เดือนนี้รีวิวหนังนอกประเทศเกาหลีอีกแล้ว วันนั้นพูดถึงหนังจีน Never Gone วันนี้เขียนรีวิวหนังแอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่กระแสดีมาก รายได้ถล่มทลายขั้นสุด แถมมาสไตล์ Love Line ใกล้เคียงกับ Never Gone อย่าง "Your Name" (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) เข้าฉายจริงในไทยเมื่อ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมากันบ้าง (
ถ้าให้พูดแบบสั้นๆนะ ... บีมีความไม่คาดคิดว่าตัวเองจะร้องไห้หนักขนาดนี้ มีความเทน้ำตาเป็นปี๊บๆให้ #YourName
ส่วนตัวแล้ว ด้วยประสบการณ์ความรักที่ไม่ได้มีความเป็น Power มากเท่าในเรื่องนี้ เผลอๆเป็นคนที่มีความรักที่ไม่ได้สวยมาตลอดจนกลายเป็นคนที่มีทัศนคติด้านความรักที่ "ติดลบ" เหมือนไม่มีแล้วก็ไม่ตาย ความรักไม่ได้สวยงามขนาดนั้น ทำให้ในใจลึกๆมีความต่อต้านกับสิ่งที่อยู่ในหนังเรื่องนี้แต่ก็ไม่โทษกันนะ เพราะสุดท้ายแล้ว ดูจบคือมีแรงบันดาลใจ เหมือนได้พลังบวกจากหนังกลับมา
สำหรับเรานี่คือหนังอีกเรื่องที่ดีที่สุดแห่งปี คือหนังดีที่เราเลือกดูแล้วรู้สึกคิดไม่ผิด ... ถึง Plot จะมีความเก่า (ส่วนตัวมองว่าพล็อตมีบาง Point ที่มีช่องโหว่ มี Gap ที่มันมีคำถามแต่ไม่รู้จะเอาคำตอบตรงไหนในบริบทของหนังมาตอบ แต่สุดท้ายก็เลือกมองผ่าน...) การเล่าเรื่องทุกประเด็นบรรยายผ่านคำพูดและลายเส้นการ์ตูนได้บาดจิตมาก ชนิดที่ว่าช่วงพีคสุดของที่สุดในเรื่องคืออีนี่น้ำตาพรั่งพรูไม่ Keep Look อะไรทั้งนั้น แล้วบับ... ปรบมือยัน Ending Credit อะ ยอมใจที่จะยืนหรือนั่งเฉยๆตอน Ending Credit แบบดุษฎีมาก (เพราะยังอินอยู่... อยู่ต่อได้ไหม ยังอิ่มเอมในหัวใจไม่หายเลย)
อีกอย่างนึงคือ ภาพเสียงศิลป์ทุกอย่างลงตัวมาก .... มีความเสมือนโลกจริง งานดีงานละเอียด ควรค่าแก่การชมเพื่อเก็บสู่กมลแห่งจิตใต้สำนึกและจิตวิญญาณ เพลงประกอบเพราะทุกเพลง และมีความหมายที่ดีมากๆทั้งนั้น อีกทั้งนอกเหนือจาก Love Line ในเรื่องนี้ มีอะไรที่แฝงอยู่ในหนังเยอะมาก แถมโลเคชั่นนั้นก็สเก็ตมาจากสถานที่จริงๆในญี่ปุ่นด้วย น่าตามรอยไปอีก~
คุณรู้รึเปล่า? ความฝันของคนเรามันก็มีทฤษฎีนะ
ความฝันเมื่อตื่น ... สิ่งที่เราจำได้มักเป็นแค่ 10% ของความฝันทั้งหมด แต่เราเชื่อว่าคนทุกคนต้องมีความฝันบางอย่างที่แลดูเหมือนของจริง เหมือนไปอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่เข้มข้นและตื่นขึ้นมาด้วยความอยากจดจำแต่มันก็กลับลืมเลือน ต่อให้เราใช้วิธีการตื่นขึ้นมาแล้วรีบหยิบสมุดข้างตัวมาจดบันทึกความฝัน แต่เราก็เก็บทุกอย่างในความฝันที่สวยงามนั้นไว้ไม่หมดอยู่ดี บีเองก็เป็นแบบนั้น ... เนื้อเรื่องมีความอิงทฤษฎีแห่งความฝันไว้ มันเป็น 1 ในศาสสตร์ Dream Analysis บางส่วนที่นำเอาวิธีการมาแล้วเอามาเล่าต่อสานเรื่องต่อจากจุดนั้นอีกที ด้วยเหตุผลรวมๆนี้จึงทำให้การดู Your Name นั้น เข้าใจหัวจิตหัวใจของตัวละครได้ดี จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเข้าจุดที่หนังสื่อได้ง่ายจนถึงกับน้ำตาพรั่งพรูขนาดนี้
คนเรา ... แค่สบตาก็รักกันได้แล้วนะ
ถ้าพวกเขามีชะตาที่ผูกกัน...
