แต่กระทู้นี้  เป็นหลักฐานชั้นดีว่า  มาลาริน  เป็นอย่างที่ผมว่าทุกประการ

http://ppantip.com/topic/35799532




ตั้งกระทู้แบบมั่ว ๆ  ไม่รู้เรื่อง   ขาดความเข้าใจในเรื่องราว
แล้วก็เถียงตะบันแบบผิด ๆ  ตั้งแต่หัวทู้ยันท้ายทู้



ข้อมูลมี  ข้อเท็จจริงมี   สามารถสืบค้นได้  หรือหากใครที่มีความรู้ทางการเมือง สนใจการเมือง
ก็สามารถนำเสนอเรื่องราวได้อย่างถูกต้อง  สมเหตุสมผล   ตรงตามข้อเท็จจริง

ไม่ใช่มั่วแบบนี้



มาลาริน  คงลืมคิดไปว่า   ก่อนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ในปลายปี 51
ประเทศไทยมีนายกฯ จากการเลือกตั้งปี 50  ก่อนแล้ว 2 คน  คือคุณสมัคร  และคุณสมชาย

ก่อนที่คุณสมัคร  และคุณสมชาย   จะโดนศาลรัฐธรรมนูญสอย  
แล้วเกิดปรากฎการณ์ "งูเห่า" ภาคสอง   ไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
ก่อนมาทำพิธีกรรมโหวตในสภาฯ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายแบบไม่อาย

มอบกระทรวงใหญ่ ๆ ให้กลุ่ม "ยี้ห้อย"  เพื่อแลกกับการเป็น "งูเห่า"
จนเกิด "เสี่ย" หน้าใหม่ขึ้นหลายคน  เพราะงบ "ไทยเข้มแข็ง"
(เหมือนปี 40  ที่มอบโครงการคลองด่านให้กลุ่ม "งูเห่าภาคแรก" เพื่อแลกกับเสียงโหวตให้ชวนเป็นนายกฯ
  จนนำมาสู่คดีค่าโง่คลองด่านอันลือลั่น  เสียหายหลายหมื่นล้าน  ไม่มีหน้าไหนต้องรับผิดชอบสักบาทเดียว)




เรื่องตั้งรัฐบาลในค่ายทหารจริงไหม ?

เรื่องนี้  ถ้าใครถามหาหลักฐาน  แปลว่าไม่รู้เรื่องการเมืองจริง ๆ
หรือแถแบบไม่อายเท่านั้นเอง

เหตุการณ์ที่เกิด  ก็มีภาพ มีคลิปให้เห็นเต็มตา  ว่ามีนักการเมืองไปจอดรถที่ปั๊มน้ำมันหน้าค่าย
รถทหารออกมารับ  นำตัวเข้าค่ายเพื่อพูดคุยเจรจา
ข้ออ้างที่ต้องขึ้นรถทหาร  ก็คือ ถ้าไปเองจะไม่รู้เส้นทางในค่าย  อาจหลง  จึงต้องให้ทหารมารับพาไป

สมเหตุสมผลจริง ๆ
สมเหตุสมผลจนขำกร๊ากกกก....

แต่รู้กันดีว่านั่นคือการ "คอนโทรล" สถานการณ์   เพื่อไม่ให้เกิดการเบี้ยว การต่อรอง
เพราะหากเบี้ยว หรือต่อรอง  ก็อาจไม่มีโอกาสกลับออกมา

เป็นวิธีการพื้น ๆ  ในคอนโทรลเกมเท่านั้นเอง

แต่เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาที่อภิสิทธิ์ลงทุนไปกอดกับเนวิน  ว่าต้องยกระทรวงใหญ่ให้กลุ่ม "ยี้ห้อย"
เมื่อจัดตั้งรัฐบาล   กลุ่ม "ยี้ห้อย" จึงได้กระทรวงใหญ่ไปครอง

ส่วน ปชป. ก็มาวนเวียนอยู่แถวสาธารณสุข   ยุติธรรม   ศึกษาธิการ ฯลฯ
(แม้กระทรวงใหญ่ แต่โอกาสไม่เท่าคมนาคม  พาณิชย์  เกษตรฯ  มหาดไทย  ฯลฯ  ที่กลุ่มยี้ห้อยได้ไปหมด)

