หากลองตัดแง่มุมความรักระหว่างหญิงชายออกไป Your Name คือหนังรักที่ว่าด้วยเรื่องความรักของยุคสมัยปัจจุบันที่มีต่อวัฒนธรรมรากเหง้าของยุคสมัยเก่า
เราอาจมองหนังในอีกมุมมองได้ดังนี้
เทพเจ้าของเมือง Itomori ผู้มีหน้าที่ปกปักรักษาเมือง เป็นผู้มีความสามารถในการหยั่งรู้อนาคตหรือมีความสามารถในการเดินทางข้ามกาลเวลาผ่านการเดินทางของจิตไปสู่ร่างอื่นในสถานที่และกาลเวลาอื่นที่ต่างกันไป ซึ่งความสามารถนี้ถูกส่งผ่านมาในตระกูลของ Mitsuha ที่มีหน้าที่สืบทอดศาลเจ้า Miyamizu
และจากบทสนทนาในเรื่องเราจะพบว่าทั้ง ยาย และ แม่ของ Mitsuha เองก็เคยเดินทางข้ามมิติและเวลาผ่านการสลับร่างเช่นกัน
เทพเจ้ารู้ว่าวันหนึ่งเศษดาวหางจะตกใส่เมือง Itomori และทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก เทพเจ้าจึงถ่ายทอดวิธีในการเดินทางข้ามกาลเวลาผ่านพิธีกรรมของศาลเจ้าที่ปฏิบัติกันเรื่อยมา (ทั้งการทำพิธีมัดไหม ทั้งการบ่มสาเกด้วยการบ้วนข้าวที่ถูกเคี้ยวในปาก)
แม้จะไม่รู้ว่าต้องทำพิธีกรรมที่ดูไม่มีเหตุผลนี้ไปเพื่ออะไร เพราะหลักฐานประวัติความเป็นมารวมถึง “ชื่อ” ของมันได้หายสาบสูญไปแล้ว
แต่ยายก็พร่ำบอกกับ Mitsuha ว่ามันต้องแฝงไว้ด้วยจุดประสงค์หรือกุศโลบายบางอย่างซึ่งสุดท้ายมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ
(โดยทั่วแล้วไปพิธีกรรมต่างๆก็คือหนึ่งในวิธีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น)
[CR] <<< วิเคราะห์ *** Your Name *** การเอาตัวรอดของยุคสมัยเก่า โดยความช่วยเหลือจากยุคสมัยใหม่ >>> (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
เราอาจมองหนังในอีกมุมมองได้ดังนี้
เทพเจ้าของเมือง Itomori ผู้มีหน้าที่ปกปักรักษาเมือง เป็นผู้มีความสามารถในการหยั่งรู้อนาคตหรือมีความสามารถในการเดินทางข้ามกาลเวลาผ่านการเดินทางของจิตไปสู่ร่างอื่นในสถานที่และกาลเวลาอื่นที่ต่างกันไป ซึ่งความสามารถนี้ถูกส่งผ่านมาในตระกูลของ Mitsuha ที่มีหน้าที่สืบทอดศาลเจ้า Miyamizu
และจากบทสนทนาในเรื่องเราจะพบว่าทั้ง ยาย และ แม่ของ Mitsuha เองก็เคยเดินทางข้ามมิติและเวลาผ่านการสลับร่างเช่นกัน
เทพเจ้ารู้ว่าวันหนึ่งเศษดาวหางจะตกใส่เมือง Itomori และทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก เทพเจ้าจึงถ่ายทอดวิธีในการเดินทางข้ามกาลเวลาผ่านพิธีกรรมของศาลเจ้าที่ปฏิบัติกันเรื่อยมา (ทั้งการทำพิธีมัดไหม ทั้งการบ่มสาเกด้วยการบ้วนข้าวที่ถูกเคี้ยวในปาก)
แม้จะไม่รู้ว่าต้องทำพิธีกรรมที่ดูไม่มีเหตุผลนี้ไปเพื่ออะไร เพราะหลักฐานประวัติความเป็นมารวมถึง “ชื่อ” ของมันได้หายสาบสูญไปแล้ว
แต่ยายก็พร่ำบอกกับ Mitsuha ว่ามันต้องแฝงไว้ด้วยจุดประสงค์หรือกุศโลบายบางอย่างซึ่งสุดท้ายมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ
(โดยทั่วแล้วไปพิธีกรรมต่างๆก็คือหนึ่งในวิธีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น)