ที่มา:
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1479122670
การขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบินทั่วโลก ด้านหนึ่งส่งผลต่อวิถีชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดนิยมหรือแลนด์มาร์กขาประจำของนักท่องเที่ยวระดับโลกกลายเป็น "เดสติเนชั่น" สำคัญ ที่นับวันปริมาณนักท่องเที่ยวต่างถิ่นและทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมเยียน แม้ส่วนหนึ่งจะมองในแง่การเพิ่มรายได้และมีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่เมื่อกลายสภาพเป็น "ล้นทะลัก" เกินคนท้องถิ่นจะรับไหวทำให้มีการออกมาประท้วงและแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการปฏิเสธกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่เข้ามา
กรณีนี้เกิดขึ้นที่เมืองดังในอิตาลี "เวนิส" เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี และรู้จักในฉายาราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก และเมืองแห่งสายน้ำ
ปัญหาของเมืองเวนิสเวลานี้คือ ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นดั้งเดิมหลายร้อยคนออกมาประท้วงจากปัญหาจำนวนประชากรในเวนิสลดลงอย่างรวดเร็ว โดยชาวเมืองเวนิสได้รวมตัวชูกระเป๋าเดินทางเรียกร้องไม่ให้คนท้องถิ่นย้ายออกไปอยู่อาศัยที่อื่น หลังนักท่องเที่ยวล้นทะลัก และความเป็นเมืองท่องเที่ยวดังที่ทำให้มีค่าครองชีพสูงขึ้นจนผู้คนท้องถิ่นส่วนหนึ่งย้ายหนี
สภาพจุดท่องเที่ยวหลายจุดในเวนิสเราสามารถเห็นป้ายประท้วงนักท่องเที่ยวกระจายไปตามจุดต่างๆ...
ทั้งนี้ชาวท้องถิ่นในเมืองเวนิสเล่าว่า การอยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวนี้ต้องประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน รวมไปถึงอพาร์ทเมนต์ให้เช่าที่กลายเป็นแหล่งพักผ่อนของนักท่องเที่ยว มีราคาพุ่งสูงขึ้นเกินไป
สภาพปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนชาวเมืองเวนิสลดจำนวนลงเหลือ 55,000 คน จากที่เคยมีประชากรราว 175,000 นับตั้งแต่ปี 1951 เป็นต้นมา
โดยช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเคยมีนักท่องเที่ยวในเวนิสมากถึง 60,000 คน
ที่ผ่านมาเคยมีการประท้วงจากคนในท้องถิ่น อาทิ ชาวเรือในท้องถิ่นที่ประท้วงเรือท่องเที่ยวที่มาเทียบท่า
อย่างไรก็ตามนายกเทศมนตรีเมืองเวนิสเคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยการจัดรถแท็กซี่ให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อลดปริมาณการสัญจรทางน้ำที่แน่นขนัด
"ชาวท้องถิ่นของเมืองเวนิสทยอยย้ายออกไปปีละประมาณหนึ่งพันคนทุกปี" แมตเตโอ เซคชี่ หัวหน้าสมาคมเวเนเชียดอทคอม ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ร่วมประท้วงกล่าว และว่า "เรากำลังจะกลายเป็นเมืองร้างในประวัติศาสตร์อย่างปอมเปอี ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวมีผู้คนมาเยี่ยมเยือนและบอกว่ามันเลิศมาก แต่ไม่มีผู้คนไม่มีความมีชีวิตจริงๆของท้องถิ่นนี้อาศัยอยู่แล้ว"
เป็นบทสรุปที่เจ็บปวดสำหรับเมืองธุรกิจท่องเที่ยวแลกกับราคาที่ต้องจ่าย...
