คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
การแก้ปัญหาควรปรึกษาบุคลลรอบ ๆ ด้าน ที่มันพังหนักกว่าเก่า
เพราะเชื่อทนาย ความจริง ทางต้นสังกัดน่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้
ให้น็อตได้ เพราะเค้าน่าจะมีความชำนาญในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์
ให้กับดารา แต่น็อตใจร้อน ควงทนายขึ้นโรงพักแจ้งความคู่กรณีกลับ
แถมมาพลาดตรงประเด็นขอขว้างมือถือของทนาย กับประเด็นเผยคลิป
ที่เคลียร์กับคู่กรณีครั้งแรก เหมือนขุดหลุมฝังตัวเองแท้ ๆ
แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องรถชนสักนิดนะครับ ผมเคยขับรถยนต์
ชนมอเตอร์ไซค์ที่เลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่ได้
เปิดไฟเลี้ยว ผมจอดรถลงไปดูน้องเค้า ไม่ได้เข้าไปช่วยพยุงนะครับ
บอกให้น้องเค้านั่งอยู่เฉย ๆ อย่าเพิ่งขยับ เพราะไม่รู้ว่ามีกระดูกตรงไหน
แตกหักมั้ย รอไม่นานรถกู้ภัยก็มา ก็ช่วยเคลื่อนย้ายน้องเค้าไป รพ.
ผมก็ตามตำรวจไปโรงพัก ตำรวจแจ้งข้อหาผมขับรถโดยประมาท
เพียงฝ่ายเดียว ผมถามว่าทำไมผมถึงโดนข้อหาขับรถประมาท
เพียงฝ่ายเดียว เพราะรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัวหน้า และไม่เปิดไฟเลี้ยว
แถมเป็นเยาวชน ยังไม่มีใบขับขี่ ตำรวจบอกว่า ผมแซงในเขตห้ามแซง
แล้วรถที่ขับตามหลัง ก็ต้องคอยระวังรถคันหน้า
จบจากโรงพัก ผมก็ไปเยี่ยมน้องเค้าที่โรงพยาบาล เอากระเช้าไปเยี่ยม
ขอโทษน้องเค้าและพ่อแม่ น้องเค้าไม่มีกระดูกแตกหัก แต่เคล็ดขัดยอก
นอน รพ. คืนนึง ครอบครัวเค้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ผมก็เลยจ่ายค่ารักษา
พยาบาลให้เค้าสองพันกว่าบาท เรื่องคดีความก็จบ เพราะเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง
เหตุการณ์ต่อมา ผมเป็นฝ่ายขับมอเตอร์ไซค์บ้าง ขับมาด้วยความเร็วบนถนนหลวง
มีรถเก๋งออกจากซอยเลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด ผมชนเข้าเต็ม ๆ ตั้งใจจะนอนสักแป๊บ
แต่ได้ยินเสียงรถเก๋งเร่งเครื่องหนี ก็เลยต้องลุกมาดูป้ายทะเบียนรถเก๋ง
ผมเจ็บไม่เยอะเท่าไหร่ มีรอยถลอกที่เท้าเท่ารอยเมียข่วนเท่านั้น (นับว่าโชคดีมาก)
ตำรวจไปตามคนขับรถเก๋งมาได้ เป็นคนแก่อยายุ 80 ไปเจรจากันที่โรงพัก
มาเจอกัน ป้าที่เป็นแฟนลุงก็ยกมือไหว้ผมแล้วก็ขอโทษขอโพยแทนลุง
ลุงแกดูยังกลัว ๆ ทำอะไรไม่ถูก ทีแรกแกคงคิดว่าผมตาย เพราะชนเต็ม ๆ
ไม่ได้เบรคเลย ผมถามว่าลุงหนีทำไม่ ลุงบอกว่าแกตกใจ ทำอะไรไม่ถูก
ตำรวจก็แจ้งข้อหาลุงขับรถประมาท และเมื่อชนแล้วไม่หยุดให้การช่วยเหลือ (ชนแล้วหนี)
ลุงแกตกใจ หน้าซีดมือไม้สั่น แต่ผมก็ไม่ได้เอาความอะไรกับแก ขอแค่แกจ่ายค่า
ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้ผมเท่านั้น เพราะผมนึกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด
ตอนที่ผมขับรถชนมอเตอร์ไซค์เด็ก ผมก็ตกใจ นึกถึงใจเขาใจเรา และลุงกับป้า
แกก็ยอมรบผิด พูดกับผมดี ๆ ความโกรธมันก็หายไป กลายเป็นความรู้สึกเห็นใจ
ทุกเรื่องราวจจะลงด้วยดี ถ้าเราจริงใจที่จะขอโทษในสิ่งที่เราทำผิด หรือรู้จักการ
ให้อภัยในความผิดของคนอื่น อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกแล้วจะเอาชนะคู่กรณีให้ได้
การเอาชนะด้วยอารมณ์ มันจะทำให้ทุกสิ่งแย่ลง การเอาชนะด้วยการให้อภัย
เป็นการชนะใจตัวเอง และชนะใจผู้อื่นด้วย
เพราะเชื่อทนาย ความจริง ทางต้นสังกัดน่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้
ให้น็อตได้ เพราะเค้าน่าจะมีความชำนาญในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์
ให้กับดารา แต่น็อตใจร้อน ควงทนายขึ้นโรงพักแจ้งความคู่กรณีกลับ
แถมมาพลาดตรงประเด็นขอขว้างมือถือของทนาย กับประเด็นเผยคลิป
ที่เคลียร์กับคู่กรณีครั้งแรก เหมือนขุดหลุมฝังตัวเองแท้ ๆ
แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องรถชนสักนิดนะครับ ผมเคยขับรถยนต์
ชนมอเตอร์ไซค์ที่เลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด เพราะมอเตอร์ไซค์ไม่ได้
เปิดไฟเลี้ยว ผมจอดรถลงไปดูน้องเค้า ไม่ได้เข้าไปช่วยพยุงนะครับ
บอกให้น้องเค้านั่งอยู่เฉย ๆ อย่าเพิ่งขยับ เพราะไม่รู้ว่ามีกระดูกตรงไหน
แตกหักมั้ย รอไม่นานรถกู้ภัยก็มา ก็ช่วยเคลื่อนย้ายน้องเค้าไป รพ.
ผมก็ตามตำรวจไปโรงพัก ตำรวจแจ้งข้อหาผมขับรถโดยประมาท
เพียงฝ่ายเดียว ผมถามว่าทำไมผมถึงโดนข้อหาขับรถประมาท
เพียงฝ่ายเดียว เพราะรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวตัวหน้า และไม่เปิดไฟเลี้ยว
แถมเป็นเยาวชน ยังไม่มีใบขับขี่ ตำรวจบอกว่า ผมแซงในเขตห้ามแซง
แล้วรถที่ขับตามหลัง ก็ต้องคอยระวังรถคันหน้า
จบจากโรงพัก ผมก็ไปเยี่ยมน้องเค้าที่โรงพยาบาล เอากระเช้าไปเยี่ยม
ขอโทษน้องเค้าและพ่อแม่ น้องเค้าไม่มีกระดูกแตกหัก แต่เคล็ดขัดยอก
นอน รพ. คืนนึง ครอบครัวเค้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ผมก็เลยจ่ายค่ารักษา
พยาบาลให้เค้าสองพันกว่าบาท เรื่องคดีความก็จบ เพราะเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง
เหตุการณ์ต่อมา ผมเป็นฝ่ายขับมอเตอร์ไซค์บ้าง ขับมาด้วยความเร็วบนถนนหลวง
มีรถเก๋งออกจากซอยเลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด ผมชนเข้าเต็ม ๆ ตั้งใจจะนอนสักแป๊บ
แต่ได้ยินเสียงรถเก๋งเร่งเครื่องหนี ก็เลยต้องลุกมาดูป้ายทะเบียนรถเก๋ง
