เมื่อเว็บและบรรดาบ้านซับไทยหลายๆบ้านเริ่มปิดตัวลงเพราะสถานการณ์ “กวาดล้าง” อย่างจริงจัง ประชาติ่งชาวไทยต้องปรับตัวให้ทันค่ะ!! “HOW TO ประชาติ่ง(เกาหลี)” ตอนแรก ตั้งใจเขียนและรวบรวมมาเพื่อบรรดาสาวกผู้ชื่นชอบซีรี่ส์เกาหลีโดยเฉพาะค่ะ กับหัวข้อมติในวันนี้ที่ว่า
“ต้องปรับตัวอย่างไร? เมื่อการดูซีรี่ส์เกาหลีแบบซับไทยในวันนี้ มันไม่เหมือนเดิม!”
“HOW TO ประชาติ่ง(เกาหลี)” ฉบับนี้ เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการทำซับไทยที่บอกเลยว่าสะเทือนกันไปทุกๆวงการ กับการออกประกาศสำคัญของเหล่าบรรดาบ้านทำซับไทยต่างๆที่พวกเราคุ้นเคย 1 ในบ้านที่บีเชื่อว่าทุกคนรักมาก… คือบ้าน KODHIT ที่ตอนนี้ออกประกาศชัดเจนเมื่อวานนี้ (16/11/2016) แล้วว่า “จะหยุดกิจกรรมการแปลละครเกาหลีทั้งหมด” เนื่องจากเริ่มมีการดำเนินการในกระบวนการทางกฎหมายทางฝั่งไทยโดยสถานีโทรทัศน์ในประเทศเกาหลี
จำได้เลยว่าหลังจากที่หลายๆคนทราบเรื่อง มีคนเข้ามาถามเยอะมากเลยว่า “จริงๆหรอ” “ไม่แปลแล้วจริงๆหรอ?” “แล้วจะไปดูที่ไหน?????” แรกๆบีก็ใจหายนะ เพราะกับบ้านซับไทยหลายๆบ้าน ทีมงานเราใช้เป็น Reference ในการเขียนรีวิวละคร Spoiler หลายๆตอน หรือแม้แต่การดูเพื่อเก็บตกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในละคร ดูกันไม่ต่ำกว่า 20 รอบต่อ 1 เรื่อง ดังนั้น … เพื่อให้การใช้ชีวิตที่ “ซีรี่ส์เกาหลี” คือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและปกติ บีได้รวบรวมวิธีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนี้มาฝากกันดังต่อไปนี้ค่ะ
ข้อแรก : เร่งกลับไปติดตามแฟนเพจที่เกี่ยวกับซีรี่ส์เกาหลีอย่างใกล้ชิด
จริงๆข้อนี้ก็ไม่ต้องแนะนำนะ เพียงแต่ด้วยความที่ตอนนี้หลายๆบ้านโดนภาวะกวาดล้างกันถ้วนหน้า และที่สำคัญ … เรื่องนี้ไม่ได้พึ่งเกิดนะคะ แต่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว มันมีการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มคนแปลงาน กลุ่มคนทำซับดีๆ กับ “มือที่มองไม่เห็น” ด้วยการกด Report เรื่อยๆ มันเป็นปัญหาที่เรื้อรัง จึงไม่แปลกเมื่อหลายๆบ้านเริ่มประกาศปิดการแปลพร้อมๆกันจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับชาติไปเลย
วิธีแก้ไขนั้นก็คือหลายๆเพจยังคงอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับละครอยู่ค่ะ และหลายๆเพจก็กำหนดมาตรการและกฎระเบียบในการติดตาม ขอให้ทำตามอย่างเคร่งครัด อย่างเช่น ถ้าโพสไหนที่ล่อแหลมก็ขอให้ตั้งค่าส่วนตัว เพราะการแชร์ออกไปยิ่งสาธารณะเท่าไหร่ ก็มีความเสี่ยงเท่านั้น เป็นต้น
ปล. ลากเพื่อนชวนเพื่อนไปด้วยนะ เพื่อนบางคนก็ยังไม่รู้เนอะ ^^
ข้อสอง : พยายามติดตามละครในช่วงเวลาออกอากาศสดให้ทัน
จริงๆข้อนี้ก็ไม่ต้องแนะนำด้วยเหมือนกัน เพราะบีเชื่อว่าหลายๆคนก็พยายามติดตามอยู่แล้ว แต่สิ่งที่บีจะแนะนำคือ “การดูในช่วงเวลาออกอากาศสดก็เป็นอะไรที่สนุกนะ!!” ที่บอกว่าสนุกเพราะช่วงออกอากาศจะมีกระทู้รายงานสด ซึ่งหลายๆบ้านจะมีการทำ Spoiler แบบงาน Speed เขียนเนื้องเรื่องย่อแบบสรุปของแต่ละตอนหลังออกอากาศ หรืออาจจะมีการเขียน Spoiler เจาะลึกบางฉากในแบบตัวหนังสือให้ได้อ่านกัน ซึ่งมีแบบนี้มากมายเลยค่ะ อย่างแหล่ง Source ดีที่สุดก็คือบ้านไร่ (Popcornfor2) หรือ PANTIP (หรือแม้แต่บางโปรเจคที่บ้านเราทำ ก็ทำค่ะ บอกเลยว่าสนุกมาก ^^) อยากตามหาละครเรื่องไหนล่ะ มีให้อ่านเพียบเลย ^^