ต่อให้ห่างกี่ล้านสิบปีแสง ...
ยังไงเสีย ชะตาที่มัดคนทั้งคู่จะดึงดูดให้มาพบกัน
มันขึ้นอยู่ที่ว่าคุณนั่นแหละ...
จะเดินตามหาหรือจะถอดใจ???
ไม่รู้จะรีวิวอะไร เพราะบรรยายไม่ถูก
อินวนอยู่กับตัวเองนานมาก
แต่ที่รู้คือยอมใจในความ 10/10 นี้
ยกให้โดยศิโรราพ 😂👏🏻
ใครจะบอกว่าจบแบบหน่วง บีว่านี่แหละจบดี จบแบบมันมีความชุ่มชื่นในใจอะ เหมือนตอนลุกจากเก้าอี้ในโรงหนังแล้วเหมือนมีกลีบดอกไม้โรยข้างตัวตลอดเวลา #เว่อร์ไป
"เหนือคำเรียกชื่อที่ไม่เคยได้ล่วงรู้ คือความรักที่ตราตรึงยิ่งกว่าคำเรียกหรือการนิยามใดๆ นั่นแหละที่สำคัญ"
Nubeever
ผู้หญิงโสดคนหนึ่งที่ดู Your Name คนเดียวในวัน Single Day
2016.11.11
// me : ออกตามหาเนื้อคู่บ้าง ... แต่ไปจบที่ร้านปิ้งย่างคนเดียวตลอดเลย *อิ่มวนไปก็กลับบ้านค่ะ*
ปล. แปะรีวิวใน Private ที่ Facebook แต่รีโพสสู่ Public ในวันนี้ ซึ่งผ่านการดู 2 รอบ ยังคงร้องไห้หนักหน่วงในจังหวะเดิมๆเสมอ :')
ปล.2 มีแบบหนังสือด้วยนะ ไปล่ามาอ่านต่อ~
ปล.3 หนังเรื่องนี้เข้าฉายในญี่ปุ่นมาสักระยะ แต่ M Pictures นำเข้ามาให้คนไทยได้ดู อยากบอกจังเลยว่าดีใจด้วยค่ะ กระแสดีพี่ก็น่าจะได้ทุนคืนแล้ว 😂😂😂 จำได้เลยว่าครั้งก่อนนั้นนำคุณหนู The Handmaiden เข้ามาแล้วจังหวะไม่ดีเพราะชนกันกับรถไฟปูซาน (ไม่ดีแต่ดีเพราะหนูได้ดูหนังใน Wishlist ครบเลยในเดือนนั้น 😂)
[Mini-Review] Your Name (Japanese Movie, 2016) จากผู้หญิงโสดคนหนึ่งที่ดูหนังคนเดียวในวันคนโสด Single Day
ถ้าให้พูดแบบสั้นๆนะ ... บีมีความไม่คาดคิดว่าตัวเองจะร้องไห้หนักขนาดนี้ มีความเทน้ำตาเป็นปี๊บๆให้ #YourName
ส่วนตัวแล้ว ด้วยประสบการณ์ความรักที่ไม่ได้มีความเป็น Power มากเท่าในเรื่องนี้ เผลอๆเป็นคนที่มีความรักที่ไม่ได้สวยมาตลอดจนกลายเป็นคนที่มีทัศนคติด้านความรักที่ "ติดลบ" เหมือนไม่มีแล้วก็ไม่ตาย ความรักไม่ได้สวยงามขนาดนั้น ทำให้ในใจลึกๆมีความต่อต้านกับสิ่งที่อยู่ในหนังเรื่องนี้แต่ก็ไม่โทษกันนะ เพราะสุดท้ายแล้ว ดูจบคือมีแรงบันดาลใจ เหมือนได้พลังบวกจากหนังกลับมา
สำหรับเรานี่คือหนังอีกเรื่องที่ดีที่สุดแห่งปี คือหนังดีที่เราเลือกดูแล้วรู้สึกคิดไม่ผิด ... ถึง Plot จะมีความเก่า (ส่วนตัวมองว่าพล็อตมีบาง Point ที่มีช่องโหว่ มี Gap ที่มันมีคำถามแต่ไม่รู้จะเอาคำตอบตรงไหนในบริบทของหนังมาตอบ แต่สุดท้ายก็เลือกมองผ่าน...) การเล่าเรื่องทุกประเด็นบรรยายผ่านคำพูดและลายเส้นการ์ตูนได้บาดจิตมาก ชนิดที่ว่าช่วงพีคสุดของที่สุดในเรื่องคืออีนี่น้ำตาพรั่งพรูไม่ Keep Look อะไรทั้งนั้น แล้วบับ... ปรบมือยัน Ending Credit อะ ยอมใจที่จะยืนหรือนั่งเฉยๆตอน Ending Credit แบบดุษฎีมาก (เพราะยังอินอยู่... อยู่ต่อได้ไหม ยังอิ่มเอมในหัวใจไม่หายเลย)
