วันก่อนมีคนไข้ถูกงูกัด มาพบผมที่โรงพยาบาลครับ
งูกัดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด
การรู้ว่าจะดูแลตัวเอง รวมถึงคนรอบข้าง ยังไงหลังถูกงูกัด เป็นเรื่องน่ารู้ครับ
ผมอยากให้ทุกคนลองนึกภาพดู สมมติถ้าเราถูกงูกัดขึ้นมา เราจะทำอะไรบ้าง
.
.
.
.
1.ถ้าทำได้ พยายามเก็บงูที่กัดเรามาให้ได้ครับ
เพราะงูนั้นมีหลายชนิดมาก บางตัวไม่มีพิษ บางตัวมีพิษ
และตัวที่มีพิษ ก็ยังมีพิษหลายแบบ
การนำงูมาให้แพทย์ดู จะช่วยให้ระบุได้ว่างูนั้นเป็นประเภทไหน รักษาต่อได้ถูกทางครับ
ผมเน้นคำว่า "ถ้าทำได้" นะครับ ถ้าต้องถึงกับต้องไปไฟว้กับงูมือเปล่า เสี่ยงกับการโดนกัดอีกรอบ หรือมันหนีหายไปแล้ว ก็ยอมปล่อยมันไปเถอะครับ
2.ทำความสะอาดแผลครับ น้ำเปล่าและสบู่นี่แหละครับดีที่สุดเลย ล้างเยอะๆสัก 2-3 นาทีก็เพียงพอครับ
3.พันผ้าเหนือต่อจุดกัด ให้แน่นพอสอดนิ้วก้อยเข้าไปได้
เน้นครับ
อย่าแน่นเกินไปจนรู้สึกปวดหรือเขียว หลายครั้งแล้วที่รัดแน่นจนขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อตายได้
4.ดามไม้ ไม่ให้ส่วนที่ถูกกัดขยับมาก
ข้อ 3 และ 4 เพื่อชะลอให้พิษงูไหลเข้าระบบเลือดเราช้าลงครับ
5.รีบมาโรงพยาบาลได้เลยครับ ( พร้อมกับงู ถ้าจับได้ ) อย่านั่งสังเกตอาการด้วยตัวเองนะครับ ยกเว้นจะมั่นใจมากว่างูนั้นมันไม่มีพิษ
***ไม่ควรทำ***
การดูดพิษจากแผลด้วยปาก เหมือนในหนังจีน ไม่ควรอย่างยิ่งครับ เพราะว่าไม่ช่วยดูดพิษออกได้มากเท่าไร และเสี่ยงกับการติดเชื้อต่อกันด้วย
ห้ามเลยครับแบบนี้
ปิดท้ายด้วยเจ้างูน้อย ที่คนไข้นำมาด้วยหลังโดนกัด
เจ้าตัวนี้มีชื่อคือ งูเขียวหางไหม้ นะครับ ดูไปดูมาก็น่ารักดี ( หรอ )
หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
------------------------------------------------------------------------
กำลังทำเพจเกี่ยวกับการแพทย์ สำหรับคนทั่วไป แบบง่ายๆ เข้ามาคุยกันได้ครับ
Facebook :
https://www.facebook.com/qiniccom/
สมมติว่าเจองูกัด เราจะทำยังไงกันบ้าง
งูกัดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด
การรู้ว่าจะดูแลตัวเอง รวมถึงคนรอบข้าง ยังไงหลังถูกงูกัด เป็นเรื่องน่ารู้ครับ
ผมอยากให้ทุกคนลองนึกภาพดู สมมติถ้าเราถูกงูกัดขึ้นมา เราจะทำอะไรบ้าง
.
.
.
.
1.ถ้าทำได้ พยายามเก็บงูที่กัดเรามาให้ได้ครับ
เพราะงูนั้นมีหลายชนิดมาก บางตัวไม่มีพิษ บางตัวมีพิษ
และตัวที่มีพิษ ก็ยังมีพิษหลายแบบ
การนำงูมาให้แพทย์ดู จะช่วยให้ระบุได้ว่างูนั้นเป็นประเภทไหน รักษาต่อได้ถูกทางครับ
ผมเน้นคำว่า "ถ้าทำได้" นะครับ ถ้าต้องถึงกับต้องไปไฟว้กับงูมือเปล่า เสี่ยงกับการโดนกัดอีกรอบ หรือมันหนีหายไปแล้ว ก็ยอมปล่อยมันไปเถอะครับ
2.ทำความสะอาดแผลครับ น้ำเปล่าและสบู่นี่แหละครับดีที่สุดเลย ล้างเยอะๆสัก 2-3 นาทีก็เพียงพอครับ
3.พันผ้าเหนือต่อจุดกัด ให้แน่นพอสอดนิ้วก้อยเข้าไปได้
เน้นครับ อย่าแน่นเกินไปจนรู้สึกปวดหรือเขียว หลายครั้งแล้วที่รัดแน่นจนขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อตายได้
4.ดามไม้ ไม่ให้ส่วนที่ถูกกัดขยับมาก
ข้อ 3 และ 4 เพื่อชะลอให้พิษงูไหลเข้าระบบเลือดเราช้าลงครับ
5.รีบมาโรงพยาบาลได้เลยครับ ( พร้อมกับงู ถ้าจับได้ ) อย่านั่งสังเกตอาการด้วยตัวเองนะครับ ยกเว้นจะมั่นใจมากว่างูนั้นมันไม่มีพิษ
***ไม่ควรทำ***
การดูดพิษจากแผลด้วยปาก เหมือนในหนังจีน ไม่ควรอย่างยิ่งครับ เพราะว่าไม่ช่วยดูดพิษออกได้มากเท่าไร และเสี่ยงกับการติดเชื้อต่อกันด้วย
ห้ามเลยครับแบบนี้
ปิดท้ายด้วยเจ้างูน้อย ที่คนไข้นำมาด้วยหลังโดนกัด
เจ้าตัวนี้มีชื่อคือ งูเขียวหางไหม้ นะครับ ดูไปดูมาก็น่ารักดี ( หรอ )
หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
------------------------------------------------------------------------
กำลังทำเพจเกี่ยวกับการแพทย์ สำหรับคนทั่วไป แบบง่ายๆ เข้ามาคุยกันได้ครับ
Facebook : https://www.facebook.com/qiniccom/