เรียกได้ว่าเป็นกระแสกันในวงกว้างอย่างเกินความคาดหมาย ทั้งในญี่ปุ่นที่กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดของปีนี้ และในไทยที่กลายเป็นอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่กระแสแรงผิดหูผิดตากว่าที่เคยเป็นมาไม่น้อย กับผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับชินไค มาโคโตะ ที่เคยฝากผลงานชื่อดังอย่าง 5cm/s, Garden of Words, Voice of Distant Star และอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับเรื่อง Kimi no na wa หรือ Your Name นี้ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านของทราบเรื่องราวคร่าว ๆ กันอยู่บ้างแล้ว และหลายท่านก็คงได้รับชมกันมาแล้วคงไม่ขอเอ่ยถึงมาก เพราะท่านที่ชมมาแล้วก็คงรู้ดีว่าเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้มันเชื่อมโยงทุก ๆ ปมตั้งแต่ต้นจนจบจนแทบจะเล่ารายละเอียดลงลึกโดยไม่สปอยล์ไม่ได้เลย แต่เอาเป็นว่า เรื่องมันเริ่มขึ้นจากเหตุมหัศจรรย์ที่เด็กหนุ่มเมืองกรุง และเด็กสาวในชนบท ได้บังเอิญสลับร่างกันในความฝันหลายครั้งหลายคราโดยไม่ทราบสาเหตุนั่นเองครับ
จากการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาหลายครั้ง (ตอนนี้สำหรับคนเขียน ถึงรอบที่ 6) ก็เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็ชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้ว ทั้งเรื่องราวที่สนุกครบรส งานภาพที่สวยงามตราตรึง และบทเพลงที่ไพเราะ และก็มีทั้งหลาย ๆ ท่านที่ออกความเห็นว่าค่อนข้างเฉย ๆ ไม่อิน หรือไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่กับเรื่องนี้มากเท่าที่เสียงชื่นชมกล่าวกันนัก
ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากไตร่ตรองดี ๆ มันก็มีจุดร่วมกันระหว่างเสียงทางบวก และเสียงทางลบครับ
หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับชินไคมาเป็นอย่างดี ในแง่ที่แทบจะเป็น “ลายเซ็น” ของเขาว่า เป็นการสะท้อนมุมมองความรักที่ล้วนอุดมไปอุปสรรคที่เกิดจากทั้งเวลา ระยะทาง และสถานการณ์ ไปจนถึงการพลัดพรากที่หวานอมขมกลืน ผ่านอารมณ์เรื่องที่ถูกให้คำจำกัดความว่า “ความเหงา” เป็นเอกลักษณ์เด่นที่ทำให้มีฐานแฟน ๆ มากมายทั่วโลกนั่นเอง
ทว่า Your Name กลับ “ลดทอน” สิ่งเหล่านั้นไปค่อนข้างมากพอสมควร โดยผู้กำกับชินไคได้เลือกที่จะปรับแนวทางการเล่าเรื่องเสียใหม่ ตลอดเรื่องราวของภาพยนตร์ Your Name นี้เต็มไปด้วยสีสันที่คึกคักและหลากหลาย มีทั้งอารมณ์สนุกและลุ้น ที่แม้ว่าจะไม่ได้ทิ้งกลิ่นอายเดิม ๆ ไป แต่แฟนผลงานชินไคจะสัมผัสได้ทันทีว่าเรื่องนี้มันไม่เหมือนเดิม ในขณะที่คนอีกหลาย ๆ กลุ่มก็จะรู้สึกได้ว่างานชิ้นนี้ “เข้าถึงง่ายกว่าที่คิด” ไปในเวลาเดียวกันด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น ผลงานของ Your Name ยังเลือกเอา “จุดขาย” ที่อนิเมชั่นญี่ปุ่นในช่วงหลาย ๆ ฤดูกาลที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะเป็นการผูกเรื่องแบบซ่อนปม จุดที่เรียกกันว่ามุม “ปวดตับ” หรืออารมณ์แบบอื่น ๆ ที่คออนิเมญี่ปุ่นแบบฮาร์ดคอร์นั้น แทบจะรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรใหม่ในแง่ของเค้าโครงเลย และเมื่อมันถูกหยิบมาใช้โดยผู้กำกับคนนี้ มันจึงกลายเป็นสูตรสำเร็จแบบใหม่ที่เป็นรสชาติของ ชินไค มาโคโตะ
แต่มันก็ไม่ใช่งานที่คงไว้ซึ่งความฮาร์ดคอร์ในแบบที่คาดคิดขนาดนั้นไปในเวลาเดียวกันด้วยครับ
