สำภาษณ์งานในเยอรมัน.....บ่นไปตามเรื่อง เมื่อมีเวลา

กำลังคิดอยู่ว่าจะเขียนดีหรือไม่ดี แต่ก็เอาเถอะ เขียนดีกว่า อย่างน้อยๆก็เอาไว้บอกตัวเองว่าและคนรอบข้างว่า สิ่งแปลกๆเกิดขึ้นได้ทุกที่ และอาจจะได้มุมมองอะไรใหม่ๆมาไม่มากก็น้อย

เรื่องมีอยู่ว่า สมัครงานตำแหน่ง professor ไว้ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเยอรมันไว้นานแล้ว นานขนาดไหนหน่ะเหรอ ไม่มากไม่มาย 1 ปีเต็มๆ จนลืมไปแล้วว่าสมัคร โดยปกติก็จำรู้ผลว่าจะเรียกสำภาษณ์หรือไม่เรียกภายใน 1 เดือน หลังจากที่ตำแหน่งปิดลง ผ่านไป 1 เดือนกว่าๆก็อีเมล์ไปถาม ได้ความว่า คณะกรรมการสรรหานั้น มี 1 คนที่เอนเอียงไปทางผู้สมัครคนหนึ่ง จึงต้องมีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการท่านนั้นออกไป แล้วหาคนใหม่มาแทนที่ หลังจากอ่านอีเมล์นั้นแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะเห็นว่าคงมีการเล่นเส้นสายกันเกิดขึ้นข้างใน ก็โอเค ถือไปว่าไม่ได้งานก็แล้วกัน ก็ทิ้งไปเลย ไม่เคยติดต่อกลับไปอีก เพราะคิดว่าคงเสียเวลาตาม

อยู่มาเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากปิดรับสมัครไปแล้วประมาณ 1 ปี ทางกรรมการคัดเลือกได้ติดต่อมาให้ไปสัมภาษณ์ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (เอาจริงๆใช้มากกว่านั้น) โดยให้เตรียมพรีเซนต์งานวิจัย 1 ชั่วโมง ทดลองสอน 1 ชั่วโมง และสัมภาษณ์กับคณะกรรมการอีก 1 ชั่วโมง และก็มีตารางมาให้เลือกว่าจะเอาวันไหน สรุปก็คือไปวันที่ 11 พฤษจิกายน 2016 ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้

เรื่องการจัดการเรื่องการเดินทางมหาวิทยาลัยจัดการให้ทั้งหมด แต่เราก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย นอกจากพรีเซนต์ที่ไม่ได้ลองซ้อมอะไรเลยเพราะงานที่ทำอยู่มันยุ่งมาก

ภาพตัดไปวันสำภาษณ์ เราก็ไปถึงก่อนเวลาประมาณ 1 ชม เพื่อเดินดูรอบๆสถานที่คนเดียว ว่าเป็นแบบไหน ตาก็ไปสะดุดกับประกาศว่ามีการพรีเซนต์ของคนสองคน คนหนึ่งก็คือตัวเราเอง กับอีกคนนึงที่มาสัมภาษณ์ด้วยซึ่งเป็นคนเยอรมัน ไอ้เราก็ถึงบางอ้อทันที ว่าทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนตัวกรรมการคนหนึ่งในคณะ นั่นเป็นเพราะว่าคนที่มาสำภาษณ์อีกคนหนึ่งเป็น "เด็กใน" เป็นคนที่ทำงานอยู่ในแลปที่เปิดรับนั่นแหละ และกรรมการที่โดนเปลี่ยนตัวก็คือเจ้านายของ "เด็กใน" คนนั้น ตอนนั้นที่คิดก็คือ โอเค เราไม่ได้งานแน่นอน เพราะแข่งกับคนข้างในแต่ก็ไม่เป็นไรก็เข้าใจสถาณการณ์ แต่ก็แปลกมากตรงที่ แทนที่จะรู้สึกกดดัน กลายเป็นปลอดโปร่งมาก คงเป็นเพราะรู้ผลไปตั้งแต่เห็นประกาศแล้วว่าใครจะได้ ก็เลยคิดกับตัวเองไปว่า "ช่างแ-ง"

