หากใครกำลังสนใจมือถือที่มีแบตเตอรี่อึด หน้าจอขนาดใหญ่และยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกมากมายในช่วงราคา 15,900 บาท วันนี้ผมจะมารีวิวมือถือรุ่น Motorola Moto Z Play พร้อมกับ โมดูลกล้อง Hasselblad ยี่ห้อชื่อดังจากประเทศสวีเดน
Moto Z Play เป็นมือถือตระกูลล่าสุดที่ทางมา Motolora ได้นำเข้ามาโดยจัดจำหน่ายโดย Lenovo มีด้วยกันทั้งหมดสองรุ่น รุ่นท็อป Moto Z และรุ่นกลาง Moto Z Play นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ค่อนข้างคุ้มมากเลยทีเดียว ด้วยแบตเตอรี่สุดอึด มีฝาหลังลายไม้คลาสสิค และการันตีด้วยแบรนด์ Motolora ในราคาเพียง 15,900 บาท
สเปค
Moto Z Play
ระบบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 + Areno 506
แรม 3 GB หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ Micro SD
Android 6.0.1 Marshmallow
หน้าจอ Amoled 5.5 นิ้ว Quad HD
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล F/2.0 พร้อม OIS (เลเชอร์โฟกัส, โหมด Manual,แฟลช แบบ ปรับสีได้)
วิดิโอสำหรับกล้องหลังความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 fps (รองรับ Slow-motion และ HDR วิดิโอ)
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 (แฟลช, โหมด บิวตี้, วิดิโอ Full HD 60 fps)
แบตเตอรี่ 3510 mAh (รองรับ Turbo Charge)
ลำโพงคู่หน้า และ ไมค์โครโฟน 3 ตัว
สแกนลายนิ้วมือ
Nano Sim, NFC, รองรับ 4G (Cat 6, 300/50 Mbps) Wireless AC
USB-C, หูฟัง 3.5 mm., ขั้วต่อ Moto Mod
ขนาด 156.4 x 76.4 x 6.99 มม. น้ำหนัก 165 กรัม
สีดำเงิน และ สีขาวทอง
เริ่มกันที่ตัวกล่องของ Moto Z Play มาในกล่องสีขาวตัดกับสีเขียว ด้านหลังก็จะมีแบบสเปคคร่าวๆ และรูปตัวอย่าง Mod อุปกรณ์ในกล่อง ประกอบด้วย
ตัวเครื่อง
คู่มือ
สายชาร์จ
สาย Usb Type C
หูฟัง
ฝาหลังลายไม้
โดยตัวเครื่องจะมีทั้งหมดสองสีที่จำหน่ายในไทยจะเป็นสี ดำ และ ขาว ด้านหน้ามีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080P แบบ Super AMOLED ทำให้จอมีสีสว่างสดใส ขอบสีเงินมีความหรูหรา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 165 กรัม หนา 7 มิลลิเมตร ในการจับถือขอบข้างๆค่อนข้างคมแต่สามารถติดฝาหลังไม้ Shell เข้าไปเพิ่มความสวยงามและทำให้จับกระชับมือยิ่งขึ้น (มีมาให้ในกล่อง)
ด้านบนของหน้าจอ มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และแฟลชกล้องหน้า ที่เป็นแฟลชจริงๆ ไม่ใช่แฟลชจากแสงหน้าจอ และลำโพงสนทนาที่รวมอยู่ในลำโพงหลักของตัวเครื่อง พร้อมโลโก้ Moto
ด้านล่างหน้าจอมีเพียง ไมโครโฟน และ ปุ่มแสกนลายนิ้วมือถือ โดยมีฟังก์ชั่นที่แปลกใหม่ เป็นปุ่มที่สามารถกดเปิดหน้าจอได้จากปุ่มนี้เลยเนื่องจาก ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มสลับแอพ จะอยู่ในหน้าจอ ทำให้สะดวกมากๆ แถมความเร็วในการแสกนนิ้ว เร็วเท่ากับเรือธงในหลายๆรุ่น เพียงแค่กดปุ่มก็เข้าสู่หน้าโฮมของมือถือได้ทันที
