คนดังฝั่งอเมริกา/อังกฤษ กับท่าทีต่อผลการเลือกตั้ง

พอดีมีตามทวิตคนดังทางอเมริกาอยู่บ้างค่ะ (ติ่งซีรี่ส์) เลยเอาบางส่วนมาแปะให้ดูกัน


สตีเฟ่น คิง (นักเขียนชื่อดัง ผลงานที่คนรู้จักเยอะๆ เช่น the thing, shining , the mist)
บอกงดรีวิวหนังสือ, การเมือง,รูปหมา หมดอารมณ์



ป้าแช (นักร้อง)
"โลกเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สงสารลูกหลาน [ส้วม] ยังไงก็คือส้วมล่ะเฟ่ย"
(ป้าทวิตไว้หลายรอบ เหมือนจะเกลียดทรัมป์มากจนไม่ยอมพิมพ์ชื่อเลย ใช้อีโมส้วมกับอึตลอด)



มาร์ค รัฟฟาโร่(Hulk , begin again, spotlight)
"ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือเดินหน้าทำสิ่งที่เริ่มไว้ให้เสร็จ เงยหน้า สู้กลับซะพี่น้องทั้งหลาย"


อริน่า กรานเด (นักร้อง)
ตอนแรกทวิตว่าร้องไห้เลย แต่ไม่กี่ชม.ต่อมาก็ให้กำลังใจแทนว่า เราต้องช่วยกันทำให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักได้


เจมส์ คอเดน (พิธีกรแนวตลกชาวอังกฤษ ลองเสิร์ชหาคลิป carpool karaoke ตลกมากกก)
"นี่แหละ ความรู้สึกตูตอน Brexit"




เคิร์สเทน แวงเนส (เพเนโลเป้ กาเซีย สาวแบ๊วแห่ง criminal minds) ซึ่งเธอเป็นเลสเบี้ยนด้วย
"ฉันคุยกับมารในใจตัวเองแต่ปฏิเสธไม่ให้มันออกมาข้างนอก ฉันได้ฝึกทำใจให้สงบมาแล้วและนี่คือสิ่งที่สะท้อนกลับมา"
(มาแนวธรรมะ)



เจสสิก้า เชสแทน (interstellar, dark 30 minutes, huntsman)
"มองแง่ดีก็คือ ต่อจากนี้ไป เราจะหลอกตัวเองไม่ได้อีกแล้วว่าประเทศเราปลอดการเหยีนดเพศและเหยียดสี คำถามก็คือ จะเอาไงต่อล่ะทีนี้"



เจสส์ ไทเลอร์ เฟอกูสัน (Modern Family)
เขาแสดงเป็นเกย์ในเรื่องและตัวจริงก็เป็นเกย์ด้วย เพิ่งแต่งงานกับแฟนหนุ่มไปไม่นาน
"คนอเมริกาได้เห็นอยู่แล้วว่าทรัมป์พูดอะไร
แย่ๆไว้บ้างแต่ก็ยังเลือกเข้ามาอีก"
"ผมเคยถูกรังแกมาทั้งชีวิต ถูกเรียกอย่างหยาบๆคายๆแต่ก็ผ่านมาได้ พวกเราจะผ่านไปได้เหมือนกัน"



เคอรี่ วอชิงตัน (ซีรี่ส์ scandal ซึ่งเธอแสดงเป็น Olivia Pope นักแก้ปัญหามือ1ของอเมริกา มีอาชีพคอยจัดการกับงานสกปรก , ข่าวฉาว, ข่าวสกปรกในแวดวงการเมืองอเมริกา เป็นซีรี่ส์ฮิตของอเมริกา หาดูได้จาก primetime & iflix)
"โอลิเวีย โป๊บ ไม่มีตัวตนจริง แต่ที่จริงวันนี้คือ ทุดคนต้องการความรัก รักตัวเอง ดูแลตัวเอง และคนที่คุณรักให้มากๆ"



