[CR] {ห้ามพลาด!!!} รีวิว Your Name +(วิเคราะห์?) สปอยเละเทะ เพื่อความฟิน เหมาะสำหรับคนที่ดูแล้วและอยากดูอีก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คำเตือน:
  ใครที่ยังไม่ดูกดเซพแล้วปิดกระทู้โดยด่วนค่ะ เก็บไว้อ่านหลังดูจบนะคะ รับรองฟินกว่าอ่านแล้วไปดูแน่นอนเพราะกระทู้นี้สปอยแรงมาก ไม่ควรอ่านเป็นอย่างยิ่งถ้าหากยังไม่อยากหมดอรรถรสในการดู แนะนำให้ไปดูด่วนเลยนะคะ เดี๋ยวคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
  ส่วนคนที่ดูแล้วและยังมีข้อสงสัยอยู่ อ่านกระทู้นี้แล้วดูอีกรอบน่าจะประติดประต่อเรื่องได้ทั้งหมด และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้นนะคะ


  ขอแนะนำตัวละครที่เราจะพูดถึงก่อนนะคะ
1.ทาคิคุง พระเอกของเรื่อง

2.มิสึฮะ นางเอก

3.เทชชิ เพื่อนผู้ชายในกลุ่มของนางเอก


ปล.ยังไม่ดูอย่าเพิ่งอ่านต่อเชียววววว  เราเตือนคุณแล้วนะ
ปล.2 เราดูพากย์ญี่ปุ่นโดยไม่มีบรรยายไทย เราเลยจะพูดถึงหนังเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราจะใส่คำแปลไว้ให้ค่ะ อาจจะถูกบ้างผิดบ้างนะคะ



  เรื่องนี้จริงๆทุกอย่างเริ่มที่結び (มุสึบิ หรือ ปมด้าย ในเรื่องนี้หมายถึงเชือกถักที่ถูกผูกต่อกันยาวๆ) หมดเลย อย่างเช่นตอนที่ทาคุคุงดื่ม 口噛み酒(คุจิคามิสาเก หรือเหล้าที่เกิดจากเคี้ยวข้าวในปากให้กลายเป็นของเหลว แล้วบ่มในขวดเหล้าจนกลายเป็นเหล้าเพื่อนำไปถวายแก่เทพเจ้า) ของมิสึฮะเข้าไปแล้วเห็นเรื่องราวทั้งหมด (ที่ดื่มเข้าไปก็คือมุสึบิ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับมิสึฮะได้อีกครั้ง เพราะมิสึฮะเป็นคนทำสาเกนั้นขึ้นมา) ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดาวตกลงมาที่อิโตะโมริมาจิ แล้วเกิดเป็นทะเลสาบเมื่อ1300ปีก่อน (อันนี้ถ้าดูดีๆตอนที่มิสึฮะวางแผนกับพวกเทชชิที่จะวางระเบิด เทชชิหาประวัติเมือง แล้วบอกมิสึฮะว่าเมืองนี้เกิดจากดาวตก เทชชิเลยเชื่อเรื่องที่มิสึฮะพูด) นั่นเลยเป็นสาเหตุว่าทำไมสิ่งแรกที่ทาคิคุงเห็นหลังจากดื่มเหล้าเข้าไปแล้วคือดาวตกบนเพดานถ้ำ

  ต่อจากนั้นสิ่งที่ทาคิคุงเห็นคือหยดน้ำที่มีเงาของทะเลสาบอยู่ แต่จริงๆแล้วคือเซลล์ที่ค่อยๆแบ่งตัวออกมาเป็นหัวใจแล้วกลายเป็นมิสึฮะ จนกระทั่งถึงตอนสุดท้ายที่มิสึฮะเห็นดาวตกและเสียชีวิต นั่นคือจุดจบของมุสึบิของทั้งเมืองอิโตะโมริมาจิ และมิสึฮะนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีตอนที่ยายของมิสึฮะพูดกับทาคิคุงในร่างมิสึฮะว่า ทั้งยายแล้วก็แม่ของมิสึฮะเคยสลับกันกับใครสักคนมาก่อนแล้วเหมือนกันในตอนสาวๆอีก นั่นก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป็นมุสึบิที่ถูกเชื่อมต่อกันระหว่างตระกูลของมิสึฮะ

