Liverpool Player Statistics Update 11 Match

.
       ตัวเลขไม่เพียงมีอิทธิพล แค่เป็นตัวตัดสินผลแพ้ชนะในเกมส์ฟุตบอลสมัยใหม่เท่านั้น แต่ตัวเลขก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มนุษย์หรือคน ใช้เป็นดัชนีชี้วัดค่าตัวแปรต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการจะได้มาซึ่งผลการแข่งขันในแต่ล่ะนัดหรือ เป็นตัวชี้วัดคุณภาพในแต่ล่ะด้านของแต่ล่ะทีมที่ลงทำการแข่งขัน และจัดทำบันทึกเพื่อจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้เป็นสถิติ อ้างอิงเพื่อการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงทีมของตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป

       ตัวเลขดัชนีชี้วัดเหล่านี้ เมื่อจัดรวบรวมข้อมูลหลายๆด้าน หลายๆเหตุการ์เข้าด้วยกันเรียกว่า สถิติ โดยคำว่า”สถิติ” Statistics  เป็นคำที่แปลมาจากศัพท์  Statistik ในภาษาเยอรมัน  ซึ่งคิดค้นขึ้นโดย  Got fried Ache wall ( 1719-1772 ) เป็นคำที่มีรากศัพท์เดียวกับคำว่า  “State” ซึ่งแปลว่า  “รัฐ” มีความหมายถึงข้อมูล หรือข่าวสาร  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานของรัฐในด้านต่างๆ แต่ต่อมาทุกองค์กรย่อยในสังคมก็ได้ทำตามด้วย มีการใช้สถิติมาเป็นประโยชน์ของ องค์กรของตนเอง รวมถึงแวดวงกีฬาอย่างวงการฟุตบอลด้วย

       คำเกริ่นนำสองย่อหน้าแรกผมเคยใช้ไปแล้วเมื่อครั้งก่อนตอนที่เขียนบทความเรื่องสถิติ และวันนี้ก็ยังจะขอหน้าด้านใช้ซ้ำ และคงจะใช้ซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบฤดูกาล ส่วนวันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างมาลองติดตามดูกัน

       หากจะให้คำนิยามของคำว่า การลุ้นแชมป์ ในเชิงสถิติ ตามข้อมูลของ Premier League 10 ปีล่าสุดที่ผมรวบรวมมาและวิเคราะห์ดูปัจจัยที่น่าจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์ หรือเรียกว่าเป็นมีดัชนีบ่งชี้ที่มีความสำคัญต่อการลุ้นแชมป์อย่างหนึ่งที่บอกได้ คือ 10 ทีมที่เป็นแชมป์ในตอนท้ายฤดูกาล ไม่มีทีมใดเลย ที่ผ่านมา 11 นัด แล้วไม่ติดอยู่ในอันดับ 1 ใน 4 ของตาราง



       หากดูดีๆมี 5 ครั้งใน 10 ครั้ง ที่ผู้นำเมื่อผ่านไป 11 นัดที่ผู้นำในตารางตอนนั้น สามารถจบอันดับด้วยการเป็นแชมป์เมื่อจบฤดูกาล แต่อีก 5 ครั้งกลับไม่สามารถเป็นแชมป์ได้ เรียกได้ว่าอัตราการได้แชมป์ของทีมนำเมื่อผ่านไป 11 นัด มีโอกาสคว้าแชมป์ครึ่งต่อครึ่ง

       และตามตรรกะเดียวกับที่ชี้วัด ใน 11 นัดข้างต้น ลิเวอร์พูลยังถือว่าเป็นทีมที่ยังมีประสบการณ์การลุ้นแชมป์ค่อนข้างน้อย เมื่อมีแค่ 2 ครั้งเท่านั้นที่เคยทำผลงานเมื่อป่านไป 11 นัด อยู่ในอันดับ 1 ในขณะที่คู่แข่งประเภทที่เรียก”ทีมใหญ่”ทีมอื่นๆ ทำผลงานในจุดนี้ได้มากกว่า 6 ครั้งทุกทีม เซลซี 9 , แมนยู 7 ,แมน ซตี้ 7 ,อาเซนอล 6 และมันก็เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ลิเวอร์พูลนั้น มีประสบการณ์ ในการลุ้นแชมป์น้อยที่สุดในบรรดาทีมใหญ่