เอลเลน ดีเจเนอเรส (พิธีกรที่ดังมากๆ เคยเป็นออสการ์โฮสปี 2014 ที่ฮามากก คนไทยไม่ค่อยรู้จักแต่จริงๆเขาดัง&รวยมากกกก เป็นเลสเบี้ยนอีกคน แต่งงานแล้วกับแฟนสาวนางแบบชาวออสเตรเลีย เรัยกได้ว่าเป็นทุกอย่างที่ทรัมป์เกลียดเลยมั้ง สโลแกนประจำตัวคือ be kind to one another) เป็นผู้สนับสนุนฮิลารี่ออกนอกหน้าสุดๆ
"ยังมีเรื่องดีๆอีกมากมายบนโลกใบนี้ หน้าที่ของฉันคือหามันมานำเสนอให้คนดู ฉันจะไม่ยอมแพ้ในหน้าที่ตัวเอง"



กาก้าผู้แสดงความเสียใจแรงมากคนนึง
เอาป้ายคำว่า love Trumps hate ไปชูตรงหน้าตึกทรัมป์ทาวเวอร์ คำว่า trump เป็นกิริยาแปลว่าเอาชนะได้ด้วย ข้อความก็จะแปลได้ว่า "ความรักชนะความชัง"

กาก้าบอกว่า อยากอยู่ในประเทศแห่งน้ำใจและประเทศที่ความรักชนะความชัง



เคที่ เพอรี่ (นักร้อง)
"อย่านิ่งเฉย อย่าคร่ำครวญ ขยับตัวซะ เราไม่ใช่ประเทศที่จะปล่อยให้ความเกลียดชังครอบงำได้"



จอห์น เลเจน (นักร้อง all of meee)
รู้สึกยังกับว่าอเมริกาออกค่าเทอมมหาลัย-ทรัมป์-ให้เรางั้นแหละ"


เจเค โรวลิง (นักเขียน Harry Potter)
ตอนแรกเค้าทวิตว่า "รวมพลังกันไว้ ยืนหยัดต่อพวกบ้าคลั่ง อย่าให้คำพูดเกลียดชังกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม"

ปรากฏว่ามีคนทวิตมาด่าว่า "เธออยู่ในอเมริกาหรือไง มายุ่งอะไรกับประเทศคนอื่น สนใจแต่เรื่องตัวเองดีกว่ามะ"

เจเคเลยตอบว่า "ฉันจะคิดหรือพูดอะไรแล้วมันจะทำไมเหรอ? ถ้าคุณคิดว่าคุณทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว แล้วจะมาสนใจคนอื่นทำไม"
(เป็นเรา เราจะไม่ทะเลาะกะนักเขียนระดับโลกนะ55)



ชอนด้า ไรหม์ (ผู้สร้าง Greys anatomy, How to get away with murder, Scandal เป็นนักเขียนบทชื่อดังที่ถ้าใครติดตามซีรี่ส์ที่ว่าไป จะเห็นว่า เเขาเป็นคนที่เฟมินิสต์มากกกก ตัวเด่นล้วนแต่เป็นผู้หญิงแกร่ง)
ชอนด้า ทวิตคำพูดของ เอเลนอร์ รูสเวล (อดีตสุภาพสตรีหมายเลข1สมัยนึง) กล่าวว่า
"ถ้ามืดก็จุดเทียน ดีกว่ามานั่งบ่นด่าความมืด"


ขุ่นแม่มาดอนน่าบอกว่า อย่ายอมแพ้


อลิเชีย คียส์ นักร้องออแกนิกคอสเมติก
"ตื่นกันได้แล้ว คิดกันหรือยังว่าเราอยากอยู่ในโลกแบบไหน ส่วนฉันเลือกแล้วว่าอยากจะอยู่ในโลกที่มีความรัก"


คริสเตน เบล (นักแสดง,นักพากย์ เจ้าของเสียงเจ้าหญิงอันนา frozen)
ตอนแรกผลออก นางทวิตว่า "อยากจะอ้วก" 5555+