ก็เดินไปถึงหอประชุมเพื่อเตรียมพรีเซนต์ตามที่ตกลง ที่เป็นหอประชุมเพราะการพรีเซนต์เป็น public บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาดูได้ คณะกรรการประกอบไปด้วยหลากหลาย professor จากหลายแลป และมาจากต่างที่ด้วย ในกรณีของเรา มาจาก Fraunhofer Institute พรีเซนต์ต่างๆดำเนินไปด้วยดี ตบท้ายด้วยการถามตอบ ซึ่งกินเวลานานไปกว่าที่คุยกันมาก เรื่องงานวิจัยก็ปกติคือ ส่วนมากคุยเรื่องการหาเงินวิจัย เรื่องสอนก็ปกติคือดูว่าจะสอนวิชาอะไรได้บ้างที่ยังไม่มีคนสอน มาถึงตอนสำภาษณ์ ก็เดิมๆคือคุยกันเรื่องสอน เรื่องวิจัยอะไรไป

ตบท้ายก็เปิดโอกาสให้เราถาม เราก็ฟอร์มแยบๆไปว่า งานนี้มันปิดรับไปปีนึงแล้ว จนลืมไปแล้วว่าสมัครไว้ ปกติเดือนนึงก็พอรู้แล้วว่าจะเรียกหรือไม่เรียก เกิดอะไรขึ้น ก็ได้รับคำยืนยันแบบเดิม ก็ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าที่เดาๆเอาไว้นั้นถูกแน่ๆ ตอนนี้ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าได้หรือไม่ได้งานแล้ว มันอยู่ที่ว่า ถ้าไม่ได้แล้วเราก็พอรู้เหตุผลว่าทำไม เพราะกรรมการที่โดนเปลี่ยนออก เหมือนไม่ยอมรามือ ถ้าเผื่อฟลุ๊กว่าได้จะทำไหม เพราะหนึ่งในทีมงานที่ต้องทำงานด้วยก็คือ กรรมการคนนั้น กับ ผู้สมัครอีกคน จะทำงานได้อย่างราบรื่นมีความสุขเหรอ คำตอบคงชัดเจนว่าไม่ และอีกหลายๆอย่าง เช่น ปกติตำแหน่ง professor ที่เยอรมัน สวัสดิการค่อนข้างดีมาก แต่มีการถามคำถามเราว่า คุณมีครอบครัวหรือเปล่า พอตอบไปว่าไม่ เขาดูโอเค เขาบอกว่า ที่มหาวิทยาลัยนี้การช่วยเหลือหางานให้กับครอบครัวค่อนข้างแย่ (แล้วมันเป็นความผิดของผู้สมัครที่จะมีลูกมีผ.?) และอื่นๆอีกพอสมควร

หลังจากั้นเราก็ถามคำถามแบบเป็นมารยาทแล้วว่า โอเค จะต้องรอต่อไปอีกนานมั้ย หรือจะอีกปีนึง คำตอบคืออีก 4 เดือนจะได้ผล แบบไม่เป็นทางการ เพราะคณะกรรมการต้องส่งเอกสารของผู้สมัครไปให้ external reviewers เขียน comments ซึ่งคงกินเวลาอย่างน้อย 4 เดือน หลังจากนั้นเขาถึงบอกเราแบบไม่เป็นทางการได้ว่าใครจะได้งาน แต่.....จะคอนเฟิร์มได้จริงๆก็ต่อเมื่อต้องผ่าน คณะ มหาวิทยาลัย รัฐบาลประจำรัฐ เพราะ professor จ้างโดยตรงกับกระทรวงศึกษาของรัฐบาลประจำรัฐนั้นๆ ก็เอาเถอะพ่อคุณ ไม่รอหรอกจ๊ะ ตามสะดวก สรุปคือ ไม่มีการเปลี่ยนงานใดๆทั้งสิ้นไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหนก็ตาม สะบัดบ๊อบใส่ จบ.......

ข้อคิดคือ
- เส้นสายมีทุกที่ ทุกแห่งหน ทุกตำบล
- การสรรหาตำแหน่ง professor เยอรมัน ไม่ได้โปร่งใสอะไรมากเหมือนที่เคยคิด
- อย่าไปคิดอะไรมากเมื่อไปสำภาษณ์งาน ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราห่วย บางทีมันมีอะไรมากมายกว่านั้นในเบื้องหลัง
- โอกาสมันก็มีมาของมันเรื่อยๆ ไม่ใช่ครั้งนี้ ก็ครั้งหน้า....ถ้าถอย ก็จบ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่