะเอาเรื่องที่ท้าทาย มาคุยกัน แล้ววางแผนลงมือทำ ท่านขยายความว่า คนชอบเข้าใจผิดที่ผมพูดว่า "คนทั้งโลกเป็นของซีพี" ผมหมายความว่า คนเก่งๆต้องดึงมาประเทศไทย ระดับ Professor เก่งๆ ต้องเอามาช่วยทำวิจัยร่วมกับคนไทย และคนไทยเก่งๆก็ต้องออกไปทำงานระดับโลกด้วย สำหรับซีพี การบอกว่าคนเก่งทั้งโลกเป็นของซีพี อยากให้เรามองว่า ให้รู้จักให้โอกาสความเก่งของผู้อื่น ซีพีไปร่วมทุนที่ประเทศไหน ก็เปิดโอกาสให้คนเก่งประเทศนั้นๆบริหารด้วย ไม่ใช่เราเอามาทำเองหมด ดังนั้นคนทั้งโลก เราต้องมองเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า
ส่วนเรื่องที่บอกว่า "ตลาดในโลกนี้เป็นของซีพี" ก็ถูกโจมตีเยอะ แต่ก็อยากขยายความว่า ซีพีเป็นบริษัทคนไทยที่เป็นองค์กรในระดับโลก ไม่ใช่มองแค่ในประเทศ แต่จะแข่งกับตลาดทั่วโลกได้ยังไง ในฐานะผู้นำ ไม่ใช่เค้ก1 ก้อน เราต้องขยาย Marketshare ในเค้กก้อนเดิมให้หมด มันไม่ใช่แนวทางซีพี ..แต่ผมหมายถึง..เราต้องไปตลาดต่างประเทศ มีสัดส่วนเท่าเดิม แต่ขยายเค้กให้ก่อนใหญ่ขึ้น นั่นคือขยายตลาดนั่นเอง..
คุณธนินท์ยกตัวอย่างข้าวโพด! "ที่ราบมีตั้งมากมาย แถมให้ผลผลิตดีกว่าบนเขาตั้ง3 เท่า และในต่างประเทศก็มีที่ราบเยอะมาก ทำไมซีพีต้องสนับสนุนปลูกบนเขา? การที่คนเอาไปปลูกบนเขา ทั้งยาก ทั้งอันตราย ผลผลิตก็ไม่ดี เป็นเพราะเค้ายากจน ไม่มีอย่างอื่นให้เค้าทำ ..ซึ่งซีพีชัดเจนว่า ผิดกฏหมายซีพีไม่ทำ ดังนั้นซีพีไม่สนับสนุนให้ไปปลูกบนเขา และจะรับซื้อถ้าภาครัฐรับรองการฟื้นฟูป่าเท่านั้น...คุณธนินท์พูดเรื่องอนาคตซีพีว่า ผมเคยพูดเรื่อง 3 ประโยชน์คือ คิดถึงประเทศชาติ ประชาชน แล้วค่อยบริษัท อยากขยายความว่า ซีพีจะทำธุรกิจต้องนึกถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย เห็นคนมาว่าทางอินเตอร์เนต สอ่งที่เราต้องทำคือ การปรับปรุงตัวเอง นี่คือโอกาสที่มีคนมาบอกเรา เราต้องเอาเป็นกระจกสะท้อนแล้วพัฒนาตัวเอง ดูว่าสังคมต้องการอะไร แต่จะทำอะไร ช่วยสังคมแล้ว..ต้องยั่งยืน เมื่อเราปล่อยมือ เค้าต้องยืนเองได้ ..อันนี้สำคัญ
จบช่วงแรกแล้วครับ... เบรก1 ชั่วโมง ผมถือโอกาสเดินรอบๆ ที่นี่มีห้องฝึกอบรมครบทุกรูปแบบครับ ชั้นบนเป็นห้องพักผู้มาอบรม น่าจะ 200 ห้องได้มั้งครับ มีห้องสัมมนา ห้องล่ามแปลภาษา มีระบบเครื่องเสียงบรรยายที่สุดยอดและที่สำคัญ มีระบบ Teleconference ไปทั่วโลก
ผมได้มีโอกาสคุยกับผู้จัดการที่ศูนย์ เค้าเล่าว่า ที่ศูนย์นี้ คนจากทั่วโลกมาเรียนที่นี่ กลับไปทำงานจริงที่ประเทศเค้าแล้วกลับมาแลกเปลี่ยนบทเรียน ผมถามผู้จัดการว่า จำกัดเฉพาะพนักงานซีพีรึป่าว..ผู้จัดการบอกว่า" อย่างที่ท่านประธานบอกว่า ผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลก สำคัญสำหรับซีพี ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้นำจากเอกชน คู่ค้า นักเรียนทุน ผู้นำภาครัฐ ผู้นำจากต่างประเทศ Professor ดังๆ ล้วนเป็นแขกของท่ีนี่
ผมต้องอยู่อีก 2 วัน เดี๋ยวผมจะมาเขียนต่อครับ..ขอบคุณที่ติดตาม