ต่อมาดึกๆทวิตบทความนี้พร้อมบอกว่า "ทุกคนต้องอ่าน" เป็นบทความที่บอกประมาณว่าทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีฉันจะบอกลูกยังไงดี บทความแนะนำว่า ให้บอกลูกว่า เราจะยังปกป้องพวกเขา และเด็กๆจะต้องเจอความบ้าคลั่งอีกมากแต่ผู้ใหญ่จะปกป้องเด็กๆ และเด็กๆจงสนับสนุน ผู้ปกครองเพศเดียวกัน , เพื่อนที่เป็นเพศที่สาม, เพื่อนคนผิวสี, เพื่อนผู้อพยพ, เพื่อนผู้พิการ, เพื่อนชาวมุสลิม
(เป็นบทความที่ดีเลยค่ะ)



และคนสวยขวัญใจพันทิปคนสุดท้าย
เอมม่า วัตสัน (เฮอร์ไมโอนี่)
บอกว่า "พรุ่งนี้จะเอาหนังสือของมายา แองเจลูไปวางที่สถานีรถไฟใต้ดินที่นิวยอร์ก ฉันจะสู้ให้หนักขึ้นเพื่อสิ่งที่ฉันเชื่อ"

** ที่เอมม่าพูดถึงคือโครงการ เอาหนังสือไปทิ้งไว้ที่ตามสถานีรถไฟ เพื่อให้คนหยิบไปอ่านต่อ เป็นการเผยแพร่ความรู้วิธีนึง เหมือนได้แชร์หนังสือที่เราชอบให้คนอื่นๆต่อไป ในอเมริกาอาจได้ผลอยูาแต่ถ้าทำในไทยอาจโดนเก็บไปชั่งกิโล55+)

หนังสือมายา แองเจลูนี้ก็น่าสนใจมากค่ะ
คือมายา เป็นหญิงผิวสีที่มีประวัติโชกโชนสไตล์คนดำสมัยก่อน มายาโดนเพื่อนชายของแม่ขมขืน เธอไม่กล้าบอกใครนอกจากพี่ชายที่สนิท พี่ชายก็เอาไปบอกผู้ใหญ่ต่อ คนร้ายที่ข่มขืนเธอถูกขังไม่กี่วันก็ปล่อยออกมาตามสไตล์กฎหมายงงๆสมัยก่อน แต่ต่อมาโดนรุมกระทืบตาย โดยว่ากันว่าลุงของมายาเป็นคนจัดการ

มายารู้ตอนนั้นเองว่าคำพูดมีพลัง การที่เธอพูดออกไปทำให้คนคนนึงตายได้ มายาเลยเข้าสู่สภาพเงียบ ไม่พูดกับใครเลยพักใหญ่ (อาจจะได้รับกระทบกระเทือนทางใจด้วย)

ตอนหลังก็ยอมพูดและเริ่มมีการศึกษาจากการอ่านในที่สุด มายาเกิดร่วมยุคคนดังที่ขับเคลื่อนเรื่องผิวสีหลายคน อย่าง มาติน ลูเทอร์ คิง ตอนที่มาตินลูเธอร์ถูกฆ่าตาย มายาเกิดแรงบันดาลใจเขีบนหนังสือเรื่องชีวิตของตัวเอง ตีแผ่โลกของคนดำที่ถูกกดขี่อย่างตรงไปตรงมา ทำให้โด่งดังเพราะยุคนั้นคนดำไม่กล้าขนาดนี้

เรียกได้ว่าชีวิตโชกโชนมากๆ แต่ยังคิดบวกและฉลาดสุดๆ สมกับที่เอมม่า วัตสันนางเลือกเป็นหนังสือในดวงใจเลย

***********

อ่านความคิดของเซเลปทางนั้นหลายๆคนก็น่าเอาเป็นอย่างนะคะ เราชอบที่เค้าเศร้ากันไม่นาน ก็ลุกขึ้นมา มองไปข้างหน้าและคิดถึงเด็กๆเป็นลำดับต่อมา ว่าจะบอกเด็กยังไง สอนยังไงต่อให้เด็กมีภูมิคุ้มกันต่อไป

เราไม่ได้เชียร์ทรัมป์หรือฮิลารี่เป็นพิเศษ แต่ชอบการเดินหน้าต่อของคนเหล่านี้ค่ะ (คนที่ไปประท้วงก็อีกเรื่องนึงนะ55)

อยากให้คนไทยเวลาเจอปัญหาเศร้าๆแล้วสตรอง&สติได้แบบนี้บ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่