Reuters :
http://www.reuters.com/article/us-italy-venice-protests-idUSKBN1370J0
BBC :
http://www.bbc.com/news/world-europe-37963136
ชะตากรรมชาวเมือง "เวนิส" กำลังจะเป็นเมืองร้าง อพยพออกจากเมือง หลังนักท่องเที่ยวทะลัก-ค่าครองชีพพุ่ง
การขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบินทั่วโลก ด้านหนึ่งส่งผลต่อวิถีชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดนิยมหรือแลนด์มาร์กขาประจำของนักท่องเที่ยวระดับโลกกลายเป็น "เดสติเนชั่น" สำคัญ ที่นับวันปริมาณนักท่องเที่ยวต่างถิ่นและทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมเยียน แม้ส่วนหนึ่งจะมองในแง่การเพิ่มรายได้และมีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่เมื่อกลายสภาพเป็น "ล้นทะลัก" เกินคนท้องถิ่นจะรับไหวทำให้มีการออกมาประท้วงและแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในการปฏิเสธกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่เข้ามา
กรณีนี้เกิดขึ้นที่เมืองดังในอิตาลี "เวนิส" เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี และรู้จักในฉายาราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก และเมืองแห่งสายน้ำ
ปัญหาของเมืองเวนิสเวลานี้คือ ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นดั้งเดิมหลายร้อยคนออกมาประท้วงจากปัญหาจำนวนประชากรในเวนิสลดลงอย่างรวดเร็ว โดยชาวเมืองเวนิสได้รวมตัวชูกระเป๋าเดินทางเรียกร้องไม่ให้คนท้องถิ่นย้ายออกไปอยู่อาศัยที่อื่น หลังนักท่องเที่ยวล้นทะลัก และความเป็นเมืองท่องเที่ยวดังที่ทำให้มีค่าครองชีพสูงขึ้นจนผู้คนท้องถิ่นส่วนหนึ่งย้ายหนี
สภาพจุดท่องเที่ยวหลายจุดในเวนิสเราสามารถเห็นป้ายประท้วงนักท่องเที่ยวกระจายไปตามจุดต่างๆ...
ทั้งนี้ชาวท้องถิ่นในเมืองเวนิสเล่าว่า การอยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวนี้ต้องประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน รวมไปถึงอพาร์ทเมนต์ให้เช่าที่กลายเป็นแหล่งพักผ่อนของนักท่องเที่ยว มีราคาพุ่งสูงขึ้นเกินไป
สภาพปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนชาวเมืองเวนิสลดจำนวนลงเหลือ 55,000 คน จากที่เคยมีประชากรราว 175,000 นับตั้งแต่ปี 1951 เป็นต้นมา
โดยช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเคยมีนักท่องเที่ยวในเวนิสมากถึง 60,000 คน
ที่ผ่านมาเคยมีการประท้วงจากคนในท้องถิ่น อาทิ ชาวเรือในท้องถิ่นที่ประท้วงเรือท่องเที่ยวที่มาเทียบท่า
อย่างไรก็ตามนายกเทศมนตรีเมืองเวนิสเคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยการจัดรถแท็กซี่ให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อลดปริมาณการสัญจรทางน้ำที่แน่นขนัด
"ชาวท้องถิ่นของเมืองเวนิสทยอยย้ายออกไปปีละประมาณหนึ่งพันคนทุกปี" แมตเตโอ เซคชี่ หัวหน้าสมาคมเวเนเชียดอทคอม ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ร่วมประท้วงกล่าว และว่า "เรากำลังจะกลายเป็นเมืองร้างในประวัติศาสตร์อย่างปอมเปอี ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวมีผู้คนมาเยี่ยมเยือนและบอกว่ามันเลิศมาก แต่ไม่มีผู้คนไม่มีความมีชีวิตจริงๆของท้องถิ่นนี้อาศัยอยู่แล้ว"
เป็นบทสรุปที่เจ็บปวดสำหรับเมืองธุรกิจท่องเที่ยวแลกกับราคาที่ต้องจ่าย...
Reuters : http://www.reuters.com/article/us-italy-venice-protests-idUSKBN1370J0
BBC : http://www.bbc.com/news/world-europe-37963136