Update พัฒนาการน้องวิลเลี่ยม (เด็กลูกกรอก) ... 5 ขวบกับการเดินเขย่งปลายเท้า

ห่างหายไปปีกว่าๆ กับสังคมพันทิป เข้ามาเช็คอีกที มีเพื่อนๆ ส่งหลังไมค์เข้ามาถามถึงความเป็นไปของวิลเลี่ยมกันเยอะเลย ต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะที่สนใจติดตามน้อง หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าเอ๊ย...ยัยนี่พูดพร่ำอะไร เอาเป็นว่าขออธิบายย่อด้วยการยกเอากระทู้ที่เคยตั้งกับรูปของน้องมาให้ดูนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ร้องไห้วิลเลี่ยมอายุ 3 วัน นน. 1.2 กิโลกรัมร้องไห้

วิลเลี่ยม ณ ปัจจุบัน

หัวใจมีคนบอกว่าผมหน้าเหมือนพี่ "ณเดช" ผสมพี่ "มาริโอ้" หัวใจ

ตอนนี้อายุ 5 ขวบแล้วครับ

เท่ล่าสุด สดๆ ร้อนๆเท่

ขอเก๊กนิดๆ พอเป็นกะษัย

จุ๊บๆกับน้องกิ่งเตยคู่จิ้นตั้งแต่คลอด คู่แฝดวัยเด็กของพี่ขวัญ อุษามณีที่กำลังเป็นข่าวตอนนี้จุ๊บๆ


วิลเลี่ยมก็เป็นเด็กชายวัย 5 ขวบธรรมดาๆ นี้แหละค่ะ แต่คุณแม่ตัดสินใจมาแชร์ประสบการณ์การคลอดก่อนกำหนดและปัญหาสุขภาพของวิลเลี่ยม เลยมีคำถามจากเพื่อนๆ มาถามหลังไมค์เยอะ เพราะครอบครัวของพวกเราอยู่ออสเตรเลีย ซึงต้องยอมรับว่าระบบ social security นั้นดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก วิลเลี่ยมเลยได้รับการบำบัดในหลายๆ ด้านที่บางทียังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางในประเทศไทย กระทู้นี้ขอยกตัวอย่างหนึ่งในอาการที่วิลเลี่ยมเป็น เพื่อเป็นความรู้แก่เพื่อนๆ ทั้งที่ถามมา และเพื่อเป็นการ update พัฒนาการของน้องไปในตัวนะคะ

"เดินเขย่งปลายเท้า"

ในเด็กเล็ก ก่อน 3 ขวบ การเดินเขย่งปลายเท้า สำหรับเด็กนั้นยังถือเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจาก 3 ขวบ ถึง 5 ขวบแล้วถ้ายังไม่กลับไปเดินแบบปกตินั้น จำเป็นต้องได้รับการบำบัดค่ะ เนื่องด้วยข้อเสียทางสุขภาพหลายๆ อย่าง รวมไปถึงบุคลิกภาพด้วย ในกรณีวิลเลี่ยม น้องเดินปลายเท้ามาตั้งแต่หัดตั้งไข่ได้ จนมาถึงตอนนี้
* ทำให้น่องโป่งพองเป็นลูกๆ เหมือนนักมวยน่ะค่ะ เพราะกล้ามเนื้อส่วนนั้นถูกใช้งานหนัก ไม่ได้พักเลย ทำให้น้องเป็นตะคริวบ่อย
* ถ้าเดินแบบนี้ต่อไปข้อเท้าส่วนหลัง เหนือเอ็นร้อยหวายจะไม่ได้ใช้งาน
* น้องมีกล้ามเนื้อส่วนกลาง หรือช่วงลำตัวอ่อนแอ เพราะเวลาเดินปลายเท้า น้องเดินแบบถลาตัวไปข้างหน้าตลอด ไม่มีการยั้งตัวเองทำให่กล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ได้ใช้งานเท่าที่ควร
* ล้มบ่อย นิ้วเท้าได้รับการบาดเจ็บบ่อย
* รองเท้า ถุงเท้าพังบ่อยมากกก (อิแม่ขอบ่นนิด 555+)
*เล่นกีฬาบางประเภทได้ไม่ดี เพราะการเดินการวิ่งแบบนี้ทำให้เปลี่ยนทิศทางได้ยากค่ะ

ข้างต้นนี้คือข้อเสียคร่าวๆ ในตอนนี้นะคะ ส่วนข้อเสียระยะยาวคือ ข้อเสื่อม กล้ามเนื้อฝ่อเมื่อแก่ตัวไปค่ะ เหมือนที่หมอฝรั่งบอกคุณแม่ไว้ว่า "If you don't use it, you will lose it" ถ้าเราไม่ใช้งานส่วนใดของร่างกาย ส่วนนั้นจะเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดค่ะ...

