สวัสดีครับ
รีวิวนี้เน้นข้อมูลเป็นหลักนะครับ ภาพประกอบอาจไม่สวยมาก เหมาะสำหรับคนที่มาหาข้อมูลจริงๆ และคนที่กังวลเรื่องไปเองครั้งแรก เพราะผมก็ได้ข้อมูลมาจากพันทิป + หาเองนี่แหละ เลยอยากมาแชร์บ้าง
เกริ่น
ผมมาครั้งแรกครับ กับเพื่อน มากัน 2 คน วิธีการแพลนคือ ใครอยากไปไหนให้จดมาก่อน แล้วเอามารวมกัน ช่วยๆกันดู เราตัดสินใจกันว่าจะเที่ยวแค่เขตเดียว คือคันโต เพราะค่าเดินทาง 2 เขตแพงมาก เอามาจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินมาอีกรอบดีกว่า แถมเดินทางเยอะเหนื่อยด้วย ได้เที่ยวน้อย จากนั้นก็มาแบ่งเป็นโซนๆ แล้วกรุ้ปไว้ไปวันเดียวกัน แล้วมาดูอีกว่าที่เที่ยวตอนกลางคืนได้ เช่น ชิบูย่า ชินจูกุ ย้ายมาไว้เที่ยวกลางคืน
การเตรียมความพร้อม
นอกจากเรื่องตั๋วเครื่องบิน + ที่พักแล้ว ที่สำคัญที่สุดเลยคือ หาข้อมูลครับ มีการ Run through อย่างละเอียด บางครั้งก็ Street view ดูก่อน แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบสปอย แต่ผมไปครั้งแรก Play safe ดีกว่า การหาข้อมูลก็หาจากพันทิป + กรุ๊ปในเฟสบุ๊ค ถามๆเอา
ซื้อน้ำหนักขาไป 20 โล กลับ 20 โล แชร์กัน(แต่มาซื้อเพิ่มเป็น 30 โล ที่หลัง ต้องพึ่งทางบ้านเพราะ รหัสยืนยันส่งมาเข้า SMS เราไม่ได้ มันไม่ได้ส่งเข้าเมล)
Pocket wifi เลือกใช้ Samurai Wifi รุ่น Kaminari เพราะ ไปต่างจังหวัดเยอะ + ใช้มือถือถ่ายรูปไม่มีเสียง + ไม่อยากเสี่ยงกับ Sim2fly ของ AIS( แต่หลายคนบอกใช้ดี) ผมเลย Play safe เช่าไวไฟ การใช้งานใช้ดีมาก แบตอึด แถมมีบัตร Kingpower ได้ลดอีก 20%
วางแพลนอย่างละเอียดโดยใช้ Excel ครับ ทำเป็น Share file ไว้บนกรุ๊ปเฟสบุ๊ค เดี๋ยวจะมีตัวอย่างให้ดูข้างล่าง ส่วนประกอบหลักๆ คือ เวลา สถานที่ เดินทางจากไหนไปไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ ค่าเข้าเท่าไหร่ จะใช้เวลาที่นี่เท่าไหร่ ร้านอาหารร้านเด็ดอยู่ตำแหน่งไหน มีอะไรพิเศษที่ต้องบันทึกเพิ่ม อะไรที่เราควรจดไว้กันลืม
กระทู้ตัวอย่างการเขียนใบ ตม ของหลายประเทศอย่างละเอียด
http://ppantip.com/topic/35608827
เตรียมเอกสารที่อย่างให้พร้อมครับ ทั้งใบจองที่พัก แพลน ข้อมูลที่เที่ยวต่างๆ ตั๋วจองรถบัส ตั๋วเครื่องบิน รวมถึงเช็คอินก่อนล่วงหน้า และปริ้นไปด้วย เพราะแถวจะยาวมาก
ศัพท์ญี่ปุ่นที่ควรรู้ จริงๆการไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ แต่ถ้ารู้ไว้จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ที่ผมใช้บ่อยๆ คือ
Kore wa Ikura de su ka? = ของชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่
สถานที่ wa dochira de su ka? = สถานที่ไปทางไหน
Sumimasen = Excuse me
Arigatougosaimasu = Thankyou
Koko wa do ko de su ka? = ที่นี่ที่ไหน
Wakarimasu = Understand
Wakarimasen = Not understand
Eigo Kudasai = English please
Toilet ni dochira de su ka? = ห้องน้ำไปทางไหน
Kore = This
Kore wa nan de su ka? = What is this?