อีกอย่างนึงคือ ภาพเสียงศิลป์ทุกอย่างลงตัวมาก .... มีความเสมือนโลกจริง งานดีงานละเอียด ควรค่าแก่การชมเพื่อเก็บสู่กมลแห่งจิตใต้สำนึกและจิตวิญญาณ เพลงประกอบเพราะทุกเพลง และมีความหมายที่ดีมากๆทั้งนั้น อีกทั้งนอกเหนือจาก Love Line ในเรื่องนี้ มีอะไรที่แฝงอยู่ในหนังเยอะมาก แถมโลเคชั่นนั้นก็สเก็ตมาจากสถานที่จริงๆในญี่ปุ่นด้วย น่าตามรอยไปอีก~
คุณรู้รึเปล่า? ความฝันของคนเรามันก็มีทฤษฎีนะ
ความฝันเมื่อตื่น ... สิ่งที่เราจำได้มักเป็นแค่ 10% ของความฝันทั้งหมด แต่เราเชื่อว่าคนทุกคนต้องมีความฝันบางอย่างที่แลดูเหมือนของจริง เหมือนไปอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกที่เข้มข้นและตื่นขึ้นมาด้วยความอยากจดจำแต่มันก็กลับลืมเลือน ต่อให้เราใช้วิธีการตื่นขึ้นมาแล้วรีบหยิบสมุดข้างตัวมาจดบันทึกความฝัน แต่เราก็เก็บทุกอย่างในความฝันที่สวยงามนั้นไว้ไม่หมดอยู่ดี บีเองก็เป็นแบบนั้น ... เนื้อเรื่องมีความอิงทฤษฎีแห่งความฝันไว้ มันเป็น 1 ในศาสสตร์ Dream Analysis บางส่วนที่นำเอาวิธีการมาแล้วเอามาเล่าต่อสานเรื่องต่อจากจุดนั้นอีกที ด้วยเหตุผลรวมๆนี้จึงทำให้การดู Your Name นั้น เข้าใจหัวจิตหัวใจของตัวละครได้ดี จึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเข้าจุดที่หนังสื่อได้ง่ายจนถึงกับน้ำตาพรั่งพรูขนาดนี้
คนเรา ... แค่สบตาก็รักกันได้แล้วนะ
ถ้าพวกเขามีชะตาที่ผูกกัน...
ต่อให้ห่างกี่ล้านสิบปีแสง ...
ยังไงเสีย ชะตาที่มัดคนทั้งคู่จะดึงดูดให้มาพบกัน
มันขึ้นอยู่ที่ว่าคุณนั่นแหละ...
จะเดินตามหาหรือจะถอดใจ???
ไม่รู้จะรีวิวอะไร เพราะบรรยายไม่ถูก
อินวนอยู่กับตัวเองนานมาก
แต่ที่รู้คือยอมใจในความ 10/10 นี้
ยกให้โดยศิโรราพ 😂👏🏻
ใครจะบอกว่าจบแบบหน่วง บีว่านี่แหละจบดี จบแบบมันมีความชุ่มชื่นในใจอะ เหมือนตอนลุกจากเก้าอี้ในโรงหนังแล้วเหมือนมีกลีบดอกไม้โรยข้างตัวตลอดเวลา #เว่อร์ไป
"เหนือคำเรียกชื่อที่ไม่เคยได้ล่วงรู้ คือความรักที่ตราตรึงยิ่งกว่าคำเรียกหรือการนิยามใดๆ นั่นแหละที่สำคัญ"
Nubeever
ผู้หญิงโสดคนหนึ่งที่ดู Your Name คนเดียวในวัน Single Day
2016.11.11
// me : ออกตามหาเนื้อคู่บ้าง ... แต่ไปจบที่ร้านปิ้งย่างคนเดียวตลอดเลย *อิ่มวนไปก็กลับบ้านค่ะ*
ปล. แปะรีวิวใน Private ที่ Facebook แต่รีโพสสู่ Public ในวันนี้ ซึ่งผ่านการดู 2 รอบ ยังคงร้องไห้หนักหน่วงในจังหวะเดิมๆเสมอ :')
ปล.2 มีแบบหนังสือด้วยนะ ไปล่ามาอ่านต่อ~
ปล.3 หนังเรื่องนี้เข้าฉายในญี่ปุ่นมาสักระยะ แต่ M Pictures นำเข้ามาให้คนไทยได้ดู อยากบอกจังเลยว่าดีใจด้วยค่ะ กระแสดีพี่ก็น่าจะได้ทุนคืนแล้ว 😂😂😂 จำได้เลยว่าครั้งก่อนนั้นนำคุณหนู The Handmaiden เข้ามาแล้วจังหวะไม่ดีเพราะชนกันกับรถไฟปูซาน (ไม่ดีแต่ดีเพราะหนูได้ดูหนังใน Wishlist ครบเลยในเดือนนั้น 😂)