ในส่วนของด้านล่างเครื่อง รุ่นนี้มาพร้อม Port ใหม่ล่าสุด USB Type C และยังรองรับเทคโนโลยี TurboPower Charge เรียกได้ว่าชาร์จเร็วสุดๆ และ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 mm (รุ่น Moto Z ไม่มีช่องเสียบหูฟัง)
ด้านบน ไมโครโฟนตัวที่สอง และ ช่องใส่ซิมรุ่นนี้รองรับสองซิม สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 2 TB และ แถบสำหรับรับสัญญาณรองรับ 4G (Cat 6, 300/50 Mbps) รองรับ Wireless AC
ด้านหลังตัวเครื่องดีไซน์สวยด้วยกระจกทั้งชิ้น ด้านบนมาพร้อมกับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล F/2.0 พร้อมกันสั่น OIS ระบบโฟกัสแบบเลเซอร์ แฟลชแบบ True Tone Flash และโลโก้ตัว M ที่หลายๆคนคุ้นเคยดี
ด้านล่างเป็นจุดเด่นของตระกูล Moto Z เลยก็ว่าได้ พิน 16 จุดสำหรับรองรับ Moto Mod และ ฝาหลัง Shell ทางโมโตออกแบบให้ประกอบ "ง่ายมากๆ" ด้วยแม่เหล็ก ไม่ต้องกดเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก แค่ประกบเข้าด้วยกันก็พร้อมใช้ได้ทันที
ในด้านการใช้งาน Moto Z Play มาพร้อมกับ Android 6.0.1 ที่มี UI แบบ Pure Android บอกได้เลยว่าลื่นมากๆ การใช้งานทั่วไปลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น โดยทาง Motorola ได้มีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สามสิ่งที่ทาง Motorola เพิ่มเข้ามาให้คือ Moto Actions, Moto Voice และ Moto Display
Moto Actions เป็นการใช้งาน Gesture สำหรับการเป็น Short Cut ต่างๆ ในปัจจุบันสามารถ บิดข้อมือ 2 ครั้ง เพื่อเปิดกล้อง, ถือมือถือในแนวตั้ง แล้วเขย่า 2 ครั้งเป็นการเปิด หรือ ปิดไฟฉาย และ การแลกนิ้วจากแผงการแจ้งเตือน เป็นการเปิดโหมดใช้งานมือเดียว
Moto Voice เป็นลักษณะคล้าย Google Now บน Nexus/Pixel สำหรับการเรียก Google Now ขึ้นมา ด้วยคำพูด “Ok Moto” แล้วเราสามารถ สั่งให้โทรหา เปิดแผนที่ สร้างนัดหมาย ได้ โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
Moto Display เป็นการแสดงผลบนหน้าจอ Notification ตอนล็อคหน้าจอ โดยจะแสดงผลเมื่อมีการแจ้งเตือน โดยเราสามารถเลือกเข้าแอพ หรือ ปัดทิ้งได้เลย โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ และอีกหนึ่งวิธีในการเรียก Notification สามารถทำได้ด้วยการหยืบมือถือขึ้นมาหน้าจอก็จะแสดงอัตโนมัติ
ในด้านของแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ ถือว่าค่อนข้างทนมากเลยทีเดียว สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จ ทีมงานใช้งาน Facebook ทดลองถ่ายภาพ และ อื่นๆ อย่างหนัก (ไม่ได้เล่นเกม) สามารถใช้งานได้พ้นวันแบบสบายใจไม่ต้องพก PowerBank หรือใช้งานไม่มากสองวันสามารถก็ใช้ได้สบายๆ