บีเองก็มารู้จักวิธีนี้ตอนที่ละคร FAITH : The Great Doctor ออนแอร์สดที่เกาหลี บีก็ได้เข้าร่วมสังคมเม้าท์มอยละครเรื่องนี้ในบ้านไร่ และอีกปีต่อมาก็เข้ามาใน Pantip ทั้งสองที่นี้แหละที่บีได้รับทั้งความสนุกและมิตรภาพ ละครจบมากี่ปีแล้วแต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ยังเป็นติ่งเกาหลี และยังสนับสนุนชีวิตของกันและกันด้วย … เห็นข้อดีของการดูกระทู้รายงานสดหรือยังล่ะ *ขยิบตา*
มันมีวิธีมากมายเลยค่ะที่เราสามารถรับชมละครเกาหลีไปพร้อมๆกับที่เกาหลีได้ เพียงแค่คุณต้องรู้ว่า “เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง” ดังนั้น ถ้าละครที่เราชอบออกอากาศ 4 ทุ่มเกาหลี เท่ากับว่า 2 ทุ่มไทย คุณต้องพร้อมแล้ว และหลายๆครั้งมากที่มีคนมักจะชอบถามว่าคุณบีทำยังไงเวลาอยู่นอกบ้านแล้วต้องดูซีรี่ส์ … เราก็ดูในมือถือสิคะ เดี๋ยวนี้มี Streaming Web มากมายเลยที่ถ่ายทอดสัญญาณมา และไม่ต้องกลัวด้วยว่าเครื่อง iphone จะไม่สามารถชมบรรดาเว็บสตรีมที่ต้องเล่นผ่าน Flash Player เพราะเราก็แค่ก๊อปปี้ link นั้นมาเปิดในแอพพลิเคชั่นที่ใช้แปลง Flash มาเปิดบนหน้า้จอก็ได้ (บีเคยเขียน HOW TO ไปแล้วเกี่ยวกับการดูเว็บสตรีมผ่านอุปกรณ์ iOS เขียนมานานแต่วิธีนี้ยังใช้ได้ดี) หรือถ้าหลายๆคนติดเรื่องปัญหาเน็ตไม่เร็วไม่แรง เดี๋ยวนี้เน็ตเมืองไทยก็ไม่ไก่กาเกินนะ ถ้าทุ่มเท ก็เดินเข้าร้านกาแฟหรือเข้าห้างไปต่อสัญญาณ Free-Wifi ไปเลย (แต่ต้องซื้อและอุดหนุนร้านเค้าด้วยนะ อย่าเห็นแก่ตัวค่ะ ไม่ดีๆ) ถ้าเน็ตไม่ฟรี ก็มีโปรเน็ตที่ใช้ตามปริมาณ อย่างบีใช้อยู่ในก็จะมี AIS ที่ 1 วันใช้ความเร็วสูงสุดในปริมาณ 5 GB ในราคา 75 บาทเท่านั้นเอง และที่สำคัญ เดี๋ยวนี้ เมืองไทยก็ม 4G Pocket Wifi ที่จะพกไปไหนมาไหนก็ได้ เพียงแค่เติมเงินและเติมโปรเน็ตไปตามความเร็วที่อยากใช้ แค่นี้ก็ชีวิตง่ายขึ้นแล้วค่ะ
แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้ … ถ้าได้อยู่ในห้องหับตัวเองจะสบายมากเลย เปิดเน็ต ต่อ Wifi เชื่อมต่อกับ Anycast อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณจากโทรศัพท์ไปที่ทีวี … ได้ดูจอใหญ่สมใจเหมือนนั่งดูทีวีที่บ้านในเกาหลีเลย ที่สำคัญนะ ช่วงสตรีมก็สะดุดน้อยมาก (ไม่เกิน 2 ครั้งในการดูละคร 1 ตอน) ไว้มีโอกาสจะทำ HOW TO ประชาติ่งในหัวข้อนี้ใหม่ละกัน บอกเลยว่าชีวิตไฉไลไปอีก!! (โห…ภาษาเก่ามาก ๕๕๕+)
Tips : เน็ตนอกบ้านในการดูซีรี่ส์ชนิดที่ว่าวิ่งบนรถไฟฟ้า โอปป้าในจอก็ไม่สะดุด ควรมีความเร็วมากกว่า 512 kbps นะคะ จะสมูธขึ้นมากๆเลย อ่านโปรเน็ตก่อนสมัครดีๆล่ะ
ปล. ร้านอาหารในไทยหลายร้านเลือกที่จะใช้สาย HDMI หรืออุปกรณ์ช่วยส่งสัญญาณในการเผลแพร่ละครขึ้นจอใหญ่ของร้าน … เหมือนจะดีแต่ผิดกฎหมายนะจ๊ะ เตือนไว้ๆ อยากดูแบบขึ้นจอใหญ่ๆ แนะนำว่าไปดูในเคหสถานนะคะ มีวิธีเยอะเลย เผลอๆลงทุนซื้อ Apple TV อะไรมานี่ก็ … โอ๊ย! เปลืองเงินสิ้นเหตุค่ะ เอาเงินเปย์สามียังดีเสียกว่า ไม่ต้องทุ่มเทขนาดนั้นก็ได้นะ ๕๕๕+
