[CR] เที่ยวเยอรมัน : เมืองเล็ก ได้อะไรเยอะ

ออกเดินทาง ล่าฝันที่เยอรมันกันเถอะ !!!

หากถามว่าตื่นเต้นไหม.....ฉันตอบเลยว่ามากกก ก็ไม่เคยนั่งเครื่องบินไปไหนไกลเยี่ยงนี้มาก่อนในชีวิต....ริจะเป็นนักเดินทางน่ะเนอะ ชีวิตก็ต้องบินกันไป ^^

ตอนมาถึง อุณหภูมิ ก็แค่ 8 องศาฯเอ๊งงง (คาดการณ์ไว้ 20 องศาฯ) ฮึ ฮึ ไม่ใช่แค่หนาว มีฝนด้วยจ้าา สั่นสิคะ จะรออะไร

#นั่งสายการบิน Eurowings ขึ้นที่สุวรรณภูมิ ลงที่ Cologne Bonn Airport  สายการบินนี้เบาะโดยสารกว้างพอสมควร นั่งไม่เบียดกันมาก ยืดขาได้ นั่งไขว่ห้างได้ โดยรวมถือว่า OK มีอาหารหลักให้ 1 มื้อ และอาหารว่างให้ 1 มื้อ น้ำเปล่าแจ้งได้ตลอด (อาหารขึ้นอยู่กับแบบตั๋วที่จองด้วยนะคะ)

ตรงหลังเบาะด้านหน้า จะมีหน้าจอ คอยบอกเวลา อุณหภูมิ ระยะทางที่เดินทางมาแล้ว และระยะทางที่เหลือ ... ตรงนี้สามารถชาร์ตมือถือได้


การมาเยอรมันครั้งนี้ เรามาหลายวัน จึงเที่ยวทั้งแบบที่ไปสถานที่ท่องเที่ยวแบบจริงจัง กับไปเที่ยวตามเมืองเล็กๆ ความสนุกและความฟินไม่น้อยหน้ากันเลยนะ จะบอกให้ เอาล่ะ มาตามติดชีวิตเที่ยวในเมืองเล็กๆกันเถอะ

Schwäbisch Gmünd City centre & park

เนื่องจากวันที่เดินเล่นในเมืองนั้น เป็นวันหยุดของทางเยอรมัน (วันสำคัญทางศาสนา) และมีฝนตกพรำๆตอนออกมาเดินเล่น จึงไม่ได้เจอผู้คนพลุกพล่าน และเมืองนี้ไม่ใช่เมืองใหญ่ วิว ทิวทัศน์ที่เห็นจึงปรากฎดังภาพ




ที่เยอรมัน ผู้คนนิยมการเดินเล่น พาน้องหมาเดินออกกำลังกาย ช่วงเย็นๆค่ำๆ เพราะบ้านเค้าอากาศจะดี ไม่ร้อน >>คือเดินเป็นชั่วโมง เหงื่อยังไม่ค่อยออกเลย<<  ช่วงที่ไป เป็นช่วงที่กลางวันนาน พระอาทิตย์ตกสักประมาณ 3 ทุ่ม ดังนั้น จึงมีเวลาช่วงเย็นในการเดินเล่น หรือออกกำลังกายพอสมควรเลยทีเดียว อีกอย่าง คือ บ้านเมืองค่อนข้างปลอดภัย เดินไปทางไหนก็มีแสงไฟ ถนนหนทางก็ดี๊ดีค่าา ...... ไปเดินเล่นเยอรมันกาน ^^



ภาพพระอาทิตย์ตกนี่ เป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มนะคะ (ยังสว่างอยู่เลย)

สำหรับวันธรรมดา ที่มีแสงแดดอุ่นๆ คนเยอรมันชอบมาก ได้ออกมาเดิน Trekking เบาๆ ทำกิจกรรมกับครอบครัว เด็กๆที่นี่ เล่นดินเล่นทราย เล่นเครื่องเล่น ซึ่งกวางมองว่าดีมาก ดีกว่านั่งอยู่หน้าทีวี เล่นเกมส์




