สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
น้องเป็นเด็กที่เห็นแก่ตัวมากค่ะ อยากมีความสุขคนเดียวแต่ไม่อยากให้คนรอบข้างมีความสุข
การที่แม่น้องเป็น single mom แล้วต้องเลี้ยงลูกคนเดียวนี่มันเหนื่อยแล้วก็เครียดมากนะคะ
น้องยังอยู่ในวัยเรียนยังมองว่าสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่มันหนักหนาซะเหลือเกิน
แล้วแม่น้องหละ ลองนึกถึงแม่ว่าเค้าต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หนักหนาสาหัสแค่ไหน
ตอนนี้น้องยังเด็ก ยังขอเงินแม่ใช้อยู่ วันนึงถ้าน้องทำงานเลี้ยงตัวเองได้แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่แม่น้องทำมันยากเย็นแสนเข็นเหลือเกิน
และเท่าที่อ่านดูเหมือนน้องไม่มีเพื่อนเท่าไหร่ ทำไมไม่ลองปรับปรุงตัวให้น่ารักมากกว่านี้
น้องจะได้มีเพื่อนมีสังคมให้เหมาะสมตามวัย ไม่ต้องยึดติดกับแม่ เอาแม่มาเป็นเพื่อนแบบนี้
การที่แม่น้องเป็น single mom แล้วต้องเลี้ยงลูกคนเดียวนี่มันเหนื่อยแล้วก็เครียดมากนะคะ
น้องยังอยู่ในวัยเรียนยังมองว่าสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่มันหนักหนาซะเหลือเกิน
แล้วแม่น้องหละ ลองนึกถึงแม่ว่าเค้าต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หนักหนาสาหัสแค่ไหน
ตอนนี้น้องยังเด็ก ยังขอเงินแม่ใช้อยู่ วันนึงถ้าน้องทำงานเลี้ยงตัวเองได้แล้วจะรู้ว่าสิ่งที่แม่น้องทำมันยากเย็นแสนเข็นเหลือเกิน
และเท่าที่อ่านดูเหมือนน้องไม่มีเพื่อนเท่าไหร่ ทำไมไม่ลองปรับปรุงตัวให้น่ารักมากกว่านี้
น้องจะได้มีเพื่อนมีสังคมให้เหมาะสมตามวัย ไม่ต้องยึดติดกับแม่ เอาแม่มาเป็นเพื่อนแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 20
แวบแรกก็รู้สึกว่าจขกท.ดูเห็นแก่ตัวนะ
แต่พอมาอ่านจนจบและมาคิดๆดู ก็รู้สึกว่าแม่จขกท.ก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน
(เหมือนแรกๆยอม หลังๆหักดิบ ไม่ยอมไม่แคร์ลูกอีกแล้ว อันนี้ก็แสดงว่าเห็นแก่ตัวเหมือนกันนั่นแหล่ะ)
คือเท่าที่เราเคยเจอมา กรณีพวก single mom single dad เนี่ย เขาจะเห็นความสำคัญของลูกเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าจะเลือกใครมาเป็นคู่ครอง ก็จะให้ลูก approve ก่อน
เหตุผลก็เพราะรักลูก ซึ่งเราว่าทำแบบนี้ถูกนะ เพราะลูกเป็นผลผลิตจากเรา เราก็ควรจะรับผิดชอบดูแลเขาด้วย อันนี้รวมถึงจิตใจลูกด้วย
ไม่ใช่ไม่สนใจ ถึงลูกจะเกลียด แต่เรารัก เพราะงั้นเลยทิ้งขว้างลูก แบบนี้มันก็ไม่ใช่อ่ะ
ทีนี้ประเด็นจขกท. เราว่าแม่จขกท.ผิดเต็มๆ ตั้งแต่รอบแรกที่มีแฟน คือไปสัญญากับลูกว่าจะไม่มีอีก แล้วผิดสัญญาหลายต่อหลายครั้งได้ไง?? ถ้าอยากมีก็ไม่ต้องไปสัญญา และคุยกับลูกให้เข้าใจตั้งแต่แรกว่ายังไงก็จะมี ถ้าลูกไม่ยอม ไงๆก้อไม่ยอม อันนี้ชวนกันไปคุยกับจิตแพทย์ทั้งคู่น่าจะดี จะได้แก้ปัญหากันได้
ส่วนจขกท. เราว่ามีปัญหาแน่ๆ ส่วนตัวคิดว่าปัญหาน่าจะเกิดจากการเลี้ยงดูที่ผิดๆ เด็กๆคงได้รับการตามใจจนเคยชิน
ทีนี้เรื่องมันเกิดมาถึงจุดนี้แล้วจะทำยังไง?