ข้อสาม : ทำไมไม่ลองคิดว่าการดูละครเกาหลีคือการฝึกภาษาล่ะ
ไหนๆก็ต้องอยู่ในช่วง “ประดุจเคอร์ฟิว” ย่อมๆ ทำไมไม่ลองคิดอีกแง่มุมหนึ่งล่ะว่าการที่ดูละครเกาหลีรอบสดนั้นเป็นการฝึกทักษะฟังพูดอ่านเขียนภาษาเกาหลีล่ะ ยังจำตอนที่พวกเราถูกบังคับให้เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนได้ไหมล่ะ กว่าพวกเราจะรู้จักและฟังคล่องเขียนง่าย มันก็ต้องผ่านการฟัง การดูให้ชิน … การฝึกภาษาที่ 3 ก็เช่นกันค่ะ แทนที่เราจะมานอยด์ว่า “เหย … ไม่มีซับ ไม่รู้เรื่องเลยวะ…” ก็ลองมาเรียนภาษาผ่านซีรี่ส์ให้เข้าใจไปถึงแดนโอปป้าสามีนครมั้ยล่ะ TvT
ละครเกาหลีบางช่องก็มีการรีรันนะคะ อย่าง KBS อันนี้ชัดมากเลย เพราะเมื่อมีการออนแอร์ใน KBS2 ก็จะมีการ RERUN อีกครั้งในช่อง KBS WORLD ซึ่งช่องนี้ก็มี Official Channel อยู่ใน Youtube ด้วย แถมมี Eng Sub แถมมาให้อีกต่างหาก
ข้อสี่ : เมื่อเมืองไทยเข้าสู่สังคมดิจิตอล … การที่ Digital TV ในเมืองไทยมีละครเกาหลีให้ดูก็มิได้ไก่กานะเออ!
เมื่อสังคมไทยเริ่มนิยมการดูซีรี่ส์เกาหลีมากขึ้น บริษัทในวงการโทรทัศน์ไทยก็เริ่มหันมาทำการตลาดนำเข้าซีรี่ส์เกาหลีกันมากขึ้น อย่างปีนี้ที่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้มีความชัดเจนมาก เพราะเป็นปีที่พวกเราสามารถรับชมละครเกาหลีไปพร้อมๆกันกับวันที่ออกอากาศที่เกาหลี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรับชมแบบ Real-Time เหมือนที่ประเทศจีน แต่ก็ช้ากว่าที่เกาหลีอย่างมากก็แค่ไม่กี่ตอนหรือไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง และที่สำคัญ ทีวีดิจิตอลบ้านเราก็เลือกได้ที่จะรับชมแบบ 2 ภาษา (เสียงเกาหลี คำบรรยายไทย และเสียงพากย์ไทย) ซึ่งมันก็ง่ายมากแค่เพียงกดปุ่มเลือกภาษาบนรีโมตกล่อง Set Top Box เท่านั้นเอง หลายๆคนอาจจะบอกว่ากล่องแพงๆล่ะสิ .. เปล่าเลย กล่อง Set Top Box ที่ได้มาฟรีจากการแจกของรัฐบาลนั่นแหละค่ะก็สามารถรับชมได้
อีก 1 ปัญหาหลักของข้อนี้คือ “ไม่ชอบเสียงพากย์ไทย” … บีมองว่าเสียงพากย์ไทยแลดูไม่ไก่กาเลยนะคะ มุขแบบบ้านเราก็แลดูโปรยปรายจ่ายตลาดมาก แถมยังสามารถรีรันซ้ำได้ไม่รู้กี่ครั้ง เพราะทางสถานีได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์มาฉายอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขอแค่ทุกคนเปิดใจก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจทีมงานฝั่งไทยที่เค้าอุตส่าห์ไปสู้รัดฟัดเหวี่ยงการซื้อลิขสิทธิ์มาเพื่อความสุขของประชาติ่งชาวไทยทุกคน
สิ่งที่สำคัญที่ไม่ได้มีแค่ฝั่งของพวกเราที่ต้องเปลี่ยนก็คือผู้ใหญ่ทั้งหลายที่มีเงินทึนเป็นอาวุธนี่แหละ คุณต้องเข้าใจได้แล้วว่ามันหมดยุคที่ต้องดองต้องแช่อิ่มละครเกาหลี ... เพราะยิ่งคุณล่าช้าเท่าไหร่ คุณก็ไม่ได้ใจพวกเราอยู่ดี เพราะข่าวสารมันถึงกันหมด และพวกเราก็มีความพยายามมากที่จะแสวงหาวิธีไปสู่สิ่งที่พวกเรามองว่าเป็นความสุข ... อยากให้พวกคุณลองปรับกลยุทธ์ใหม่และวิเคราะห์ ส่วนจะไปรู้ได้ไงว่าละครเรื่องไหนจะสนุกไม่สนุก ทั้งคุณๆและพวกเราก็เสี่ยงพอกัน แต่ถ้าคุณลองค้นจากสิ่งที่พวกเราคุยกันในสังคมตรงนี้ เราว่ามันไม่ยากหรอกที่คุณจะหาคำตอบเหล่านั้น ... #ฝากไว้ให้คิด
