บันทึกการท่องเที่ยว ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน จังหวัด นครปฐม ที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพครับ

พอดีวันหยุดทั้งทีก็เลยอยากที่จะไปหาที่เที่ยวที่มันมีธรรมชาติกับมีสัตว์อยู่กันเยอะๆหน่อย แล้วส่วนตัว เป็นคนชอบพวกสัตว์เลื้อยคลานอย่างพวกจระเข้ครับ บวกกับว่า อยู่ในเส้นทางที่สามารถกลับบ้านได้สะดวกด้วย ก็เลยเลือก "ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน" นี่แหละครับ

การเดินทางของผมคืออาศัยการนั่งรถเมล์โดยเฉพาะเลยครับ ผมเลือกขึ้นรถเมล์จากตรงย่านราษฏร์บูรณะคือึ้นรถเมล์สาย 6 มาลงที่ป้ายหน้าวัดสุวรรณ ฝั่งตรงข้ามคลองสาน แล้วก็รอรถเมล์สาย 84 ที่ผ่านอ้อมน้อย แล้วเข้าสามพรานครับ ต่อเดียวถึงเลย รถเมล์สาย 84 จะจอดตรงหน้าโรงเรียนยอแซฟอุปถัมป์ แล้วก็ให้เราเดินอีกประมาณ 200 เมตร จะถึงที่หน้าทางเข้าฟาร์มจระเข้ด้านหน้า ที่มีลักษณะเป็นซุ้มแบบตามรูปเลยครับ



พอเราเดินผ่านซุ้มประตูทางเข้าไป เราจะเดินอยู่ในซุ้มไม้แบบนี้เลยครับ ดูแล้วสบายตาเลยทีเดียว



ค่าบัตรผ่านประตูที่นี่ก็ปรับราคาขึ้นมาแหละครับ ผมเคยมาตอนเด็กๆ แล้วจากที่เคยถามพ่อแม่คือสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่นี่คนละ 50 บาทเท่านั้นเอง (จากเมื่อตอนปี 2538) และผ่านไป 21 ปี ผมได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง ตอนนี้ ค่าบัตรผ่านประตูสำหรับผู้ใหญ่คือ 120 บาทครับ ถือว่าเป็นค่าอาหารสัตว์ในพื้นที่แหละครับ

และเมื่อเราผ่านตรงจุดที่ตรวจบัตรเข้าชม เราก็จะเจอเจ้าถิ่นที่ต้อนรับเราเป็นตัวแรกเลยก็คือ ...





เสือดลายพาดกลอนตัวหนึ่งครับ แต่ว่า มันผอมมากเลยทีเดียว เจ้าตัวนี้เค้าเอาไว้ให้ถ่ายรุปกับนักท่องเที่ยวครับ ถ่ายรุปกับเสือลายพาดกลอน ใบละร้อยเดียวครับ แต่เห็นสภาพมันแล้ว ผมบอกตรงๆว่าสงสารครับ ผอมมาก แถมเท่าที่สังเกตกรงที่อยู่ด้านหลังโซนถ่ายรูปกับเสือ มีมันอยู่ตัวเดียวโดดๆเลยครับ



พอเราผ่านเสือลลายพาดกลอนนี่มา เราก็จะเจอลานทางเดินกว้างๆที่จะสามารถเชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆของตัวฟาร์มได้ครับ และหากสังเกตทางซ้าย เราจะเห็นครอบครัวช้างอยู่หลายเชือกด้วยกันครับ ซึ่งเราสามารถซื้ออาหารป้อนให้มันกินได้เป้นกล้วยและอ้อยครับ ราคาชุดละ 20 บาท





และเมื่อเราเดินตรงขึ้นไปสักหน่อย เราก็จะเจอกับพระเอกของสถานที่อีกสายพันธุ์หนึ่งร่วมกับเหล่าช้างน้อยใหญ่ทั้งหลายครับ นั่นก็คือจระเข้นั่นเอง โดยบ่อที่เราจะได้เจอเป็นบ่อแรกนั้นเป็นจระเข้น้ำจืดครับ ซึ่งมาพักร้อนอยู่ตรงขอบตลิ่งของบ่อพอดีทีเดียว





บ่อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ่อแรกที่ผมเจอนี่จะเป็นจระเข้น้ำจืดที่มีอายุ 2-3 ปีครับ คือตัวยังไม่ใหย่มาก ยังโตได้มากกว่านี้อีก แต่เท่าที่สังเกตในบ่อ ตัวพวกพี่แกก็ไม่ใช่เล่นๆแล้วเหมือนกันนั่นแหละครับ



ถัดมาจากบ่อนี้ก็จะเป็นบ่อที่มีการเลี้ยงจระเข้น้ำเค็มครับ ซึ่งจระเข้น้ำเค็ม เป็นสายพันธุ์ของจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้ ซึ่งในบ่อ ผมเจออยู่สามตัวด้วยกันครับ และมีตัวหนึ่ง มาเกยคางอยู่ตรงขอบตลิ่ง ซึ่งเราให้อาหารได้ง่ายดายมากเลยทีเดียว อาหารจะเป็นโครงไก่ เนื้อไก่สด ถังละ 20 บาทครับ



