การเดินทาง
จากเมืองไทเป สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ TRA ซึ่งขึ้นได้จาก ‘สถานีไทเปเมนสเตชั่น’ สถานีหลักของไทเป ไปลงที่ ‘สถานีฮวาเหลียน’ ราคาอยู่ที่รอบละ 440ntd ต่อคน ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 2-3 ชั่วโมง

รถไฟที่นี่ที่นั่งกว้างนั่งสบาย มีที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และมีที่สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางอยู่ทั้งหัวและท้ายขบวน แนะนำให้เลือกเดินทางในช่วงเวลาที่ฟ้ายังสว่างอยู่เพราะแค่วิวสองข้างทางก็สวยงามน่ามองสุด ๆ เลย

หลังจากถึงสถานีฮวาเหลียน การเดินทางภายในเมืองสามารถใช้บริการรถสาธารณะ (สามารถดูเส้นทางได้ใน Google Maps) หรือถ้าเน้นสะดวกที่นี่ก็มีบริการ Taxi และ Uber นะ

วิธีการซื้อตั๋วรถไฟ TRA
สามารถซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ที่สถานีได้เลย หรือจะสำรองที่นั่งเองผ่านเว็บไซต์ TRA แล้วมาแลกตั๋วที่สถานีก่อนเดินทางก็ได้เช่นกัน

ที่พัก
ที่พักของเราในทริปนี้เป็นโฮสเทลเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Mini Voyage Hostel ราคาห้องพักจะอยู่ที่ประมาณ 1,xxx บาท
สามารถเดินลากกระเป๋าจากสถานีฮวาเหลียนมาถึงโรงแรมได้เลย ห้องพักที่นี่จะไม่มีหน้าต่างแต่ห้องก็ไม่ได้แคบจนรู้สึกอึดอัด สามารถกางกระเป๋าเดินทางสองใบได้สบาย ๆ มีห้องน้ำส่วนตัวซึ่งกว้าง สะอาดและน้ำไหลแรงดีมาก มีโต๊ะ เก้าอี้และไดร์เป่าผมให้ดวยนะ ส่วนตู้เย็นจะเป็นตู้เย็นส่วนกลางของแต่ละชั้น

ทัวร์อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ
ในทริปนี้เราเลือกไปกับไกด์คนไต้หวันที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นทัวร์ส่วนตัวซึ่งใช้เวลา 8 ชั่วโมง โดยไกด์จะมารับ-ส่งเราที่หน้าที่พักตามเวลาที่เรานัดเลย ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 3,000ntd นอกจากไกด์ส่วนตัวแล้วยังมีตัวเลือกอื่น ๆ อย่างการจอยกรุ๊ปทัวร์เล็ก ๆ หรือใช้บริการ Shuttle Bus เดินทางภายในอุทยานก็ได้นะ
เราเดินทางออกจาก Taipei main station กันในช่วงบ่าย หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็แวะซื้ออะไรรองท้องกันที่ร้าน Sushi express ในสถานีไทเปเมนเลย มีให้เลือกหลากหลายมาก สะดวกแล้วราคาไม่แพงด้วยนะ

เมื่อถึงสถานีปลายทางอย่างเมืองฮวาเหลียนแล้ว เราก็ลากกระเป๋าไปเช็คอินที่พักกันได้เลย ถนนหนทางที่นี่เดินง่ายมาก ๆ เราลากกระเป๋าเดินตาม Google Map พักเดียวก็ถึงที่พักของเราในทริปนี้แล้ว หลังจากเช็คอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางอีกครั้ง เรานั่งรถเมล์ไปหาอะไรทานกันที่ตลาดกลางคืน Dongdamen Night Market

ที่นี่ทางเดินกว้างมาก ๆ เดินแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย ร้านค้าก็มีเยอะพอสมควร ถือว่าเดินเล่นชิว ๆ ได้เลยนะ บริเวณทางเข้าตลาดจะเป็นเกมให้เล่นคล้ายกับงานวัดบ้านเรา ส่วนอาหารต่าง ๆ ต้องเดินเข้าไปด้านในนิดนึงค่ะ