อันดับแรก โทษตัวเองได้ แต่อย่าคิดว่าตัวเองไร้ค่าเลย แก้ไปทีละปัญหาก่อน
เรื่องเพื่อน ไม่ต้องแคร์มากก็ได้ ก็ตั้งใจเรียนไปอย่างเดียว ไว้เข้ามหาลัยค่อยแก้ตัวใหม่
เรื่องแฟน ถ้าคิดว่าแนวโน้มน่าจะต้องเลิก ก็ทำใจล่วงหน้าไว้เลย จะได้ไม่เสียใจมาก
เรื่องแม่ อันนี้ยากหน่อย แต่ควรเข้าไปคุยไปขอโทษแม่ รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่ห้ามไม่ให้มีแฟน แค่เพราะรักและหวงแม่มากไป และจะไม่ทำอีก
ประเด็นคือ ถ้าจขกท.ยังรับไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องห่างๆแม่กับแฟนไป และเลือกมหาลัยที่ห่างบ้าน จะได้ไปอยู่หอ ไม่ต้องเจอแม่ ไว้รอเวลาเราเป็นผู้ใหญ่พอ จะทำใจได้เอง
สุดท้าย ไม่ต้องสนใจสิ่งรอบข้างแล้ว สนใจแต่การเรียน ส่วนเรื่องจะเรียนเพื่อใคร? หลักๆก็เพื่อตัวเองไง ส่วนแม่ก็ต้องให้ตอบแทนที่เลี้ยงเรามาด้วยนะ
สรุป แนะนำให้แล้ว ถ้าทำไม่ได้ ก็ไปหาจิตแพทย์น่าจะดี เขาจะช่วยเปลี่ยนมุมมองความคิดเราได้นะ
แต่พอมาอ่านจนจบและมาคิดๆดู ก็รู้สึกว่าแม่จขกท.ก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน
(เหมือนแรกๆยอม หลังๆหักดิบ ไม่ยอมไม่แคร์ลูกอีกแล้ว อันนี้ก็แสดงว่าเห็นแก่ตัวเหมือนกันนั่นแหล่ะ)
คือเท่าที่เราเคยเจอมา กรณีพวก single mom single dad เนี่ย เขาจะเห็นความสำคัญของลูกเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าจะเลือกใครมาเป็นคู่ครอง ก็จะให้ลูก approve ก่อน
เหตุผลก็เพราะรักลูก ซึ่งเราว่าทำแบบนี้ถูกนะ เพราะลูกเป็นผลผลิตจากเรา เราก็ควรจะรับผิดชอบดูแลเขาด้วย อันนี้รวมถึงจิตใจลูกด้วย
ไม่ใช่ไม่สนใจ ถึงลูกจะเกลียด แต่เรารัก เพราะงั้นเลยทิ้งขว้างลูก แบบนี้มันก็ไม่ใช่อ่ะ
ทีนี้ประเด็นจขกท. เราว่าแม่จขกท.ผิดเต็มๆ ตั้งแต่รอบแรกที่มีแฟน คือไปสัญญากับลูกว่าจะไม่มีอีก แล้วผิดสัญญาหลายต่อหลายครั้งได้ไง?? ถ้าอยากมีก็ไม่ต้องไปสัญญา และคุยกับลูกให้เข้าใจตั้งแต่แรกว่ายังไงก็จะมี ถ้าลูกไม่ยอม ไงๆก้อไม่ยอม อันนี้ชวนกันไปคุยกับจิตแพทย์ทั้งคู่น่าจะดี จะได้แก้ปัญหากันได้
ส่วนจขกท. เราว่ามีปัญหาแน่ๆ ส่วนตัวคิดว่าปัญหาน่าจะเกิดจากการเลี้ยงดูที่ผิดๆ เด็กๆคงได้รับการตามใจจนเคยชิน
ทีนี้เรื่องมันเกิดมาถึงจุดนี้แล้วจะทำยังไง?