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีการแข่งขันในด้านของกล้องอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง Moto ก็ได้เข้ามาแข่งในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน โดยชูโรงด้วย Moto Mod Hasselblad True Zoom
Moto Mods คืออะไร… Moto Mods ก็คือ อุปกรณ์เสริมที่ต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือ ทำให้โทรศัพท์มือถือมีความสามารถมากขึ้นหรือประสิทธิภาพมากขึ้น (โดยปัจจุบันได้แค่ Moto Play Z และ Moto Z ) สิ่งที่ทำให้ Moto Mods พิเศษก็คือการร่วมมือกับ Brand ดังๆในผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างเช่น JBL, Incipio และ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ Hasselblad เป็นสิ่งที่เราได้มารีวิวในวันนี้ครับ
Mods Hasselblad True Zoom เป็นอุปกรณ์เสริมที่ทาง Moto ร่วมมือกับทาง Hasselblad Brand กล้องชื่อดังจากประเทศสวีเดน สิ่งที่เป็นจุดเด่นของตัว Mod คือการที่มีเลนส์เพิ่มเข้ามา ทำให้เพิ่มมีระยะชูมที่มากขึ้นเป็นพิเศษ หากเทียบเท่ากับกล้อง Full Frame แล้วก็จะเทียบเท่ากับ 25-250 mm เลย เรียกได้ว่าได้ระยะครอบคลุมกว้างไปถึงระยะไกล โดยตัว Mods Hasselblad True Zoom มีสเปคหลักดังนี้ครับ
สเปค Mods Hasselblad True Zoom
ขนาด 152.3 x 72.9 x 9 – 15.1 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 145 กรัม
เลนส์ใช้เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว 1.55 um f/3.5-6.5
ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
วิดีโอความละเอียด Full HD 1080p/30fps
ระยะ 4.5-45 mm เทียบเท่า 25 – 250 mm (เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์ม)
มาโครใกล้สุด 5 เซนติเมตร เมื่อไม่ชูม และ 1.5 เมตร เมื่อชูมสุด
Xenon Flash
ระบบกันสั่นไหว OIS สำหรับภาพนิ่ง และ EIS สำหรับวิดิโอ
ISO ได้ตั้งแต่ 100 – 3,200
ราคา 9,990 บาท
สำหรับตัว Mods Hasselblad True Zoom มีขนาดที่ไม่ถึงกับหนักมากครับ อยู่ที่ 145 กรัม มีความหนา 9 มิลลิเมตร(ช่วงบอดี้) 15.1 มิลลิเมตร(ช่วงกริป) เมื่อประกบกับ Moto Z Play ทำให้น้ำหนักรวมอยู่ที่ 310 กรัม ไม่ถึงกับหนักมากข้อดีคือทำให้ถือตัวกล้องได้มั่นคงขึ้น
ดีไซน์ตัว Mods Hasselblad True Zoom มาด้วยสีดำและปุ่มชัตเตอร์สีส้ม ตัดกันได้ลงตัว ด้านหน้ามาพร้อมกับชุดเลนส์และเซ็นเซอร์ แบบ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว รูรับแสง f/3.5-6.5 สามารถซูมได้ถึง 10 เท่าแบบออปติคัล ทำให้คุณภาพการซูมดีกว่าแบบดิจิตอลแน่นอน มีแฟลชและไฟช่วยหาจุดโฟกัสในที่แสงน้อย
สำหรับการติดตัว Mods Hasselblad True Zoom เข้ากับ Moto Z Play สามารถทำได้ง่ายมากๆด้วยแรงแม่เหล็ก นำเข้ามาใกล้กันแล้วแม่เหล็กจะดูดยึดไว้ แน่นหนาแน่นอนครับ โดยจะเชื่อมข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อแบบ 16 พิน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อ