ข้อห้า … แล้วใครบอกว่าซับไทยในละครเกาหลีแบบถูกต้องถูกลิขสิทธิ์จะหาไม่ได้ล่ะ
นอกจากซับไทยในทีวีดิจิตอลแล้ว จริงๆพวกเราก็สามารถดูซีรี่ส์เกาหลีผ่าน Streaming แบบที่เป็นการดูหนังแบบบุปเฟ่ต์ก็ได้นะ อย่างเช่น Hollywood HDTV ก็เคยสร้างปรากฎการณ์นำ Wed Series ทางเกาหลีาฉายพร้อมกันกับที่เกาหลีมาแล้ว ส่วนถ้าอยากจะดูอีกก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่บีมองว่าเสียเงินเดือนละไม่ถึงร้อยบาทแต่ได้ดูซีรี่ส์เกาหลีแบบ HD ด้วย ถูกลิขสิทธิ์ด้วย (เพราะเขาซื้อมาจริง) เสียงก็คือต้นฉบับแท้ๆพร้อมคำบรรยายไทยอีกต่างหาก บีเองก็เคยได้ใช้บริการ Hollywood HDTV ตอนที่ได้ดู Touching You หรือชื่อไทยคือ “ยอมให้จับนะ ยัยตัวร้าย” ก็ใช้งานง่ายมากเลยนะ แถมภาพสวย HD ไปอีก ใช้งานแบบรับชม 2 ภาษาก็ได้ด้วย
อีกเจ้าหนึ่งที่เรายังสามารถดูซับไทยได้คือที่ iflix ค่ะ iflix คือบริการสตรีมมิ่งรวมรายการทีวีและหนังไทยเทศ โดยการใช้บริการก็คล้ายๆกับสตรีมมิ่งอื่นๆคือจะต้องเสียค่าบริการรายเดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เค้าก็คอยที่จะมีโปรลดแจกแถมตลอด สิ่งที่ดีงามของ iflix ก็คือมีละครให้เลือกหลากหลาย ไทย-เทศ-เอเชีย แถมยังเป็นซับไทย และ HD ด้วยนะ
กับอีก 1 เจ้าที่จริงๆแล้วเค้าก็ยังไม่ได้มาเปิดตัวในเมืองไทยแต่ก็สามารถแอบบินไปดูได้ … บินหรอ เปล่าหรอก แค่ vpn ไปเท่านั้นกับ viu.com ที่เปิดให้บริการแบบใกล้บ้านเราที่สุดก็คือสิงคโปร์และมาเลเซีย แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าในการเปิดตัวที่สิงคโปร์ … ก็มีซับไทยด้วยนะ!!! (เอาให้ใครดูเนี่ย ดูด้วยเด่… ๕๕๕+) เหมือนจะยุ่งยากที่ต้องแปลงสัญญาณเน็ตใหม่หรือสร้าง new IP Address ใหม่จากวิธีการ VPN แต่ข้อดีของ viu.com คือละครอัพเดทสุดและแน่นอน … ซับไทยไม่ไก่กาค่ะ
NOTE : ข่าวบางสำนักรายงานว่าทางทีมงาน viu ได้ติดต่อมายังทีมงานของ KODHIT และมีข่าวที่แลดูเหมือนว่า KODHIT อาจจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ถูกกฎหมายภายใต้การสนับสนุนจาก viu.com ซึ่งถามว่าการที่ viu จะมีโอกาสมาเปิดตัวที่ไทยอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น … เป็นข่าวที่ไม่สามารถระบุถึงข้อเท็จจริงได้ ... เพราะไม่ได้มีการแจ้งจาก Official แต่ถ้าถามถึงความคิดเห็นและความน่าจะเป็น บีบอกได้เลยว่าเป็นโอกาสที่ดีมากและสมควรมาก เนื่องจาก … พูดจากใจนะ ก็รอคอยให้ประเทศมีอะไรที่แลดูเสรีในการรับชมละครเกาหลีหรือละครต่างประเทศกับเค้าบ้าง ต่อให้ต้องเสียเงินค่าสมาชิก เราก็ยอมเสียนะ เพราะทุกวันนี้ เราเองก็เสียเงินสมัคร Melon ซึ่งเป็น Streaming ออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอยู่แล้วทุกเดือน (เดือนหนึ่งราวๆ 400 กว่าบาท) ซึ่งเราเข้าใจดีว่านอกเหนือในส่วนของกำไร มันก็คือค่าใช้จ่ายในส่วนของลิขสิทธิ์การเผยแพร่นี่แหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปนะคะ (ตอนนี้ขออยู่นิ่งๆรอจนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการดีกว่า ค่อยเฮทีเดียว ^^”)
ข้อสุดท้าย สำคัญนะ อยู่ใน Comment ค่ะ ;)
[HOW TO ประชาติ่ง(เกาหลี)] 01 : ต้องปรับตัวอย่างไร? เมื่อการดูซีรี่ส์เกาหลีแบบซับไทยในวันนี้ มันไม่เหมือนเดิม!