กลับจากตลาดแล้วเราเดินเล่นบริเวณรอบที่พักกันนิดหน่อย ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ดูเป็นมิตรและน่าเดินมาก ๆ ฮวาเหลียนเป็นเมืองใหญ่แต่ประชากรไม่แออัด และด้วยพื้นที่ส่วนมากที่เป็นภูเขาทำให้เมืองนี้เหมือนถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาเลย

เช้านี้เรานัดไกด์มารับที่ที่พักตอน 8 โมงเช้า โดยจุดหมายแรกของทัวร์นี้ก็คือออ 七星潭 Qixingtan Beach ความพิเศษของที่นี่คือชายหาดจะไม่ได้เป็นทรายแต่เป็นหิน! เกิดเป็นวิวทิวทัศน์ของหาดสีหม่นตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าแปลกตา แถมชายหาดที่นี่ยาวสุดลูกหูลูกตาเลยยย

ต่อมาคุณลุงไกด์พาเรามาแวะกันที่ร้านขายน้ำมะนาว เห็นว่าเป็นร้านดังของที่นี่ที่ใครมาก็ต้องแวะ หลัก ๆ จะมีน้ำมะนาวสองแบบเป็นสีเขียวกับสีเหลือง ร้านค้าที่นี่บางร้านอาจจะไม่สื่อสารภาษาอังกฤษนะคะ ต้องงัดภาษามือกันมาใช้นิดนึง เราลองซื้อน้ำมะนาวสีเหลืองกันมา 1 ขวดรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวตาม จากที่ง่วง ๆ อยู่ก็ตื่นเลยทันที 😂

ต่อมาจะเป็นเทรลที่เพิ่มระดับความยากขึ้นมานิดหน่อย 砂卡礑步道 Shakadom trail ไฮไลท์ของที่นี่คือสะพานสีแดงที่ทอดตัวตัดกับหน้าผาและดงป่าไม้สีเขียว ตามทางเราจะได้เดินเลาะไปตามลำธาร มีจุดให้แวะพักเรื่อย ๆ ด้วยนะ สุดทางจะมีร้านขายของและเครื่องดื่มเล็ก ๆ รวมถึงห้องน้ำ (แต่แนะนำให้เข้าห้องน้ำมาจากข้างนอกนะ เพราะข้างในมีคิดค่าบริการห้องน้ำด้วย) เทรลนี้จะเดินไป-กลับทางเดียวกัน เดินชมธรรมชาติเพลิน ๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็ได้เวลาไปที่ต่อไปกันแล้ว

เราแวะทานมื้อเที่ยงกันแถว ๆ อุทยาน เป็นร้นที่คุณลุงไกด์พามา เมนูจะมีไม่เยอะมากโดยเมนูที่เราสั่งมาเป็นแฮมเบอร์เกอร์แบบไต้หวัน ด้านในเป็นไส้กรอกไต้หวันที่คล้ายกุนเชียงบ้านเรา และอีกอย่างเป็นชุดหมูย่างที่มาพร้อมข้าว ซุปลูกชิ้น และไข่ต้มชา สองเมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกาแฟดำและชาเย็นด้วย

อิ่มท้องกันแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อได้! 燕子口Swallow Grotto เส้นทางนี้จะต้องเดินผ่านอุโมงค์ไป ทางอุทยานจะมีหมวก safety เตรียมเอาไว้ให้ด้วย สามารถรับหมวกที่ทางเข้าแล้วคืนตรงทางออกได้เลย

ขอพูดเลยว่าเส้นทางนี้สวยจนลืมไม่ลงจริง ๆ ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักให้เข้าห้องน้ำและมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้บริการด้วยนะ

ไปต่อกันที่จุดหมายสุดท้ายกันเลย! นั่นก็คือ 長春祠 Eternal Spring Shrine ที่นี่เป็นอนุสรณ์ที่สร้างขึ้นแก่ผู้สร้างทางหลวงตัดผ่านอุทยานแห่งนี้ ไฮไลท์คือศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนน้ำตก ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยผาหินและพันธุ์ไม้เขียวชอุ่ม ทางเดินเส้นนี้จะเป็นทางลอดที่เลาะไปตามขอบหน้าผาจนถึงบริเวณศาลเลย