[CR] แชร์ประสบการณ์ ทำMRI โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

สวัสดีค่ะ ขอเล่าประสบการณ์การไปตรวจและทำMRI เพื่อวินิจฉัยโรคเนื่องจากอาการปวดหลังร้าวลงต้นขาด้านหลัง
คือว่าก่อนไปทำMRIได้เข้ามาหาข้อมูลก็ไม่พบว่ามีใครเล่าไว้เลย  หาข้อมูลที่อื่นก็มีแต่ที่หมอ/ รพ.เขียนไว้ด้านเดียว ลองมาอ่านประสบการณ์จากด้านคนไข้ดูบ้าง ว่าได้เจออะไร รู้สึกยังไง ใครต้องไปตรวจจะได้ไม่กลัว รีบๆไปทำเลยค่ะ ถ้าจำเป็นต้องทำก็ไม่ต้องลังเล
เรื่องมันเริ่มที่มีอาการปวดหลังและปวดเมื่อยขาเป็นประจำอยู่ แต่คิดว่าเพราะอายุมากขึ้น หรือเพราะผลจากยารักษาโรคประจำตัวเราที่อาจที่ส่งผลให้ปวดกล้ามเนื้อเช่น ยาลดไขมันเลือด ความดันโลหิตสูงที่กินอยู่ทุกๆวัน
แต่ว่าตอนนี้อาการปวดหลังและปวดเมื่อยต่างๆที่เป็นๆหายๆ กลับไม่ค่อยหาย แล้วก็เกิดปวดร้าวลงที่ต้นขาด้านหลัง แถมมีอาการปวดเข่าเวลาเผลอนั่งยองๆทำงานบ้านบางอย่างอีกด้วย  
วันนี้หลังจากไปหาหมอเพื่อเอายาโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูงเสร็จก็เลยเดินไปเอาคิวตรวจคลินิกพิเศษโรคกระดูก ตอนบ่ายต่อ
ระหว่างรอตรวจก็ไปชอปปิ้งข้างรพ.เสร็จบ่ายโมงพอดิบพอดี ได้เวลาไปนั่งคอยตามคิว
นั่งคอยไม่นานก็ถูกเรียกชื่อเข้าห้องตรวจ คลินิกพิเศษก็ดียังงี้ละ
ระหว่างรอตรวจก็นั่งทบทวนอาการตัวเอง ว่าเป็นยังไงมาบ้าง ไม่ต้องให้เสียเวลาหมอ
พอเข้าห้องตรวจก็รายงานสรุปอาการอย่างย่อทันที
"อาการคือปวดหลังร้าวลงสะโพกค่ะคุณหมอ แถมปวดเข่าด้านเดียวกันด้วย"
คุณหมอยิ้มๆ แล้วถามว่าเป็นมานานรึยัง เคยรักษาไหมอะไรต่ออะไร ตามธรรมเนียม
จากนั้นสั่งให้พับขากางเกงขายาวขึ้นเพื่อสังเกต ลักษณะเข่าทั้งสองข้าง
เรานึกในใจว่าเอ่อ ปวดข้างเดียวนะคะ หมอนั่งดูแป็บๆ แล้วก็สั่งให้ลุกขึ้นยืนก้มลง 90°แล้วสั่งให้ไอแรงๆ คงดูว่าจะมันสะเทือนหลังแค่ไหน ไอไปหลายครั้งอยู่เลยรีบบอกว่า(แค่นี้)ไม่เจ็บหลังคะ
หมอเลยจับหลังดันไปด้านหน้านิดนึงเพื่อให้หลังแอ่น ก็เกิดอาการเจ็บแปลบที่ประจำคือสะโพกด้านหลังทันที ร้องโอยๆโดยไม่ตั้งใจ
แค่นี้คุณหมอก็ยิ้ม บอกว่าสงสัยเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทหลัง แต่เพื่อความชัวร์ต้องทำMRI วินิจฉัยก่อนว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน จะได้รักษาให้ถูกโรค แต่รพ.นี้ไม่มีเครื่องตรวจ จำต้องไปทำอีกที่นึง คือ รพ... นะจ๊ะ  เรา ก็ลังเลเพราะไม่รู้ว่า รพ...นี่มันอยู่ตรงไหน เดินทางยังไง ถามหมอว่าตรวจที่อื่นได้ไหมคะ คุณหมอบอกว่าได้นะ แต่ต้องรอคิวนาน ที่รพ.นั่นไม่ต้องรอคิว ตามประสาคนใจร้อนเบื่อรอคิว เลยรีบ โอเค
คุณหมอเลยยื่นเอกสารใบทำMRIให้ ด้านหลังมีแผนที่รพ...พร้อม รอบคอบดีจัง
แล้วก็ถามว่ามีประกันไหม เรางงไปแป็บนึง นึกในใจว่าอาการขนาดนี้ถามหาประกันชีวิตเลยหรา
