กลับมากันอีกครั้งนึงหลังจากที่ห่างไปนานมากจนคนอาจจะลืมพวกเราไปแล้ว ต้องขอโทษจริงๆค่ะ พอดีช่วงนี้เปิดเทอมแล้วเลยยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้มีเวลามาเขียนต่อ แต่ก็ขอฝากติดตามพวกเราต่อด้วยนะคะ
วันที่ 4 นี้เราจะพาไปเที่ยวเมือง hualien ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Taroko national park กันค่าาาาาาา ʕ ·ᴥ·ʔ
_________________________________________________
-แพลนคร่าวๆ ของเราในครั้งนี้- ᵔᴥᵔ
day1: taoyuan airport - chiang kai shek - long shan temple
http://ppantip.com/topic/35163286
day2: yehliu - jiufen
http://ppantip.com/topic/35167028
day3: beitou - tamsui - din tai fong
http://ppantip.com/topic/35389031
day4: taroko national park - hualien night market
day5: qixingtan beach - ximending
day6: sun moon lake
day7: taipei fish market - BKK
#taiwansweetkidney ไต้หวันไตหวาน: special chapter- eat all day.♡
http://ppantip.com/topic/35244381
- #taiwansweetkidney ไต้หวันไตหวาน: day4- go green in taroko.♡
วันที่ 4 ของทริป เราออกเดินทางจากไทเปกันแต่เช้าด้วยรถไฟที่เราจองไว้ล่วงหน้ากันตั้งแต่เมืองไทย หลังจากที่เราเดินทางบนรถไฟอยู่นาน (จริงๆก็แค่ประมาณ 2 ชั่วโมง) เราก็เดินทางมาถึงเมือง hualien กันแล้วววว เย่ๆ เมืองนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ถนนโล่งและคนน้อย(ที่นี่ห้ามหลงเลยเพราะไม่ค่อยมีคนให้ถาม แถมถามแล้วก็ได้คำตอบมาเป็นภาษาจีนแบบงงๆ ฮา~)
หลังจากที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี เราเลยเลือกเดินทางภายในเมืองนี้ด้วยแท๊กซี่~>0< พอดีพวกเราเจอรุ่นพี่ที่รู้จักเค้ากะลังจะกลับเลยให้ไลน์ลุงแท๊กซี่ใจดีเข้าใจคนไทยแบบเรา(ที่ชอบเลท อิ้____อิ้) เหมาแท๊กซี่เค้าวันนึง2คันต่อราคาได้นิดหน่อย ถ้าจำไม่ผิดตกคันละประมาณ 2700 TWD ต่อ 7 ชั่วโมงเอง แต่คุณลุงคนขับบริการทุกระดับประทับใจเกินเงินที่จ่ายไปแน่นอนค่ะรับรอง สะดวกมากๆแบบว่าเดินออกจาสถานีรถไฟก็เจอลุงแกโบกมือหยอยๆรอเราอยู่แล้วเพราะเราติดต่อทางline กับคุณลุงเค้าไว้ก่อน โดยถ้าอยาก contact คุณลุงเค้าก็ตามนี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยก่อนออกเดินทางเที่ยวเราได้แวะฝากกระเป๋าที่เกสเฮ้าส์ของเราที่ชื่อว่า minivoyage ค่ะ มีเพื่อนแนะนำมาให้ เป็นเกสเฮ้าส์ที่ใกล้จากสถานีรถไฟโดยสามารถเดินมาได้ แถมยังทั้งถูก สะอาด และตกแต่งสวยมากกกก คือทั้งทริปนี้เมืองนี้เกสเฮ้าส์สวยสุดละหล่ะ มีน้ำมีขนมให้ที่ล๊อบบี้ให้ฟรีด้วย ถ้าใครสนใจสามารถลองเข้าไปดูได้ที่เว็บนี้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.minivoyage.com/en/index.html
