สมัยนี้ ถ้าเราจะเก็บความทรงจำในรูปแบบของภาพถ่ายไว้ คงไม่พ้นการอัพขึ้น Social Network ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram และสุดท้าย เราก็แทบจะลืมภาพเหล่านั้นไป บางทีลืมไปด้วยซ้ำ ว่าเคยถ่ายภาพนี้เอาไว้ด้วยซ้ำ วันนี้ อุ้มจะขอมา
รีวิว Instax SHARE SP-2 ที่สามารถปริ้นภาพถ่ายจากมือถือของเรา ออกมาเป็นภาพจริงๆได้ ภายใน 10 วิ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
My Memory
สิ่งสำคัญในการซื้อเจ้านีมา คงเป็นเหตุผลง่ายๆ คืออยากจะปริ้นภาพจากมือถือแบบเร็วๆ เพื่อเอาไปแปะไว้ตามบ้าน หรือใส่กรอบรูปเอาไว้ เพราะฉะนั้นตัวเลือกที่น่าสนใจของอุ้ม จะต้องเป็น Smartphone Printer ที่ปริ้นภาพได้สวยงาม มีความคมชัด และพกพาง่าย สามารถเอาไปตามบ้านเพื่อน เผื่อมีงานปาร์ตี้ ถ่ายแล้วแจกได้เลย ซึ่งเจ้า SP-2 ตอบโจทย์นี้เต็มๆ เริ่มการใช้งานง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตัวเครื่อง
มาดูที่รอบๆ ตัวเครื่องกันก่อนนะคะ ขนาดกระทัด หน้าตาดี เลยทีเดียว มีน้ำหนักเพียงแค่ 250 กรัม
- ด้านหน้าจะมีหลอดไฟ LED เล็กๆ 10 หลอด ที่จะบอกว่าฟิล์มในเครื่องเหลืออยู่กี่แผ่น
- มุมด้านบนฝั่งซ้าย จะมีปุ่มเปิดปิด ลงมาหน่อยจะเจอกับปุ่ม Re-Print และ USB Connector
- ด้านหลัง จะสามารถเลื่อนเพื่อเปิดช่องใส่ฟิล์มได้เลยค่ะ
- ด้านล่าง จะมีที่ใส่แบตเตอรี่
เราสามารถเริ่มใช้งานได้ง่ายๆ โดยแทบไม่ต้องเรียนรู้ เพียงแค่แกะฟิล์มที่แถมออกมาจากกล่อง ทำการฉีกซองฟิล์ม เปิดฝาด้านหลังของตัวเครื่อง และ ใส่ฟิล์มเข้าไป แล้วปิดฝา ตัวเครื่องจะทำการดันที่ปิดฟิล์มแผ่นแรกออกมา เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 รู้จักแอพ instax SHARE
เพื่อให้เราปริ้นรูปจากมือถือ และปรับแต่งภาพอย่างง่ายๆ แนะนำให้โหลดแอพ instax SHARE จาก AppStore หรือ Play Store ไว้เลย ตามลิ้งนี้นะคะ
IOS :
https://itunes.apple.com/th/app/instax-share/id716505912?mt=8
Android :
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.fujifilm.instaxshare&hl=th
ต้องบอกเลยว่า แอพนี้ทำอะไรได้เยอะมากกว่าที่เราคิดค่ะ แต่ต้องเชื่อมต่อกับมือถือเราก่อน โดยเปิดเจ้า SP 2 ให้เรียบร้อย แล้วเข้าไปที่ Settings > WiFi > เลือก INSTAX-AAAAAA หลังจากเชื่อมต่อแล้ว ก็กลับมาที่แอพ instax SHARE โดยสิ่งที่เราจะทำได้มีดังนี้
- ปรับแต่งภาพ และเพิ่ม Filters ต่างๆ แบบง่ายๆ ทำได้ทั้งสี Sepia / ขาวดำ
