หลังจากสะบักสะบอมกับการเดินทางเที่ยวบินดึกถึงเช้าแล้วต่อรถไฟหลายต่อกว่าจะถึงโรงแรม (อดนอนตั้งแต่อยู่บนเครื่องเนื่องจากให้พ่อลูกชายตัวดีนอนยาวเอาขาพาด นอนดิ้นตลอดเวลา พ่อเลยไม่ได้นอนเลยเพราะกลัวลูกดิ้นตกเก้าอี้ พอขึ้นรถไฟขบวนแรกให้ภรรยานอนก่อน พอขบวนสองจะนอน ลูกชายดันรักพ่อขึ้นมาซะงั้น ปีนมานั่งตักชวนดูรถไฟตลอดเวลา พ่อเลยหง่อมเลย)
บ่นพอประมาณ วันนี้ก็เตรียมพร้อมลุย Thomas Land กันเต็มที่ ออกจากโรงแรมมาที่สถานีเพื่อซื้อตั๋วรถเมล์ไปลงที่ Fuji Q High Park (ถ้าชื่อผิดขออภัยนะครับ) หรือจะซื้อเป็นตั๋วรถไฟก็ได้เช่นกันครับ
แนะนำเพิ่มเติมนะครับว่าที่สถานี Kawaguchiko ภายในสถานีจะมีคูปองลดราคาอยู่นะครับ ราคาตั๋วสำหรับเล่นทุกอย่างจะอยู่ที่ 5,900 (ผู้ใหญ่) เล่นเครื่องเล่นได้ทั้งสวน แต่ครั้งนี้ไปกันแค่ 3 คนพ่อแม่ลูกเลยซื้อแบบเฉพาะเล่นเครื่องเล่นใน Thomas Land ราคาจะอยู่ที่ 3,900 เยน เด็กจะอยู่ที่ 1,900 เยน ซึ่งตั๋วนี้ยังสามารถเล่นเครื่องเล่นในสวนใหญ่ได้บางเครื่องตามใบสีชมพู (เช่นชิงช้าสวรรค์, ม้าหมุน, ถ้วยหมุน กับเครื่องเล่นเด็กๆ อีกไม่กี่อย่าง) ซึ่งก็ถือว่าโอเคนะครับ (ตอนเห็นเครื่องเล่นผู้ใหญ่แล้วอยากให้มีบริการฝากเด็กจริงๆ พ่อแม่อยากเล่น 555) หน้าตาตั๋วจะประมาณนี้ครับ


อย่าลืมหยิบแผนที่ติดมือมาด้วยนะครับจะได้เดินถูก
เครื่องเล่นของส่วน Thomas Land ก็จะมีรถไฟเร็ว รถไฟหมุน ล่องแก่ง เฮลิคอปเตอร์หมุน (ซึ่งก็จะเป็นตัวละครในเรื่อง Thomas & Friends ที่เด็กๆ ชื่นชอบ รวมถึงมีรถไฟตัวการ์ตูนตั้งอยู่ตามทางให้ถ่ายรูปกันเพลิน ระหว่างซื้อตั๋วพนักงานก็จะอธิบายว่าฝนอาจจะตกก็จะมีเครื่องเล่นกลางแจ้งบางเครื่องที่จะหยุดบริการระหว่างฝนตก (ดูได้จากใบสีชมพูที่มีรูปร่ม) ก็โชคดีที่วันนั้นแค่ครึ้มๆ บ่ายแดดออก ดูรูปเครื่องเล่นกันได้เลยครับ



















หลังจากเล่นเครื่องเล่นกันจนเหนื่อยก็หาที่กินข้าวบริเวณสวนThomas จะมีร้านอาหารอยู่แต่จะบอกว่าอาหารรสชาตไม่ผ่านนะครับ ราคาค่อนข้างสูง พอกินเสร็จก็เสียดายเงิน เพิ่งจะรู้ว่าพอข้ามมายังสวนใหญ่แล้วจะมีศูนย์อาหารอยู่หลายจุด ร้านอาหารเล็กๆ น้อยๆ ค่อนข้างเยอะ (มี Auntie Ann ด้วยนะครับ เสียดายมาก) ที่สวนใหญ่ก็จะมีเครื่องเล่นกระจายกันอยู่ ส่วนที่เราเล่นได้ก็จะมีอยู่ไม่กี่อย่างตามที่บอกไป มาดูรูปกันดีกว่าครับ


















เนื่องจากว่าไปถึงตั้งแต่สวนเปิดแล้วก็เป็นวันธรรมดาเลยไม่ต้องไปต่อคิวเบียดเสียดแย่งชิงกับใคร ที่เล่ามาทั้งหมด ก่อนจะกลับยังพาลูกวนกลับมาเล่นเครื่องเล่นอีกอย่างละรอบก่อนกลับ ความตั้งใจแรกคือถ้าลูกชอบอีกวันจะพามาอีกรอบแต่ของน้อยกับสวนเล็กกว่าที่คิดไว้ เลยเปลี่ยนแผนว่าวันที่เหลือไปเที่ยวรอบๆ Kawaguchiko แทน
จบแล้วครับสำหรับรีวิวนี้ ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มสามารถโพสต์ถามได้นะครับ ขอบคุณมากครับ
หมายเหตุ
-ใกล้ๆ โรงแรมมีร้านอาหารอยู่ไม่กี่ร้าน แต่มี 7-11 กับ Lawson ไม่ห่างจากโรงแรมมากก็รอดตายแล้วครับ (หันหลังเข้าสถานี ทางขวาเป็นโรงแรม เดินไปทางซ้ายจะมีร้านสะดวกซื้อที่บอกครับ)
-ขากลับก็ใช้ลิงค์ที่บอก คำนวณเวลาดีๆ นะครับเผื่อตกรถ
-ที่สถานี Kawaguchiko จะซื้อตั๋วรถไฟไม่รับบัตรเครดิตนะครับ พอดีเงินสดไม่พอจะซื้อตั๋วยาวกลับ Narita เลยจ่ายแค่ไปถึง Otsuki แล้วไปซื้อตั๋วอีกรอบนึง แต่ตั๋วที่ซื้อก็ไปไม่ถึงสนามบินนะครับ ช่วงต่อรถไฟที่ Shinjuku ต้องซื้อตั๋วรถไฟอีกรอบ