สวัสดีครับกระทู้นี้ตั้งมาเพื่อเตือนท่านๆทั้งที่ใช้บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดให้คำนวณดอกเบี้ยดีๆ ประสบการณ์ตรง ขออภัยถ้าพิมพ์ติดๆกันผมใช้มือถือ
เนื่องจากว่าจะไปยื่นขอสินเชื่อก้อนใหญ่ขึ้นและดอกเบี้ยที่ถูกลง ถูกตีกลับมาพร้อมคำถามจากธนาคารว่า เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้จากสถาบันอื่นหรือไม่ ในใจผมคือไม่มีแน่นอนไม่เคยผิดชำระ จ่ายมากจ่ายน้อยไม่เคยจ่ายต่ำกว่าขั้นต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นคือก่อนยื่นขอสินเชื่อผมได้ปิดบัตรเครดิตสองใบ และยกเลิกเรียบร้อยยิ่งไม่น่าทำให้มีประวัติอะไรแย่ลง
สุดท้ายเอะใจก็เลยไปขอประวัติเครดิตบูโร ไล่ดูทีละบรรทัด....แจ๊คพอต...เจอไป 1 บรรทัดของบัตรกดเงินสด 1 ใบที่ขึ้นว่าผมผิดชำระหนี้ เมื่อเดือน มิ.ย.
ถ้าใครเคยดูบูโรจะเห็นว่าประวัติชำระของบัตรเครดิตจะมีเป็นระดับต่างๆ 0,1,2,3,4 ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าบัตรกดเงินสดจะเป็น Y, N คือผิดชำระหรือจ่ายตรงเวลา ของผมเดือนนี้กลับขึ้นว่าผิดชำระ
ซวยล่ะสิเลยโทรไปที่ธนาคารเจ้าของบัตร ไล่ตามไปตามมาสรุปว่า วันที่ทำรายการมีการกดเงินสดออกจากบัตรเกือบเต็มวงเงิน และบัตรกดเงินสดจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันทำให้วันถัดๆมา มีดอกเบี้ยเกิดขึ้น และดอกเบี้ยดันไปทบกับวงเงินทำให้ยอดเกินวงเงินขึ้นมาเป็นหลักร้อยบาท เช่น วงเงิน 100,000 เดือนนั้นยอดเกินจากดอกเบี้ย 366 บาท ทำให้เป็น 100,366 ทำให้ในบูโรขึ้นว่าผมผิดนัดชำระหนี้ทันที ก็คุยกับ จนท.บูโรเค้าบอกว่าต้องเผื่อดอกเบี้ยให้วิ่งในวงเงินเพียงพอไม่อย่างนั้นจะทำให้ขึ้นว่าเราผิดชำระได้เพราะดอกเบี้ยเกินวงเงิน เช็คกับธนาคารเดือนนั้นผมจ่ายตรงเวลาปกติ และเกินขั้นต่ำอีกต่างหาก แต่เนื่องจากระบบเห็นว่าดอกเบี้ยเกินเลยส่งไปว่าผมผิดนัดชำระ ธนาคารปฏิเสธการรับผิดชอบใดๆเรื่องแก้ไขบูโรผม ก็เลยตัดสินใจปิดบัตรเป็น 0 และยกเลิกพร้อมขอหนังสือยืนยันการปิดยอดหนี้+ยกเลิกบัตร
ธนาคารเจ้าของบัตรบอกว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องขอสินเชื่อเพราะว่าคุณเป็นลูกค้าชั้นดี ดอกเบี้ยได้ต่ำกว่าดอกเบี้ยสูงสุด(แต่ไหงส่งไปว่าผมผิดชำระหนี้ -_-") จ่ายตรงเวลาทุกอย่าง บูโรไม่มีขึ้นว่าชำระล่าช้าใดๆ โดดขึ้นมาตัวเดียวเพราะเรื่องดอกเบี้ย