- เปลี่ยน Template ของภาพได้เยอะแยะมากมาย มีให้เลือกหลายรูปแบบค่ะ ความเก๋ที่ไม่ค่อยมีคนรู้คือ แอพนี้สามารถเอาภาพมาเรียงต่อกันได้ (Collage) สูงสุด 4 ภาพ หรือจะ Split จากภาพเดียวกลายเป็นสองภาพ ก็ทำได้ผ่านแอพนี้เช่นกันค่ะ
- กด Reprint ได้จากตัวแอพ หรือตัวเครื่องก็ได้ ข้อดีคือ สมมติมีหลายคน อยากได้ภาพเดียวกัน ก็กด Reprint เพื่อปริ้นภาพที่ปรับแต่งแล้วเหมือนกันให้เพื่อนๆได้เลย
- เลือก Real Time Template แล้วกดถ่ายภาพ จะขึ้นวันที่ เวลา สภาพอากาศขึ้นในกรอบรูปเลยทันที
- หรือจะเลือกภาพจาก Social Network ต่างๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ
หลังจากที่เราปรับแต่งภาพจนพอใจแล้ว สามารถเลือกที่คำว่า Print เพื่อปริ้นภาพได้เลยค่ะ สิ่งที่ชอบคือ ปริ้นแบบเงียบๆ ไม่ส่งเสียงดัง และปริ้นไวมากกก ประมาณ 10 วิเท่านั้นค่ะ เวลาปริ้นเสร็จ หลอด LED ที่ตัวเครื่องก็จะลดลงไป แสดงว่าเหลือจำนวนฟิล์มเท่าไหร่ สะดวกดีค่ะ
My Photo
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจาก SP-1 อย่างชัดเจนเลยสำหรับอุ้ม คงจะเป็นเรื่องคุณภาพของภาพที่ปริ้นออกมาค่ะ จากประสบการ์ณที่ผ่านมากับการเล่นกล้องที่ปริ้นรูปอัตโนมัติ จะเจอปัญหาคือรูปไม่ชัด หรือถ่ายภาพหมู่ แล้วแทบจะแยกไม่ได้ ว่าใครเป็นใคร แต่ใน SP-2 มีการพัฒนาเรื่องนี้ขึ้นมากค่ะ
ภาพถ่ายที่ถูกปริ้นออกมา จะมีความละเอียดอยู่ที่ 800 x 600 dots อยู่ที่ 320 dpi สิ่งที่จะได้ออกมาจริงๆคือ หน้าคนชัดเจน สีสันของภาพมีความสดใส เห็นรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น ส่วนตัวถือว่าดีมากๆ
My Suggestion
สำหรับคนที่กำลังอยากปริ้นภาพถ่ายจากมือถือแบบง่ายๆ ไวๆ เจ้า instax SHARE SP-2 เป็นอีก 1 ตัวที่น่าสนใจมากค่ะ สำหรับอุ้มเอง นอกจากการปริ้นภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยมือถือแล้ว ยังสามารถส่งภาพจากกล้องดิจิตอลเข้ามือถือ เพื่อปริ้นได้อีกด้วย และภาพจากกล้องดิจิตอล จะออกมาสวยงาม ดูดีเลยค่ะ
เจ้าตัวนี้สามารถชาร์จง่ายๆ ผ่านสาย Micro USB แบบธรรมดาเลยนะคะ ไม่ต้องมีตัวแปลงให้ยุ่งยากวุ่นวาย โดยในกล่อง จะมีฟิล์มแถมมาให้ด้วย 1 กล่อง จำนวน 10 แผ่น เท่าที่อุ้มลองใช้งานมา แทบไม่มีพลาดเลยนะคะ คือไม่เคยสั่งปริ้นแล้วไม่ออก หรือค้าง ให้รำคาญใจ
ใครที่สนใจ instax SHARE SP-2 วางขายอยู่ที่ราคา 6,490 บาท แถมฟิล์มอย่างที่บอกไป และมี Sticker Frame ให้ด้วยนะคะ วันนี้อุ้มก็ขอฝาก รีวิว Instax SHARE SP-2 ไว้เท่านี้ ขอบคุณมากค่า