แต่พอเข้าใจ ก็รีบบอกหมอว่าเบิกได้ค่ะ แต่เขารับบัตรเครดิตไหมค่ะ ก็นะราคาตั้งแปดพันอะ
แถมคุณหมอสั่งว่าพรุ่งนี้ให้ตรงไปที่ห้องMRIเลยนะ พอทำเสร็จก็ให้ขึ้นไปให้หมอดู ที่OPDเลยนะ หมออยู่ถึงเที่ยงนะ (อย่าช้า)
กลับบ้านรีบหาข้อมูลวิธีไปรพ... ว่าไปทางไหนดี พบว่าไปง่ายมาก
แถมเข้าเนตหาข้อมูลว่าเขาทำMRIกันยังไง คนที่ไปทำแล้วเจออะไรมาบ้างก็ไม่มี เจอแต่ที่หมอกะ รพ.เขียนเป็นวิชาการต่างๆนานา แต่ก็พอให้สบายใจคลายกังวลไปได้บ้าง
วันรุ่งขึ้น รีบตื่นเช้ากะว่าไปทำเช้าๆจะได้ไม่ต้องรอคิวนานและ ยังต้องไปรอหมออีกด้วย
ไปถึงห้องทำMRI แต่เช้า  พบว่ามีคนไข้อื่นมาถึงก่อนแล้ว  เป็นคนไข้ที่คุ้นๆหน้าว่าเมื่อวานก็มาตรวจกับหมอคนเดียวกัน โรคนี้คนป่วยเยอะ ไม่ใช่เราเป็นคนเดียวหรอก
พอไปถึงก็เอาเอกสารใบสั่งตรวจของหมอไปยื่นที่เคาเตอร์ บอกจนท.ว่า มาทำMRI ค่ะ
จ่ายเองใบเสร็จเอาไปเบิกได้คะ จนท.พยักหน้า รีบชี้ให้เข้ามานั่งรอด้านในได้
ข้างในเป็นห้องแอร์เย็นเฉียบ เงียบมากๆ มีคนไข้เดินเข้าไปด้านในอยู่คนนึง กับจนท.นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์อีกคนนึงเท่านั้น นั่งอยู่แป๊บนึง จนท.ก็เรียกมาถามข้อมูลตามแบบฟอร์ม เช่น มีโรคอะไรที่เป็นข้อห้าม มีโลหะในร่างกายไหม เป็นต้น ก็บอกไปว่ามีแต่โลหะที่อุดฟันน่ะค่ะ
จากนั้นก็ให้เซ็นต์ชื่อยินยอมหรือรับทราบอะไรไม่รู้ ด้วยความงงก็เซ็นต์ไปทันที่
(มานึกได้ทีหลังว่าไม่น่าเลย ควรอ่านให้ละเอียดก่อน) เซ็นต์ชื่อเสร็จจนท.ไม่พูดอะไร สั่งให้ไปนั่งรอที่เดิม จนท.ท่าทางชิวๆมาก แบบว่าทำงานมานานจนเบื่ออะ ถ้าถามอะไรถึงจะตอบนะ
รอสักพักไม่นาน จนท.ก็เอาชุดคนไข้มาให้ ชี้ห้องเปลี่ยนเสื้อให้เท่านั้น ต้องถามว่าเปลี่ยนเสร็จให้ไปไหนต่อคะ เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อเห็นมีลอกเกอร์ให้ใส่ของมีกุญแจล๊อคให้ด้วย เลยเปลี่ยนเสื้อแล้วเอาข้าวของ รองเท้า กระเป๋าที่หิ้วมาใส่ไว้ พร้อมเสื้อผ้า แถมเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะที่วางไว้ด้วย
ออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อ สังเกตเห็นห้องน้ำเลยเข้าไปสำรวจ เออสะอาดดีมาก แอร์เย็นฉ่ำทุกตารางนิ้วเชียว นั่งคอยที่เดิมอีกพักนึงก็เห็นประตูห้องด้านในเปิดออก จนท.ก็เรียกให้เข้าได้ รีบเอาโทรศัพท์เข้าไปเก็บในลอกเกอร์ ออกมาดันลืมเก็บแว่นตา แต่ไม่เป็นไร จนท.บอกให้วางไว้ที่โต็ะด้านในได้  พร้อมกุญแจลอกเกอร์ จากนั้นสั่งให้ขึ้นไปนอนบนเตียงที่มีแผ่นอะไรบางอย่างลักษณะเหมือนที่พันหลังคนที่ปวดหลังอะ วางรอง ให้นอนทับไป จนท.สั่งให้ขยับซ้ายขวาอยู่พักนึงให้เข้าที่ แล้วเอาที่อุดหู เป็นฟองน้ำเล็กๆสีส้มๆมาอุดที่หู เราก็พยายามจับมันให้เข้าที่พร้อมนึกในใจว่าที่อุดหูนี่ให้คนไข้ใช้มากี่คนแล้วคะ