เจ้าตัวใหญ่นี่แหละครับที่มารอกินไก่สดจากนักท่องเที่ยว คาอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนเลยทีเดียว







แปะไว้เลยครับ พอดีมีสาวสวยสองท่านข้างๆผม เค้าโยนอาหารให้มันพอดีครับ เลยถ่ายเอาไว้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




หลังจากนั้น โฆษกตรงลานแสดงช้างก็ประกาศพอดีครับว่า การแสดงโชว์รอบบ่ายสองโมงกำลังจะเริ่มขึ้นพอดี ผมก็เลยรีบตรงไปยังลานแสดงโชว์ทันทีครับ โอ้ การแสดงช้างนี่เรียกคนมาชมได้มากมายเลยทีเดียวแหละครับ



เริ่มต้นด้วยการแสดงของวิถีชีวิตของช้างกับคนไทย เช่นพวก ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ที่สามารถลากซุงหนักๆได้ ก็มีการโชว์ลากซุง คนเดินไปไหนมาไหนกับช้าง ขี่ช้างอะไรพวกนี้ครับ ก่อนจะปิดท้ายด้วย โชว์ช้างยิงจุดโทษ ช้างก็แฟนซีสุดๆครับ ใส่ผ้าคลุมที่สกรีนชื่อ + เบอร์เสื้อนักบอลดังๆ มายิงจุดโทษ แล้วมีควาญช้างที่สวมชุดผู้รักษาประตูคอยเซฟลูกบอล





ไฮไลต์สำคัญของการแสดงโชว์ช้างก็คือ การแสดงการทำศึกยุทธหัตถีครับ ซึ่ง Effect ที่ใช้ในการแสดงก็ใช้ระเบิดเอ็ฟเฟคต์ครับ ก่อนจะจบลงด้วยการใช้พระของ้าวของพระองค์ดำฟันมังกะยอชวาขาดสะพายแล่งน่ะแหละครับ ซึ่งพอแสดงเสร็จ ช้างพวกนี้ก็จะมาขอบคุณผู้ชมและเปิดให้ผู้ชมซื้ออาหารเลี้ยงและถ่ายรุปด้วยครับ









และเมื่อการแสดงช้างจบลง ก็ได้เวลาโชว์การแสดงการจับจระเข้โชว์ของทางฟาร์มพอดีครับ คนก็ล้อมดูทั้งชั้นล่างและชั้นสองของเวทีชมการแสดงเลยครับ ลานแสดงจะค่อนข้างแคบมากกว่าฟาร์มจระเข้สมุทรปราการครับ แต่ก็สนุกในระดับหนึ่งครับ

















การแสดงทุกยอ่างของฟาร์มก็คือมีสองอย่างเท่านี้ครับ นอกนั้นคือเราก็จะได้โอกาสในการเดินชมสัตว์อื่นๆเท่าที่ทางฟาร์มเขามีเลี้ยงไว้ครับ โดยจะหนักไปทางจระเข้ไวส์น้อยใหญ่ต่างๆ ที่คราวนี้ เราจะไปดูทางโซนของบ่อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ขึ้นมาหน่อยมากกว่าพวกตัวตามบ่อย่อยๆครับ





















พอเราทัวร์รอบบ่อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เราก็ยังพอจะมีสัตว์อื่นให้เราชมครับ เช่นพวกกระต่าย นก แล้วก็ งูเหลือม ลิงอะไรพวกนี้ครับ แล้วก็ ลูกสิงโตสองตัวที่เพิ่งมาอยู่ใหม่เลย จากนั้นก็จะเป็นส่วนของการแสดงพันธุ์กล้วยไม้ที่ทางฟาร์มเขาเพาะเอาไว้โชว์ครับ



โซนทางนี้จะเป็นโซนที่มีแสดงพวกหินรูปทรงแปลกๆ ก้มาแนวอุทยานหินล้านปีอะไรทำนองนั้นครับ แต่ดซนนี้มันสวยน่าถ่ายรุปแบบเป็นกลุ่มมากครับ อยู่ไม่ไกลจากสวนป่าที่มีบริการเรือจักรยานน้ำให้เราเช่าแล้วขับกันอีกด้วย







สำหรับคนที่สนใจอยากจะมาลองเที่ยวที่นี่ก็ มีรถเมล์ที่ผ่านอยู่ 2 สายคือ 84 แล้วก็ 123 นะครับ การเดินทางมาสะดวกมาก ถ้าเกิดมา 123 รถเมล์จะเข้าไปจอดในตัวฟาร์มเลยเพราะอู่รถเมล์สาย 123 ที่วิ่งจากสนามหลวง อยู่ข้างในตัวฟาร์มเลยทีเดียวครับ มาง่ายมาก ยังไงๆ วันหยุดก็ลองพาลูกหลานมาเที่ยวที่นี่กันดูครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วยครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่