เมื่อเราเก็บของกันเรียบร้อยได้นั่งพักเติมพลังกันนิดหน่อยก็พร้อมออกลุย 1 day trip in hualien กันเล๊ยยยยย ᵔᴥᵔ
สำหรับ taroko national park นั้นถ้าเป็นคนที่ชอบความแสงสีเสียงศิวิไลซ์อาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่เป็นคนที่อินความเป็นธรรมชาติคือแบบ the must เลย รอบๆคือจะเป็นภูเขาที่มีต้นไม้สีเขียวๆเต็มไปหมด มีก้อนหินก้อนยักษ์ ละก็หน้าผาที่มองลงไปเป็นทะเลบ้างแม่น้ำบ้างแล้วแต่มุม แต่เราว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นนะ แบบว่า มันสดชื่นละก็สบายตามากๆ เหมือนได้มา refresh และชาร์จพลังตัวเองจากความวุ่นวายของสังคมเมือง 55555555
ที่ๆแรกที่คุณลุง taxi แวะให้เราคือ Qingshui Cliff เป็นแบบหน้าผาติดขอบทะเลล คือขอบอกเลยว่าแบบสวยมากกก น้ำทะเลคือมันจะเป็นสามสีไล่กันมา แล้ววันนั้นโชคดีที่ไปคือฝนไม่ตกแถมอากาศเย็นๆ มีความฟินสูงมาก (แต่ลงไปเดินริมทะเลไม่ได้นะ จะมีแค่จุดชมวิวเฉยๆ)
จุดเด่นของที่ taroko ที่เราคิดเองคือ ถ่ายรูปมันออกมาไม่สวยเท่าเห็นของจริง 5555555555 คือของจริงมันแบบ มีความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอยู่ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ 5555555555555555555
หลังจากแวะชมวิวกัน จุดต่อไปที่เราแวะคือ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เห็นคุณลุงบอกว่าตรงนี้เป็นอันที่เดินง่ายสุดและ ก็จัดกันไปสักหน่อย 555555555 จำชื่อจุดไม่ได้ แต่จะอยู่ใกล้ๆตรงสะพานสีแดง ก็ควรจะรีบไปก่อนเที่ยงเพราะแบบพอสายๆ จะเริ่มมีทัวร์จีนลง โชคดีที่พอเราเดินกลับมา ทัวร์จีนพึ่งมาลงพอดี โดยตามทางเวลาเดินก็ระวังพวกหินที่มันยื่นๆออกมากกันด้วยนะคะ
ใกล้จะสุดทางแล้ววววววว
คำแนะนำ: คือตอนแรกเพื่อนเรากะจะถอดใจเดินกลับละ คือมันไกลในระดับนึง แบบเดินไปกลับประมาณ ชั่วโมงบวกๆ ถ้าแบบเดินถ่ายรูปชิวๆด้วย ยิ่งนานไปอีก และคือหิวมากกกก ใครจะมาขอบอกเลยว่าคำนวนเวลากินข้าวให้ดีๆ 5555555555555555
โดยพอเข้าไปสุดทางเดินมันจะมีหินแบบก้อนใหญ่มากกกกกกกกกกก ด้วยความซุกซนอดไม่ได้ก็ต้องขอไปปีนป่ายขึ้นไปถ่ายรูปเก็บไว้กันหน่อย (แอบเห็นข้างหลังเพื่อนกำลังจะปีนขึ้นหินก้อนยักษ์)
ฉากหลังดูมีความยิ่งใหญ่ ดูอยู่ท่ามกลางขุนเขาลำเนาไพร 55555555
ภาพนี้ตอนถ่าย ฟีลลิ่งไลอ้อนคิงตอนที่ rafiki ชู simba บนชะง่อนผา 555555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Cr: http://people.com/celebrity/the-lion-king-turns-20/