“ต้องปรับตัวอย่างไร? เมื่อการดูซีรี่ส์เกาหลีแบบซับไทยในวันนี้ มันไม่เหมือนเดิม!”
“HOW TO ประชาติ่ง(เกาหลี)” ฉบับนี้ เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการทำซับไทยที่บอกเลยว่าสะเทือนกันไปทุกๆวงการ กับการออกประกาศสำคัญของเหล่าบรรดาบ้านทำซับไทยต่างๆที่พวกเราคุ้นเคย 1 ในบ้านที่บีเชื่อว่าทุกคนรักมาก… คือบ้าน KODHIT ที่ตอนนี้ออกประกาศชัดเจนเมื่อวานนี้ (16/11/2016) แล้วว่า “จะหยุดกิจกรรมการแปลละครเกาหลีทั้งหมด” เนื่องจากเริ่มมีการดำเนินการในกระบวนการทางกฎหมายทางฝั่งไทยโดยสถานีโทรทัศน์ในประเทศเกาหลี
จำได้เลยว่าหลังจากที่หลายๆคนทราบเรื่อง มีคนเข้ามาถามเยอะมากเลยว่า “จริงๆหรอ” “ไม่แปลแล้วจริงๆหรอ?” “แล้วจะไปดูที่ไหน?????” แรกๆบีก็ใจหายนะ เพราะกับบ้านซับไทยหลายๆบ้าน ทีมงานเราใช้เป็น Reference ในการเขียนรีวิวละคร Spoiler หลายๆตอน หรือแม้แต่การดูเพื่อเก็บตกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในละคร ดูกันไม่ต่ำกว่า 20 รอบต่อ 1 เรื่อง ดังนั้น … เพื่อให้การใช้ชีวิตที่ “ซีรี่ส์เกาหลี” คือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและปกติ บีได้รวบรวมวิธีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงนี้มาฝากกันดังต่อไปนี้ค่ะ
ข้อแรก : เร่งกลับไปติดตามแฟนเพจที่เกี่ยวกับซีรี่ส์เกาหลีอย่างใกล้ชิด
จริงๆข้อนี้ก็ไม่ต้องแนะนำนะ เพียงแต่ด้วยความที่ตอนนี้หลายๆบ้านโดนภาวะกวาดล้างกันถ้วนหน้า และที่สำคัญ … เรื่องนี้ไม่ได้พึ่งเกิดนะคะ แต่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว มันมีการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มคนแปลงาน กลุ่มคนทำซับดีๆ กับ “มือที่มองไม่เห็น” ด้วยการกด Report เรื่อยๆ มันเป็นปัญหาที่เรื้อรัง จึงไม่แปลกเมื่อหลายๆบ้านเริ่มประกาศปิดการแปลพร้อมๆกันจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับชาติไปเลย
วิธีแก้ไขนั้นก็คือหลายๆเพจยังคงอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับละครอยู่ค่ะ และหลายๆเพจก็กำหนดมาตรการและกฎระเบียบในการติดตาม ขอให้ทำตามอย่างเคร่งครัด อย่างเช่น ถ้าโพสไหนที่ล่อแหลมก็ขอให้ตั้งค่าส่วนตัว เพราะการแชร์ออกไปยิ่งสาธารณะเท่าไหร่ ก็มีความเสี่ยงเท่านั้น เป็นต้น
ปล. ลากเพื่อนชวนเพื่อนไปด้วยนะ เพื่อนบางคนก็ยังไม่รู้เนอะ ^^
ข้อสอง : พยายามติดตามละครในช่วงเวลาออกอากาศสดให้ทัน
จริงๆข้อนี้ก็ไม่ต้องแนะนำด้วยเหมือนกัน เพราะบีเชื่อว่าหลายๆคนก็พยายามติดตามอยู่แล้ว แต่สิ่งที่บีจะแนะนำคือ “การดูในช่วงเวลาออกอากาศสดก็เป็นอะไรที่สนุกนะ!!” ที่บอกว่าสนุกเพราะช่วงออกอากาศจะมีกระทู้รายงานสด ซึ่งหลายๆบ้านจะมีการทำ Spoiler แบบงาน Speed เขียนเนื้องเรื่องย่อแบบสรุปของแต่ละตอนหลังออกอากาศ หรืออาจจะมีการเขียน Spoiler เจาะลึกบางฉากในแบบตัวหนังสือให้ได้อ่านกัน ซึ่งมีแบบนี้มากมายเลยค่ะ อย่างแหล่ง Source ดีที่สุดก็คือบ้านไร่ (Popcornfor2) หรือ PANTIP (หรือแม้แต่บางโปรเจคที่บ้านเราทำ ก็ทำค่ะ บอกเลยว่าสนุกมาก ^^) อยากตามหาละครเรื่องไหนล่ะ มีให้อ่านเพียบเลย ^^