Asoko = Those (สำหรับเวลาเราถามทาง แล้วเขาบอก Asoko แล้วชี้ คือไปทางโน้น)
ชื่อร้าน ni nan kai de su ka? = ขื่อร้านอยู่ชั้นไหน
ชื่อของ Wa arimasu ka? = มีของชิ้นนี้ไหม
ศัพท์ตัวเลข (หรือใครอยากกดเครื่องคิดเลขก็ได้ แต่จำได้ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ)
คร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ ไป Apply กันเองนะ
ปล. แกรมม่าอาจไม่เป๊ะเพราะเรียนมา 2 ปีแล้ว แต่ใช้เอาตัวรอดได้ครับ
ถ่ายรูปทุกอย่างที่คิดว่าต้องใช้ลงมือถือครับ สร้างอัลบั้มไว้ด้วยก็ดี เช่น แพลนหลัก สายรถไฟ Yamanote วิธีการเดินทางจากจากรีวิวต่างๆ
จด Address ที่พักแรกของเราเอาไว้เพื่อเขียนใบ ตม ของญี่ปุ่นด้วย รวมถึงถ่ายรูปตัวอย่างการเขียนใบ ตม ทั้งไทย และญี่ปุ่นเอาไว้ด้วย
การวางแผนค่าใช้จ่าย
หลังจากเราเตรียมความพร้อมเสร็จแล้วเราก็มาดูในแพลนหลักเราครับ ว่าเรามีนั่งรถไฟจากไหน ไปไหน ราคาเท่าไหร่ ค่าเข้าสถานที่นี้ราคาเท่าไหร่ บวกรวมกันให้หมด โดยสำหรับผม คิดค่ากินมื้อละ 800 บาท เพราะกะจะรวมพวกของกินจุกจิกระหว่างทางเช่น Tokoyaki , Soft cream, Vending Machine พวกนี้ด้วย แต่เอาจริงๆ หลายมื้อไม่ถึง 800 บาทครับ ส่วนหลายมื้อเกินนิดหน่อย แต่ถัวๆกันไป ก็จะได้งบประมาณค่าใช้จ่ายออกมา แต่ต้องมั่นใจนะว่าไม่ลืมบวกค่าไรไป จากนั้นก็บวกค่าตั๋วเครื่องบินที่จ่ายไปก่อนเข้าไป อันนี้จะได้ Total expense
เวลาจะแลกเงิน เนื่องจากผมจะจ่ายสดกับทางที่พักเลย เลยเอา Total expense ลบค่าตั๋วเครื่องบินออก ก็จะได้จำนวนเงินที่ต้องแลกไปครับ แต่และเพิ่มไป 4 – 5 พันบาทเพื่อช้อป รวมกับค่ากินที่หลายมื้อไม่ถึง 800 บาทตามงบ ก็จะได้เพิ่มงบช้อปไปอีก
ปล. ผมแลกเรท 0.34
ก่อนจะเข้าสู่ Part หลักขอบอกเป็นภาพรวมก่อนละกัน
Overview ทริปของผมตามนี้
วันที่ 1 นั่งเข้าเมือง + เดินเล่นแถวที่พักที่ Ikebukuro –
วันเดินสำรวจ
วันที่ 2 นั่งรถบัสไป Kofu station เที่ยวจังหวัด Yamanashi เดินเส้นทางน้ำตก ภูเขา ชิวๆไป –
วันเที่ยวธรรมชาติ
วันที่ 3 เที่ยว Kawaguchigo (Fuji + เจย์ดีแดง 5 ชั้น) –
วันถ่ายรูป + เที่ยวธรรมชาติ
วันที่ 4 Asakusa + Ueno + Ameyoko + Akihabara –
วันช้อปปิ้ง + กิน
วันที่ 5 Nikko –
วันเที่ยวธรรมชาติ
วันที่ 6 Sea paradise + Yokohama –
วันถ่ายรูป + ชมสัตว์น้ำ
วันที่ 7 ชินจูกุ + ฮาราจูกุ + ชิบูย่า –
วันเดินชิว + ช้อปปิ้ง
วันที่ 8 มหาวิทยาลัยโตเกียว + กินบุฟเฟ่ขาปูที่ Tokyo station + Imperial Palace + Akihabara รอบ 2 –
วันเดินชิว + ถ่ายรูป + กิน + ช้อปปิ้ง
วันที่ 9 Ikebukuro + บินกลับ –
วันเดินชิว + เศร้า
ปล. Overview ข้างบนคือ ที่เกิดขึ้นจริง มีบางส่วนที่ตัดสินใจแก้แพลนระหว่างเที่ยว เพราะอะไร มาดูกันข้างล่างตามวัน
มาต่อเรื่อยๆครับจนกว่าจะครบ 9 วัน ใครอยากถามถามได้ครับ
[เน้นข้อมูลละเอียดเหมาะกับมือใหม่] คันโต 8 คืน 9 วัน - Yamanashi, Kawaguchigo, Nikko, Yokohama, Tokyo