หลังจากถ่ายรูปเดินเสร็จทุกคนรีบเดินจ้ำอ้าวกลับไม่มีการแวะถ่ายรูปเท่าไหร่เพราะความหิว พอขึ้นมาก็เจอคุณลุงรอรับเราอยู่ โดยตอนขากลับจะมี quote นี้เขียนไว้ตรงทางออก
take nothing but pictures, leave nothing but footprints ถ้าแปลตามภาษาเราๆก็คือ มาที่นี่ก็อย่าเก็บอะไรกลับไปนอกจากภาพถ่าย แล้วก็อย่าทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า จะได้มีที่ท่องเที่ยวสวยๆไว้ให้คนอื่นเค้าได้มาชื่นชมเหมือนที่เราได้เห็นกันเนอะ ʕ♡˙ᴥ˙♡ʔ
หลังจากที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้หลายชั่วโมงก็ถึงเวลามาเติมพลังกันแล้ว คุณลุงแท๊กซี่พาเราไปทางมื้อกลางวันที่จุดต้อนรับนักท่องเที่ยว รสชาติถือว่าดีเลย แต่ว่าเมนูมีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วก็บังคับสั่งเป็นเซต มีแต่เมนูไก่ๆเป็นส่วนใหญ่ แล้วราคาก็ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ 55555555555555
หลังจากกินอิ่มมแล้วเราก็พร้อมลุยต่อออ ที่ไปต่อจากนี้เราต้องมี option เสริมนิดหน่อยคือหมวกกันน๊อคเท่ๆเหมือนได้ไปออกไซต์งาน 5555555555
แล้วก็ให้เราเดินลงชมวิวกันแล้วนางจะขับรถไปรอรับที่ปลายทาง
พวกเราก็ลงมาเดินแบบงงๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอรูปปั้นนกนางแอ่นบินๆ เหมือนจะมีเรื่องเล่าบางอย่างที่คุณลุงเล่าให้ฟังแต่ก็ลืมไปแล้ว 55555555
บริเวณนี้ก็จะมีความเป็นหินและหน้าผาสูงมาก มองลงไปเป็นก็แม่น้ำไหลผ่าน ดูไปก็เพลินดี เหมาะสำหรับเดินชิวๆอากาศเย็นๆ แต่ที่ไม่ค่อยจะเพลินตาเห็นจะเป็นป้ายเตือนระวังหินหล่น คือถึงลุงแกจะให้หมวกกันน๊อคมาแต่มันก็ดูจะช่วยเราไม่ได้เท่าไหร่เลยจริงๆนะ (- -)
โดยรวมแล้วอุทยานแห่งนี้ก็คือความธรรมชาติสุดๆคือมองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้และโขดหิน 5555555555 แต่ลุงแกก็มีความพยายามให้เราดูหุบเขานึง ที่พอเราเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นเป็นทรงของเกาะไต้หวันเลย ละก็มีหินที่แหว่งที่มีต้นไม้แซมๆเป็นรูปหัวใจด้วย ทีนี้เราก็เลยมองหินอันอื่นเป็นรูปต่างๆกันสนุกเลย555555555 เห็นเป็นรูปหัวใจกันไหมเอ่ยยยยยยยย
แชะภาพหมู่กับคุณลุงขับแท๊กซี่หน่อยยยยย ขอบอกว่าประทับใจมากกก คุณลุงน่ารักอัธยาศัยดีมากๆ
จริงๆที่ปิดท้ายของเราควรจะต้องเป็นศาลาบางอย่างที่ตั้งอยู่บนเขา แต่ตอนที่ไปถึงคือเห็นรถทัวร์จีนลงประมาณล้านคัน เลยขอบายละกันนะคะ
ตอนเย็นวันนี้เราจะไปเดินเล่นในตลาดกลางคืนกันนนน ขอบอกว่าของกินเยอะมากกกกกกกก ถูกใจสาวกนักกินกันแน่ๆค่ะ