บีเองก็มารู้จักวิธีนี้ตอนที่ละคร FAITH : The Great Doctor ออนแอร์สดที่เกาหลี บีก็ได้เข้าร่วมสังคมเม้าท์มอยละครเรื่องนี้ในบ้านไร่ และอีกปีต่อมาก็เข้ามาใน Pantip ทั้งสองที่นี้แหละที่บีได้รับทั้งความสนุกและมิตรภาพ ละครจบมากี่ปีแล้วแต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ยังเป็นติ่งเกาหลี และยังสนับสนุนชีวิตของกันและกันด้วย … เห็นข้อดีของการดูกระทู้รายงานสดหรือยังล่ะ *ขยิบตา*
มันมีวิธีมากมายเลยค่ะที่เราสามารถรับชมละครเกาหลีไปพร้อมๆกับที่เกาหลีได้ เพียงแค่คุณต้องรู้ว่า “เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง” ดังนั้น ถ้าละครที่เราชอบออกอากาศ 4 ทุ่มเกาหลี เท่ากับว่า 2 ทุ่มไทย คุณต้องพร้อมแล้ว และหลายๆครั้งมากที่มีคนมักจะชอบถามว่าคุณบีทำยังไงเวลาอยู่นอกบ้านแล้วต้องดูซีรี่ส์ … เราก็ดูในมือถือสิคะ เดี๋ยวนี้มี Streaming Web มากมายเลยที่ถ่ายทอดสัญญาณมา และไม่ต้องกลัวด้วยว่าเครื่อง iphone จะไม่สามารถชมบรรดาเว็บสตรีมที่ต้องเล่นผ่าน Flash Player เพราะเราก็แค่ก๊อปปี้ link นั้นมาเปิดในแอพพลิเคชั่นที่ใช้แปลง Flash มาเปิดบนหน้า้จอก็ได้ (บีเคยเขียน HOW TO ไปแล้วเกี่ยวกับการดูเว็บสตรีมผ่านอุปกรณ์ iOS เขียนมานานแต่วิธีนี้ยังใช้ได้ดี) หรือถ้าหลายๆคนติดเรื่องปัญหาเน็ตไม่เร็วไม่แรง เดี๋ยวนี้เน็ตเมืองไทยก็ไม่ไก่กาเกินนะ ถ้าทุ่มเท ก็เดินเข้าร้านกาแฟหรือเข้าห้างไปต่อสัญญาณ Free-Wifi ไปเลย (แต่ต้องซื้อและอุดหนุนร้านเค้าด้วยนะ อย่าเห็นแก่ตัวค่ะ ไม่ดีๆ) ถ้าเน็ตไม่ฟรี ก็มีโปรเน็ตที่ใช้ตามปริมาณ อย่างบีใช้อยู่ในก็จะมี AIS ที่ 1 วันใช้ความเร็วสูงสุดในปริมาณ 5 GB ในราคา 75 บาทเท่านั้นเอง และที่สำคัญ เดี๋ยวนี้ เมืองไทยก็ม 4G Pocket Wifi ที่จะพกไปไหนมาไหนก็ได้ เพียงแค่เติมเงินและเติมโปรเน็ตไปตามความเร็วที่อยากใช้ แค่นี้ก็ชีวิตง่ายขึ้นแล้วค่ะ
แล้วยิ่งเดี๋ยวนี้ … ถ้าได้อยู่ในห้องหับตัวเองจะสบายมากเลย เปิดเน็ต ต่อ Wifi เชื่อมต่อกับ Anycast อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณจากโทรศัพท์ไปที่ทีวี … ได้ดูจอใหญ่สมใจเหมือนนั่งดูทีวีที่บ้านในเกาหลีเลย ที่สำคัญนะ ช่วงสตรีมก็สะดุดน้อยมาก (ไม่เกิน 2 ครั้งในการดูละคร 1 ตอน) ไว้มีโอกาสจะทำ HOW TO ประชาติ่งในหัวข้อนี้ใหม่ละกัน บอกเลยว่าชีวิตไฉไลไปอีก!! (โห…ภาษาเก่ามาก ๕๕๕+)
Tips : เน็ตนอกบ้านในการดูซีรี่ส์ชนิดที่ว่าวิ่งบนรถไฟฟ้า โอปป้าในจอก็ไม่สะดุด ควรมีความเร็วมากกว่า 512 kbps นะคะ จะสมูธขึ้นมากๆเลย อ่านโปรเน็ตก่อนสมัครดีๆล่ะ
ปล. ร้านอาหารในไทยหลายร้านเลือกที่จะใช้สาย HDMI หรืออุปกรณ์ช่วยส่งสัญญาณในการเผลแพร่ละครขึ้นจอใหญ่ของร้าน … เหมือนจะดีแต่ผิดกฎหมายนะจ๊ะ เตือนไว้ๆ อยากดูแบบขึ้นจอใหญ่ๆ แนะนำว่าไปดูในเคหสถานนะคะ มีวิธีเยอะเลย เผลอๆลงทุนซื้อ Apple TV อะไรมานี่ก็ … โอ๊ย! เปลืองเงินสิ้นเหตุค่ะ เอาเงินเปย์สามียังดีเสียกว่า ไม่ต้องทุ่มเทขนาดนั้นก็ได้นะ ๕๕๕+
ข้อสาม : ทำไมไม่ลองคิดว่าการดูละครเกาหลีคือการฝึกภาษาล่ะ
