“น้ำตาล” ตอนอายุได้ 9 เดือน อยู่ดี ๆ ก็ฉี่ไม่ออก เดินตัวงอ เลยพาไปคลินิกแถวบ้าน หมอบอกว่าเป็นโรค “นิ่ว” วันนั้นเลยต้องทำการสวนฉี่ ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังและให้ยามากิน เจาะเลือดไปด้วย และก็รับกลับบ้านได้ แล้วหมอก็บอกว่าเป็นโรค “นิ่วเม็ดทราย” ผ่าตัดไม่ได้เพราะว่าเป็นนิ่วเม็ดเล็ก ๆ คล้ายทราย ต้องกินยา ดูอาการกันไป อีกประมาณ 1 เดือนก็ฉี่ไม่ออกอีก ยาก็กินหมดไปแล้ว ก็พาไปหาหมอสวนฉี่อีก เข้า-ออก คลินิกประมาณเดือนละครั้งเพื่อไปสวนฉี่และรับยามากิน เริ่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ก.ค.59 ครั้งต่อมาก็ วันที่ 14 ส.ค.59 แล้ววันที่ 29 ก.ย.59 มืดแล้วเห็นอาการเดินตัวงอ ก็เลยตัดสินใจว่าจะพาไปหาหมอที่โรงพยาลใหญ่แถวเกษตร ดีกว่า เผื่อจะได้รับการรักษาที่ดีขึ้น
เช้าวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.59 ก็ไปตรวจ รักษา โดยหมอเจาะเลือด เอ็กซเรย์ อัลตร้าซาวด์ ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังและก็สวนฉี่ และก็รับยาชุดใหญ่ กับต้องกินอาหารสำหรับหมาโรคนิ่ว ซึ่งแพงเอาการอยู่เหมือนกัน วันหนึ่งตามน้ำหนักตัวต้องกิน เกือบ 2 กระป๋อง ๆ ละ 115 บาท ไม่เป็นไร สู้ ๆ อยู่ที่โรงพยาบาล ตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ ๆ สรุปว่าเป็น โรค “นิ่วเม็ดทราย” เหมือนที่คลินิกบอกและนัดมาอีกครั้ง วันที่ 7 ต.ค.59
พอเช้าวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.59 ฉี่ไม่ออกอีกแล้ว ทำไมเป็นงั้นล่ะ เมื่อวานก็สวนฉี่แล้วนี่นา ช่วงก่อนเที่ยงก็เลยต้องพาไปคลินิก แถวบ้านอีกครั้ง แล้วก็เล่าให้หมอฟังว่าเมื่อวานไปทำไรกันบ้านที่โรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตร หมอรับตัวไว้ แอดมิทเลย ไม่เป็นไร “น้ำตาล” เคยอยู่ที่นี่มาตั้งหลายครั้ง สนิทกับพี่เลี้ยง+หมอแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1-8 ต.ค.59 แอดมิท ไปเยี่ยม ซื้ออาหารหมาโรคนิ่ว ไปให้ แอบให้พี่เลี้ยงถ่ายรูปให้ดู กลัวว่าถ้าเห็นแล้วจะร้องตาม โทรถามอาการทุกวัน คำตอบที่ได้รับฟังจากปากหมอคือ อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ผลเลือดดี แต่ทุกครั้งก็จะถามหมอว่าไปรับกลับบ้านได้หรือยัง หมอจะบอกว่ายังไม่ได้รอดูอาการให้เข้าดีขึ้นกว่านี้อีก ได้ค่ะ เพราะว่าเราดูจากรูปที่ถ่ายก็ดูเหมือน “น้ำตาล”ก็ดูดีอยู่นะ จนถึงวันเสาร์ที่ 8 ต.ค.59 ประมาณเกือบบ่ายสามโมง โทรไปถามอาการตามปกติ หมอที่คลินิกอีกคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเจอเลย รับสายและบอกว่าให้รีบมารับ “น้ำตาล” ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตรด่วน อ้าว ๆ ทำไมเป็นอย่างนั้น ทุก ๆ วันที่โทรมาก็บอกดีขึ้น ๆ ทุกอย่าง เป็นงี้ได้ไง
