เปิดกรุหนังเก่า ROCKY

Rocky หนังชีวิตนักมวยที่สร้างขึ้นในปี 1975 และ ได้รางวัลออสการ์ในปี 1976 ด้วยทุนสร้าง 1.1 ล้าน เหรียญ และรายได้ 225 ล้าน ดอลลาห์ ใน บ๊อกซ์ออฟฟิศ เป็นหนังแจ้งเกิดของ Sylvester Stallone อย่างแท้จริง ทั้งเขียนบท และ แสดงนำ



ดาราไม่ต้องพูดถึง หลายคนมาเกิดจากหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มีเครดิตใหญ่โตอะไรมาก่อน ทั้ง นางเอก ทาเลีย แชร์ และ คาร์ล วีทเทอร์ Creed ผู้พ่อ คุณจะมองหาดาราที่แสดงเรื่องนี้ จากหนังเรื่องอื่น ( ที่ดังๆ และบทดีๆ แทบไม่ได้เลยว่างั้น )

หนังเข้าฉายเมืองไทยปี 1982 ช้ากว่าอเมริกา 6 ปี แต่แค่เนื้อที่โฆษณาเล็กๆ ประมาณ 2x3 นิ้วบนหนังสือพิมพ์ ภาพที่เห็นด้านบน กับชื่อโรงฉายจำนวนน้อยนิด ก็พาให้คนจำนวนหนึ่งตามไปดูและได้พบกับหนังคลาสสิคที่ไร้การโปรโมท ต่างกันลิบลับกับหนังฟอร์มยักษ์ โปรโมทเยอะ อย่าง Raiders of the Lost Ark หรือ Empire Strike Back และ Ghost Buster รวมถึง La Boom ที่เข้าฉายในปีเดียวกันโดยสิ้นเชิง Rocky ไม่มีกระแสอะไรเลยในเวลานั้นในเมืองไทย  แต่ภาค 2 - 5 ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ร็อคกี้ ซีรีส์ เขย่าสายหนังสะเทือนเป็นโปรแกรมทองของโรงหนังยุค Stand alone ไปเลยทีเดียว



เข้าเรื่องเลยดีกว่า Rocky คือนักชกเวทีเล็กๆในเมือง ฟิลาเดลเฟีย ในแหล่งที่เรียกว่า ยากจนก็ว่าได้ หนังเริ่มต้นด้วยฉากต่อยมวย เวทีเล็กๆในปลายปี 1975 การชกเป็นไปแบบ ทุลักทุเล และจบลงด้วยการจ่ายค่าตัวที่น่าเห็นใจทั้งคนแพ้ และคนชนะ ฉากจ่ายเงินเสร็จ จะเห็นนักมวยคุยกัน ให้รู้สึกว่า นี่คือกีฬา นี่คืออาชีพ ไม่ใช่ต่อยกันให้ตาย จบแล้วก็คือเพื่อนกัน

1 ชั่วโมงแรกผู้ชมจะได้เห็นการชก ของหนังชีวิตนักมวย เพียง ฉากแรก ฉากเดียวจริงๆ ไม่มีหลังจากนั้น แม้แต่ซ้อมหรือ ฝึกฝนใดๆทั้งสิ้น หนังจะเข้าสู่ชีวิตของ ร็อคกี้ บาลบัว ที่มีอาชีพเสริมคือ เป็น The collector เก็บเงินทวงหนี้ ให้กับเจ้าพ่อเงินกู้ชาวอิตาเลียน และค่อยๆเรียงลำดับ ความเป็นตัวตนของพระเอก และ นางในดวงใจที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีพี่ชายเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่ค่อยเอาถ่านอยู่อีกหนึ่งคน การดำเนินเรื่อง แสดงให้เห็นตัวละครแต่ละตัวไปแบบ ไม่ช้าไป ไม่เร็วไป รวมถึงถิ่นที่อยู่อาศัยของคนชนชั้นล่างใน ฟิลาเดลเฟีย และ การล้อมวงรอบถังน้ำมันที่ก่อไฟเพื่อร้องเพลงและสู้อากาศหนาว ตามวิถีชีวิตของคนยุค 70 ที่ยังไม่มีอะไรเจริญมากมาย และนั่นก็คือชีวิตของ นักชกต่ำชั้นไร้ชื่อพระเอกของเรา