สาเหตุของการเดินปลายเท้ามีมาจากหลายปัจจัยค่ะ คร่าวๆ ก็
* กรรมพันธุ์ (น้องอีฟ น้องสาววิลเลี่ยมก็เริ่มแล้วค่ะ อิแม่เซ็ง...)
* การคลอดก่อนกำหนด
* การผิดปกติของกล้ามเนื้อ
* ปัญหาทางระบบประสาททั้ง 5 หรือ sensory
* ออทิสซึ่ม
* โรคสมองพิการชนิดหดเกร็ง หรือ Cerebral palsy

กรณีของวิลเลี่ยม มีประวัติทางครอบครัวค่ะ (ทั้งทางฝั่งแม่และฝั่งแดดดี๊) แต่ทุกคนในครอบครัวกลับมาเดินปกติตอนประมาณ 3-4 ขวบ แถมน้องยังคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย พออายุได้ 3 ขวบครึ่งคุณแม่เลยพาไปหาหมอ หลังจากที่ตรวจเบื้องต้นแล้วไม่พบอาการออทิสซึม อาการทางสมองหรือความผิดปกติทางกล้ามเนื้อ คุณหมอเลยส่งตัวไปหา specialists เพื่อทำการบำบัดต่อไป

เริ่มต้นเลย นักกายภาพบำบัดก็จะตรวจดูกล้ามเนื้อต่างๆ ของน้องและข้อเท้าว่าอยู่ในระดับแย่ขนาดไหน ผลออกมาว่าข้อเท้าเกร็งมาก สามารถทำมุมได้แค่ 90 องศา กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอ พวกเขาจึงแนะนำประเภทของรองเท้าที่สามารถช่วยได้ คือรองเท้าหุ้มข้อคล้ายพวกคอนเวอส แต่พื้นรองเท้าต้องดึงออกมาและใส่โฟมชนิดแข็งลงไป เพื่อให้เค้าไม่สามารถเดินบนปลายเท้าได้ และแนะนำการออกกำลังกายท่าต่างๆ รวมไปถึงการนวดคลายกล้ามเนื้อที่พ่อแม่ต้องทำให้ ... ตอนเริ่มการบำบัดน้องยังไม่ได้ไปรร.ค่ะ (3.5 - 4.5 ขวบ)

เวลาผ่านไปหนึ่งปี พอเริ่มไปเรียน แม่ก็ไม่สามารถช่วยเตือนได้ตลอด 24 ชม. ประกอบกับการที่น้องตัวใหญ่ขึ้น ทำให้เขาแรงเยอะ การต้านทางกล้ามเนื้อเยอะ ทำให้แม่นวดให้ไม่ได้แล้ว ตอนนั้นแม่พึ่งเรียนจบ certificate เกี่ยวกับ health care และ disability (เพื่อมาดูแลลูกตัวเอง 555+ ขอบ่นอีกรอบ) เลยพากลับไปหานักบำบัดและขอใช้มาตรการณ์ขั้นเด็ดขาดนั่นคือ...

"การใส่เฝือก"

จากการบำบัดรักษาเป็นเวลา 1.5 ปี จนเค้าจำหน้าได้หมดทั้งคลินิคแล้ว 555+ ทุกคนเลยตกลงกันว่า ... ให้ใส่เฝือก serial casting แยกเป็นสอง step นั่นคือ ใส่แบบไฟเบอร์กลาสและแบบ braces ที่ถอดได้



นี่คือแบบ fibreglass ค่ะ แบบเดียยวที่ใช้ในผู้ป่วยกระดูกหัก/ร้าว/เคลื่อน ใส่แล้วใส่เลย ถอดไม่ได้โดนน้ำไม่ได้ อาบน้ำคือ ต้องอาบกันแบบเด็กทารกเลยทีเดียว ช่วยกันสองคนกับแดดดี๊ ทุลักทุเลพอสมควร ยังดีที่ไปเปลี่ยนทุกๆ อาทิตย์ ตอนถอดนี้ แม่เอ๊ย.... เหม็นมากก วิลเลี่ยมเลยได้ชื่อเล่นว่า...หล่อแต่เหม็น อิอิ



อาทิตย์ที่สองแล้วค่ะ ได้สีขาวนะงวดนี้

ต้องไปเปลี่ยนอีกรอบค่ะสำหรับเฝือกนี้ แลัวหลังจากนั้นก็จะเป็น braces แบบนี้ ซึ่งต้องไปวัด ทำแม่พิมพ์ และไปใส่ที่รพ. วิลเลี่ยมเลือกลายไดโนเสาร์ครับผม จะได้ไปเปลี่ยนวันที่ 15 เดือนนี้แล...



จบ...



555+ ล้อเล่น ... main idea ของการใส่เฝือกคือการเปลี่ยน pattern ในการเดิน ให้น้องจำ pattern ใหม่ค่ะ ออกแนวบังคับ เพราะวิธีแรกไม่ได้ผลนั่นเอง ต้องใส่ไปเป็นเวลาอย่างต่ำ 6 เดือนค่ะ หลังจากนั้นต้องดูกันอีกที

ปล. สำหรับเพื่อนๆ คนไหนมีปัญหาอยากถาม ไม่ว่าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องที่โพสไป รบกวนติดต่อ/ติดตามที่เฟสคุณแม่ Papitchaya Gully นะคะ เพราะถ้าส่งคำถามมาหลังไมค์ คงจะได้เข้ามาตอบอีกทีปีหน้าแน่เลย 555+
ปล.2 ขอโทษที่ต้องใช้ไทยมั่ง english มั่ง ใช้คอมฯของสามีค่ะ ไม่มีแป้นไทย แถมบางคำนึกคำแปลไทยไม่ออกจริงๆ
ปล.3 ย่อรูปไม่เป็นค่ะ 555+
ปล.4 เรียกว่ามู้อวดลูกก็ได้ค่ะ เพราะวิลเลี่ยมทั้งเก่ง ทั้งสู้ ทั้งหล่อ แม่คนไหนไม่อยากอวดบ้างเนอะ อิอิ
ปล.5 ขำ ปล.ข้างบน 555+

ไปจริงๆ ละ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ



เพี้ยนแบ๊ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่