อันดับแรก โทษตัวเองได้ แต่อย่าคิดว่าตัวเองไร้ค่าเลย แก้ไปทีละปัญหาก่อน
เรื่องเพื่อน ไม่ต้องแคร์มากก็ได้ ก็ตั้งใจเรียนไปอย่างเดียว ไว้เข้ามหาลัยค่อยแก้ตัวใหม่
เรื่องแฟน ถ้าคิดว่าแนวโน้มน่าจะต้องเลิก ก็ทำใจล่วงหน้าไว้เลย จะได้ไม่เสียใจมาก
เรื่องแม่ อันนี้ยากหน่อย แต่ควรเข้าไปคุยไปขอโทษแม่ รู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่ห้ามไม่ให้มีแฟน แค่เพราะรักและหวงแม่มากไป และจะไม่ทำอีก
ประเด็นคือ ถ้าจขกท.ยังรับไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องห่างๆแม่กับแฟนไป และเลือกมหาลัยที่ห่างบ้าน จะได้ไปอยู่หอ ไม่ต้องเจอแม่ ไว้รอเวลาเราเป็นผู้ใหญ่พอ จะทำใจได้เอง
สุดท้าย ไม่ต้องสนใจสิ่งรอบข้างแล้ว สนใจแต่การเรียน ส่วนเรื่องจะเรียนเพื่อใคร? หลักๆก็เพื่อตัวเองไง ส่วนแม่ก็ต้องให้ตอบแทนที่เลี้ยงเรามาด้วยนะ
สรุป แนะนำให้แล้ว ถ้าทำไม่ได้ ก็ไปหาจิตแพทย์น่าจะดี เขาจะช่วยเปลี่ยนมุมมองความคิดเราได้นะ
แสดงความคิดเห็น
พึ่งมารู้ว่าแม่คบกับพ่อของแฟน ควรทำไงต่อดี?
คือเราคบกับแฟนมาเกือบครึ่งปี เริ่มหร่อยหลอทะเลาะหนักขึ้น ใกล้เลิกกัน ตั้งแต่คบกับแฟน เราก็ตีตัวออกห่างแม่ ไม่ใช่เพราะมีแฟนนะ ใครเป็นบ้างไหมที่ไม่ชอบให้แม่มีแฟนใหม่ คือหวงอะ แบบแม่กับเราสนิทกันมากๆๆๆๆๆๆ เราก็เคยคุยกะแม่ว่าขอไม่มีแฟนใหม่นะ แม่ก็ok แล้วแม่ก็พูดวาดฝันให้เรามากอะ คือเขาก็ดูแลเราดีนะ เป็นแม่คนเดียว จนมีวันนึงแม่มีแฟน!!!! ซึ่งเรารู้จากการไปเห็นโทรศัพท์แม่ ตอนนั้นคือทะเลาะกะแม่หนักมาก เราเป็นบ้าไปเลยอะ ร้องไห้หนักมากทุกวัน เครียดมาก จำได้ว่าบ้าแบบสุดๆ แม่ก็สงสารเรา แม่ลังเล แม่บอกว่าชีวิตนี้จะไม่ใช้ชีวิตคู่อีก แฟนแม่อยู่ ตจว แม่จะไม่เอาเขาเข้าบ้านเด็ดขาด เราไม่โอเคเเรงมาก ยิ่งเสียใจหนักตอนที่แม่ลังเลตอนที่แม่บอกจะเลือกเเฟน สุดท้ายแม่ก็นั่งรถไป ตจว เพื่อไปบอกเลิกเเฟน แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำไรกันรึป่าวนะสิ กลับมาแม่ก็สาบานต่อหน้าพระเลยว่าจะไม่มีอีก เราก็กลับมาสนิทกะแม่และรักแม่เหมือนเดิม
จนวันหนึ่ง เรามีงานหนักต้องเคลีย ดันไปเจอว่าแม่คุยกะอีกคนผ่านโทรศัพท์อีกแล้ว!!!!! อันนึ้แม่บอกคุยไม่จิงจัง หว่านเสน่ห์เล่นๆเราก็น้ำตาแตกไปสิ แต่ครั้งนี้ไม่บ้าหลายวันเหมือนครั้งแรกนะ เราชาไปเลยมั้ง มันแบบผิดหวังมาก แม่เคยเป็นฮีโร่สำหรับเรา ตอนนี้แบบ ชาไปทั้งตัว พอเคลียเสร็จ แม่เลิกคุย เราก็เริ่มตีตัวออกห่างทั้งๆที่อยากกลับไปกอดแม่มาก
จน(อีกแล้ว)เรามีแฟนละพาแม่ไปรู้จักกับพ่อแฟน ซึ่งไม่ใช่พ่อแท้ๆของแฟน!!!