ตัวหนังคงไม่มีเสนห์ใดๆ หากโชคชะตาไม่เล่นตลกกับมนุษย์บ้าง วันดีคืนดี แชมป์โลก อพอลโล ครีด เกิดมีเหตุให้คู่ชกของเขาในโปรแกรมที่วางไว้ บาดเจ็บ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาคู่ชกคนใหม่ มาสังเวยให้คนดูในวันที่  1 มกราคม 1976 ให้ได้ ทั้งสตาฟและทีมงานหากันให้ควั่ก แต่ อพอลโล่ กลับเลือกจากชื่อนักชกท้องถิ่น ฉายา ม้าป่าอิตาเลียน ร็อคกี้ บัลบัว เรียกว่า ชอบชื่อก็จิ้มเลย

ระหว่างที่ร็อคกี้เอง กำลังชีวิตตกต่ำสุดๆ มาได้จังหวะชีวิต ชะตาลิขิตเช่นนี้ ทำให้เขาต้องเผชิญกับหลายสิ่ง เริ่มตั้งแต่ โค้ช ที่เขารู้สึกว่าไม่ใส่ใจเขามาก่อน กลับต้องมาทำการเปิดปาก เปิดใจคุยกัน จนหมดหัวใจแล้วร่วมงานกันต่อ รวมถึงการฝึกซ้อมที่ดูแล้วสำหรับยุคนั้น เรียกว่า ได้ใจคนดูไม่น้อยทีเดียวกับการกินไข่ไก่ดิบ ( คนยังไม่เคยดู ต้องไปหาเอาว่าเขากินยังไง คนในโรงหนังถึงกับมีเสียงฮือ )



คาร์ล วีทเธอร์ ผู้แสดงเป็น อพอลโล ครีด มีส่วนทำให้หนังนักชกเรื่องนี้ สมจริงมากขึ้นอักโข กับความฟิต และว่องไว เรียกว่า ใครมาบอกว่าหมดนี่เป็นแค่นักแสดง ไม่ใช่นักมวยคนคงไม่เชื่อล่ะ บทของ อพอลโล่ มีความสำคัญทุกครั้งที่ออกมา ทั้งความฉลาด ความประมาท ความปากกล้า และ ลีลาการชก ทำให้หนังสมจริงมากกว่า ตัว สตอลโลน ซะอีก ( ในแง่ของนักมวย ) ซึ่งตรงกันข้ามกับ ร็อคกี้ แบบ สุดขั้ว เพราะสตอลโลน แสดงได้ น่าเห็นใจในความยากแค้น ขาดแคลน และไม่ฉลาด เป็นคนดี ซื่อๆ และ แม้จะทำดี พาเด็กกลับไปส่งบ้าน ยังโดนด่าซะงั้น ( จุดนี้คือสิ่งที่ สตอลโลน เหนือกว่า อาร์โนลด์ คือ เรียกความน่าเห็นใจและอารมณ์ที่อ่อนไหวจากคนดูได้มากทีเดียว  แต่ แฟนอาร์โนลด์อย่าเพิ่งร้องอ้าว เพราะ สตอลโลน ก็ไม่มีความสามารถในแง่ เล่นหนังตลก ได้ดีเท่าอาร์โนลด์ ไม่ว่าจะใน  Twin , Jingle All the way อะไรแบบนั้นได้ ก็เรียกว่า ให้กันคนละแนวที่เด่น นอกจากบทบู๊ละกัน )




หนังค่อยๆเข้าสู่ไคลแม็กซืของเรื่อง แล้วดำเนินการเปิดฉากตะบันหน้าของ แชมป์โลก กับ นักชกไร้ชื่อ อย่างตรึงคนดุไว้ได้ดีทีเดียว และจบแบบประทับใจ ซึ่ง อาจจะต่างจากเรื่อง Karate Kid ภาค ราล์ฟ แมคชีโอ ซึ่งออกฉายหลังจากนั้น 2 ปี คือ 1984  ที่พอคนดูออกจากโรง จะยกมือยกไม้ทำท่านกกระเรียน โดยเฉพาะบรรดาหนุ่มๆทั้งหลาย แต่ ต่างไปสำหรับ ร็อคกี้ หนังให้ความอิ่มเอมกับ ผลการชก และพอใจกลับบ้านแบบประทับในดวงใจเป็นหนังสุดยอดเรื่องนึงทีเดียว

ในบรรดา Rocky Series ขอบอกว่า ภาคแรก คือภาคที่ดีที่สุด ในความคิดของผม และเชื่อว่าของหลายๆคนทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่