จนท.เห็นขยับอยู่นั่น ก็บอกว่า(พอเหอะ)มันเข้าได้แค่นั้นละครับ เอาผ้าห่มมาห่มให้เพราะห้องเย็นมาก แล้วก็เอาลูกยางเป็นที่บีบเรียกจนท.ได้ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน OMG มีอะไรฉุกเฉินด้วยอะ
นอนรออีกพักไม่นาน เครื่องก็เริ่มทำงาน เตียงเริ่มขยับเข้าอุโมงค์ ตอนนี้ชักตื่นเต้นละ สวดมนต์โดยอัตโนมัติ ทั้งๆที่ตอนแรกไม่รู้สึกกลัวนะ อีกพักนึงเครื่องเริ่มส่งเสียง ปีบๆ แป่วๆ หลายแบบมาก เสียงดังเป็นพักๆ เสียงไม่ดังมาก ดังขนาดยืนข้างถนนในกรุงเทพอะ ขนาดอุดหูนะนี่ ขณะมีเสียงก็รู้สึกได้ถึงว่ามันอุ่นๆที่หลัง ร้อนนิดๆแบบตอนนั่งในห้องแอร์เย็นๆ แล้วมีแดดอุ่นๆส่องมานะ พอสบายๆ ไม่ร้อนมาก
พอทำเสร็จเตียงก็เลื่อนออกจากอุโมงค์ เราก็ถามจนท. ว่าเมื่อกี้นี้นานกี่นาที่ จนท.ผู้ไม่บอกขั้นตอนอะไรคนไข้เลย ก็ยินดีตอบว่า 15 นาทีครับ แล้วสั่งให้ไปเปลี่ยนเสื้อได้ เปลี่ยนเสื้อเสร็จออกมานั่งรออีก(เพื่อรับฟิล์มเอกซเรย์กับเอกสาร(ใบจ่ายเงิน)มั้ง) แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินนะต้อง ไปพบหมอตามคำสั่งก่อน  ถามจนท.ว่าคุณหมอ...อยู่ตึกไหน จนท.ผู้ไม่แนะนำอะไร(คนเดิม)ยินดีบอกทางให้ ไม่เห็นบอกให้ไปจ่ายเงินค่าทำเลย หนีกลับเลยดีไหมอะ
เดินตามทางเดินไปอีกตึกนึง ปรากฎว่าเป็นOPDกระดูก เอาเอกสารไปยื่นที่เคาเตอร์พยาบาลแต่ไม่ทันพูดอะไร พยาบาลชี้ให้ไปชั่งนน.วัดความดันที่เครื่องด้านหน้าห้องก่อน ตามธรรมเนียม
พอได้ใบวัดความดัน พบว่าความดันสูงไปอีก ลืมอ่านป้ายว่าให้นั่งพักก่อน หรือว่ายังตื่นเต้นประสบการณ์MRIอยู่กันแน่ อิอิ ได้ใบค่าความดันก็กลับไปยื่นให้พยาบาลพร้อมบอกนน.ตัว  ก็เรียบร้อย พยาบาลชี้ให้ไปนั่งรอด้านในไกล้ๆห้องตรวจแพทย์ OMG แผนกศัลย์กระดูกอะ โดนผ่าแน่เรา
รอไม่นานจนท.ก็เรียกให้ไปรอหน้าห้องแพทย์ ตอนพบแพทย์รีบยื่นฟิล์มMRI ให้พร้อมรายงานตัวว่าที่เมื่อวานคุณหมอสั่ง...น่ะค่ะ คุณหมอทำท่านึกได้ รับฟิล์มไปติดที่เครื่องดู พร้อมอธิบายภาพ สรุปว่าอาการ...ให้กินยาไปก่อนนะ ถ้ายังไม่ดีขึ้น  จะนัดผ่าที่นี่ก็ได้ แอดมิดแค่หนึ่งวันเอง โอเคค่ะคุณหมอ
ตอนนี้เรากินยาตามคำแนะนำคุณเภสัชที่จ่ายยาและอธิบายอย่างละเอียดมากเช่นต้องกินให้ครบนะคะ กินแล้วอาจมีอาการ...เช่นง่วงเหงา คลื่นไส้ มึนงง อะไรต่างๆนานา รีบจดไว้กันลืม จะได้รู้ว่าอาการแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาอาจเกิดได้ ถ้าเกิดก็ไม่ต้องกังวล พร้อมสังเกตอาการตัวเองว่ากินยาแล้วอาการโรคดีขึ้นหรือไม่ เอาไว้ไปรายงานหมอคราวหน้าต่อไป
ขอจบประสบการณ์ไปตรวจและทำMRIเพียงเท่านี้ หวังว่าจะมีประโยชน์บ้างนะคะ สวัสดี
ชื่อสินค้า:   MRI
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่