[CR] #taiwansweetkidney ไต้หวันไตหวาน: day4- go green in taroko.♡
กลับมากันอีกครั้งนึงหลังจากที่ห่างไปนานมากจนคนอาจจะลืมพวกเราไปแล้ว ต้องขอโทษจริงๆค่ะ พอดีช่วงนี้เปิดเทอมแล้วเลยยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้มีเวลามาเขียนต่อ แต่ก็ขอฝากติดตามพวกเราต่อด้วยนะคะ
วันที่ 4 นี้เราจะพาไปเที่ยวเมือง hualien ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Taroko national park กันค่าาาาาาา ʕ ·ᴥ·ʔ
_________________________________________________
-แพลนคร่าวๆ ของเราในครั้งนี้- ᵔᴥᵔ
day1: taoyuan airport - chiang kai shek - long shan temple
http://ppantip.com/topic/35163286
day2: yehliu - jiufen
http://ppantip.com/topic/35167028
day3: beitou - tamsui - din tai fong
http://ppantip.com/topic/35389031
day4: taroko national park - hualien night market
day5: qixingtan beach - ximending
day6: sun moon lake
day7: taipei fish market - BKK
#taiwansweetkidney ไต้หวันไตหวาน: special chapter- eat all day.♡
http://ppantip.com/topic/35244381
- #taiwansweetkidney ไต้หวันไตหวาน: day4- go green in taroko.♡
วันที่ 4 ของทริป เราออกเดินทางจากไทเปกันแต่เช้าด้วยรถไฟที่เราจองไว้ล่วงหน้ากันตั้งแต่เมืองไทย หลังจากที่เราเดินทางบนรถไฟอยู่นาน (จริงๆก็แค่ประมาณ 2 ชั่วโมง) เราก็เดินทางมาถึงเมือง hualien กันแล้วววว เย่ๆ เมืองนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ถนนโล่งและคนน้อย(ที่นี่ห้ามหลงเลยเพราะไม่ค่อยมีคนให้ถาม แถมถามแล้วก็ได้คำตอบมาเป็นภาษาจีนแบบงงๆ ฮา~)
หลังจากที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี เราเลยเลือกเดินทางภายในเมืองนี้ด้วยแท๊กซี่~>0< พอดีพวกเราเจอรุ่นพี่ที่รู้จักเค้ากะลังจะกลับเลยให้ไลน์ลุงแท๊กซี่ใจดีเข้าใจคนไทยแบบเรา(ที่ชอบเลท อิ้____อิ้) เหมาแท๊กซี่เค้าวันนึง2คันต่อราคาได้นิดหน่อย ถ้าจำไม่ผิดตกคันละประมาณ 2700 TWD ต่อ 7 ชั่วโมงเอง แต่คุณลุงคนขับบริการทุกระดับประทับใจเกินเงินที่จ่ายไปแน่นอนค่ะรับรอง สะดวกมากๆแบบว่าเดินออกจาสถานีรถไฟก็เจอลุงแกโบกมือหยอยๆรอเราอยู่แล้วเพราะเราติดต่อทางline กับคุณลุงเค้าไว้ก่อน โดยถ้าอยาก contact คุณลุงเค้าก็ตามนี้เลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยก่อนออกเดินทางเที่ยวเราได้แวะฝากกระเป๋าที่เกสเฮ้าส์ของเราที่ชื่อว่า minivoyage ค่ะ มีเพื่อนแนะนำมาให้ เป็นเกสเฮ้าส์ที่ใกล้จากสถานีรถไฟโดยสามารถเดินมาได้ แถมยังทั้งถูก สะอาด และตกแต่งสวยมากกกก คือทั้งทริปนี้เมืองนี้เกสเฮ้าส์สวยสุดละหล่ะ มีน้ำมีขนมให้ที่ล๊อบบี้ให้ฟรีด้วย ถ้าใครสนใจสามารถลองเข้าไปดูได้ที่เว็บนี้เลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเราเก็บของกันเรียบร้อยได้นั่งพักเติมพลังกันนิดหน่อยก็พร้อมออกลุย 1 day trip in hualien กันเล๊ยยยยย ᵔᴥᵔ