แม่ของแฟนอยู่ ตปท ทำงานที่นั่นเลย เราก็มีไปเที่ยวกันกะครอบครัวแฟน คือพ่อแฟนเขารักแฟนเรามากเหมือนลูกแท้ๆเลย เขานิสัยดีนะ ตอนแรกเราก็ตะหงิดๆใจละ ว่าจะจีบแม่เราป่าว เราก็ออกตัวกะแม่เราเลยว่าเราไม่โอเคนะ หวงมาก จนตากะยายเรามาบ้านและแม่พาพ่อแฟนกะแฟนมากินข้าวบ้าน คือมุนไม่ปกติแล้วอะ พามาเจอตากะยายขนาดนี้ เราก็เคลียกะแม่ ตาเข้ามาพอดีตอนทะเลาะกัน เลยบอกว่าให้คุยกะพ่อแฟนน้อยลง เราก็บอกเลยนะเกลียดพ่อแฟนไปแล้วอะ เพราะแม่เลย
และวันนึง แฟนก็อาการหนักเลย เพราะพ่อกะแม่ของแฟนเลิกกัน!!!! เหตุเพราะแม่แฟนเป็นคนงี่เง่า สนใจแต่งานและหลายๆอย่าง แม่แฟนเลยเป็นคนบอกเลิกพ่อแฟน และจดทะเบียนสมรสกะหนุ่ม ตปท เรียบร้อย เราก็ไม่ได้คิดอะไร พยามอยู่ข้างๆแฟนตลอด
จนผ่านไปไม่นาน ด้วยความเราตีตัวออกห่างแม่ แต่ก็สังเกตุได้ว่าแม่มีคนคุย แต่เราไม่กล้าถามเพราะกลัวคำตอบ จนพวกเขาก็มาบอกว่าคบกัน อันนี้คือตกใจหนักมากเพราะไม่คิดว่าเป็นพ่อแฟน คือเราไว้ใจพวกเขาอะ เราร้องไห้ดังมากกลางห้างเลย และแม่บอกไม่เลิก ทำลายฝันที่แม่เคยวาดไว้มากอะ เขาบอกคบกันเดือนนึงแม่วางแผนจะแต่งงาน อยากมีน้องอีก โอ้ยคือเราไม่เอาน้องอะไม่เอาคนใหม่ด้วย ความสัมพันธ์มันประหลาดเกินไปแล้ว เราร้องไห้จนอ้วก4-5รอบได้ กลับบ้านมาก็กินยาไปหลายยา ทั้งแก้ไอ แก้น้ำมูก เยอะสุดก็พารา รวมกัน15เม็ดได้ เราเข้าใจนะที่แม่มีคนใหม่ รู้ว่าแม่เหงา แต่เรารับไม่ได้อะ เรานิสัยไม่ดี คืออยากหลับแบบไม่ตื่นมาเลย ตอนนั้นอยากตายสุดๆ มีแฟนคอยรั้งเราไว้ แฟนเป็นเหตุผลเดียวที่เราอยู่เลยอะ แต่แฟนยังไม่รู้เรื่องเรากิน15เม็ดนะ เราหลับไปตื่นมาตามปกติ แต่ตัวชามึนหัวไปหมด สติไม่ค่อยมี ยังนอนร้องไห้ ปวดท้องปวดหัว บังคับตัวเองไม่ค่อยได้ เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