จะแต่งงานค่ะ แต่เบื่อคนรอบข้างมาก

ขอถามคนที่แต่งงานแล้ว เคยแต่งงาน หรือกำลังจะแต่งงานก็ได้ค่ะว่า มีวิธีรับมือกับคนรอบข้าง
ที่ชอบเจ้ากี้เจ้าการ จุ้นจ้าน วุ่นวายกับงานแต่งยังไง

คือ จขกท กำลังจะแต่งงานปลายปีหน้าค่ะ แต่เริ่มคุยกันมาตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งเรากับแฟนเตรียมทุกอย่าง
ไว้คร่าวๆ แล้วก็คุยกับโรงแรม ร้านเวดดิ้งต่างๆ ไว้แล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือและคำปรึกษาจาก
ผู้ใหญ่ และเพื่อนๆที่แต่งงานแล้วค่ะ แค่เรากับแฟนเป็นคนไม่พูด ถ้ามีคนถามก็บอกคร่าวๆ
เพราะขี้เกียจเล่า รำคาญ เดี๋ยวยาวค่ะ แต่ก็มีหลายคนมาจุ้นจ้านวุ่นวายมาก

เริ่มจากน้องที่เป็นญาติกับแฟนซึ่งแต่งงานแล้ว เจ้ากี้เจ้าการถึงขั้นบอกให้แต่งวันนั้นวันนี้ โดยไม่ได้ดูฤกษ์อะไรนะคะ
แค่อยากให้เรากะแฟนแต่งช่วงนั้น เพราะน้องเค้าเคยแต่งช่วงนั้น น้องถึงขั้นคิดสถานที่ อาหาร ชุดแต่งงาน
ช่างแต่งหน้าทุกอย่าง บอกแค่ให้เรากะแฟนมาแต่ตัว นอกนั้น น้องจะจัดการเอง เราก็แบบ เอ่อม.. นี่มันงานแต่งเรา
ไม่ใช่งานแต่งน้องนะ แต่แฟนเราก็บ้าจี้จะทำทุกอย่างตามที่เค้าบอก เราก็เลยทะเลาะกับแฟนไปรอบนึงค่ะ
แต่น้องคนเดิมก็ยังเจ้ากี้เจ้าการไม่เลิก แล้วก็คิดว่า สิ่งที่ตัวเองเลือก คือ สิ่งที่ดีที่สุด ทั้งๆที่สิ่งที่ดีกว่าของน้องเค้ายังมี  
อีกอย่างที่เรารำคาญ คือ  เพื่อนๆเจ้าสาวขอใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาวตามธีมสี ทั้งๆที่เราบอกเพื่อนแล้วว่าเกรงใจ
และธีมสี มีไว้เพื่อใช้คุมโทนจัดสถานที่ ไม่ได้จะให้แขกใส่นะ น้องญาติแฟนจะไม่เอา ก็ว่าเรา ทำหน้าตา
เหมือนตัวร้ายในละครใส่เรา

ต่อมา ก็เพื่อนสนิทเราสมัยเรียน คนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการ แต่แค่ชอบบอกให้ไปแต่งที่ๆญาติเค้าเคยแต่ง
เพราะถูก และให้แต่งตามพิธีคริสต์ ซึ่งเพื่อนเราคนนี้อยากแต่งแบบนี้ ใจเราก็อยากแต่งแบบคริสต์ แต่อะไรๆไม่เอื้ออำนวย
ส่วนสถานที่ที่เพื่อนบอก เราไม่ชอบและมันไม่มีความพร้อมหลายอย่าง เราก็พูดไปตั้งหลายรอบก็ยังมาเซ้าซี้ ก็เลยรำคาญ