       ประสบการณ์ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ของทุกทีมทุกปี อาจจะมีปรากฏการเหลือเชื่อเหมือนอย่างเทพนิยายที่เลสเตอร์ทำได้ในปีก่อน แต่มันไม่ใช่เกิดขึ้นกันได้ง่ายๆ เรื่องนี้ทุกทีมรู้ดีอยู่แก่ใจ สิ่งเดียวที่ทีมลุ้นแชมป์ตามนิยามนี้ต้องทำให้ได้ คือรักษาไว้ซึ่ง “ความสม่ำเสมอ” ในการทำผลงานนัดต่อไป สิ่งไหนดีแล้วก็รักษาเอาไว้ ปรับปรุงแก้ไขในจุดที่ยังบกพร่อง

       และเนื่องจากกะทู้นี้ เนื้อหาตามเจตนารมณ์ตั้งกะทู้ คือการแสดงผลงานส่วนบุคคลของผู้เล่นแต่ละคนภายในทีม การจะบ่งชี้ถึงความสม่ำเสมอได้ ก้ต้องบ่งชี้ผลงานรายบุคคลกันก่อน ว่าจุดไหนมีพัฒนาการ จุดไหนยังต้องปรับปรุงแก้ไข อาศัยข้อมูลการทำผลงานทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัด สะท้อนภาพออกมาให้ง่ายต่อการประเมินผลงาน ซึ่งกะทุ้นัดก่อนหน้านี้ ผมยังไม่ได้ทำ และจะขอเริ่มทำจากนัดนี้เป็นนัดแรกและจะทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบฤดูกาล กับการประเมินผลงานผู้เล่นรายบุคคล โดยจะแสดงเนื้อหาต่อจากการอัพเดทข้อมูลสถิติของนักเตะคนนั้นๆเลยนะครับ
เข้าสู่เนื้อหาตามเจตนารมณ์ของกะทู้












































       และครั้งนี้จะพิเศษกว่าเดิม เพราะจะแยกเนื้อหาของการประเมินผลงานนักเตะบางคน ด้วยสถิติของนักเตะที่ลงเล่นได้ค่อนข้างโดดเด่นหรือมีประเด็นที่น่าสนใจในเชิงสถิติข้อมูล เลือกมาวิจารณ์เป็นพิเศษ นอกเหนือจากการอัพเดทข้อมูลตามปกติ โดยจะลงผลการประเมินด้วยสถิติพร้อมทั้งความเห็นส่วนตัวของผมที่มีต่อนักเตะคนนั้นๆ แยกออกมาต่างหาก โดยลงเนื้อหาของการประเมินด้วยสถิติ 1 คนต่อ 1 ความเห็น และทัศนะวิจารณ์ส่วนตัวของผมไว้ด้วยในของการแยกประเมินนักเตะคนนั้นๆ ท่านที่เข้ามาอ่านจะได้ร่วมแสดงความเห็นต่อผลงานของนักเตะคนนั้นๆได้อย่างสะดวกนะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ประเมินผลงานนักเตะ ครั้งแรกจาก 11 นัด
       ผมเลือกนักเตะมาลองก่อนสัก 2 คน ที่ผมเห็นว่ามีพัฒนาการขึ้น หรือมีผลงานเด่นชัดเป็นที่ประจักษ์ ดังนี้ครับ

ประเมินผลงานรายบุคคล Loris Karius
       คาริอุสลงเล่นต่อเนื่องในพรีเมียรืลีคมาแล้ว 6 นัด และจากการประกาสของเจอร์เก้น คล้อป์ ตอนนี้เขาถือเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม แทนที่ ซิมง มิโญเล่ห์ ซึ่งครองตำแหน่งนี้ตอนออกสตาร์ทเริ่มฤดูกาลใน 5 นัดแรก ผลงานของคาลิอุสหากดูตามสถิติที่พอจะชี้วัดและประเมินผลงานได้ มีอยู่ 2 ส่วนในตอนนี้ที่เห็นผลอย่างชัดเจน
คือสถิตการป้องกันประตูหรือการ Saves ซึ่งดูได้จากกราฟเปรียบเทียบการเซฟในแต่ล่ะนัดที่ผ่านมา

*ขอบคุณความเห็นที่ 3 นะครับที่ทักเข้ามา ในสถิติเซฟนัดแมนยู ผมผิดเองครับ ลงข้อมูลในส่วนของการเสียประตูสลับกับนัดสวอนซี
แล้วก็ผิดต่ออีกจุดคือดันเอาจำนวน Shots on target 2 นัด รวมกับนัดก่อนหน้าไปอีกเลยตัวเลขเลยผิดไปยกใหญ่

