ผมว่าวงการสมาร์ทโฟนช่วงปลายปี 2016 นี้คึกคักเป็นพิเศษเลย เพราะมีทั้งเรื่องตื่นเต้นของสาวกแอ็ปเปิ้ล กับ iPhone7 ข่าวลุ้นระทึกของสาวกซัมซุง กับ Note7 และข่าวน่าตื่นตาตื่นใจของนักเล่นสมาร์ทโฟนที่ชอบความแปลกใหม่ กับ Moto Z สำหรับผมนั้นออกตัวเลยว่าผมเป็น 1 ในสาวกแอ็ปเปิ้ลครับ เรียกว่า ติ่ง ก็คงไม่ผิด เพราะไม่ว่าศาสดาจะออกรุ่นไหนมา เป็นต้องแคะกระปุกไปรอซื้อหน้าช็อปซะทุกที ภักดีมาตั้งแต่ iPhone 3GS ที่ตอนนี้เก็บไว้บ้านที่จันทบุรี ไม่งั้นจะได้มายืนเรียงถ่ายรูปหมู่กับญาติๆด้วย



และแน่นอนว่าคราวนี้ผมก็ไม่พลาดที่จะไปสอย iPhone7 Plus มาครอบครองไว้เช่นกัน
ตอนแรกเห็นมีหลายเสียงบอกว่า iPhone7 Plus ดูแล้วไม่ต่างกับ iPhone6 Plus เท่าไหร่
แต่ด้วยใจรักและภักดีของผมที่มีต่อท่านศาสดา ก็ทำให้ผมมองข้ามเรื่องหน้าตาที่แทบไม่ต่างจากเดิมไปดูที่ออพชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามานั้นก็น่าสนใจ และด้วยความใหม่สดของมันก็ทำให้ผมตัดสินใจไปสอยแอ็ปเปิ้ลเบอร์ 7+ นี้มาในที่สุด!  แต่เครื่องก็หาซื้อยากมาก กว่าฟ้าดินจะบันดาลคนอื่นเค้าก็ใช้จนเห่อกันไปเป็นสัปดาห์ แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ ระหว่างที่ผมตามหา iPhone7  

อยู่ก็ไปเจอ Moto Z ที่ทรูช็อป เห็นแปลกดีก็ไปยืนเล่นอยู่พักใหญ่ เออ มันแปลกจริง! แปลกตรงที่มันมีของเล่นเสริมไม่เหมือนใคร เรียกว่า Moto Mod ที่ใช้งานโคตรง่าย แค่เอามาแปะป้าบติดกันเข้าไปก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องลงโปรแกรม ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก ที่สำคัญคือไม่เคยเห็นโทรศัพท์มือถือค่ายไหนทำอะไรล้ำๆแบบนี้มาก่อน เล่นไปเล่นมาดันติดใจ เริ่มเห็นแววเสียทรัพย์

หลังจากที่ได้ iPhone7 Plus มาแล้วสมใจหมาย เอามาเล่นมาเห่ออยู่วันนึง แต่ใจก็ยังคิดถึง Moto Z อยู่ไม่ขาด วันรุ่งขึ้นเลยตัดสินใจกลับไปทรูช็อป แล้วถอย Moto Z มาอีกเครื่องนึงทันที พร้อม Moto Mod ลำโพง JBL อีก 1 ชิ้น (ใจจริงอยากได้ Hasselbald แต่กระเป๋าแบนละครับ) เอาละ หมดตัวแล้ว สบายใจ


และด้วยอานุภาพความเห่อของใหม่ ที่รวมมูลค่าแล้วไม่ใช่น้อยๆ ผมก็เลยอยากจะมาทดสอบเรือธงทั้ง 2 ตัวนี้ให้เห็นกันจะๆ ว่ามีตรงไหนเหมือนหรือต่างกันยังไงบ้าง

  โดยผมจะแบ่งสังเวียนนี้เป็น 4 ยกหลักๆ ในแง่มุมของผู้บริโภคแบบผมโดยใช้ความรู้สึกที่ได้จากการใช้จริงเป็นหลัก เริ่มจากภายนอกไปจนถึงภายใน ซัดกันสเปคต่อสเปค งัดทุกอย่างมาเทียบกันจะๆ และสรุปความรู้สึกจากการใช้งานจริงไปพร้อมกัน ถ้าท่านผู้ชมพร้อมแล้ว นักมวยสุดฮอตวันนี้ก็พร้อมแล้วเช่นกัน ถ้าเช่นนั้นมาร่วมเป็นสักขีพยานของสังเวียนนี้กันเลยครับ !!! ป่ะ ลุยกัน