รีวิวนี้เน้นข้อมูลเป็นหลักนะครับ ภาพประกอบอาจไม่สวยมาก เหมาะสำหรับคนที่มาหาข้อมูลจริงๆ และคนที่กังวลเรื่องไปเองครั้งแรก เพราะผมก็ได้ข้อมูลมาจากพันทิป + หาเองนี่แหละ เลยอยากมาแชร์บ้าง
เกริ่น
ผมมาครั้งแรกครับ กับเพื่อน มากัน 2 คน วิธีการแพลนคือ ใครอยากไปไหนให้จดมาก่อน แล้วเอามารวมกัน ช่วยๆกันดู เราตัดสินใจกันว่าจะเที่ยวแค่เขตเดียว คือคันโต เพราะค่าเดินทาง 2 เขตแพงมาก เอามาจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินมาอีกรอบดีกว่า แถมเดินทางเยอะเหนื่อยด้วย ได้เที่ยวน้อย จากนั้นก็มาแบ่งเป็นโซนๆ แล้วกรุ้ปไว้ไปวันเดียวกัน แล้วมาดูอีกว่าที่เที่ยวตอนกลางคืนได้ เช่น ชิบูย่า ชินจูกุ ย้ายมาไว้เที่ยวกลางคืน
การเตรียมความพร้อม
นอกจากเรื่องตั๋วเครื่องบิน + ที่พักแล้ว ที่สำคัญที่สุดเลยคือ หาข้อมูลครับ มีการ Run through อย่างละเอียด บางครั้งก็ Street view ดูก่อน แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบสปอย แต่ผมไปครั้งแรก Play safe ดีกว่า การหาข้อมูลก็หาจากพันทิป + กรุ๊ปในเฟสบุ๊ค ถามๆเอา
ซื้อน้ำหนักขาไป 20 โล กลับ 20 โล แชร์กัน(แต่มาซื้อเพิ่มเป็น 30 โล ที่หลัง ต้องพึ่งทางบ้านเพราะ รหัสยืนยันส่งมาเข้า SMS เราไม่ได้ มันไม่ได้ส่งเข้าเมล)
Pocket wifi เลือกใช้ Samurai Wifi รุ่น Kaminari เพราะ ไปต่างจังหวัดเยอะ + ใช้มือถือถ่ายรูปไม่มีเสียง + ไม่อยากเสี่ยงกับ Sim2fly ของ AIS( แต่หลายคนบอกใช้ดี) ผมเลย Play safe เช่าไวไฟ การใช้งานใช้ดีมาก แบตอึด แถมมีบัตร Kingpower ได้ลดอีก 20%
วางแพลนอย่างละเอียดโดยใช้ Excel ครับ ทำเป็น Share file ไว้บนกรุ๊ปเฟสบุ๊ค เดี๋ยวจะมีตัวอย่างให้ดูข้างล่าง ส่วนประกอบหลักๆ คือ เวลา สถานที่ เดินทางจากไหนไปไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ ค่าเข้าเท่าไหร่ จะใช้เวลาที่นี่เท่าไหร่ ร้านอาหารร้านเด็ดอยู่ตำแหน่งไหน มีอะไรพิเศษที่ต้องบันทึกเพิ่ม อะไรที่เราควรจดไว้กันลืม
กระทู้ตัวอย่างการเขียนใบ ตม ของหลายประเทศอย่างละเอียด
http://ppantip.com/topic/35608827
เตรียมเอกสารที่อย่างให้พร้อมครับ ทั้งใบจองที่พัก แพลน ข้อมูลที่เที่ยวต่างๆ ตั๋วจองรถบัส ตั๋วเครื่องบิน รวมถึงเช็คอินก่อนล่วงหน้า และปริ้นไปด้วย เพราะแถวจะยาวมาก
ศัพท์ญี่ปุ่นที่ควรรู้ จริงๆการไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ แต่ถ้ารู้ไว้จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ที่ผมใช้บ่อยๆ คือ
Kore wa Ikura de su ka? = ของชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่
สถานที่ wa dochira de su ka? = สถานที่ไปทางไหน
Sumimasen = Excuse me
Arigatougosaimasu = Thankyou
Koko wa do ko de su ka? = ที่นี่ที่ไหน
Wakarimasu = Understand
Wakarimasen = Not understand
Eigo Kudasai = English please
Toilet ni dochira de su ka? = ห้องน้ำไปทางไหน
Kore = This
Kore wa nan de su ka? = What is this?