Your Name กลายเป็นผลงานที่เจาะกลุ่มผู้ชมได้อย่างกว้างขวางกว่าแนวทางต้นตำรับของวัตถุดิบหลาย ๆ ชิ้นที่ผู้กำกับหยิบมาใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะชินไคเลือกที่จะหยิบมันมาเพียงเสี้ยวเดียว แล้วปรุงมันด้วยรสชาติที่ทุก ๆ คนลิ้มรสได้ ไม่ใช่รสเหงาที่มีเพียงผู้ชมกลุ่มหนึ่งตราตรึง หรือไม่ใช่รสปวดตับที่เหล่าฮาร์ดคอร์โหยหา ไม่นานนัก Your Name จึงกอบโกยรายได้จากผู้ชมแทบทุกกลุ่ม และเกิดการดูซ้ำอย่างมากมาย
มีหลายครั้งที่เราสงสัยกันว่า “ทำไม” อนิเมชั่นญี่ปุ่นที่เนื้อหาเข้มข้นมาก ๆ กลับไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป มันอาจจะมีการวางพล็อตที่หนักแน่นเข้มข้นรอบด้านแทบหาจุดติไม่ได้ แต่เพราะสิ่งเหล่านั้น มันเลยทำให้ผลงานยอดเยี่ยมกลายเป็นงานขั้นเทพที่คนทั่วไปไม่กล้าที่จะเข้าถึง
กลับกัน Your Name อาจจะเป็นฝ่ายที่ไขทางตันนั้นได้ดีกว่า ที่แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่งานที่มีความพิเศษจนถึงขั้นสุดยอดของการผูกปม หรือไม่ใช่หนังรักสุดแสนปวดตับจนขึ้นชื่อลือชาไปทั้งวงการ ด้วยการลดทอนความเป็นขั้นเทพที่เคยมีมาหรือทำกันมา เป็นผลงานที่ย่อยง่าย เข้าถึงได้อยากไม่เหนื่อยใจ กลายเป็นผลงานที่เคียงข้างคนหมู่มากกว่า แม้กระทั่งสายฮาร์ดคอร์หลาย ๆ กลุ่มก็พร้อมเปิดใจสนุกไปกับมันได้ จึงเป็นทิศทางที่ทำให้ Your Name กลายเป็นที่นิยมมาจนถึงจุดนี้นั่นเองครับ
จาก
https://www.facebook.com/Beautymovieworld/photos/a.193779270781640.1073741826.193708284122072/677225282437034/?type=3
[CR] Kimi no na wa (Your Name) ลดทอนความเป็นเทวดาให้น้อยลง เพิ่มพูนความเป็นคนให้มากขึ้น [AfterHypeReview]
เรียกได้ว่าเป็นกระแสกันในวงกว้างอย่างเกินความคาดหมาย ทั้งในญี่ปุ่นที่กลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดของปีนี้ และในไทยที่กลายเป็นอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่กระแสแรงผิดหูผิดตากว่าที่เคยเป็นมาไม่น้อย กับผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับชินไค มาโคโตะ ที่เคยฝากผลงานชื่อดังอย่าง 5cm/s, Garden of Words, Voice of Distant Star และอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับเรื่อง Kimi no na wa หรือ Your Name นี้ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านของทราบเรื่องราวคร่าว ๆ กันอยู่บ้างแล้ว และหลายท่านก็คงได้รับชมกันมาแล้วคงไม่ขอเอ่ยถึงมาก เพราะท่านที่ชมมาแล้วก็คงรู้ดีว่าเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้มันเชื่อมโยงทุก ๆ ปมตั้งแต่ต้นจนจบจนแทบจะเล่ารายละเอียดลงลึกโดยไม่สปอยล์ไม่ได้เลย แต่เอาเป็นว่า เรื่องมันเริ่มขึ้นจากเหตุมหัศจรรย์ที่เด็กหนุ่มเมืองกรุง และเด็กสาวในชนบท ได้บังเอิญสลับร่างกันในความฝันหลายครั้งหลายคราโดยไม่ทราบสาเหตุนั่นเองครับ
จากการรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาหลายครั้ง (ตอนนี้สำหรับคนเขียน ถึงรอบที่ 6) ก็เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็ชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้ว ทั้งเรื่องราวที่สนุกครบรส งานภาพที่สวยงามตราตรึง และบทเพลงที่ไพเราะ และก็มีทั้งหลาย ๆ ท่านที่ออกความเห็นว่าค่อนข้างเฉย ๆ ไม่อิน หรือไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่กับเรื่องนี้มากเท่าที่เสียงชื่นชมกล่าวกันนัก
ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากไตร่ตรองดี ๆ มันก็มีจุดร่วมกันระหว่างเสียงทางบวก และเสียงทางลบครับ
หลาย ๆ คนคุ้นเคยกับผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับชินไคมาเป็นอย่างดี ในแง่ที่แทบจะเป็น “ลายเซ็น” ของเขาว่า เป็นการสะท้อนมุมมองความรักที่ล้วนอุดมไปอุปสรรคที่เกิดจากทั้งเวลา ระยะทาง และสถานการณ์ ไปจนถึงการพลัดพรากที่หวานอมขมกลืน ผ่านอารมณ์เรื่องที่ถูกให้คำจำกัดความว่า “ความเหงา” เป็นเอกลักษณ์เด่นที่ทำให้มีฐานแฟน ๆ มากมายทั่วโลกนั่นเอง
ทว่า Your Name กลับ “ลดทอน” สิ่งเหล่านั้นไปค่อนข้างมากพอสมควร โดยผู้กำกับชินไคได้เลือกที่จะปรับแนวทางการเล่าเรื่องเสียใหม่ ตลอดเรื่องราวของภาพยนตร์ Your Name นี้เต็มไปด้วยสีสันที่คึกคักและหลากหลาย มีทั้งอารมณ์สนุกและลุ้น ที่แม้ว่าจะไม่ได้ทิ้งกลิ่นอายเดิม ๆ ไป แต่แฟนผลงานชินไคจะสัมผัสได้ทันทีว่าเรื่องนี้มันไม่เหมือนเดิม ในขณะที่คนอีกหลาย ๆ กลุ่มก็จะรู้สึกได้ว่างานชิ้นนี้ “เข้าถึงง่ายกว่าที่คิด” ไปในเวลาเดียวกันด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น ผลงานของ Your Name ยังเลือกเอา “จุดขาย” ที่อนิเมชั่นญี่ปุ่นในช่วงหลาย ๆ ฤดูกาลที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าจะเป็นการผูกเรื่องแบบซ่อนปม จุดที่เรียกกันว่ามุม “ปวดตับ” หรืออารมณ์แบบอื่น ๆ ที่คออนิเมญี่ปุ่นแบบฮาร์ดคอร์นั้น แทบจะรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรใหม่ในแง่ของเค้าโครงเลย และเมื่อมันถูกหยิบมาใช้โดยผู้กำกับคนนี้ มันจึงกลายเป็นสูตรสำเร็จแบบใหม่ที่เป็นรสชาติของ ชินไค มาโคโตะ
แต่มันก็ไม่ใช่งานที่คงไว้ซึ่งความฮาร์ดคอร์ในแบบที่คาดคิดขนาดนั้นไปในเวลาเดียวกันด้วยครับ
Your Name กลายเป็นผลงานที่เจาะกลุ่มผู้ชมได้อย่างกว้างขวางกว่าแนวทางต้นตำรับของวัตถุดิบหลาย ๆ ชิ้นที่ผู้กำกับหยิบมาใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะชินไคเลือกที่จะหยิบมันมาเพียงเสี้ยวเดียว แล้วปรุงมันด้วยรสชาติที่ทุก ๆ คนลิ้มรสได้ ไม่ใช่รสเหงาที่มีเพียงผู้ชมกลุ่มหนึ่งตราตรึง หรือไม่ใช่รสปวดตับที่เหล่าฮาร์ดคอร์โหยหา ไม่นานนัก Your Name จึงกอบโกยรายได้จากผู้ชมแทบทุกกลุ่ม และเกิดการดูซ้ำอย่างมากมาย
มีหลายครั้งที่เราสงสัยกันว่า “ทำไม” อนิเมชั่นญี่ปุ่นที่เนื้อหาเข้มข้นมาก ๆ กลับไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป มันอาจจะมีการวางพล็อตที่หนักแน่นเข้มข้นรอบด้านแทบหาจุดติไม่ได้ แต่เพราะสิ่งเหล่านั้น มันเลยทำให้ผลงานยอดเยี่ยมกลายเป็นงานขั้นเทพที่คนทั่วไปไม่กล้าที่จะเข้าถึง
กลับกัน Your Name อาจจะเป็นฝ่ายที่ไขทางตันนั้นได้ดีกว่า ที่แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่งานที่มีความพิเศษจนถึงขั้นสุดยอดของการผูกปม หรือไม่ใช่หนังรักสุดแสนปวดตับจนขึ้นชื่อลือชาไปทั้งวงการ ด้วยการลดทอนความเป็นขั้นเทพที่เคยมีมาหรือทำกันมา เป็นผลงานที่ย่อยง่าย เข้าถึงได้อยากไม่เหนื่อยใจ กลายเป็นผลงานที่เคียงข้างคนหมู่มากกว่า แม้กระทั่งสายฮาร์ดคอร์หลาย ๆ กลุ่มก็พร้อมเปิดใจสนุกไปกับมันได้ จึงเป็นทิศทางที่ทำให้ Your Name กลายเป็นที่นิยมมาจนถึงจุดนี้นั่นเองครับ
จาก
https://www.facebook.com/Beautymovieworld/photos/a.193779270781640.1073741826.193708284122072/677225282437034/?type=3