มาเริ่มจากหน้าตาภายนอกก่อนเลยครับ




ยกที่หนึ่ง วัสดุที่ใช้และลักษณะทั่วไป


Moto Z: ตัวเครื่องจากที่ไปหาข้อมูลมาเค้าบอกว่าเป็นวัสดุแบบ 7000 Series Aircraft-grade Aluminum แปลง่ายๆคือเป็นวัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องบิน  ด้านหลังเป็น Stainless Steel ครับ ดูแล้วน่าจะทนแน่ๆ ด้านล่างของหน้าจอก็จะมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือเป็นแบบสี่เหลี่ยม แต่ปุ่มนี้ไม่ใช่ปุ่ม Home เหมือน iPhone นะ กดไม่ได้ครับ ด้านหลังเห็นครั้งแรกจะแปลกตานิดนึงคือจะมีแถบ Connector ด้านล่างเอาไว้เชื่อมกับ Moto Mod โดยเฉพาะ



iPhone7 Plus: ตัวเครื่องหน้าตาคล้ายๆเดิมเลยครับ วัสดุที่ใช้จับแล้วให้ความรู้สึกพรี่เมี่ยมเหมือนเดิม หน้าตาภายนอกมองดูคล้าย iPhone6 Plus แต่ผมว่ามันดูเรียบหรูขึ้นนะ ปุ่มโฮมตื้นขึ้นเล็กน้อย เวลากดจะรู้สึกสั่นๆ ไม่เหมือนปุ่มเดิมที่กดแล้วยุบลงไป ส่วนที่ชอบเลยคือด้านหลังไม่มีเส้นสัญญาณมากวนสายตาแล้ว สวยงามมากขึ้น ชอบเลยครับ แล้วถ้ายิ่งเป็นสีดำคงยิ่งสวย



-น้ำหนัก / ความบาง




Moto Z:  136 กรัม ความบาง 5.19 มม.
iPhone7 Plus: 188 กรัม ความบาง 7.1 มิลลิเมตร


-ขนาดหน้าจอ

Moto Z:  5.5” ( Moto Z ตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.5” Quad HD ที่บางที่สุดในโลก ณ ตอนนี้เลยครับ)
iPhone7 Plus: 5.5”


-ที่ใส่การ์ด / ปุ่มด้านข้าง
Moto Z




iPhone7 Plus




Moto Z: ปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง และปุ่ม power อยู่ด้านขวาเรียงกันลงมาเลย ส่วนสล็อตใส่ซิมการ์ดและ SD Card จะอยู่ด้านบนครับ ช่องเดียวกันเลย
iPhone7 Plus: ปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียงจะอยู่ด้านซ้าย และปุ่ม power กับสล็อตใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านขวาเหมือนเดิมครับ

-ลำโพง
Moto Z


iPhone7 Plus



Moto Z: ลำโพงจะอยู่ที่ด้านบนหน้าจอตัวเดียว เสียงดังใช้ได้แต่ค่อนไปทางแหลมนิดหน่อยครับ
iPhone7 Plus: จะเป็นลำโพงแบบสเตอริโอรุ่นแรกของ iPhone นะครับ สังเกตว่าช่องลำโพงด้านบนจะยาวกว่า iPhone6s Plus และมีช่องลำโพงด้านล่างทั้ง 2 ฝั่ง แต่เสียงจะออกจากฝั่งขวาฝั่งเดียวเหมือนเดิมนะครับ
(ตรงนี้ติ่งอย่างผมแอบงงว่าแค่เจาะรูมาให้เหมือนว่ามีลำโพง 2 ฝั่งอ่ะนะ?!?)


-ช่องหูฟัง
Moto Z


iPhone7 Plus


Moto Z: ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm เช่นกัน ต้องเสียบกับหัวแปลง USB-C ครับ
ยกนี้ถือว่าเสมอกันครับ แต่แอบชอบ Moto Z อย่างนึงคือ พอตัดช่องเสียบหูฟังไปแล้วเค้ารีดตัวเองได้บางไปอีกเยอะเลย
iPhone7 Plus: ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 mm ไม่มีแล้วครับ จะใช้หูฟังแบบ Lightning EarPods กับหัวแปลงเสียบในช่องเดียวกับช่องที่ชาร์จแบตเตอรี่เลย