Asoko = Those (สำหรับเวลาเราถามทาง แล้วเขาบอก Asoko แล้วชี้ คือไปทางโน้น)
ชื่อร้าน ni nan kai de su ka? = ขื่อร้านอยู่ชั้นไหน
ชื่อของ Wa arimasu ka? = มีของชิ้นนี้ไหม
ศัพท์ตัวเลข (หรือใครอยากกดเครื่องคิดเลขก็ได้ แต่จำได้ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ)
คร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ ไป Apply กันเองนะ
ปล. แกรมม่าอาจไม่เป๊ะเพราะเรียนมา 2 ปีแล้ว แต่ใช้เอาตัวรอดได้ครับ
ถ่ายรูปทุกอย่างที่คิดว่าต้องใช้ลงมือถือครับ สร้างอัลบั้มไว้ด้วยก็ดี เช่น แพลนหลัก สายรถไฟ Yamanote วิธีการเดินทางจากจากรีวิวต่างๆ
จด Address ที่พักแรกของเราเอาไว้เพื่อเขียนใบ ตม ของญี่ปุ่นด้วย รวมถึงถ่ายรูปตัวอย่างการเขียนใบ ตม ทั้งไทย และญี่ปุ่นเอาไว้ด้วย
การวางแผนค่าใช้จ่าย
หลังจากเราเตรียมความพร้อมเสร็จแล้วเราก็มาดูในแพลนหลักเราครับ ว่าเรามีนั่งรถไฟจากไหน ไปไหน ราคาเท่าไหร่ ค่าเข้าสถานที่นี้ราคาเท่าไหร่ บวกรวมกันให้หมด โดยสำหรับผม คิดค่ากินมื้อละ 800 บาท เพราะกะจะรวมพวกของกินจุกจิกระหว่างทางเช่น Tokoyaki , Soft cream, Vending Machine พวกนี้ด้วย แต่เอาจริงๆ หลายมื้อไม่ถึง 800 บาทครับ ส่วนหลายมื้อเกินนิดหน่อย แต่ถัวๆกันไป ก็จะได้งบประมาณค่าใช้จ่ายออกมา แต่ต้องมั่นใจนะว่าไม่ลืมบวกค่าไรไป จากนั้นก็บวกค่าตั๋วเครื่องบินที่จ่ายไปก่อนเข้าไป อันนี้จะได้ Total expense
เวลาจะแลกเงิน เนื่องจากผมจะจ่ายสดกับทางที่พักเลย เลยเอา Total expense ลบค่าตั๋วเครื่องบินออก ก็จะได้จำนวนเงินที่ต้องแลกไปครับ แต่และเพิ่มไป 4 – 5 พันบาทเพื่อช้อป รวมกับค่ากินที่หลายมื้อไม่ถึง 800 บาทตามงบ ก็จะได้เพิ่มงบช้อปไปอีก
ปล. ผมแลกเรท 0.34
ก่อนจะเข้าสู่ Part หลักขอบอกเป็นภาพรวมก่อนละกัน
Overview ทริปของผมตามนี้
วันที่ 1 นั่งเข้าเมือง + เดินเล่นแถวที่พักที่ Ikebukuro – วันเดินสำรวจ
วันที่ 2 นั่งรถบัสไป Kofu station เที่ยวจังหวัด Yamanashi เดินเส้นทางน้ำตก ภูเขา ชิวๆไป – วันเที่ยวธรรมชาติ
วันที่ 3 เที่ยว Kawaguchigo (Fuji + เจย์ดีแดง 5 ชั้น) – วันถ่ายรูป + เที่ยวธรรมชาติ
วันที่ 4 Asakusa + Ueno + Ameyoko + Akihabara – วันช้อปปิ้ง + กิน
วันที่ 5 Nikko – วันเที่ยวธรรมชาติ
วันที่ 6 Sea paradise + Yokohama – วันถ่ายรูป + ชมสัตว์น้ำ
วันที่ 7 ชินจูกุ + ฮาราจูกุ + ชิบูย่า – วันเดินชิว + ช้อปปิ้ง
วันที่ 8 มหาวิทยาลัยโตเกียว + กินบุฟเฟ่ขาปูที่ Tokyo station + Imperial Palace + Akihabara รอบ 2 – วันเดินชิว + ถ่ายรูป + กิน + ช้อปปิ้ง
วันที่ 9 Ikebukuro + บินกลับ – วันเดินชิว + เศร้า
ปล. Overview ข้างบนคือ ที่เกิดขึ้นจริง มีบางส่วนที่ตัดสินใจแก้แพลนระหว่างเที่ยว เพราะอะไร มาดูกันข้างล่างตามวัน
มาต่อเรื่อยๆครับจนกว่าจะครบ 9 วัน ใครอยากถามถามได้ครับ