เลยมาแชร์ให้ฟังว่าใครใช้บัตรเกินวงเงินหรือไม่เผื่อดอกเบี้ย อาจนำมาซึ่งประวัติเสียในเครดิตบูโร ซึ่งมันก็ยังค้างคาใจผมอยู่จนถึงตอนนี้ เช่น บัตรเครดิตผมเคยใช้จ่ายในต่างประเทศ วงเงินอาจจะเกินนิดหน่อย เช่น วงเงิน 100,000 ใช้เกินเป็น 102,800 วงเงินมันก็จะติดลบ -2,800 เมื่อบิลเรียกเก็บมาเค้าก็จะรวมส่วนเกิน 2,800 บวกขั้นต่ำ 10% และดอกเบี้ย ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่การขอเพิ่มวงเงินชั่วคราวของบัตรเครดิต แต่เป็นการใช้เกินวงเงินเล็กน้อยตามที่ธนาคารจะยืดหยุ่นได้(บางใบใช้เกินได้เป็นหมื่น) ซึ่งที่ผ่านมาผมก็เคยใช้เกินและในบูโรก็ปกติ ผมก็จ่ายปกติ แต่บัตรกดเงินสด ไม่เข้าใจว่าในเมื่อเรากดเงินสดที่มีในวงเงินบัตรมาแล้ว กรณีดอกเบี้ยวิ่งเกินวงเงิน ยอดบิลถัดไปควรจะเรียกเก็บดอกเบี้ยตรงนั้นบวกขั้นต่ำไป เพื่อให้รอบบิลถัดไปกลับมาปกติเหมือนบัตรเครดิต แต่กลายเป็นว่าต้องเผื่อให้ดอกเบี้ยวิ่งเพียงพอในบัตร ถ้าเกินจะทำให้ประวัติเสีย แม้ว่าเราจะจ่ายปกติทุกอย่างตามบิลเรียกเก็บ
ตอนนี้ผมก็ไม่ได้โทษธนาคารเจ้าของบัตร 100% เพราะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเราควรกันวงเงินบางส่วนเผื่อดอกเบี้ย หรือเป็นข้ออ้างเมื่อเกิดความผิดพลาดในการคำนวณดอกเบี้ยทำให้ส่งประวัติ ลค. เสีย อาจจะเป็นผมเองที่ผิด ไม่ได้รู้มาก่อนว่าบัตรกดเงินสดต้องทำแบบนี้ ทำบัตรเพราะเซลขอร้อง ช่วยยอด ก็ทำ ดอกเบี้ยได้ต่ำกว่าปกติเพราะเราเป็นลูกหนี้ชั้นดี แต่เจอแบบนี้ก็ต้องระวังหนักๆ ใช้ปกติ จ่ายปกติ จะจ้ายเต็มหรือเกินขั้นต่ำ กลับกลายเป็นว่าประวัติบูโรเสีย ยื่นขอสินเชื่อที่ใหญ่กว่า ดีกว่าไม่ได้เพราะดอกเบี้ยเกินวงเงินมาหลักร้อย....ตึ้บ
ใครมีประสบการณ์หรือวิธีแก้ มาคุย แชร์ แนะนำกันได้นะครับ
ขอบคุณครับ
จ่ายบัตรตรงเวลาใช่ว่าจะไม่ขึ้นประวัติในบูโร
เนื่องจากว่าจะไปยื่นขอสินเชื่อก้อนใหญ่ขึ้นและดอกเบี้ยที่ถูกลง ถูกตีกลับมาพร้อมคำถามจากธนาคารว่า เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้จากสถาบันอื่นหรือไม่ ในใจผมคือไม่มีแน่นอนไม่เคยผิดชำระ จ่ายมากจ่ายน้อยไม่เคยจ่ายต่ำกว่าขั้นต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นคือก่อนยื่นขอสินเชื่อผมได้ปิดบัตรเครดิตสองใบ และยกเลิกเรียบร้อยยิ่งไม่น่าทำให้มีประวัติอะไรแย่ลง
สุดท้ายเอะใจก็เลยไปขอประวัติเครดิตบูโร ไล่ดูทีละบรรทัด....แจ๊คพอต...เจอไป 1 บรรทัดของบัตรกดเงินสด 1 ใบที่ขึ้นว่าผมผิดชำระหนี้ เมื่อเดือน มิ.ย.