รีบเลย ๆ ไปรับทันที พาไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตรเข้าฉุกเฉินเลย เขียนใบส่งตัวมาพร้อม หมอที่โรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตร ก็ตรวจ แล้วก็ดูจากประวัติที่ทำการรักษาเมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง เอ็กเรย์ อัลตร้าซาวด์ และสุดท้ายก็ให้ยามากิน “น้ำตาล” ยังเดินได้ แต่ซึม ๆ ไม่เล่น ไม่ยิ้ม ก่อนกลับก็อึที่โรงพยาบาล เป็นก้อน ๆ สีดำ ๆ และก็เอาก้อนนิ่วที่ทางคลินิกให้มาส่งตรวจ แล้ว 1 สัปดาห์มาฟังผล รับยามากิน แล้วก็กลับบ้าน หมอใส่ท่อเพื่อให้ฉี่ออกทางท่อกลับมาด้วย บอกกับหมอว่าถ้าใส่ท่อติดมาคงต้องเอาไปไว้ที่คลินิก หมอบอกว่าไม่ต้อง เพียงแต่ว่าทุกวันต้องพาให้ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังก็พอ หรือจะทำเองก็ได้เดี๊ยวจะสอนวิธีให้ แต่บอกไม่เป็นไร ไม่กล้าทำเอง แต่พอมาถึงบ้านได้สักพัก เขานอนบิดไปมาเลยไปโดยสายท่อหลุด นึกไว้ไม่เป็นไร เดี๊ยวเช้าพาไปใส่ที่คลินิกแล้วกัน พอเช้าก็ฉี่ไม่ออกอีกเพราะเขายืนเบ่งอยู่นาน คอยมองตลอด ไว้ตอนบ่ายพาไปให้น้ำเกลือค่อยไปสวนฉี่ล่ะกัน พอสาย ๆ สังเกตเห็นว่า “น้ำตาล” ตัวบวม ท้องบวม ก็คิดว่าให้น้ำเกลือเยอะมั้งเลยบวม วันนั้นกลางวันฝนตกเกือบทั้งวัน พอฝนหายประมาณบ่าย 3 โมงเลยรีบพาไปหาหมอแต่เปลี่ยนที่เป็นโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-นนท์ ตัวบวมมาก น่าสงสารจะนอนคว่ำ นอนตะแคงก็ไม่ได้ ไม่ถึงนาทีก็พลิกไปพลิกมา พอไปถึงขึ้นเตียง หมอบอกว่าให้ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตรเถอะ อาการไม่ดีแล้ว เลยบอกว่าเพิ่งไปมาเมื่อวาน หมอที่นั่นบอกว่าไม่เป็นไรมาก ถ้าไงก็ให้อยู่ที่นี่ รักษาตามอาการล่ะกันนะคะ
อยากถามเพื่อน ๆ ว่า
1. ทำไม “น้ำตาล” อายุแค่ 9 เดือนถึงได้ป่วยเป็นโรค “นิ่วเม็ดทราย”
2. ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตร หมอตรวจทุกอย่างแล้ว สวนฉี่แล้ว ทำไมพอเช้าวันรุ่งขึ้น “น้ำตาล” จึงฉี่ไม่ออกอีกล่ะ
3. เวลาแค่ 3-4 ชม. ท้องถึงได้บวมมาก แล้วพาให้โรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-นนท์ ถึงได้บอกว่าอาการหนักมาก เหมือนกับจะตายล่ะคะ
ปล.เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 59 โรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพนนท์ โทรมาบอกว่าน้องเสียแล้ว