  เรื่องนี้เขียนพล็อตเรื่องดีมาก รวมถึงการปูพื้นเรื่องทั้งหมดเพื่อให้คนดูเข้าใจ

  เริ่มจากการอธิบายคำว่า 片割れ時(คาตะวาเรโดคิ) ที่เป็นอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดของเรื่องนี้ โดยใช้ครูเป็นตัวละครในการอธิบาย เรื่มตั้งแต่คำที่ใช้ในสมัยก่อนหรือภาษาญี่ปุ่นโบราณอย่างคำว่า 誰そ彼(ทาโซะคาเร) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคำว่า 誰そ彼時(ทาโซะกาเรโดคิ) ที่หมายถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ถ้าแปลตามคันจิก็จะหมายถึง เวลาที่จะได้เจอใครสักคน เลยทำให้คำนี้เป็นคำที่เต็มไปด้วยความเชื่อว่า ในเวลาที่ฟ้ากำลังเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืน หรือกลางคืนเป็นกลางวัน เราอาจจะได้เจอกับใครบางคนหรืออะไรสักอย่างที่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะพบเจอ

  หลังจากนั้นครูก็ค่อยๆอธิบายไปเรื่อยๆจนมีนร.ถามถึงคำที่จะใช้เป็นจุดไคลแมกซ์ของเรื่อง คือ 片割れ時 ที่เป็นภาษาถิ่นของพื้นที่ที่มิสึฮะอยู่ (มาจากคำว่า 彼は誰時/彼誰そ時 คาวาทาเรโทคิ/คาเรทะโซโทคิ) คำนี้ถ้าแปลตามตัวคันจิ จะแปลว่าช่วงเวลาที่ถูกแยกออกจากกัน นอกจากนี้ในหนังยังฉายให้เห็นตอนที่ดาวตกแยกออกจากกันอีกด้วย ความหมายของคำนี้เป็นการปูพื้นให้คนดูเข้าใจถึงความหมายของคำนี้ และจะได้ไม่งงว่าทำไมสองคนถึงได้เจอกันอีกครั้ง ทั้งๆที่มิสึฮะควรจะตายแล้ว และไม่ควรที่จะเจอกันได้ เพราะเวลาของการดำเนินเรื่องนั้นห่างกันถึง3ปี แต่เพราะทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกันว่า คาตะวาเรโทคิ (เป็นการบอกคนดูไปด้วยว่าตอนนี้พระอาทิตย์กำลังตกแล้วนะ พวกเราเลยเจอกันได้) ซึ่งนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองเจอกันครั้งแรกนั่นเอง
  ที่น่าชื่นชมในฉากนี้คือ การทำให้คำอธิบายของครูนั้นไม่น่าเบื่อเกินไปโดยการใส่ฉากที่เป็นการเกริ่นเริ่มต้นเรื่อง เพื่อให้ตัวละครเริ่มรู้สึกตัวว่าสลับตัวกันจริงๆ ฉากนั้นคือฉากสมุดโน้ตของมิสึฮะมีถูกเขียนว่า お前は誰だ? หรือ เธอคือใคร? นอกจากนี้ยังจบฉากนั้นด้วยการให้ครูเรียกชื่อมิสึฮะ แล้วพูดแซวว่า あら、今日自分の名前覚えてるのね หรือ อ่าว วันนี้จำชื่อตัวเองได้แล้วใช่ไหม


  ต่อมาคือคำว่า結び(มุสึบิ) โดยการเริ่มจากให้นางเอกมีหน้าที่ที่ต้องสืบทอดประเภณีของตระกูลนั่นก็คือ組紐 คุมิฮิโมะ ฟรือ เชือกทอต่างๆ ซึ่งก็ตรงตัวคือ 結ぶ(เชื่อม หรือผูก) เพื่อให้คนดูนึกภาพออกได้ง่ายขึ้น แล้วค่อยๆให้ยายของนางเอกอธิบายความหมายที่แท้จริงของคำนั้น สามารถใช้ได้กับทุกอย่าง หรือแม้กระทั่งเชื่อมคนทั้งสองคนเข้าหากัน อย่างเช่นความเชื่อเกี่ยวกับด้ายแดง
  นอกจากนี้ มุสึบิที่มิสึฮะให้ทาคิคุงไปยังเป็นของที่สำคัญของเรื่องนี้อีกอย่างนึง เพราะถ้าไม่มี มิสึฮะคงอาจจะไม่ได้เจอกับทาคิคุง หรือ รู้สึกถึงกัน อย่างในตอนท้ายๆที่วิ่งสวนกันแล้วได้ยินเสียงกระดิ่ง เลยรู้ว่าทั้งสองคนอยู่ตรงไหน นั่นเป็นเพราะกระดิ่งที่ติดอยู่ที่มุสึบิของทั้งสองคน ถ้าใครที่กำลังจะดูอีกรอบ ลองสักเหตดีๆนะคะ ตอนที่วิ่งสวนกันจะมีเชือกปรากฎขึ้นมา เหมือนผูกกันไว้อยู่ แค่แวบเดียวจริงๆค่ะ