[SR] +=+ รีวิว Instax SHARE ™ SP-2 +=+ ปริ้นภาพจากมือถือใน 10 วิ
สมัยนี้ ถ้าเราจะเก็บความทรงจำในรูปแบบของภาพถ่ายไว้ คงไม่พ้นการอัพขึ้น Social Network ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram และสุดท้าย เราก็แทบจะลืมภาพเหล่านั้นไป บางทีลืมไปด้วยซ้ำ ว่าเคยถ่ายภาพนี้เอาไว้ด้วยซ้ำ วันนี้ อุ้มจะขอมา รีวิว Instax SHARE SP-2 ที่สามารถปริ้นภาพถ่ายจากมือถือของเรา ออกมาเป็นภาพจริงๆได้ ภายใน 10 วิ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
My Memory
สิ่งสำคัญในการซื้อเจ้านีมา คงเป็นเหตุผลง่ายๆ คืออยากจะปริ้นภาพจากมือถือแบบเร็วๆ เพื่อเอาไปแปะไว้ตามบ้าน หรือใส่กรอบรูปเอาไว้ เพราะฉะนั้นตัวเลือกที่น่าสนใจของอุ้ม จะต้องเป็น Smartphone Printer ที่ปริ้นภาพได้สวยงาม มีความคมชัด และพกพาง่าย สามารถเอาไปตามบ้านเพื่อน เผื่อมีงานปาร์ตี้ ถ่ายแล้วแจกได้เลย ซึ่งเจ้า SP-2 ตอบโจทย์นี้เต็มๆ เริ่มการใช้งานง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตัวเครื่อง
มาดูที่รอบๆ ตัวเครื่องกันก่อนนะคะ ขนาดกระทัด หน้าตาดี เลยทีเดียว มีน้ำหนักเพียงแค่ 250 กรัม
- ด้านหน้าจะมีหลอดไฟ LED เล็กๆ 10 หลอด ที่จะบอกว่าฟิล์มในเครื่องเหลืออยู่กี่แผ่น
- มุมด้านบนฝั่งซ้าย จะมีปุ่มเปิดปิด ลงมาหน่อยจะเจอกับปุ่ม Re-Print และ USB Connector
- ด้านหลัง จะสามารถเลื่อนเพื่อเปิดช่องใส่ฟิล์มได้เลยค่ะ
- ด้านล่าง จะมีที่ใส่แบตเตอรี่
เราสามารถเริ่มใช้งานได้ง่ายๆ โดยแทบไม่ต้องเรียนรู้ เพียงแค่แกะฟิล์มที่แถมออกมาจากกล่อง ทำการฉีกซองฟิล์ม เปิดฝาด้านหลังของตัวเครื่อง และ ใส่ฟิล์มเข้าไป แล้วปิดฝา ตัวเครื่องจะทำการดันที่ปิดฟิล์มแผ่นแรกออกมา เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 รู้จักแอพ instax SHARE
เพื่อให้เราปริ้นรูปจากมือถือ และปรับแต่งภาพอย่างง่ายๆ แนะนำให้โหลดแอพ instax SHARE จาก AppStore หรือ Play Store ไว้เลย ตามลิ้งนี้นะคะ
IOS : https://itunes.apple.com/th/app/instax-share/id716505912?mt=8
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.fujifilm.instaxshare&hl=th
ต้องบอกเลยว่า แอพนี้ทำอะไรได้เยอะมากกว่าที่เราคิดค่ะ แต่ต้องเชื่อมต่อกับมือถือเราก่อน โดยเปิดเจ้า SP 2 ให้เรียบร้อย แล้วเข้าไปที่ Settings > WiFi > เลือก INSTAX-AAAAAA หลังจากเชื่อมต่อแล้ว ก็กลับมาที่แอพ instax SHARE โดยสิ่งที่เราจะทำได้มีดังนี้
- ปรับแต่งภาพ และเพิ่ม Filters ต่างๆ แบบง่ายๆ ทำได้ทั้งสี Sepia / ขาวดำ