ขอคำปรึกษาน้องหมาเป็นนิ่วตั้งแต่อายุ 9 เดือน
“น้ำตาล” ตอนอายุได้ 9 เดือน อยู่ดี ๆ ก็ฉี่ไม่ออก เดินตัวงอ เลยพาไปคลินิกแถวบ้าน หมอบอกว่าเป็นโรค “นิ่ว” วันนั้นเลยต้องทำการสวนฉี่ ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังและให้ยามากิน เจาะเลือดไปด้วย และก็รับกลับบ้านได้ แล้วหมอก็บอกว่าเป็นโรค “นิ่วเม็ดทราย” ผ่าตัดไม่ได้เพราะว่าเป็นนิ่วเม็ดเล็ก ๆ คล้ายทราย ต้องกินยา ดูอาการกันไป อีกประมาณ 1 เดือนก็ฉี่ไม่ออกอีก ยาก็กินหมดไปแล้ว ก็พาไปหาหมอสวนฉี่อีก เข้า-ออก คลินิกประมาณเดือนละครั้งเพื่อไปสวนฉี่และรับยามากิน เริ่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ก.ค.59 ครั้งต่อมาก็ วันที่ 14 ส.ค.59 แล้ววันที่ 29 ก.ย.59 มืดแล้วเห็นอาการเดินตัวงอ ก็เลยตัดสินใจว่าจะพาไปหาหมอที่โรงพยาลใหญ่แถวเกษตร ดีกว่า เผื่อจะได้รับการรักษาที่ดีขึ้น
เช้าวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.59 ก็ไปตรวจ รักษา โดยหมอเจาะเลือด เอ็กซเรย์ อัลตร้าซาวด์ ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังและก็สวนฉี่ และก็รับยาชุดใหญ่ กับต้องกินอาหารสำหรับหมาโรคนิ่ว ซึ่งแพงเอาการอยู่เหมือนกัน วันหนึ่งตามน้ำหนักตัวต้องกิน เกือบ 2 กระป๋อง ๆ ละ 115 บาท ไม่เป็นไร สู้ ๆ อยู่ที่โรงพยาบาล ตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ ๆ สรุปว่าเป็น โรค “นิ่วเม็ดทราย” เหมือนที่คลินิกบอกและนัดมาอีกครั้ง วันที่ 7 ต.ค.59
พอเช้าวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.59 ฉี่ไม่ออกอีกแล้ว ทำไมเป็นงั้นล่ะ เมื่อวานก็สวนฉี่แล้วนี่นา ช่วงก่อนเที่ยงก็เลยต้องพาไปคลินิก แถวบ้านอีกครั้ง แล้วก็เล่าให้หมอฟังว่าเมื่อวานไปทำไรกันบ้านที่โรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตร หมอรับตัวไว้ แอดมิทเลย ไม่เป็นไร “น้ำตาล” เคยอยู่ที่นี่มาตั้งหลายครั้ง สนิทกับพี่เลี้ยง+หมอแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1-8 ต.ค.59 แอดมิท ไปเยี่ยม ซื้ออาหารหมาโรคนิ่ว ไปให้ แอบให้พี่เลี้ยงถ่ายรูปให้ดู กลัวว่าถ้าเห็นแล้วจะร้องตาม โทรถามอาการทุกวัน คำตอบที่ได้รับฟังจากปากหมอคือ อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ผลเลือดดี แต่ทุกครั้งก็จะถามหมอว่าไปรับกลับบ้านได้หรือยัง หมอจะบอกว่ายังไม่ได้รอดูอาการให้เข้าดีขึ้นกว่านี้อีก ได้ค่ะ เพราะว่าเราดูจากรูปที่ถ่ายก็ดูเหมือน “น้ำตาล”ก็ดูดีอยู่นะ จนถึงวันเสาร์ที่ 8 ต.ค.59 ประมาณเกือบบ่ายสามโมง โทรไปถามอาการตามปกติ หมอที่คลินิกอีกคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเจอเลย รับสายและบอกว่าให้รีบมารับ “น้ำตาล” ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตรด่วน อ้าว ๆ ทำไมเป็นอย่างนั้น ทุก ๆ วันที่โทรมาก็บอกดีขึ้น ๆ ทุกอย่าง เป็นงี้ได้ไง