  นอกจากการดำเนินเรื่องที่คาดเดาได้ยากแล้ว ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือลายเส้น การใช้แสง การลงสี เรียกได้ว่าเพอร์เฟคมากๆ ถ้าได้ดูคลิปที่สัมภาษณ์คนวาดเรื่องนี้ จะรู้เลยว่าคนสร้างทุ่มทั้งแรงกายแรงใจมากๆ กับการสร้างเรื่องนี้ เพราะเค้าคิดว่า เมื่อไหร่ที่เค้ารู้สึกเหนื่อย ก็อยากจะดูหนังที่นอกจากสนุกแล้ว ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับกำลังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆด้วยตนเอง ทำให้เค้าตั้งใจสร้างมากเป็นพิเศษ โดยถ้าสังเกตดีๆ ฉากส่วนใหญ่ในเรื่องนี้จะอยู่ตามที่ที่เแ็นป่า เป็นเขา หรือที่ที่มีธรรมชาติเยอะกว่าฉากในเมือง
  นอกจากสิ่งของและสถานที่ที่ถูกนำมาเป็นต้นแบบในเรื่องจะเหมือนจริงแล้ว แม้กระทั่งกระดาษที่ถูกแปะอยู่บนผนังห้องสมุดที่ทาคิคุงใช้ในเป็นที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอิโตะโมริมาจิที่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยแต่ก็ถูกวาดออกมาโดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรแม้แต่นิดเดียว ยังมีอีกหลายอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี หากทุกคนสังเกตกัน ตอนที่ทาคิคุงและเพื่อนๆ ขึ้นรถไฟจากนาโกย่าไปยัง สถานีฮิดะฟุรุคาว่า บนรถไฟ ทุกๆคนจะกินมิโซะคัสสึเบนโต หรือข้าวหน้าหมูทอดราดซอสมิโซะ ที่เป็นอาหารชื่อดังของนาโกย่า หรือแม้กระทั่งตอนที่ไปตามหามิสึฮะจนเหนื่อยแล้วแวะพักกินราเมง ทุกคนยังสั่งอาหารเหมือนกัน นั่นคือทาคายาม่าราเมง ที่เป็นของขึ้นชื่อของทาคายาม่าอีกด้วย ทำให้คนดูรู้สึกว่าสถานที่เหล่านั้นจับต้องได้ จนขนาดตอนเราดู เรายังคิดว่าอิโตะโมริมีอยู่จริงๆเลยด้วยซ้ำ

  และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดีเกินคาด นอกจากหนังจะดังแล้วยังถือว่าเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยว และสถานที่ที่ตัวละครเดินทางไปอีกด้วย ยอมรับตามตรงเลยว่าเราไม่เคยรู้จะอะไรในทาคายาม่า นอกจาก Japan Alps เลย แต่พอดูเรื่องนี้จบ มันทำให้เราอยากเดินทางไปตามรอยหนังเรื่องนี้มากๆ แต่ว่าสถานที่ที่ใช้เป็นโมเดลของอิโตะโมริมาจิมีถึงสามที่ด้วยกัน ตรงที่เป็น神様の御神体 คามิซามะโนะโกะชินไต หรือศาลเจ้าจริงที่คุจิคามิสาเกถูกวางไว้ คือที่เกาะแห่งหนึ่งในจังหวัดโตเกียว ส่วนทะเลสาบนั้นอยู่ที่จังหวัดนากาโนะ แต่จังหวัดที่ทาคิคุงเดินทางไปคือจังหวัดกิฟุ สถานีฮิดะฟุรุคาว่า