- เปลี่ยน Template ของภาพได้เยอะแยะมากมาย มีให้เลือกหลายรูปแบบค่ะ ความเก๋ที่ไม่ค่อยมีคนรู้คือ แอพนี้สามารถเอาภาพมาเรียงต่อกันได้ (Collage) สูงสุด 4 ภาพ หรือจะ Split จากภาพเดียวกลายเป็นสองภาพ ก็ทำได้ผ่านแอพนี้เช่นกันค่ะ
- กด Reprint ได้จากตัวแอพ หรือตัวเครื่องก็ได้ ข้อดีคือ สมมติมีหลายคน อยากได้ภาพเดียวกัน ก็กด Reprint เพื่อปริ้นภาพที่ปรับแต่งแล้วเหมือนกันให้เพื่อนๆได้เลย
- เลือก Real Time Template แล้วกดถ่ายภาพ จะขึ้นวันที่ เวลา สภาพอากาศขึ้นในกรอบรูปเลยทันที
- หรือจะเลือกภาพจาก Social Network ต่างๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ
หลังจากที่เราปรับแต่งภาพจนพอใจแล้ว สามารถเลือกที่คำว่า Print เพื่อปริ้นภาพได้เลยค่ะ สิ่งที่ชอบคือ ปริ้นแบบเงียบๆ ไม่ส่งเสียงดัง และปริ้นไวมากกก ประมาณ 10 วิเท่านั้นค่ะ เวลาปริ้นเสร็จ หลอด LED ที่ตัวเครื่องก็จะลดลงไป แสดงว่าเหลือจำนวนฟิล์มเท่าไหร่ สะดวกดีค่ะ
My Photo
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจาก SP-1 อย่างชัดเจนเลยสำหรับอุ้ม คงจะเป็นเรื่องคุณภาพของภาพที่ปริ้นออกมาค่ะ จากประสบการ์ณที่ผ่านมากับการเล่นกล้องที่ปริ้นรูปอัตโนมัติ จะเจอปัญหาคือรูปไม่ชัด หรือถ่ายภาพหมู่ แล้วแทบจะแยกไม่ได้ ว่าใครเป็นใคร แต่ใน SP-2 มีการพัฒนาเรื่องนี้ขึ้นมากค่ะ
ภาพถ่ายที่ถูกปริ้นออกมา จะมีความละเอียดอยู่ที่ 800 x 600 dots อยู่ที่ 320 dpi สิ่งที่จะได้ออกมาจริงๆคือ หน้าคนชัดเจน สีสันของภาพมีความสดใส เห็นรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น ส่วนตัวถือว่าดีมากๆ
My Suggestion
สำหรับคนที่กำลังอยากปริ้นภาพถ่ายจากมือถือแบบง่ายๆ ไวๆ เจ้า instax SHARE SP-2 เป็นอีก 1 ตัวที่น่าสนใจมากค่ะ สำหรับอุ้มเอง นอกจากการปริ้นภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยมือถือแล้ว ยังสามารถส่งภาพจากกล้องดิจิตอลเข้ามือถือ เพื่อปริ้นได้อีกด้วย และภาพจากกล้องดิจิตอล จะออกมาสวยงาม ดูดีเลยค่ะ
เจ้าตัวนี้สามารถชาร์จง่ายๆ ผ่านสาย Micro USB แบบธรรมดาเลยนะคะ ไม่ต้องมีตัวแปลงให้ยุ่งยากวุ่นวาย โดยในกล่อง จะมีฟิล์มแถมมาให้ด้วย 1 กล่อง จำนวน 10 แผ่น เท่าที่อุ้มลองใช้งานมา แทบไม่มีพลาดเลยนะคะ คือไม่เคยสั่งปริ้นแล้วไม่ออก หรือค้าง ให้รำคาญใจ
ใครที่สนใจ instax SHARE SP-2 วางขายอยู่ที่ราคา 6,490 บาท แถมฟิล์มอย่างที่บอกไป และมี Sticker Frame ให้ด้วยนะคะ วันนี้อุ้มก็ขอฝาก รีวิว Instax SHARE SP-2 ไว้เท่านี้ ขอบคุณมากค่า