สำหรับ taroko national park นั้นถ้าเป็นคนที่ชอบความแสงสีเสียงศิวิไลซ์อาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่เป็นคนที่อินความเป็นธรรมชาติคือแบบ the must เลย รอบๆคือจะเป็นภูเขาที่มีต้นไม้สีเขียวๆเต็มไปหมด มีก้อนหินก้อนยักษ์ ละก็หน้าผาที่มองลงไปเป็นทะเลบ้างแม่น้ำบ้างแล้วแต่มุม แต่เราว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นนะ แบบว่า มันสดชื่นละก็สบายตามากๆ เหมือนได้มา refresh และชาร์จพลังตัวเองจากความวุ่นวายของสังคมเมือง 55555555
ที่ๆแรกที่คุณลุง taxi แวะให้เราคือ Qingshui Cliff เป็นแบบหน้าผาติดขอบทะเลล คือขอบอกเลยว่าแบบสวยมากกก น้ำทะเลคือมันจะเป็นสามสีไล่กันมา แล้ววันนั้นโชคดีที่ไปคือฝนไม่ตกแถมอากาศเย็นๆ มีความฟินสูงมาก (แต่ลงไปเดินริมทะเลไม่ได้นะ จะมีแค่จุดชมวิวเฉยๆ)
จุดเด่นของที่ taroko ที่เราคิดเองคือ ถ่ายรูปมันออกมาไม่สวยเท่าเห็นของจริง 5555555555 คือของจริงมันแบบ มีความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอยู่ที่ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ 5555555555555555555
หลังจากแวะชมวิวกัน จุดต่อไปที่เราแวะคือ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เห็นคุณลุงบอกว่าตรงนี้เป็นอันที่เดินง่ายสุดและ ก็จัดกันไปสักหน่อย 555555555 จำชื่อจุดไม่ได้ แต่จะอยู่ใกล้ๆตรงสะพานสีแดง ก็ควรจะรีบไปก่อนเที่ยงเพราะแบบพอสายๆ จะเริ่มมีทัวร์จีนลง โชคดีที่พอเราเดินกลับมา ทัวร์จีนพึ่งมาลงพอดี โดยตามทางเวลาเดินก็ระวังพวกหินที่มันยื่นๆออกมากกันด้วยนะคะ
ใกล้จะสุดทางแล้ววววววว
คำแนะนำ: คือตอนแรกเพื่อนเรากะจะถอดใจเดินกลับละ คือมันไกลในระดับนึง แบบเดินไปกลับประมาณ ชั่วโมงบวกๆ ถ้าแบบเดินถ่ายรูปชิวๆด้วย ยิ่งนานไปอีก และคือหิวมากกกก ใครจะมาขอบอกเลยว่าคำนวนเวลากินข้าวให้ดีๆ 5555555555555555
โดยพอเข้าไปสุดทางเดินมันจะมีหินแบบก้อนใหญ่มากกกกกกกกกกก ด้วยความซุกซนอดไม่ได้ก็ต้องขอไปปีนป่ายขึ้นไปถ่ายรูปเก็บไว้กันหน่อย (แอบเห็นข้างหลังเพื่อนกำลังจะปีนขึ้นหินก้อนยักษ์)
ฉากหลังดูมีความยิ่งใหญ่ ดูอยู่ท่ามกลางขุนเขาลำเนาไพร 55555555
