ตอนที่ 1 : http://ppantip.com/topic/35778470
ตอนที่ 2 : http://ppantip.com/topic/35778691

ตอนที่ 3 : Niseko - Jozankei (26 Oct 2016)

         ตื่นแต่เช้าตั้งใจจะเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้น ออกไปยืนฝ่าความหนาวที่ระเบียงห้องพัก จุดที่ผมยืนมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ที่กำลังไต่ขอบฟ้าขึ้นมาเรื่อยๆ ได้แต่สังเกตเห็นว่าฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีไป







         ยอมรับว่าสิ่งที่เห็นด้วยตากับภาพที่บันทึกได้ มันแทนกันไม่ได้ อารมณ์ความรู้สึกจริงกับสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพไม่อาจเทียบกันได้เลย หลังจากชื่นชมวิวจากระเบียงห้องจนอิ่มเอมแล้วก็ลงไปออนเซ็น แล้วขึ้นมาทานอาหารเช้า เสร็จแล้วก็เห็นว่าตอนนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปมากจากเมื่อเช้าก็เลยจัดเต็มไปอีกหนึ่งชุด












         Check out โรงแรมแล้วขับรถมุ่งหน้าไปโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) แหล่งออนเซ็นชื่อดังที่คนนิยมไปกันเพราะอยู่ใกล้กับซัปโปโรมาก ระหว่างทางผมก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ










         เพื่อนผมเลือกทางขึ้นเขาเพื่อจะได้วิวทิวทัศน์ที่สวยๆ ขับผ่านเมืองออนเซ็นบนยอดเขา (ลืมดูว่าชื่ออะไร) เมื่อก่อนคงเฟื่องฟูมาก แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลง เหลือเปิดบริการอยู่ไม่กี่ที่ มีหลายแห่งถูกทิ้งร้างสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา


         เราขับขึ้นเขามา (ตาม Google Map) จนถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เพราะถนนปิด


         ต้องขับย้อนกลับมาทางเดิม ขามาจำได้ว่าผ่าน Information Center ก็เลยแวะถามเขา เขาให้ขัอมูลว่าถนนเพิ่งปิดไปเมื่อสองวันก่อน เพราะตอนนี้กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนมีหิมะตกเดินทางลำบาก หากเราต้องการจะไป Jozankei ก็ต้องกลับไปตั้งต้นใหม่ที่ Niseko ซึ่งเราก็ไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องย้อนกลับไปทางที่มา แต่ข้อดีก็คือได้แวะจอดถ่ายรูปหลายที่ที่เมื่อวานต้องการจะถ่ายแต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ

สะพานข้ามทางรถไฟ สีเหลืองสดใส ดีไซน์สุดเก๋




เมือง Niseko


ฟักทองฮาโลวีน (Halloween Pumpkin) หน้าสถานี Niseko เนื่องจากช่วงที่ไปใกล้จะถึงวันฮาโลวีน



เข้าไปขอข้อมูลร้านอาหารที่ Tourist Information ในสถานี Niseko ได้ทราบว่าวันนี้วันพุธร้านส่วนใหญ่หยุด!


แวะซื้อผลไม้กันที่ร้านนี้



และทานราเมงเป็นมื้อกลางวันกันคนละชาม (ชามใหญ่จัง) แถมยังไปสั่งเพิ่มเนื้อหมูอีกด้วย



ระว่างทางไป Jozankei แวะถ่ายภาพ Mount Yōtei หรือที่ได้รับฉายาว่า ฟูจิน้อยแห่งฮอกไกโด (Littele Fuji)








Mount Yōtei ที่ผ่านตอนขามา (เมื่อวาน) ตอนนั้นแสงเริ่มน้อยแล้ว


         ประมาณสี่โมงครึ่งก็ถึง Jozankei เข้า Check in โรงแรม Shikanoyu ที่จองผ่าน Japanican ไว้  ทริปนี้ขอนอกใจ Booking.com  หน่อยนะ เพราะว่าเมื่อเทียบกับใน japanican แล้วเขามีแพ็คเก็จที่ดูน่าสนใจกว่า เช่นโรงแรมที่จองวันนี้เป็น “Sushi, Crab and Steak Dinner Plan” คือมีมื้อเย็นเป็นบุปเฟ่ต์แล้วก็มี Set Menu ซึ่งประกอบด้วยซูชิ 3-4 ชิ้น ขาปู 2-3 ขา และชุดปิ้งที่เป็นเนื้อ 2-3 ชิ้น (เนื้ออร่อยมาก แต่เติมไม่ได้เพราะเป็น Set Menu) อาหารใน Set Menu อาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่เนื่องจากมีบุฟเฟต์เป็น All you can eat อยู่แล้วถึงยังไงก็ไม่หิวกับไปห้องหรอก ตอนที่เข้ามา Check-in โรงแรมเขาจะถามเราว่าต้องการจะทานมื้อเย็นรอบไหน มีสองรอบให้เลือกคือ (1) 17:30〜19:00 น. และ (2) 19:15〜20:45 น. ซึ่งคณะผมเลือกทานรอบดึก เพราะยังอิ่มราเมงชามใหญ่เมื่อตอนบ่ายอยู่ และจะได้มีเวลาไปออนเซ็นก่อน ค่าห้องพักสองคนรวมอาหารสองมื้อราคาห้องละ 16,000 เยน หรือประมาณ 5,400 บาท (หัวละไม่ถึง 3,000) พวกเราทานมื้อเย็นกันจนใกล้เวลาปิดห้องอาหาร ลุกออกมาน่าจะเป็นโต๊ะรองสุดท้ายเลยล่ะ . . .

ตอนที่ 4 : http://ppantip.com/topic/35787091