ถึงกระนั้น  กระทรวงศึกษาฯ ก็ยังมีความพยายามสร้างโครงการซื้อคอมพ์แจกโรงเรียนด้วยงบหลายหมื่นล้าน
ไม่นับโครงการคำเล็กคำน้อยของกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ในการกำกับของ ปชป.
จนเกิดเรื่องฉาวโฉ่  ต้องมีการเปลี่ยนตัว รมต. เพื่อลดกระแส (ทำให้กฎเหล็ก 9 ข้อ  โดนล้อว่าเป็น กฎเด็ก)

แม้ไม่ได้กระทรวงใหญ่ที่ให้โอกาส  แต่ก็มีการทำมาหากินกับน้ำตาล   น้ำมันปาล์ม  โรงพัก  แฟลตตำรวจ  ฯลฯ
ซึ่งนับว่าเป็นความสามารถพิเศษจริง ๆ



อยากได้หลักฐานเรื่องรัฐบาลจากค่อยทหาร  ให้สืบค้นคำพูดของคุณชุมพล  ศิลปอาชา
ให้สืบค้นคำพูดของ พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา     ให้สืบค้นคำพูดของท่านนายกฯลุงตู่
ที่เคยพูดถึงเหตุการณ์การจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์

ไม่อยากเอามาแปะให้ดู   กลัวมาลารินจะฉลาด และเลิกมั่ว





มาลารินเก่งในการ "ล่อเป้า"
แต่ควรมีไหวพริบที่ดีกว่านี้   อย่าหวังแค่ยอดโพสต์ที่มีคนเข้าไปถกแย้งมากเท่านั้น

ต้องมีสาระ  มีเนื้อหา  มีความสมเหตุสมผล   มีความน่าเชื่อถือ

ไม่ใช่อ้างโพลล์ที่ไร้ความน่าเชื่อถือ   ไม่ใช่อ้างคำพูดที่ไม่มีข้อเท็จจริง  ไม่ใช่อ้างแค่เรื่องที่ไม่มีรูปธรรมให้เห็น
ซึ่งไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือ หรือการยอมรับให้แก่ผู้ที่มาลารินเชียร์  

ที่สำคัญ   มาลารินต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่หยิบมาเปิดประเด็นตั้งกระทู้
ไม่ใช่ไม่รู้เรื่อง   อาศัยความมั่วเล่นลีลาไม่ยอมเงิบ แต่แถเก่งเท่านั้น




บางครั้งผมก็คิดนะ   ว่า "มาลาริน" นี่   อาจเป็น "เจ๊อ๋อย" ปลอมตัวมา
มาทำเนียน  ทำเหมือนเชียร์ใครบางคน  แต่ความจริงแล้ว  ก็คือมา "ตื๊บ" ใครบางคนต่อสาธารณะเท่านั้นเอง

เนียนจริง ๆ
เนียนจนเจ๊อ๋อยยังเนียนไม่เท่า





การเมืองในอเมริกาในขณะนี้  เป็นเรื่องของอาการ "ฝีแตก"
เป็นความขัดแย้งทางสังคม

พูดง่าย ๆ ก็คือ   มันมีขอนคุไฟอยู่มานาน  ที่เป็นข่าวบ่อย ๆ ก็เรื่องตำรวจกับคนดำ
แล้วพอทรัมพ์มาหาเสียงด้วยการราดน้ำมันและสุมขอนเข้าไปอีก

ก็ลุกโชนสิ

คนละเรื่อง  คนละทีปเลยกับการ "อุ้ม" อภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกฯ
(ความจริงควรตกเก้าอี้นายกฯตั้งแต่วันแรกแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลด้วยซ้ำ
  จากเรื่อง sms มูลค่าหลายสิบล้าน  ที่ถือว่าเป็นของกำนัลที่มีมูลค่าเกินสามพันบาท
  แต่ศาล รธน. วินิจฉัยสวยหรูว่า เป็นการขอความร่วมมือจากรัฐบาล ไม่ถือว่าเป็นของกำนัลให้อภิสิทธิ์  ทั้งที่ตอนนั้น รัฐบาลยังไม่มี)




เมื่อยบ่ะ
จบดีกั่ว