ไหนๆก็ต้องอยู่ในช่วง “ประดุจเคอร์ฟิว” ย่อมๆ ทำไมไม่ลองคิดอีกแง่มุมหนึ่งล่ะว่าการที่ดูละครเกาหลีรอบสดนั้นเป็นการฝึกทักษะฟังพูดอ่านเขียนภาษาเกาหลีล่ะ ยังจำตอนที่พวกเราถูกบังคับให้เรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนได้ไหมล่ะ กว่าพวกเราจะรู้จักและฟังคล่องเขียนง่าย มันก็ต้องผ่านการฟัง การดูให้ชิน … การฝึกภาษาที่ 3 ก็เช่นกันค่ะ แทนที่เราจะมานอยด์ว่า “เหย … ไม่มีซับ ไม่รู้เรื่องเลยวะ…” ก็ลองมาเรียนภาษาผ่านซีรี่ส์ให้เข้าใจไปถึงแดนโอปป้าสามีนครมั้ยล่ะ TvT
ละครเกาหลีบางช่องก็มีการรีรันนะคะ อย่าง KBS อันนี้ชัดมากเลย เพราะเมื่อมีการออนแอร์ใน KBS2 ก็จะมีการ RERUN อีกครั้งในช่อง KBS WORLD ซึ่งช่องนี้ก็มี Official Channel อยู่ใน Youtube ด้วย แถมมี Eng Sub แถมมาให้อีกต่างหาก
ข้อสี่ : เมื่อเมืองไทยเข้าสู่สังคมดิจิตอล … การที่ Digital TV ในเมืองไทยมีละครเกาหลีให้ดูก็มิได้ไก่กานะเออ!
เมื่อสังคมไทยเริ่มนิยมการดูซีรี่ส์เกาหลีมากขึ้น บริษัทในวงการโทรทัศน์ไทยก็เริ่มหันมาทำการตลาดนำเข้าซีรี่ส์เกาหลีกันมากขึ้น อย่างปีนี้ที่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้มีความชัดเจนมาก เพราะเป็นปีที่พวกเราสามารถรับชมละครเกาหลีไปพร้อมๆกันกับวันที่ออกอากาศที่เกาหลี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรับชมแบบ Real-Time เหมือนที่ประเทศจีน แต่ก็ช้ากว่าที่เกาหลีอย่างมากก็แค่ไม่กี่ตอนหรือไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง และที่สำคัญ ทีวีดิจิตอลบ้านเราก็เลือกได้ที่จะรับชมแบบ 2 ภาษา (เสียงเกาหลี คำบรรยายไทย และเสียงพากย์ไทย) ซึ่งมันก็ง่ายมากแค่เพียงกดปุ่มเลือกภาษาบนรีโมตกล่อง Set Top Box เท่านั้นเอง หลายๆคนอาจจะบอกว่ากล่องแพงๆล่ะสิ .. เปล่าเลย กล่อง Set Top Box ที่ได้มาฟรีจากการแจกของรัฐบาลนั่นแหละค่ะก็สามารถรับชมได้
อีก 1 ปัญหาหลักของข้อนี้คือ “ไม่ชอบเสียงพากย์ไทย” … บีมองว่าเสียงพากย์ไทยแลดูไม่ไก่กาเลยนะคะ มุขแบบบ้านเราก็แลดูโปรยปรายจ่ายตลาดมาก แถมยังสามารถรีรันซ้ำได้ไม่รู้กี่ครั้ง เพราะทางสถานีได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์มาฉายอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ขอแค่ทุกคนเปิดใจก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจทีมงานฝั่งไทยที่เค้าอุตส่าห์ไปสู้รัดฟัดเหวี่ยงการซื้อลิขสิทธิ์มาเพื่อความสุขของประชาติ่งชาวไทยทุกคน
สิ่งที่สำคัญที่ไม่ได้มีแค่ฝั่งของพวกเราที่ต้องเปลี่ยนก็คือผู้ใหญ่ทั้งหลายที่มีเงินทึนเป็นอาวุธนี่แหละ คุณต้องเข้าใจได้แล้วว่ามันหมดยุคที่ต้องดองต้องแช่อิ่มละครเกาหลี ... เพราะยิ่งคุณล่าช้าเท่าไหร่ คุณก็ไม่ได้ใจพวกเราอยู่ดี เพราะข่าวสารมันถึงกันหมด และพวกเราก็มีความพยายามมากที่จะแสวงหาวิธีไปสู่สิ่งที่พวกเรามองว่าเป็นความสุข ... อยากให้พวกคุณลองปรับกลยุทธ์ใหม่และวิเคราะห์ ส่วนจะไปรู้ได้ไงว่าละครเรื่องไหนจะสนุกไม่สนุก ทั้งคุณๆและพวกเราก็เสี่ยงพอกัน แต่ถ้าคุณลองค้นจากสิ่งที่พวกเราคุยกันในสังคมตรงนี้ เราว่ามันไม่ยากหรอกที่คุณจะหาคำตอบเหล่านั้น ... #ฝากไว้ให้คิด