สำหรับการควบคุมกล้อง ก็ไม่ได้แตกต่างกับกล้องหลังปกติมากนัก ใช้งานง่ายด้วยโหมดออโต้ รองรับการถ่ายไฟล์ Raw โดยโหมดกล้องหลักมีทั้งหมด 4 โหมด
โหมดถ่ายภาพนิ่ง
โหมดถ่ายภาพวิดิโอ
โหมดถ่ายภาพ Paranoma
โหมดถ่ายแบบ Pro
ในส่วนของโหมด Pro สามารถปรับ การชดเชยแสง, ISO, Speed Shutter, ระยะโฟกัส, Whites Balances ได้อย่างง่ายดายเพื่อการถ่ายได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น อาทิ ใส่ขาตั้งกล้องแล้วลากสปีดชัตเตอร์ให้ยาวๆเพื่อนถ่ายภาพกลางคืน, ดันความไวแสงสูงๆ ทำให้สามารถใช้สปีดชัตเตอร์ได้สูง สำหรับการถ่ายกีฬา
การถ่ายภาพในสภาวะทั่วไปสามารถทำได้ดี โฟกัสได้ไวเพียงแค่กดลงบนจอ และอีกหนึ่งข้อดีของตัว Mod ที่ให้ฟิลลิ่งการถ่ายได้ดีมากๆด้วยปุ่มชัตเตอร์ที่สมจริง
รูปภาพตัวอย่างเมื่อชูมสุดไปที่ช่วงเทียบเท่า 250 mm. F/6.5 รายละเอียดก็ยังดีอยู่ ดีกว่ากล้องสมาร์ทโฟนทั่วไปมาก ระบบ Zoom ของตัว Mods ความเร็วในการซูมอยู่ในระดับที่เร็วเพียงพอในการใช้งาน แต่เนื่องด้วยมีมอเตอร์ทำให้ยังพอมีเสียงรบกวนอยู่บ้างในเวลาซูม
คุณภาพหลังจากการซูมสุดอาจจะมีสีและความคมดรอปลงไปบ้าง แต่อย่าลืมในความบางของตัวกล้องขนาดนี้ เซ็นเซอร์ที่ไม่ได้ใหญ่มาก ผมว่าคุณภาพถือว่าสมเหตุสมผลครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่มีประโยชน์มากๆในการถ่ายรูปนั้นก็คือ ระบบกันสั่นไหว OIS สำหรับภาพนิ่ง ที่จะช่วยในการถ่ายภาพกลางคืนให้นิ่งยิ่งขึ้น และ ระบบกันสั่น EIS ในการช่วยให้วิดิโอนิ่งขึ้น
[SR] รีวิว Moto Z Play มือถือแบตเตอรี่สุดอึด พร้อมโมดูลกล้อง Hasselblad จากประเทศสวีเดน!!
Moto Z Play เป็นมือถือตระกูลล่าสุดที่ทางมา Motolora ได้นำเข้ามาโดยจัดจำหน่ายโดย Lenovo มีด้วยกันทั้งหมดสองรุ่น รุ่นท็อป Moto Z และรุ่นกลาง Moto Z Play นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ค่อนข้างคุ้มมากเลยทีเดียว ด้วยแบตเตอรี่สุดอึด มีฝาหลังลายไม้คลาสสิค และการันตีด้วยแบรนด์ Motolora ในราคาเพียง 15,900 บาท
สเปค Moto Z Play
ระบบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 + Areno 506
แรม 3 GB หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ Micro SD
Android 6.0.1 Marshmallow
หน้าจอ Amoled 5.5 นิ้ว Quad HD
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล F/2.0 พร้อม OIS (เลเชอร์โฟกัส, โหมด Manual,แฟลช แบบ ปรับสีได้)
วิดิโอสำหรับกล้องหลังความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 fps (รองรับ Slow-motion และ HDR วิดิโอ)
กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 (แฟลช, โหมด บิวตี้, วิดิโอ Full HD 60 fps)
แบตเตอรี่ 3510 mAh (รองรับ Turbo Charge)
ลำโพงคู่หน้า และ ไมค์โครโฟน 3 ตัว
สแกนลายนิ้วมือ
Nano Sim, NFC, รองรับ 4G (Cat 6, 300/50 Mbps) Wireless AC