รีบเลย ๆ ไปรับทันที พาไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตรเข้าฉุกเฉินเลย เขียนใบส่งตัวมาพร้อม หมอที่โรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตร ก็ตรวจ แล้วก็ดูจากประวัติที่ทำการรักษาเมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง เอ็กเรย์ อัลตร้าซาวด์ และสุดท้ายก็ให้ยามากิน “น้ำตาล” ยังเดินได้ แต่ซึม ๆ ไม่เล่น ไม่ยิ้ม ก่อนกลับก็อึที่โรงพยาบาล เป็นก้อน ๆ สีดำ ๆ และก็เอาก้อนนิ่วที่ทางคลินิกให้มาส่งตรวจ แล้ว 1 สัปดาห์มาฟังผล รับยามากิน แล้วก็กลับบ้าน หมอใส่ท่อเพื่อให้ฉี่ออกทางท่อกลับมาด้วย บอกกับหมอว่าถ้าใส่ท่อติดมาคงต้องเอาไปไว้ที่คลินิก หมอบอกว่าไม่ต้อง เพียงแต่ว่าทุกวันต้องพาให้ให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังก็พอ หรือจะทำเองก็ได้เดี๊ยวจะสอนวิธีให้ แต่บอกไม่เป็นไร ไม่กล้าทำเอง แต่พอมาถึงบ้านได้สักพัก เขานอนบิดไปมาเลยไปโดยสายท่อหลุด นึกไว้ไม่เป็นไร เดี๊ยวเช้าพาไปใส่ที่คลินิกแล้วกัน พอเช้าก็ฉี่ไม่ออกอีกเพราะเขายืนเบ่งอยู่นาน คอยมองตลอด ไว้ตอนบ่ายพาไปให้น้ำเกลือค่อยไปสวนฉี่ล่ะกัน พอสาย ๆ สังเกตเห็นว่า “น้ำตาล” ตัวบวม ท้องบวม ก็คิดว่าให้น้ำเกลือเยอะมั้งเลยบวม วันนั้นกลางวันฝนตกเกือบทั้งวัน พอฝนหายประมาณบ่าย 3 โมงเลยรีบพาไปหาหมอแต่เปลี่ยนที่เป็นโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-นนท์ ตัวบวมมาก น่าสงสารจะนอนคว่ำ นอนตะแคงก็ไม่ได้ ไม่ถึงนาทีก็พลิกไปพลิกมา พอไปถึงขึ้นเตียง หมอบอกว่าให้ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตรเถอะ อาการไม่ดีแล้ว เลยบอกว่าเพิ่งไปมาเมื่อวาน หมอที่นั่นบอกว่าไม่เป็นไรมาก ถ้าไงก็ให้อยู่ที่นี่ รักษาตามอาการล่ะกันนะคะ
อยากถามเพื่อน ๆ ว่า
1. ทำไม “น้ำตาล” อายุแค่ 9 เดือนถึงได้ป่วยเป็นโรค “นิ่วเม็ดทราย”
2. ไปโรงพยาบาลใหญ่แถวเกษตร หมอตรวจทุกอย่างแล้ว สวนฉี่แล้ว ทำไมพอเช้าวันรุ่งขึ้น “น้ำตาล” จึงฉี่ไม่ออกอีกล่ะ
3. เวลาแค่ 3-4 ชม. ท้องถึงได้บวมมาก แล้วพาให้โรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ-นนท์ ถึงได้บอกว่าอาการหนักมาก เหมือนกับจะตายล่ะคะ
ปล.เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 59 โรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพนนท์ โทรมาบอกว่าน้องเสียแล้ว