สวัสดีค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา~
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้ปริ๊นเตอร์จิ๋ว Fujifilm Instax Share SP-1 และกล้อง Fujifilm Instax Mini Neo 90 เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่สนใจนะคะ
เราไม่มีภาพแกะกล่อง หรือราคานะคะ (เราจำไม่ได้แล้วว่ามันเท่าไหร่) แต่ถ้าซื้อจากไหนอันนี้จำได้อยู่ Instax Share เราซื้อมาจาก Amazon ส่วน Neo 90 มาจาก London Drugs ค่ะ เราใช้มาเกือบสองปีแล้ว ใช้จริง เยินจริง ยังไงถ้ามองแล้วตัวอุปกรณ์มันแอบถลอกปอกเปิกก็มองข้ามๆไปนะคะ แหะๆ
พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า เริ่มที่น้องปริ๊นเตอร์จิ๋ว Fujifilm Instax Share SP-1 กันก่อนแล้วกันเนอะ
เจ้าตัวนี้จะเป็นปริ๊นเตอร์จิ๋วขนาดพกพา สามารถยัดมันใส่ไปในกระเป๋าแล้วหิ้วไปได้ทุกที่ (อันที่จริงก็ไม่ขนาดนั้น) ใช้ฟิล์มโพลารอยด์ instax mini film ของฟูจิ (ตัวเดียวกับที่ใช้ในกล้อง และฟิล์มหนึ่งม้วนจะปริ๊นออกมาได้ 10 รูปค่ะ ราคาแตกต่างกันแล้วแต่แหล่งที่ซื้อ) และใช้ถ่าน CR-2 จำนวน 2 ก้อนค่ะ ตัวเครื่องมาพร้อมไวไฟในตัว เราสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เปิดโปรแกรม instax share เลือกรูปจากคลังภาพ และปริ๊นออกมาได้เลยค่ะ (ภาพที่ปริ๊นออกมาจะสว่างกว่าภาพจริง ยังไงก็ดูแสงในภาพก่อนปริ๊นนะคะ ) โดยรวมแล้วใช้งานค่อนข้างง่าย และตั้งแต่ใช้มาก็ยังไม่เจอปัญหาอะไรนะคะ
ข้อดี
- นางสร้างความประทับใจ และทำให้คนรอบข้างของเราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา เวลาเราหยิบมันออกมาปริ๊นแล้วแบ่งให้คนข้างๆ พอเค้ารับเค้าก็ยิ้ม ตื่นเต้น ดีใจ บางคนก็แบบ ว้าวววว อะเมซิ่ง 5555 เราชอบโมเมนต์นี้ เราว่านางแชร์สมชื่อจริงๆนะ
- เราสามารถปริ๊นภาพย้อนหลังได้ บางทีมันเป็นโมเมนต์ที่เราประทับใจมากๆ แต่เราไม่ได้เอากล้องโพลารอยด์ออกไป เราก็สามารถใช้โทรศัพท์ หรือกล้องถ่ายไว้ แล้วปริ๊นออกมาเก็บไว้ได้
- เราแต่งรูปก่อนปริ๊นได้ เลือกรูปได้
ข้อเสีย
- มันไม่ได้ลุ้นว่าภาพจะออกมายังไง เหมือนมันขาดเสน่ห์ความเป็นกล้องฟิล์ม
เวลาเปิดเครื่องจะมีไฟสีเขียวขึ้นมา เราสามารถดูประมาณถ่ายที่เหลือ และจำนวนรูปภาพที่เหลือได้จากจำนวนไฟค่ะ (ตอนนี้ปิดไว้ก่อน)
ด้านข้างจะมีปุ่ม reprint เราสามารถกดปุ่มนี้ได้เลยถ้าจะปริ๊นรูปภาพที่พึ่งปริ๊นไปล่าสุดอีกครั้ง และถัดมาเป็นที่เสียบสายชาร์ตค่ะ
มาด้านนี้เราจะช่องใส่ถ่าน และข้อมูลเครื่องนิดหน่อย
CR-2