USB-C, หูฟัง 3.5 mm., ขั้วต่อ Moto Mod
ขนาด 156.4 x 76.4 x 6.99 มม. น้ำหนัก 165 กรัม
สีดำเงิน และ สีขาวทอง
เริ่มกันที่ตัวกล่องของ Moto Z Play มาในกล่องสีขาวตัดกับสีเขียว ด้านหลังก็จะมีแบบสเปคคร่าวๆ และรูปตัวอย่าง Mod อุปกรณ์ในกล่อง ประกอบด้วย
ตัวเครื่อง
คู่มือ
สายชาร์จ
สาย Usb Type C
หูฟัง
ฝาหลังลายไม้
โดยตัวเครื่องจะมีทั้งหมดสองสีที่จำหน่ายในไทยจะเป็นสี ดำ และ ขาว ด้านหน้ามีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080P แบบ Super AMOLED ทำให้จอมีสีสว่างสดใส ขอบสีเงินมีความหรูหรา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 165 กรัม หนา 7 มิลลิเมตร ในการจับถือขอบข้างๆค่อนข้างคมแต่สามารถติดฝาหลังไม้ Shell เข้าไปเพิ่มความสวยงามและทำให้จับกระชับมือยิ่งขึ้น (มีมาให้ในกล่อง)
ด้านบนของหน้าจอ มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และแฟลชกล้องหน้า ที่เป็นแฟลชจริงๆ ไม่ใช่แฟลชจากแสงหน้าจอ และลำโพงสนทนาที่รวมอยู่ในลำโพงหลักของตัวเครื่อง พร้อมโลโก้ Moto
ด้านล่างหน้าจอมีเพียง ไมโครโฟน และ ปุ่มแสกนลายนิ้วมือถือ โดยมีฟังก์ชั่นที่แปลกใหม่ เป็นปุ่มที่สามารถกดเปิดหน้าจอได้จากปุ่มนี้เลยเนื่องจาก ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มสลับแอพ จะอยู่ในหน้าจอ ทำให้สะดวกมากๆ แถมความเร็วในการแสกนนิ้ว เร็วเท่ากับเรือธงในหลายๆรุ่น เพียงแค่กดปุ่มก็เข้าสู่หน้าโฮมของมือถือได้ทันที
ในส่วนของด้านล่างเครื่อง รุ่นนี้มาพร้อม Port ใหม่ล่าสุด USB Type C และยังรองรับเทคโนโลยี TurboPower Charge เรียกได้ว่าชาร์จเร็วสุดๆ และ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 mm (รุ่น Moto Z ไม่มีช่องเสียบหูฟัง)
ด้านบน ไมโครโฟนตัวที่สอง และ ช่องใส่ซิมรุ่นนี้รองรับสองซิม สามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุด 2 TB และ แถบสำหรับรับสัญญาณรองรับ 4G (Cat 6, 300/50 Mbps) รองรับ Wireless AC
ด้านหลังตัวเครื่องดีไซน์สวยด้วยกระจกทั้งชิ้น ด้านบนมาพร้อมกับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล F/2.0 พร้อมกันสั่น OIS ระบบโฟกัสแบบเลเซอร์ แฟลชแบบ True Tone Flash และโลโก้ตัว M ที่หลายๆคนคุ้นเคยดี
ด้านล่างเป็นจุดเด่นของตระกูล Moto Z เลยก็ว่าได้ พิน 16 จุดสำหรับรองรับ Moto Mod และ ฝาหลัง Shell ทางโมโตออกแบบให้ประกอบ "ง่ายมากๆ" ด้วยแม่เหล็ก ไม่ต้องกดเชื่อมต่อให้ยุ่งยาก แค่ประกบเข้าด้วยกันก็พร้อมใช้ได้ทันที
ในด้านการใช้งาน Moto Z Play มาพร้อมกับ Android 6.0.1 ที่มี UI แบบ Pure Android บอกได้เลยว่าลื่นมากๆ การใช้งานทั่วไปลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น โดยทาง Motorola ได้มีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สามสิ่งที่ทาง Motorola เพิ่มเข้ามาให้คือ Moto Actions, Moto Voice และ Moto Display
