“เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะซีรีส์” เป็นโปรเจกต์ของช่องวัน ที่ได้เห็นข่าวได้เห็นรูปในไอจีจากทีมงานและนักแสดงอยู่เนืองๆ โดยส่วนตัวก็รอติดตามชม อยากรู้ว่าจะทำออกมาเป็นยังไง ซึ่งหลังจากดูจบ ก็เกิดความรู้สึกว่า....
....นี่อาจจะเป็นละครเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง
....นี่อาจจะเป็นโปรเจกต์ละครที่ใช้งบน้อยที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด ใช้นักแสดงมากที่สุด แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าชื่นชมมากที่สุดครั้งหนึ่ง
และนำมาสู่การตั้งกระทู้ในครั้งนี้




นี่อาจจะเป็นละครเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง

เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะซีรีส์ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก สร้างสรรค์โดยทีมซิทคอมของช่องวัน ละครออนแอร์วันที่ 14-15 พ.ย. และส่วนที่สอง สร้างสรรค์โดยทีมละครยาวของช่องวัน ละครออนแอร์วันที่ 16-17 พ.ย. ซึ่งละครทั้งสองส่วนประกอบด้วยเส้นเรื่องย่อยๆ 3-4 เส้นเรื่อง สลับไปมา เล่าเรื่องเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ละครของทีมซิทคอม เล่าเรื่องโดยนำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นส่วนหนึ่งของบทพูดของตัวละคร เพื่อเตือนสติตัวละครอื่นๆ ในขณะที่ละครของทีมละครยาว เล่าเรื่องโดยให้ตัวละครที่กำลังเกิดปัญหาในชีวิต นำพาตัวละครเหล่านั้นไปเจอกับช่วงเวลาสำคัญของรัชสมัยของพระองค์ท่าน (ตัวละครประสบอุบัติเหตุและฝันว่าได้กลับไปในอดีต) แล้วปล่อยให้ตัวละครได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเอง โดยมีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่าง

ถ้าคนที่ได้ดูจะรับรู้เลยว่า ละครเส้นเรื่องต่างๆ บทดีมาก การแสดงของนักแสดงก็ดีมาก เหตุการณ์ในละครก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นการยัดเยียดคำสอนของพระองค์ท่าน ไม่ได้เอาโครงการในพระราชดำริมาเสนออย่างทื่อๆ แต่นำพาคนดูซาบซึ้งไปกับเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยตัวเองอย่างเนียนๆไปพร้อมๆกับตัวละครเหล่านั้นจริงๆ ดูพลางก็น้ำตาไหลพลางในหลายๆฉาก

- ลูก (หนูนา) ที่น้อยใจแม่ (กวาง กมลชนก) จนหนีออกจากบ้านไป เพราะแม่มัวแต่ทำหน้าที่ครู แต่ละเลยความรู้สึกของลูก
- ลูก (บี้) ที่ปิดบังงำความ ไม่อยากให้พ่อ (อุ้ย เกรียงไกร) ที่เป็นโรคหัวใจ รู้ความจริงเรื่องในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต
- พี่น้อง (แดน-บีม) ทะเลาะกัน มีความคิดเห็นแตกต่างกันมาโดยตลอด
- เด็กแว้น (โตโน่) ที่สร้างความน่ารำคาญให้กับสังคมรอบตัว และทำตัวเปล่าประโยชน์ไปวันๆ
- คนเห็นแก่เงินเห็นแก่ตัว (สน) ที่ไม่เคยนึกถึงการทำอะไรเพื่อคนอื่น
- คนรุ่นใหม่ (เจษ) ในโลกทุนนิยมที่ต้องไปตกอยู่ในสภาวะความยากลำบากและความแห้งแล้งกันดาร
- ผู้หญิง (นุ่น) ต้องอดทนแค่ไหนกับผู้ชาย (ป้อง) ที่มัวแต่วิ่งไล่ตามความฝันจนไม่มีเวลาให้กัน

เรื่องราวเหล่านี้ สามารถขมวดปมและให้บทสรุปที่สวยงามด้วยเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9  






ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนท้ายของละครของทีมซิทคอมก็นำเอาภาพเหตุการณ์วันที่ 13-14 ตุลาคม 2559 มาประกอบ ในขณะที่ละครของทีมละครยาวก็นำเอาภาพเหตุการณ์วันที่ 9 มิถุนายน 2549 รวมทั้งวันที่มีการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ท้องสนามหลวง วันที่ 22 ตุลาคม 2559 ละครเล่าเรื่องโดยให้ตัวละครได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย ตัดภาพสลับกับของจริง ฉากเหล่านี้ดูแล้วขนลุกมากๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าน้ำตาไหลอาบแก้มมากแค่ไหน บางคนไม่ร้องไห้น้ำตานองหน้า ก็ต้องมีน้ำตาซึมๆกันบ้างล่ะค่ะ