-ตำแหน่งกล้อง ตำแหน่งแฟลช
Moto Z




iPhone7 Plus


Moto Z: กล้องเดียวกลางมือถือ หากถอด Shell จะนูนออกมา เพราะฉะนั้นผมว่าควรใช้พร้อม Shell น่าจะดีที่สุดสำหรับตัวนี้ เพราะเขาออกแบบมาเพื่อใส่ Shell หรือ Mods ต่างๆ
iPhone7 Plus: กล้องคู่มุมซ้ายนูนเล็กน้อย ก็ถือว่าน่ากลัวเล็กๆถ้าไม่ได้ใส่เคส แต่ก็ยังสวยงามครับสำหรับการดีไซน์

-ความละเอียดหน้าจอ


Moto Z: หน้าจอ AMOLED 2,560x1,440 พิกเซล 535PPI
iPhone7 Plus: หน้าจอ IPS Retina HD 1920 x 1080 พิกเซล 401PPI

-กันน้ำ กันฝุ่น
หัวข้อนี้กะว่าจะไม่ทดสอบ แต่ไหนๆก็ไหนๆละเอาให้มันสุดไปสิวะ (ตอนสาดน้ำลงไปนี่กัดฟันสุดๆ)




Moto Z: เคลือบสารกันน้ำ Water-Repellant ตัวนนี้ไม่ได้เคลมเรื่องกันน้ำลึก แต่อ่านเจอมาว่ามือถือที่เคลือบสารกันน้ำมันจะกันได้นานกว่าแบบซีลกันน้ำครับ
iPhone7 Plus: กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 เค้าว่ากันว่ากันน้ำได้ลึก 1 เมตร นาน 30 นาที
         โอเคหลังจากทดสอบการสาดน้ำลงไปเบาะๆ เช็ดเครื่องเอามาใช้ถือว่าผ่านไปด้วยดี ไม่เกิดการสูญเสีย (ขอบคุณผลบุญที่ผมได้ทำมา)


ขอสรุปความรู้สึกโดยรวมเวลาจับ : ผมขอพูดข้อนี้รวมกันนะครับ ด้วยความที่ Moto Z มีความบางกว่าค่อนข้างมาก เวลาจับแล้วถนัดมือมากกว่า ให้คุณแฟนจับ แฟนผมก็บอกว่าจับตัว Moto Z ได้ถนัดมากกว่า ส่วนตัว Moto shell ที่เป็นฝาหลังก็ทำให้สามารถใช้เครื่องได้โดยไม่ต้องใส่เคส จับแล้วไม่ลื่นมือ แต่ตัวแอปเปิ้ลผมก็คุ้นชินกับเครื่องอยู่แล้ว ชอบสัมผัสของตัวเครื่อง ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมดี เรื่องดีไซน์ก็สวยงาม เรียบหรูขึ้นมากกว่า iPhone6 Plus สีดำที่ออกใหม่ก็เท่มาก แต่ก็หาซื้อยากสุดๆไปเลย

ยกที่สอง เรื่องระบบการทำงาน
-ระบบปฏิบัติการ
Moto Z: Qualcomm MSM8996 Snapdragon 820 (Kryo) , Quad-core ความเร็ว 1.8GHz Android 6.0.1 Marshmallow (Puredroid)
iPhone7 Plus: ชิปประมวลผล 64-bit Quad-Core Apple A10 Fusion , IOS 10

-RAM
Moto Z: 4GB
iPhone7 Plus: 3GB

-ROM
Moto Z: 64GB
iPhone7 Plus: 32/128/256 GB ตัวที่ผมได้มาอยู่ที่ 32GB ครับ


-เพิ่มความจำได้หรือไม่
Moto Z:  64GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 2TB  
iPhone7 Plus: ไม่ได้ครับ ความจำอยู่ที่ 32/128/256 GB

-ความอึดของแบตเตอรี่
Moto Z :  2,600 mAh มีระบบชาร์ตไว TurboPowerTM
iPhone7 Plus: 2900 mAh

ความรู้สึกจากการใช้งานจริง: เรื่องของความลื่นในการใช้งานผมไม่ติดทั้งสองเครื่องครับ ความรวดเร็วพอๆกัน เล่นเกมส์ เปิดเว็บทำได้ลื่นไหล ส่วนความต่างของแบต 300 mAh ในแง่การใช้งานจริงไม่ค่อยรู้สึกต่างกันมากนะครับ ความอึดในการใช้ต่อวันสูสีกันนะครับ


พื้นที่ไม่พอแล้วครับ เดี๋ยวขอเอายกที่สาม เรื่องของกล้องไปต่อในช่องความเห็นด้านล่างแล้วกันครับ