ถ้าใครเคยดูบูโรจะเห็นว่าประวัติชำระของบัตรเครดิตจะมีเป็นระดับต่างๆ 0,1,2,3,4 ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าบัตรกดเงินสดจะเป็น Y, N คือผิดชำระหรือจ่ายตรงเวลา ของผมเดือนนี้กลับขึ้นว่าผิดชำระ
ซวยล่ะสิเลยโทรไปที่ธนาคารเจ้าของบัตร ไล่ตามไปตามมาสรุปว่า วันที่ทำรายการมีการกดเงินสดออกจากบัตรเกือบเต็มวงเงิน และบัตรกดเงินสดจะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันทำให้วันถัดๆมา มีดอกเบี้ยเกิดขึ้น และดอกเบี้ยดันไปทบกับวงเงินทำให้ยอดเกินวงเงินขึ้นมาเป็นหลักร้อยบาท เช่น วงเงิน 100,000 เดือนนั้นยอดเกินจากดอกเบี้ย 366 บาท ทำให้เป็น 100,366 ทำให้ในบูโรขึ้นว่าผมผิดนัดชำระหนี้ทันที ก็คุยกับ จนท.บูโรเค้าบอกว่าต้องเผื่อดอกเบี้ยให้วิ่งในวงเงินเพียงพอไม่อย่างนั้นจะทำให้ขึ้นว่าเราผิดชำระได้เพราะดอกเบี้ยเกินวงเงิน เช็คกับธนาคารเดือนนั้นผมจ่ายตรงเวลาปกติ และเกินขั้นต่ำอีกต่างหาก แต่เนื่องจากระบบเห็นว่าดอกเบี้ยเกินเลยส่งไปว่าผมผิดนัดชำระ ธนาคารปฏิเสธการรับผิดชอบใดๆเรื่องแก้ไขบูโรผม ก็เลยตัดสินใจปิดบัตรเป็น 0 และยกเลิกพร้อมขอหนังสือยืนยันการปิดยอดหนี้+ยกเลิกบัตร
ธนาคารเจ้าของบัตรบอกว่าไม่น่ามีปัญหาเรื่องขอสินเชื่อเพราะว่าคุณเป็นลูกค้าชั้นดี ดอกเบี้ยได้ต่ำกว่าดอกเบี้ยสูงสุด(แต่ไหงส่งไปว่าผมผิดชำระหนี้ -_-") จ่ายตรงเวลาทุกอย่าง บูโรไม่มีขึ้นว่าชำระล่าช้าใดๆ โดดขึ้นมาตัวเดียวเพราะเรื่องดอกเบี้ย
เลยมาแชร์ให้ฟังว่าใครใช้บัตรเกินวงเงินหรือไม่เผื่อดอกเบี้ย อาจนำมาซึ่งประวัติเสียในเครดิตบูโร ซึ่งมันก็ยังค้างคาใจผมอยู่จนถึงตอนนี้ เช่น บัตรเครดิตผมเคยใช้จ่ายในต่างประเทศ วงเงินอาจจะเกินนิดหน่อย เช่น วงเงิน 100,000 ใช้เกินเป็น 102,800 วงเงินมันก็จะติดลบ -2,800 เมื่อบิลเรียกเก็บมาเค้าก็จะรวมส่วนเกิน 2,800 บวกขั้นต่ำ 10% และดอกเบี้ย ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่การขอเพิ่มวงเงินชั่วคราวของบัตรเครดิต แต่เป็นการใช้เกินวงเงินเล็กน้อยตามที่ธนาคารจะยืดหยุ่นได้(บางใบใช้เกินได้เป็นหมื่น) ซึ่งที่ผ่านมาผมก็เคยใช้เกินและในบูโรก็ปกติ ผมก็จ่ายปกติ แต่บัตรกดเงินสด ไม่เข้าใจว่าในเมื่อเรากดเงินสดที่มีในวงเงินบัตรมาแล้ว กรณีดอกเบี้ยวิ่งเกินวงเงิน ยอดบิลถัดไปควรจะเรียกเก็บดอกเบี้ยตรงนั้นบวกขั้นต่ำไป เพื่อให้รอบบิลถัดไปกลับมาปกติเหมือนบัตรเครดิต แต่กลายเป็นว่าต้องเผื่อให้ดอกเบี้ยวิ่งเพียงพอในบัตร ถ้าเกินจะทำให้ประวัติเสีย แม้ว่าเราจะจ่ายปกติทุกอย่างตามบิลเรียกเก็บ
ตอนนี้ผมก็ไม่ได้โทษธนาคารเจ้าของบัตร 100% เพราะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเราควรกันวงเงินบางส่วนเผื่อดอกเบี้ย หรือเป็นข้ออ้างเมื่อเกิดความผิดพลาดในการคำนวณดอกเบี้ยทำให้ส่งประวัติ ลค. เสีย อาจจะเป็นผมเองที่ผิด ไม่ได้รู้มาก่อนว่าบัตรกดเงินสดต้องทำแบบนี้ ทำบัตรเพราะเซลขอร้อง ช่วยยอด ก็ทำ ดอกเบี้ยได้ต่ำกว่าปกติเพราะเราเป็นลูกหนี้ชั้นดี แต่เจอแบบนี้ก็ต้องระวังหนักๆ ใช้ปกติ จ่ายปกติ จะจ้ายเต็มหรือเกินขั้นต่ำ กลับกลายเป็นว่าประวัติบูโรเสีย ยื่นขอสินเชื่อที่ใหญ่กว่า ดีกว่าไม่ได้เพราะดอกเบี้ยเกินวงเงินมาหลักร้อย....ตึ้บ
ใครมีประสบการณ์หรือวิธีแก้ มาคุย แชร์ แนะนำกันได้นะครับ
ขอบคุณครับ