Moto Actions เป็นการใช้งาน Gesture สำหรับการเป็น Short Cut ต่างๆ ในปัจจุบันสามารถ บิดข้อมือ 2 ครั้ง เพื่อเปิดกล้อง, ถือมือถือในแนวตั้ง แล้วเขย่า 2 ครั้งเป็นการเปิด หรือ ปิดไฟฉาย และ การแลกนิ้วจากแผงการแจ้งเตือน เป็นการเปิดโหมดใช้งานมือเดียว
Moto Voice เป็นลักษณะคล้าย Google Now บน Nexus/Pixel สำหรับการเรียก Google Now ขึ้นมา ด้วยคำพูด “Ok Moto” แล้วเราสามารถ สั่งให้โทรหา เปิดแผนที่ สร้างนัดหมาย ได้ โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
Moto Display เป็นการแสดงผลบนหน้าจอ Notification ตอนล็อคหน้าจอ โดยจะแสดงผลเมื่อมีการแจ้งเตือน โดยเราสามารถเลือกเข้าแอพ หรือ ปัดทิ้งได้เลย โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ และอีกหนึ่งวิธีในการเรียก Notification สามารถทำได้ด้วยการหยืบมือถือขึ้นมาหน้าจอก็จะแสดงอัตโนมัติ
ในด้านของแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ ถือว่าค่อนข้างทนมากเลยทีเดียว สามารถใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จ ทีมงานใช้งาน Facebook ทดลองถ่ายภาพ และ อื่นๆ อย่างหนัก (ไม่ได้เล่นเกม) สามารถใช้งานได้พ้นวันแบบสบายใจไม่ต้องพก PowerBank หรือใช้งานไม่มากสองวันสามารถก็ใช้ได้สบายๆ
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีการแข่งขันในด้านของกล้องอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง Moto ก็ได้เข้ามาแข่งในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน โดยชูโรงด้วย Moto Mod Hasselblad True Zoom
Moto Mods คืออะไร… Moto Mods ก็คือ อุปกรณ์เสริมที่ต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือ ทำให้โทรศัพท์มือถือมีความสามารถมากขึ้นหรือประสิทธิภาพมากขึ้น (โดยปัจจุบันได้แค่ Moto Play Z และ Moto Z ) สิ่งที่ทำให้ Moto Mods พิเศษก็คือการร่วมมือกับ Brand ดังๆในผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างเช่น JBL, Incipio และ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ Hasselblad เป็นสิ่งที่เราได้มารีวิวในวันนี้ครับ
Mods Hasselblad True Zoom เป็นอุปกรณ์เสริมที่ทาง Moto ร่วมมือกับทาง Hasselblad Brand กล้องชื่อดังจากประเทศสวีเดน สิ่งที่เป็นจุดเด่นของตัว Mod คือการที่มีเลนส์เพิ่มเข้ามา ทำให้เพิ่มมีระยะชูมที่มากขึ้นเป็นพิเศษ หากเทียบเท่ากับกล้อง Full Frame แล้วก็จะเทียบเท่ากับ 25-250 mm เลย เรียกได้ว่าได้ระยะครอบคลุมกว้างไปถึงระยะไกล โดยตัว Mods Hasselblad True Zoom มีสเปคหลักดังนี้ครับ
สเปค Mods Hasselblad True Zoom
ขนาด 152.3 x 72.9 x 9 – 15.1 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 145 กรัม
เลนส์ใช้เซ็นเซอร์ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว 1.55 um f/3.5-6.5
ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