ภาพนี้ตอนถ่าย ฟีลลิ่งไลอ้อนคิงตอนที่ rafiki ชู simba บนชะง่อนผา 555555555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากถ่ายรูปเดินเสร็จทุกคนรีบเดินจ้ำอ้าวกลับไม่มีการแวะถ่ายรูปเท่าไหร่เพราะความหิว พอขึ้นมาก็เจอคุณลุงรอรับเราอยู่ โดยตอนขากลับจะมี quote นี้เขียนไว้ตรงทางออก take nothing but pictures, leave nothing but footprints ถ้าแปลตามภาษาเราๆก็คือ มาที่นี่ก็อย่าเก็บอะไรกลับไปนอกจากภาพถ่าย แล้วก็อย่าทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า จะได้มีที่ท่องเที่ยวสวยๆไว้ให้คนอื่นเค้าได้มาชื่นชมเหมือนที่เราได้เห็นกันเนอะ ʕ♡˙ᴥ˙♡ʔ
หลังจากที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้หลายชั่วโมงก็ถึงเวลามาเติมพลังกันแล้ว คุณลุงแท๊กซี่พาเราไปทางมื้อกลางวันที่จุดต้อนรับนักท่องเที่ยว รสชาติถือว่าดีเลย แต่ว่าเมนูมีให้เลือกไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วก็บังคับสั่งเป็นเซต มีแต่เมนูไก่ๆเป็นส่วนใหญ่ แล้วราคาก็ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ 55555555555555
หลังจากกินอิ่มมแล้วเราก็พร้อมลุยต่อออ ที่ไปต่อจากนี้เราต้องมี option เสริมนิดหน่อยคือหมวกกันน๊อคเท่ๆเหมือนได้ไปออกไซต์งาน 5555555555
แล้วก็ให้เราเดินลงชมวิวกันแล้วนางจะขับรถไปรอรับที่ปลายทาง
พวกเราก็ลงมาเดินแบบงงๆ เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอรูปปั้นนกนางแอ่นบินๆ เหมือนจะมีเรื่องเล่าบางอย่างที่คุณลุงเล่าให้ฟังแต่ก็ลืมไปแล้ว 55555555
บริเวณนี้ก็จะมีความเป็นหินและหน้าผาสูงมาก มองลงไปเป็นก็แม่น้ำไหลผ่าน ดูไปก็เพลินดี เหมาะสำหรับเดินชิวๆอากาศเย็นๆ แต่ที่ไม่ค่อยจะเพลินตาเห็นจะเป็นป้ายเตือนระวังหินหล่น คือถึงลุงแกจะให้หมวกกันน๊อคมาแต่มันก็ดูจะช่วยเราไม่ได้เท่าไหร่เลยจริงๆนะ (- -)
โดยรวมแล้วอุทยานแห่งนี้ก็คือความธรรมชาติสุดๆคือมองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้และโขดหิน 5555555555 แต่ลุงแกก็มีความพยายามให้เราดูหุบเขานึง ที่พอเราเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นเป็นทรงของเกาะไต้หวันเลย ละก็มีหินที่แหว่งที่มีต้นไม้แซมๆเป็นรูปหัวใจด้วย ทีนี้เราก็เลยมองหินอันอื่นเป็นรูปต่างๆกันสนุกเลย555555555 เห็นเป็นรูปหัวใจกันไหมเอ่ยยยยยยยย
แชะภาพหมู่กับคุณลุงขับแท๊กซี่หน่อยยยยย ขอบอกว่าประทับใจมากกก คุณลุงน่ารักอัธยาศัยดีมากๆ
จริงๆที่ปิดท้ายของเราควรจะต้องเป็นศาลาบางอย่างที่ตั้งอยู่บนเขา แต่ตอนที่ไปถึงคือเห็นรถทัวร์จีนลงประมาณล้านคัน เลยขอบายละกันนะคะ
ตอนเย็นวันนี้เราจะไปเดินเล่นในตลาดกลางคืนกันนนน ขอบอกว่าของกินเยอะมากกกกกกกก ถูกใจสาวกนักกินกันแน่ๆค่ะ