ข้อห้า … แล้วใครบอกว่าซับไทยในละครเกาหลีแบบถูกต้องถูกลิขสิทธิ์จะหาไม่ได้ล่ะ
นอกจากซับไทยในทีวีดิจิตอลแล้ว จริงๆพวกเราก็สามารถดูซีรี่ส์เกาหลีผ่าน Streaming แบบที่เป็นการดูหนังแบบบุปเฟ่ต์ก็ได้นะ อย่างเช่น Hollywood HDTV ก็เคยสร้างปรากฎการณ์นำ Wed Series ทางเกาหลีาฉายพร้อมกันกับที่เกาหลีมาแล้ว ส่วนถ้าอยากจะดูอีกก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่บีมองว่าเสียเงินเดือนละไม่ถึงร้อยบาทแต่ได้ดูซีรี่ส์เกาหลีแบบ HD ด้วย ถูกลิขสิทธิ์ด้วย (เพราะเขาซื้อมาจริง) เสียงก็คือต้นฉบับแท้ๆพร้อมคำบรรยายไทยอีกต่างหาก บีเองก็เคยได้ใช้บริการ Hollywood HDTV ตอนที่ได้ดู Touching You หรือชื่อไทยคือ “ยอมให้จับนะ ยัยตัวร้าย” ก็ใช้งานง่ายมากเลยนะ แถมภาพสวย HD ไปอีก ใช้งานแบบรับชม 2 ภาษาก็ได้ด้วย
อีกเจ้าหนึ่งที่เรายังสามารถดูซับไทยได้คือที่ iflix ค่ะ iflix คือบริการสตรีมมิ่งรวมรายการทีวีและหนังไทยเทศ โดยการใช้บริการก็คล้ายๆกับสตรีมมิ่งอื่นๆคือจะต้องเสียค่าบริการรายเดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เค้าก็คอยที่จะมีโปรลดแจกแถมตลอด สิ่งที่ดีงามของ iflix ก็คือมีละครให้เลือกหลากหลาย ไทย-เทศ-เอเชีย แถมยังเป็นซับไทย และ HD ด้วยนะ
กับอีก 1 เจ้าที่จริงๆแล้วเค้าก็ยังไม่ได้มาเปิดตัวในเมืองไทยแต่ก็สามารถแอบบินไปดูได้ … บินหรอ เปล่าหรอก แค่ vpn ไปเท่านั้นกับ viu.com ที่เปิดให้บริการแบบใกล้บ้านเราที่สุดก็คือสิงคโปร์และมาเลเซีย แต่ใครจะเชื่อล่ะว่าในการเปิดตัวที่สิงคโปร์ … ก็มีซับไทยด้วยนะ!!! (เอาให้ใครดูเนี่ย ดูด้วยเด่… ๕๕๕+) เหมือนจะยุ่งยากที่ต้องแปลงสัญญาณเน็ตใหม่หรือสร้าง new IP Address ใหม่จากวิธีการ VPN แต่ข้อดีของ viu.com คือละครอัพเดทสุดและแน่นอน … ซับไทยไม่ไก่กาค่ะ
NOTE : ข่าวบางสำนักรายงานว่าทางทีมงาน viu ได้ติดต่อมายังทีมงานของ KODHIT และมีข่าวที่แลดูเหมือนว่า KODHIT อาจจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ถูกกฎหมายภายใต้การสนับสนุนจาก viu.com ซึ่งถามว่าการที่ viu จะมีโอกาสมาเปิดตัวที่ไทยอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น … เป็นข่าวที่ไม่สามารถระบุถึงข้อเท็จจริงได้ ... เพราะไม่ได้มีการแจ้งจาก Official แต่ถ้าถามถึงความคิดเห็นและความน่าจะเป็น บีบอกได้เลยว่าเป็นโอกาสที่ดีมากและสมควรมาก เนื่องจาก … พูดจากใจนะ ก็รอคอยให้ประเทศมีอะไรที่แลดูเสรีในการรับชมละครเกาหลีหรือละครต่างประเทศกับเค้าบ้าง ต่อให้ต้องเสียเงินค่าสมาชิก เราก็ยอมเสียนะ เพราะทุกวันนี้ เราเองก็เสียเงินสมัคร Melon ซึ่งเป็น Streaming ออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอยู่แล้วทุกเดือน (เดือนหนึ่งราวๆ 400 กว่าบาท) ซึ่งเราเข้าใจดีว่านอกเหนือในส่วนของกำไร มันก็คือค่าใช้จ่ายในส่วนของลิขสิทธิ์การเผยแพร่นี่แหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังคงต้องติดตามข่าวกันต่อไปนะคะ (ตอนนี้ขออยู่นิ่งๆรอจนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการดีกว่า ค่อยเฮทีเดียว ^^”)
ข้อสุดท้าย สำคัญนะ อยู่ใน Comment ค่ะ ;)