หนาวนี้กอดใครดี??
สวัสดีฮะ พอดีช่วงนี้ได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับงานแต่งงานบ่อยและมักได้ยินว่าคนนู้นคนนี้แต่งงานช่วงนี้ถี่เกินไป ซึ่งอาจเพราะฤดูหนาวงานแต่งงานก็มักจะจัดขึ้นในฤดูนี้ ผู้หญิงเป็นส่วนหนึ่งที่อยากมีงานแต่งสวยๆเป็นของตนเองและคงคิดว่า  เมื่อแต่งงานเสร็จก็กระโดดกอดกันเลย (ฮา) แน่นอนว่า การแต่งงานที่เอ่ยมานี้ พอเริ่มคิดที่จะแต่งงานมักมีแต่เรื่องจุกจิกวุ่นวายกวนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธีม การ์ด ชุด สถานที่ ญาติพี่น้องเพื่อน และ เงิน แน่นอนเรื่องดราม่าย่อมมาพร้อมกับการจัดงานแต่ง
ใครนะเคยกล่าวว่า “ความรักเป็นเรื่องขอเราสองคน” พอเจองานแต่ง คุณจะรู้เลยว่า งานแต่งของเรามันไม่เคยมีจริง!

>>เริ่มจากธีมงานก่อนเลย ปัญหาส่วนนี้มันจะเกิดจากญาติผู้ใหญ่ เพราะ แต่งงานทีก็ต้องให้สมฐานะ(แม้จะเป็นหนี้กันภายหลังก็ตาม) เผื่อพ่อแม่ฝั่งผู้ชายอยากได้ธีมงานที่มีการยกน้ำชาหรืองานแนวคนจีน ส่วนฝั่งผู้หญิงอยากได้แนวไทย แต่เจ้าสาวอยากได้งานแบบฝรั่ง ส่วนเจ้าบ่าวอยากแต่งเรียบๆ เอาล่ะสิตีกันวุ่นแน่ ซึ่งแน่นอนว่าบทสรุป ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายอาจเข้ามาจัดการ จนกลายเป็นว่า งานแต่งฉันแต่ตามใจคนอื่น(ซะงั้น!)
>>พอมาเรื่องชุดแต่งงานสี ชุดคนมางาน แน่นอนว่าก็ต้องเช่า(ไม่มีชุดของเรา) เกิดเจ้าสาวอุตริอยากได้สีฟ้า เจ้าบ่าวอยากได้สีขาว ธีมสีก็ฟ้าขาว แต่ดันไปบังคับเพื่อนในเพื่อนในสีฟ้าขาวมาด้วยเช่น กระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/35695786 (ขออนุญาติเจ้าของกระทู้นะคะ)(โอ้โห เพื่อนเขาสละเวลางานแต่งก็ดีแล้วมั้ย ไหนจะเอาซองมาให้อีก) ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ว่าทั้งงานทุกคนจะใส่สีฟ้าขาวมา ถ้าเจ้าของงานเข้าใจว่าบังคับทุกคนไม่ได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่เข้าใจและไล่ตะเพิดเขานั้นก็เกินไปแล้ว ดังกระทู้ท่านหนึ่งที่ตั้งเกี่ยวกับธีมสีเสื้ออันนี้ก็ว่า มันเกินไป….
>>ส่วนเรื่องสถานที่ ก็ต้องมาคิดว่าจะใช้ที่ไหน เช่น ปาตี้สละโสดที่ไหนดี งานเช้าล่ะ งานบ่ายล่ะ งานเลี้ยงตอนค่ำล่ะ มีเป็นเรื่องเสียเงินทั้งนั้น(แต่ถ้าพ่อแม่มีบ้านใหญ่มีเนื้อที่กว้างหรือเป็นเจ้าของโรงแรมก็ดีไป)
>>เรื่องสุดท้ายคือ เงิน ถ้าเป็นคนรวยก็โชคดีไปไม่ต้องคิดมากกับเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นคนฐานะธรรมดาแล้วอยากแต่งงานแบบมีพิธีการมากมาย แน่นอนงบไม่ต่ำกว่าแสนแน่ๆเพราะค่าชุด ค่าถานที่ ค่าอาหาร ค่าการ์ด ค่าดอกไม้ ค่ารถ ค่าจิปะถะยิบย่อยอีกมากมาย สุดท้ายเงินค่าสินสอดอีก งบบานปลายแน่ๆ แต่งงานเสร็จแทนที่จะได้นอนคุยกันกับต้องมาถ่างตานั่งนับเงินเตรียมเอาไปจ่ายหนี้ที่ไปกู้เขามาแต่งอีก ตัวอย่าง ดราม่าเรื่องสินสอด http://ppantip.com/topic/35774480 (ขออนุญาตินะคะ) ใครว่า งานแต่งคืองานความสุข จากที่กล่าวมา ความสุขมันอยู่ตรงไหน เหนื่อย มีหนี้ เรื่องมากอีกตั้งหาก จริงไหม??

สุดท้าย หากเรามีความรักและอยากใช้ชีวิตไปด้วยกันโดยให้ผู้ใหญ่รับรู้ เราควรแต่งตัวแบบให้เรียบร้อยเข้าไปไหว้ผู้ใหญ่ ขอให้ผูกข้อมือ ทำบุญตักบาตร คุยเรื่องสินสอด ทานข้าวพร้อมกัน เพียงเท่านี้ งานแต่งก็จะเพียงของเราสองคน(เลี่ยนไปอีก-O-5555) หรือถ้าอยากแต่งงานจริงก็ลองเสิร์ชหางานแต่งที่เขาจัดกันเองแต่งบไม่เยอะ ไม่ก็จัดงานแบบอินดี้หน่อยไม่ต้องฟังเสียงใครตามใจแค่เราดูงบดีๆก็พอล่ะ >O<

Ex ตัวอย่าง งานแต่งดีๆ งบน้อย
http://ppantip.com/topic/35765893 (ขออนุญาติเจ้าของกระทู้นะคะ)