ต่อมาก็เพื่อนสนิทแฟนเรา เป็นผู้หญิง มีแฟน แต่ยังไม่ได้แต่งงาน เรารำคาญคนนี้มากกว่าเพื่อนเรา แต่น้อยกว่าคนแรก
คนนี้ก็เยอะ คือ อย่างที่บอก เรากับแฟนเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว รูปแบบงาน ธีม สถานที่ อาหาร ชุด ช่างถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ
พรีเวดดิ้ง การ์ด ของชำร่วย แต่พอเจอหน้าเพื่อนแฟน ก็จะชอบบอกให้แต่งแบบนั้นสิ ทำแบบนี้สิ เลือกแบบนั้นสิ ซึ่งเรากับ
แฟนหาข้อมูลมาหมดแล้วละเอียดกว่าเค้าอีก แล้วก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ชอบที่สุดและเหมาะที่สุดในมุมของเรากับแฟนไปแล้ว
พอเค้าถาม เราตอบตามจริง ก็จะพูดนั่นนี่ไม่จบ พอเราบอกยังไม่รู้ เพื่อตัดบท ก็จะมีพูดแนะนำต่ออีก ไม่จบเหมือนกัน
แต่เรารู้สึกว่า การพูดของเค้าการพูดที่ไร้สาระ หาประโยชน์ไม่ได้มากๆ และเป็นการพูดของคนที่ไม่มีความเฉลียวฉลาด
เพราะเค้าก็ไม่รู้จริง และไม่ได้คิดถึงข้อจำกัดอื่นๆ เช่น เราบอกว่า จะจัดงานแต่งในสวนตอนเย็น ก็บอกว่า ทำไมไม่จัดเช้า
คือ จัดเช้าเลี้ยงเที่ยง แดดก็เปรี้ยงลงหัวแขกไหม แล้วก็ร้อนอีก ต่อมา บอกเรากับแฟนว่า ไม่ให้แต่งที่โรงแรม เพราะแพง
ให้แต่งร้านอาหาร คือ เรากับแฟนมีกำลังจ่ายโรงแรมที่เลือกโดยไม่เป็นหนี้เป็นสิน และที่เลือกโรงแรม เพราะเค้ามีห้องพัก
ไว้ส่งตัวบ่าวสาว แล้วก็มีแพ็คเกจอื่นๆให้ เรากับแฟนชอบแนววินเทจ ก็จะให้ทำแนวสตรีท เรากับแฟน จะเอาการ์ดแบบนี้
เพื่อนแฟนก็บอกว่า ไม่ต้องเอาแพงหรอก เค้าเอาไปก็ทิ้ง ที่เราเลือกไว้ก็ไม่แพงใบละไม่เกิน 16 บาทรวมซอง แล้วพวกของชำร่วย
ก็มาบอกให้เอาแบบนั้นสิ แบบนี้สิ คือ แบบที่เค้าพูดมาและเอามาให้ดู เรากับแฟนไปดู และปรึกษากันมาหมดแล้วว่า ไม่เอา
มันน่ารักนะ แต่เกร่อ และแขกไม่น่าจะเอาไปใช้จริง อีกอย่าง เราจะเริ่มทำธุรกิจตัวนึงด้วย เราก็จะเอาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ตัวเอง
นี่แหละมาเป็นของชำร่วย จะได้ช่วยโปรโมทแบรนด์เราด้วย เรื่อง ชุดแต่งงานก็เหมือนกัน เราไปลองมาหลายร้าน แต่เราตัวเล็ก
และแบบที่เราชอบและเหมาะกับเราในราคาที่เราจ่ายได้ไม่มี เราก็เลยต้องสั่งตัด ซึ่งเรื่องนี้แฟนเราบอกเอง เพราะแฟนเราเห็นว่า
เราใส่ไม่ได้จริงๆ แต่เพื่อนแฟนก็จะให้เราเช่าชุดอยู่นั่น และเรื่องอื่นๆอีก เล่าสามวันไม่จบ

สรุป รำคาญมาก ทุกคนเลย ตอนนี้เราทนได้ แต่ก็กลัวว่าสักวันเราจะหลุด ก็เลยอยากรู้ว่า คนอื่นๆ เจอแบบนี้กันบ้างไหมค่ะ
แล้วรับมือยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่