นี่อาจจะเป็นโปรเจกต์ละครที่ใช้งบน้อยที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด ใช้นักแสดงมากที่สุด แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าชื่นชมมากที่สุดครั้งหนึ่ง

อย่างที่เราจะทราบกันว่า ศิลปินดาราที่มาร่วมแสดงละครเรื่องมาร่วมแสดง “โดยไม่มีค่าตัว” ในขณะเดียวกัน ทีมงานหลายร้อยชีวิตก็เช่นกันที่ทำงาน “โดยไม่มีค่าจ้าง”

จริงอยู่ว่าการที่จะระดมพลศิลปินดารากันอย่างขนานใหญ่แบบนี้ ก็ย่อมเกิดได้เป็นของธรรมดาสำหรับค่ายหรือช่องที่มีศิลปินในสังกัดหรือศิลปินที่มีความสัมพันธ์อันดีจำนวนมาก แต่สำหรับการร่วมแรงร่วมใจเพื่อละครเรื่องหนึ่งๆฉากหนึ่งๆ ที่อาศัยการระดมพลเพียงไม่กี่วัน การเคลียร์คิวของศิลปินจำนวนมากเพื่อให้ได้คิวที่สอดคล้องกันสำหรับแสดงละครเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ประเด็นที่ว่า แสดงโดยไม่มีค่าตัวก็เรื่องหนึ่ง แต่ประเด็นที่ “ทัช” จขกท. มากๆ ก็คือ เค้ามาร่วมแสดงละครเรื่องนี้ ทั้งๆที่เค้าอาจจะไม่มีบทพูดสักแอะ หรือเค้าอาจจะแค่เดินผ่านกล้อง หรือเค้าอาจจะถูกจับภาพไม่ถึงสามวิ หรือเค้าอาจจะเป็นแค่ภาพเบลอๆในซีนหนึ่ง หรือเค้าอาจจะได้เข้าร่วมแค่ไม่กี่ฉาก แต่คนเหล่านี้มาด้วย “ใจ” ล้วนๆ

สำหรับทีมงานผู้อยู่เบื้องหลัง มันน่าทึ่งมากๆตรงที่โปรเจกต์นี้ใช้เวลาไม่นานในการทำบท เตรียมการต่างๆ จัดคิวนักแสดง และใช้เวลาไม่กี่วันในการถ่ายทำ ถ้าทีมงานไม่ใช่มืออาชีพ ถ้าไม่ทำด้วยใจ ถ้าไม่เห็นพ้องในทิศทางเดียวกัน จะได้ผลงานที่น่าชื่นชมได้อย่างไร สำหรับการทำงานในระยะเวลาเพียงไม่ถึงเดือน

ผู้กำกับของทีมซิทคอม


ผู้กำกับของทีมละครยาว



พี่เกลือ หนึ่งในผู้กำกับของทีมซิทคอม โพสต์ไอจีพร้อมแคปชั่นเมื่อเร็วๆนี้ว่า “เราเป็นกองละครที่มีกล้องแปดตัว นักแสดงร้อยกว่าชีวิต ทีมงานอีกเกือบร้อยชีวิต ถ้าทุกคนคิดตังค์ เราคงจ่ายไม่ไหว แต่เราเอาใจเราซื้อ เราจึงได้ใจพวกเค้ากลับมา ขอบคุณใจของทุกคน ขอบคุณที่มาร่วมโปรเจคที่เกิดเพื่อความรักที่มีต่อพ่อของพวกเรา สนุกมาก เหนื่อยมาก ภูมิใจมาก เราทำมันสำเร็จแล้วทุกคน”

ส่วนพี่สันต์ หนึ่งในผู้กำกับของทีมละครยาวโพสต์ไอจีพร้อมแคปชั่นเมื่อเร็วๆนี้ว่า “....โดยส่วนตัวมั่นใจว่า ทำละครต่อไปอีกทั้งชีวิตก็ไม่สามารถเซ็ทบรรยากาศแบบนี้ได้อีก...”






ทั้งนี้ จขกท ไม่ได้ตั้งกระทู้นี้เพื่ออวย เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะซีรีส์ แต่ตั้งใจตั้งกระทู้นี้เพื่อชื่นชมทีมงานและนักแสดงว่า พวกคุณได้สร้างคุณูปการให้แก่สังคมไทยมากที่สุดครั้งหนึ่ง ขอคารวะมา ณ โอกาสนี้

ป.ล. ขอบคุณภาพประกอบจาก IG @one_lakorn_variety @santsalaya @kleurmasutra