วิดีโอความละเอียด Full HD 1080p/30fps
ระยะ 4.5-45 mm เทียบเท่า 25 – 250 mm (เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์ม)
มาโครใกล้สุด 5 เซนติเมตร เมื่อไม่ชูม และ 1.5 เมตร เมื่อชูมสุด
Xenon Flash
ระบบกันสั่นไหว OIS สำหรับภาพนิ่ง และ EIS สำหรับวิดิโอ
ISO ได้ตั้งแต่ 100 – 3,200
ราคา 9,990 บาท
สำหรับตัว Mods Hasselblad True Zoom มีขนาดที่ไม่ถึงกับหนักมากครับ อยู่ที่ 145 กรัม มีความหนา 9 มิลลิเมตร(ช่วงบอดี้) 15.1 มิลลิเมตร(ช่วงกริป) เมื่อประกบกับ Moto Z Play ทำให้น้ำหนักรวมอยู่ที่ 310 กรัม ไม่ถึงกับหนักมากข้อดีคือทำให้ถือตัวกล้องได้มั่นคงขึ้น
ดีไซน์ตัว Mods Hasselblad True Zoom มาด้วยสีดำและปุ่มชัตเตอร์สีส้ม ตัดกันได้ลงตัว ด้านหน้ามาพร้อมกับชุดเลนส์และเซ็นเซอร์ แบบ BSI CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว รูรับแสง f/3.5-6.5 สามารถซูมได้ถึง 10 เท่าแบบออปติคัล ทำให้คุณภาพการซูมดีกว่าแบบดิจิตอลแน่นอน มีแฟลชและไฟช่วยหาจุดโฟกัสในที่แสงน้อย
สำหรับการติดตัว Mods Hasselblad True Zoom เข้ากับ Moto Z Play สามารถทำได้ง่ายมากๆด้วยแรงแม่เหล็ก นำเข้ามาใกล้กันแล้วแม่เหล็กจะดูดยึดไว้ แน่นหนาแน่นอนครับ โดยจะเชื่อมข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อแบบ 16 พิน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อ
สำหรับการควบคุมกล้อง ก็ไม่ได้แตกต่างกับกล้องหลังปกติมากนัก ใช้งานง่ายด้วยโหมดออโต้ รองรับการถ่ายไฟล์ Raw โดยโหมดกล้องหลักมีทั้งหมด 4 โหมด
โหมดถ่ายภาพนิ่ง
โหมดถ่ายภาพวิดิโอ
โหมดถ่ายภาพ Paranoma
โหมดถ่ายแบบ Pro
ในส่วนของโหมด Pro สามารถปรับ การชดเชยแสง, ISO, Speed Shutter, ระยะโฟกัส, Whites Balances ได้อย่างง่ายดายเพื่อการถ่ายได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น อาทิ ใส่ขาตั้งกล้องแล้วลากสปีดชัตเตอร์ให้ยาวๆเพื่อนถ่ายภาพกลางคืน, ดันความไวแสงสูงๆ ทำให้สามารถใช้สปีดชัตเตอร์ได้สูง สำหรับการถ่ายกีฬา
การถ่ายภาพในสภาวะทั่วไปสามารถทำได้ดี โฟกัสได้ไวเพียงแค่กดลงบนจอ และอีกหนึ่งข้อดีของตัว Mod ที่ให้ฟิลลิ่งการถ่ายได้ดีมากๆด้วยปุ่มชัตเตอร์ที่สมจริง
รูปภาพตัวอย่างเมื่อชูมสุดไปที่ช่วงเทียบเท่า 250 mm. F/6.5 รายละเอียดก็ยังดีอยู่ ดีกว่ากล้องสมาร์ทโฟนทั่วไปมาก ระบบ Zoom ของตัว Mods ความเร็วในการซูมอยู่ในระดับที่เร็วเพียงพอในการใช้งาน แต่เนื่องด้วยมีมอเตอร์ทำให้ยังพอมีเสียงรบกวนอยู่บ้างในเวลาซูม
คุณภาพหลังจากการซูมสุดอาจจะมีสีและความคมดรอปลงไปบ้าง แต่อย่าลืมในความบางของตัวกล้องขนาดนี้ เซ็นเซอร์ที่ไม่ได้ใหญ่มาก ผมว่าคุณภาพถือว่าสมเหตุสมผลครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่มีประโยชน์มากๆในการถ่ายรูปนั้นก็คือ ระบบกันสั่นไหว OIS สำหรับภาพนิ่ง ที่จะช่วยในการถ่ายภาพกลางคืนให้นิ่งยิ่งขึ้น และ ระบบกันสั่น EIS ในการช่วยให้วิดิโอนิ่งขึ้น