ผมเจ็บไม่เยอะเท่าไหร่ มีรอยถลอกที่เท้าเท่ารอยเมียข่วนเท่านั้น (นับว่าโชคดีมาก)
ตำรวจไปตามคนขับรถเก๋งมาได้ เป็นคนแก่อยายุ 80 ไปเจรจากันที่โรงพัก
มาเจอกัน ป้าที่เป็นแฟนลุงก็ยกมือไหว้ผมแล้วก็ขอโทษขอโพยแทนลุง
ลุงแกดูยังกลัว ๆ ทำอะไรไม่ถูก ทีแรกแกคงคิดว่าผมตาย เพราะชนเต็ม ๆ
ไม่ได้เบรคเลย ผมถามว่าลุงหนีทำไม่ ลุงบอกว่าแกตกใจ ทำอะไรไม่ถูก
ตำรวจก็แจ้งข้อหาลุงขับรถประมาท และเมื่อชนแล้วไม่หยุดให้การช่วยเหลือ (ชนแล้วหนี)
ลุงแกตกใจ หน้าซีดมือไม้สั่น แต่ผมก็ไม่ได้เอาความอะไรกับแก ขอแค่แกจ่ายค่า
ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ให้ผมเท่านั้น เพราะผมนึกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด
ตอนที่ผมขับรถชนมอเตอร์ไซค์เด็ก ผมก็ตกใจ นึกถึงใจเขาใจเรา และลุงกับป้า
แกก็ยอมรบผิด พูดกับผมดี ๆ ความโกรธมันก็หายไป กลายเป็นความรู้สึกเห็นใจ
ทุกเรื่องราวจจะลงด้วยดี ถ้าเราจริงใจที่จะขอโทษในสิ่งที่เราทำผิด หรือรู้จักการ
ให้อภัยในความผิดของคนอื่น อย่าคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกแล้วจะเอาชนะคู่กรณีให้ได้
การเอาชนะด้วยอารมณ์ มันจะทำให้ทุกสิ่งแย่ลง การเอาชนะด้วยการให้อภัย
เป็นการชนะใจตัวเอง และชนะใจผู้อื่นด้วย
แสดงความคิดเห็น
จากเหตุการณ์ "กราบรถ..." สอนให้เรื่องรู้อะไรได้บ้าง? [แชร์ความคิดเห็นกัน]
ในความคิดของเราสรุปได้คร่าวๆ 5 ข้อ
1. อย่าใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
-> ถ้าน็อตไม่ทำร้ายร่างกายบอย น็อตจะไม่มีความผิดทางกฎหมาย...
2. ต้องรู้จักหัดควบคุมสติ และอารมณ์ของตน
-> เนื่องจากน็อตควบคุมสติไม่ได้ แล้วใช้แต่อารมณ์ จึงบังคับให้บอยกราบรถของตน
ซึ่งวลีนี้ถือว่าเป็นเหตุที่คนไม่ชอบมากที่สุด!
3. อย่าพูดจาดูถูกผู้อื่น
-> น็อตพูดกับบอยประมาณว่า "ชนแล้วหนี เท่าไหร่? แล้วชนทำไม?"
ในความคิดเรา เหมือนบอยกำลังจะบอกว่าของแพงนะ แล้วชนทำไม
ถามจริงบอยอยากชนหรอ ก็ไม่! มันอีกวลีที่ฟังแล้วไม่ค่อยชอบน็อตเท่าไหร่
4. ทำผิดต้องยอมรับผิด (ความรับผิดชอบ,จิตสำนึก)
-> ถ้าน็อตยอมรับผิด เชื่อว่าสังคมพร้อมจะให้อภัยน็อตได้ ซึ่งจะเห็นได้จากบอย
ที่ยอมรับผิด แล้วสังคมก็ชื่นชมและพร้อมให้ความช่วยเหลือ
5. ต้องมีความจริงใจต่อผู้อื่น
-> ก่อนหน้าที่น็อตจะแถลงข่าว แม่ของบอยเหมือนจะยอมให้อภัย และพร้อมจะไกล่เกลี่ยด้วย
แต่พอเจอคลิปที่อัดตอนเจรจากันครั้งแรก ความรู้สึกของแม่ก็เปลี่ยนไป ถ้าเป็นเรา เราก็รู้สึกไม่ชอบนะ
ถ้าหากวิเคราะห์ไม่ตรงประเด็น หรือผิดเพี้ยนไป ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (อารมณ์เหมือนเขียนคำนำเลย ฮ่าๆๆ)