ซึ่งจะเห็นได้ว่า คาลิอุสทำผลงานได้ดีขึ้นทางสถิติเฉพาะการเซฟ และก็ส่งผลให้ความรู้สึกของแฟนบอลอย่างผมดีขึ้นด้วย แต่หากดูสถิติการถูกยิงประตูเข้ากรอบจากทีมคู่แข่งหรือ Shots on target และการเสียประตุในแต่ละนัดประกอบด้วย การอาจประเมินได้ว่า สถิติการเซฟของคาลิอุสดีขึ้น แต่ผลงานโดยรวมเมื่อร่วมกับแนวรับแล้ว อาจจะยังดีไม่พอ และยังคงต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป

       อีกสิ่งหนึ่งที่พอชี้วัดได้ว่าฟอร์มการเล่นของคาริอุสนั้นดีขึ้น คือระดับคะแนนความสามารถ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้นำมาจาก whoscore.com ซึ่งเป็นเว้บไซต์หลักที่ ผมใช้ดูข้อมูลสถิติในด้านต่างๆ และรวบรวมมานำแสดงให้กับทุกท่านที่เข้ามาอ่านได้รับชม



       ซึ่งจะเห็นได้ว่า การทำผลงานของคาริอุส มีแนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ยกระดับผลงานของตนเองขึ้นอีกขั้น จากที่ระดับคะแนนความสามารถเฉลี่ย เมื่อลงเล่นไป 6 นัด จากค่าเฉลี่ยคะแนนความสามารถที่สูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง และดูดีผิดหุผิดตาจากฟอร์มการเล่นนัดล่าสุดที่พบกับวัตฟอร์ต ซึ่งเป็นนัดแรกที่คาริอุสทำได้คะแนนความสามารถเกิน 7 เป็นนัดแรก

และถ้านับจากจุดนี้ แม้จะยังชี้วัดและพูดไม่ได้เต็มปากนัก ว่าการตัดสินใจซื้อคาริอุสเข้ามาของคล็อปนั้น ถุกต้องและดีพอหรือเปล่า..? สำหรับทีมที่ต้องการยกระดับผลงานโดยรวมให้อยู่ในระดับการแข่งขันแย่งชิงพื้นที่บนหัวตาราง แต่ก็มีแนวโน้มที่ดี ที่ได้เห็นพัฒนาการของผู้รักษาประตูคนใหม่ ที่ลงเล่นนัดแรกๆก็ดูยังไม่น่าประทับใจนัก แต่ในตอนนี้ก็สามารถไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งนับเป็น สัญญาณที่ดี

       แต่ก็ยังมีจุดด้อย หรือจุดที่ยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดีตามความเห็นส่วนตัวของผม คือ การออกมาตัดลูกกลางอากาศของคาริอุส จากสถิติข้อมูลที่ผมมีอยู่ในมือ คาริอุสลงเล่น 6 นัด แต่ออกมาตัดบอลกลางอากาสค่อนข้างน้อย โดยใน 6 นัดที่ลงเล่น ทีมตกเป็นฝ่ายตั้งรับลูกเตะมุม 24 ครั้ง โดยคาริอุสออกมาตัดบอลได้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น กองหลังโหม่งสกัดได้ 10 ครั้ง และมี 10 ครั้งที่เป็น 10 keypass ที่เป็นการสร้างโอกาสทำประตูจากลูกเตะมุม และหากนับรวมการเปิดบอลครอสจากลูกตั้งเตะด้วย จะพบว่า มี 3  ครั้งที่ทำให้ คาริอุสเสีย 3 ประตู ที่มาจากการการป้องกันลูกกลางอากาศที่มาจากลูกเซ็ทพีท

       และผมอยากให้ดูสถิติแนวรับและผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล โดนโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามด้วยลูกครอสจากด้านข้างทุกรูปแบบเลยดีกว่า จะได้เห้นว่า จุดนี้ยังเป็นปัญหากับแนวรับและก็คาริอุสซึ่งเป็นผู้รักษาประตูอย่างไร



       และเมื่อดูจากการโดนโจมตีจากลูกครอสด้านข้างรวมลูกตั้งเตะและเตะมุมแล้ว 6 นัดที่คาริอุสลงเล่นมีลูกครอสจากฝ่ายตรงข้าม 69 ครั้ง กองหลังหรือผู้เล่นฝ่ายเดียวกันสกัดกั้นไว้ได้ 55 ครั้ง ขณะที่คาริอุสตัดบอลได้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น ที่เหลืออีก 10 ครั้งเป็นโอกาสทำประตูของคู่ต่อสู้ ซึ่งจุดนี้ทั้งคาริอุสและแนวรับต้องปรับปุรงแก้ไขหากคิดหวังจะทำผลงานทีมให้ดีกว่านี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่