อีกด้านเป็นเรียบๆ ไม่มีอะไร ข้ามมาดูด้านหลังเลยเนอะ ฝั่งนี้เป็นช่องใส่ฟิล์ม และข้อปฏิบัติเบื้องต้นค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
หน้าตา application "Instax Share" และด้านใน app ค่ะ
ภาพส่งท้าย ก่อนจะไปพูดคุยกับน้องนีโอ
มาต่อกันที่ Fujifilm Instax Mini Neo 90 ค่ะ
ตัวนี้หน้าตาหล่อเหลา ดูดีแบบมีอายุ ใช้ฟิล์มโพลารอยด์ instax mini film (เช่นเคย) และ แบตเตอรี่ ที่ทางฟูจิโฆษณาว่าใช้ถ่ายกับฟิล์มได้ถึงสิบม้วนโดยที่ไม่ต้องชาร์ต (เราว่ามันถ่ายได้เกินสิบม้วนอีก!) มีโหมดให้เลือกสรรแต่ที่เราโปรดปรานคือ double exposure ที่เราถ่ายเสียไปเยอะมาก 555
ข้อดี
- มีโหลดให้เลือกตามการใช้งาน ทั้งปาร์ตี้ ภาพเคลื่อนไหว วิว ภาพซ้อน และ bulb มีค่าชดเชยแสงให้เลือก มีโหมดมาโคร และตั้งเวลาถ่ายภาพ
- หน้าตาอันสวยงาม น่ารัก
- ปุ่มชัตเตอร์สองที่ ทั้งด้านบนและด้านหน้ากล้องเพื่อใช้ถ่ายภาพแนวตั้งและแนวนอน (เราชอบมโนว่า เค้าทำปุ่มด้านหน้าของตัวเครื่องมาให้ใช้เป็นกระจกเวลาเซลฟี่ด้วย)
- แบตเตอรี่ที่มีความทนทานมากกก
- ได้ฟิลลิ่งการถ่ายภาพแบบโพลารอยด์ ได้ลุ้นว่าภาพจะออกมาเป็นยังไง
ข้อเสีย
ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนนะคะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูล หรือตัดสินใจจะซื้อนะคะ
[CR] Review Fujifilm Instax Share SP-1 VS Instax Mini Neo 90
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้ปริ๊นเตอร์จิ๋ว Fujifilm Instax Share SP-1 และกล้อง Fujifilm Instax Mini Neo 90 เอาไว้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่สนใจนะคะ
เราไม่มีภาพแกะกล่อง หรือราคานะคะ (เราจำไม่ได้แล้วว่ามันเท่าไหร่) แต่ถ้าซื้อจากไหนอันนี้จำได้อยู่ Instax Share เราซื้อมาจาก Amazon ส่วน Neo 90 มาจาก London Drugs ค่ะ เราใช้มาเกือบสองปีแล้ว ใช้จริง เยินจริง ยังไงถ้ามองแล้วตัวอุปกรณ์มันแอบถลอกปอกเปิกก็มองข้ามๆไปนะคะ แหะๆ
พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า เริ่มที่น้องปริ๊นเตอร์จิ๋ว Fujifilm Instax Share SP-1 กันก่อนแล้วกันเนอะ
เจ้าตัวนี้จะเป็นปริ๊นเตอร์จิ๋วขนาดพกพา สามารถยัดมันใส่ไปในกระเป๋าแล้วหิ้วไปได้ทุกที่ (อันที่จริงก็ไม่ขนาดนั้น) ใช้ฟิล์มโพลารอยด์ instax mini film ของฟูจิ (ตัวเดียวกับที่ใช้ในกล้อง และฟิล์มหนึ่งม้วนจะปริ๊นออกมาได้ 10 รูปค่ะ ราคาแตกต่างกันแล้วแต่แหล่งที่ซื้อ) และใช้ถ่าน CR-2 จำนวน 2 ก้อนค่ะ ตัวเครื่องมาพร้อมไวไฟในตัว เราสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เปิดโปรแกรม instax share เลือกรูปจากคลังภาพ และปริ๊นออกมาได้เลยค่ะ (ภาพที่ปริ๊นออกมาจะสว่างกว่าภาพจริง ยังไงก็ดูแสงในภาพก่อนปริ๊นนะคะ ) โดยรวมแล้วใช้งานค่อนข้างง่าย และตั้งแต่ใช้มาก็ยังไม่เจอปัญหาอะไรนะคะ