  สิ่งที่เราชอบมากเป็นพิเศษในเรื่องนี้คือ จังหวะการใส่เพลงและการพูด คือดีมากกกก มากจนเราถึงขนาดโหลดตัวอย่างมาเก็บไว้ในเครื่องเลย คือแค่ตัวอย่างยังทำดีมากเลย
  ตอนที่เราชอบมากที่สุดมีอยู่ 2 ตอน
  1. ตอนที่เล่าเรื่องราวของสองคนตอนสลับกัน โดยมีเพลง前前前世เป็นแบล็คกราวน์ ทำให้รู้สึกสนุก ตื่นเต้นไปพร้อมกับตัวละคร ที่ชอบที่สุดคือบทสนทนาของสองคนระหว่างเพลง น่ารักมาก เราชอบตอนที่มิสึฮะบ่นเรื่องทาคิคุงลงงานพิเศษเยอะเกินไป แล้วทาคิคุงตอบกลับว่า เพราะเธอใช้เงินเยอะเองไง ถ้าฟังภาษาญี่ปุ่นจะรู้สึกว่าน่ารักมากๆ ทั้งน้ำเสียงและคำพูด แต่พอแปลเป็นภาษาไทยอาจจะไม่ค่อยสื่ออารมณ์ได้สักเท่าไหร่ แต่เพลงข้างหลังช่วยได้เยอะจริงๆ เป็นฉากที่ชอบมากๆฉากนึง ทำให้คนดูไม่เบื่อกับกับการเล่าเรื่อง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
  2. ฉากต่อมาคือตอนที่เพลงスパークルขึ้นมา แต่ถ้าพีคสุดก็ต้องฉากทั้งคู่ลืมชื่อกัน แล้วพยายามนึงชื่อของกันและกัน เราชอบคำพูดนั้นทั้งท่อนมาก แล้วยิ่งตอนที่มิสึฮะล้มลง แล้วมองไปที่มือ คือฟินมากกก 「好きだ」แปลเป็นภาษาไทยก็อาจจะคิดแค่ว่าชอบเอง ไม่ใช่รักนิ ฟินอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าคนที่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นและรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นบ้าง บอกเลยว่าฟินมาก เพราะประโยคเวลาท่ีเค้าขอคบกันคือ「好きです!付き合ってください!」ถ้าแปลก็คือ ชอบนะ คบกันได้ไหม เราอาจจะมโนไปเองก็ได้แต่มันเหมือนกันขอคบไปในตัว จุดที่ใช้ยืนยันได้คือ คำพูดของทาคิคุงที่พูดว่า 言おうと思ったんだ。お前は世界のどこにいても必ず会いに行くって หรือ กำลังคิดว่าจะบอกเลย ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนฉันก็จะไปพบเธอแน่ๆ มันเหมือนเป็นสัญญาของทั้งคู่ เป็นมุสึบิอีกอัน ทำให้ทั้งสองคนตามหากันมาตลอด ถึงแม้จะจำกันไม่ได้แล้วก็ตาม
  นอกจากนั้น ตอนเพลงจบ คือตอนที่ดาวตกตกลงเมือง และทุกอย่างเงียบลง พร้อมกับเสียงระเบิดตามมา การใส่เพลงและเวลาการใส่นี่ดีมากๆ ถูกจังหวะเป๊ะ ถ้าสังเกตจริงๆ เพลงน่ะจะจบตั้งนานแล้ว แต่คนสร้างเค้านำทำนองมาใส่เพิ่มเพื่อยืดเวลาเพลงออก ให้จบพอดีตอนดาวตกตกลงมายังเมือง เป็นการใส่เพลงที่เพอร์เฟคสุดๆ

  ส่วนตัวแล้ว เราชอบเพลงスパークル(sparkle) มากที่สุด เราว่าเพลงมันหวานมาก เนื้อร้องเพราะมาก คือฟังกี่รอบก็ฟิน ยิ่งเอามาใส่ช่วงตอนใกล้จบ ฟังแล้วยิ่งนึกถึงตอนนั้นๆในหนัง เพราะมาก เราชอบตรงท่อนสุดท้ายที่สุด ที่ร้องว่า 運命だとか未来とかって言葉がどれだけ手を伸ばそうと届かない場所僕ら恋する 時計の針も二人を横目に見がら進む そんな世界を二人で一生いや何章でも生き抜いていこう ท่อนนี้เพราะมาก ความหมายดีมาก มันค่อนข้างยาว ขออนุญาตข้ามคำแปลนะคะ แต่เราแปะไว้ให้แล้วนะคะ มีคนแปลไว้ให้เรียบร้อยเลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
นอกจากสองเพลงนี้แล้ว เรื่องนี้ยังมีเพลงอีกมากมายที่ใช้เป็นเพลงประกอบ แต่เพลงที่ดังๆจะมีทั้งหมด 4เพลงค่ะ

なんでもないや Nandemonaiya เพลงตอนจบ ที่ทาคิคุงเจอกับมิสึฮะค่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
และเพลง 夢灯籠 Yumetourou ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้เปิดเรื่องนั่นเองค่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้
http://ppantip.com/topic/35812374/comment1
รวมเพลง Soundtrack ทั้งหมด พร้อมคำแปลของชื่อเพลง
http://ppantip.com/topic/35812374/comment13
กฎข้อห้ามระหว่างสลับร่าง + งานประดับไฟ Your Name
http://ppantip.com/topic/35812374/comment18
ความฝัน เมื่อลืมตาตื่นขึ้น ทุกๆอย่างจะค่อยๆเลือนหายไป 1
http://ppantip.com/topic/35812374/comment29
ความฝัน เมื่อลืมตาตื่นขึ้น ทุกๆอย่างจะค่อยๆเลือนหายไป 2
http://ppantip.com/topic/35812374/comment30


ใครดูแล้วอย่าลืมมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความฟินกันน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   Your Name หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่