ข้อดี
- นางสร้างความประทับใจ และทำให้คนรอบข้างของเราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา เวลาเราหยิบมันออกมาปริ๊นแล้วแบ่งให้คนข้างๆ พอเค้ารับเค้าก็ยิ้ม ตื่นเต้น ดีใจ บางคนก็แบบ ว้าวววว อะเมซิ่ง 5555 เราชอบโมเมนต์นี้ เราว่านางแชร์สมชื่อจริงๆนะ
- เราสามารถปริ๊นภาพย้อนหลังได้ บางทีมันเป็นโมเมนต์ที่เราประทับใจมากๆ แต่เราไม่ได้เอากล้องโพลารอยด์ออกไป เราก็สามารถใช้โทรศัพท์ หรือกล้องถ่ายไว้ แล้วปริ๊นออกมาเก็บไว้ได้
- เราแต่งรูปก่อนปริ๊นได้ เลือกรูปได้
ข้อเสีย
- มันไม่ได้ลุ้นว่าภาพจะออกมายังไง เหมือนมันขาดเสน่ห์ความเป็นกล้องฟิล์ม
เวลาเปิดเครื่องจะมีไฟสีเขียวขึ้นมา เราสามารถดูประมาณถ่ายที่เหลือ และจำนวนรูปภาพที่เหลือได้จากจำนวนไฟค่ะ (ตอนนี้ปิดไว้ก่อน)
ด้านข้างจะมีปุ่ม reprint เราสามารถกดปุ่มนี้ได้เลยถ้าจะปริ๊นรูปภาพที่พึ่งปริ๊นไปล่าสุดอีกครั้ง และถัดมาเป็นที่เสียบสายชาร์ตค่ะ
มาด้านนี้เราจะช่องใส่ถ่าน และข้อมูลเครื่องนิดหน่อย
CR-2
อีกด้านเป็นเรียบๆ ไม่มีอะไร ข้ามมาดูด้านหลังเลยเนอะ ฝั่งนี้เป็นช่องใส่ฟิล์ม และข้อปฏิบัติเบื้องต้นค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
หน้าตา application "Instax Share" และด้านใน app ค่ะ
ภาพส่งท้าย ก่อนจะไปพูดคุยกับน้องนีโอ
มาต่อกันที่ Fujifilm Instax Mini Neo 90 ค่ะ
ตัวนี้หน้าตาหล่อเหลา ดูดีแบบมีอายุ ใช้ฟิล์มโพลารอยด์ instax mini film (เช่นเคย) และ แบตเตอรี่ ที่ทางฟูจิโฆษณาว่าใช้ถ่ายกับฟิล์มได้ถึงสิบม้วนโดยที่ไม่ต้องชาร์ต (เราว่ามันถ่ายได้เกินสิบม้วนอีก!) มีโหมดให้เลือกสรรแต่ที่เราโปรดปรานคือ double exposure ที่เราถ่ายเสียไปเยอะมาก 555
ข้อดี
- มีโหลดให้เลือกตามการใช้งาน ทั้งปาร์ตี้ ภาพเคลื่อนไหว วิว ภาพซ้อน และ bulb มีค่าชดเชยแสงให้เลือก มีโหมดมาโคร และตั้งเวลาถ่ายภาพ
- หน้าตาอันสวยงาม น่ารัก
- ปุ่มชัตเตอร์สองที่ ทั้งด้านบนและด้านหน้ากล้องเพื่อใช้ถ่ายภาพแนวตั้งและแนวนอน (เราชอบมโนว่า เค้าทำปุ่มด้านหน้าของตัวเครื่องมาให้ใช้เป็นกระจกเวลาเซลฟี่ด้วย)
- แบตเตอรี่ที่มีความทนทานมากกก
- ได้ฟิลลิ่งการถ่ายภาพแบบโพลารอยด์ ได้ลุ้นว่าภาพจะออกมาเป็นยังไง
ข้อเสีย
ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนนะคะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูล หรือตัดสินใจจะซื้อนะคะ