ที่เดินเล่น ใน Schwäbisch Gmünd ถือว่ามีเยอะมาก และบรรยากาศดีแทบทุกที่เลยทีเดียว หากมาเที่ยวเยอรมัน อย่าลืมแวะมาเดินเล่นที่เมืองนี้กันด้วยนะคะ ^^




Schwäbisch Hall City centre & Comburg

เมืองนี้ เป็นเมืองที่เล็กกว่าเมือง Schwäbisch Gmünd ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อมาถึงเมือง หากขับรถมาจะมีที่จอดรถเป็นลานใต้ตึก มองจากข้างนอกนึกแทบไม่ออกว่าเป็นที่จอดรถ แล้วจึงเดินเท้าเข้าเมือง ไม่เหนื่อยมาก เพราะเป็นเมืองเล็ก แต่ความสวยงามนี่ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ ตั้งแต่บ้านเรือนที่บางหลังนี่ อายุเกิน 100 ปี สถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ ความเป็นมาของเมืองถูกบันทึกไว้ หากใครสนใจสามารถดูเรื่องราวสำคัญๆได้จากในโบสถ์ St. Michael



ที่โบสถ์ St. Michael เราสามารถเดินขึ้นไปบนหอคอยได้ ซึ่งจะผ่านห้องที่มีระฆังอันใหญ่ และเดินขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด (ข้างใน) โดยด้านบนจะเป็นห้องที่มองได้รอบเมืองทีเดียว จากคำบอกเล่า ทำให้ทราบว่า เมื่อก่อนจะต้องมีคนทำงานอยู่ข้างบนนี้ เพื่อเป็นคอยสังเกตการณ์ เตือนภัยต่างๆ ให้กับชาวเมือง ซึ่งหน้าที่นี้ เพิ่งจะสิ้นสุดไปเมื่อไม่กี่สิบปีนี่เอง ออกจากโบสถ์มาจะพบกับลานกว้าง ซึ่งเป็น Marktplatz (เสมือนเป็นลานกิจกรรม, ตลาด) ก็จะมีผู้คนแถวนั้นอยู่ไม่น้อย


จากนั้นเราก็เดินชมสถาปัตยกรรมของเมืองต่อ บ้านส่วนใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และผู้คนที่นี่เอง ก็ดูเป็นมิตรมากๆ



เดินไปไม่ไกล ก็ถึงจุด Signature ของ Schwäbisch Hall กันแล้ว ภาพที่มองทอดยาวออกไปนั่น ราวกับรูปภาพทีเดียว



เดินเหนื่อยๆ ก็แวะกินไอติมกันสักหน่อย .... อากาศเย็นเบาๆกะไอติม เข้ากั๊น เข้ากัน ^^ ร้านนี้เป็นร้านดังของเมืองนี้(เอ่อ แต่จำชื่อไม่ได้จริงๆ ต้องขออภัย) ไอติมมาถ้วยใหญ่มว้ากกก อิ่ม..น้ำตาลขึ้นสมองกันเลยทีเดียว



ที่เมืองนี้ มีสถาบันสอนภาษาที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน คือ  Goethe-Institut เผื่อใครอยากจะมาเรียนภาษาเยอรมันจ้าา ^^

เราเดินกันจนทั่วเมือง ชื่นชมบรรยากาศที่แสนน่ารักของเมืองนี้ จนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว จากนั้นจึงได้ออกจากตัวเมืองไปนิดนึง เพื่อไปเยี่ยมชม Comburg หนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเยือน หากมาเที่ยว Schwäbisch Hall

Comburg เคยเป็นปราสาทและคริสต์ศาสนสถานในอดีต มองจากที่ไกลๆ จะเห็นได้ชัด เพราะมีขนาดใหญ่คล้ายๆป้อมปราการ พอได้เข้าไปด้านในกำแพง ก็ได้พบกับความสวยงาม ความอลังการของตัวปราสาท และกำแพงที่รายล้อม สามารถเดินได้รอบตัวปราสาทเลย




คุ้มค่ากับการมาเยือนจริงๆ เหมือนเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์หรือ series ของทางฝั่งยุโรป....ว่าไปนั่น

หลังมื้อเย็นที่ Schwäbisch Hall กวางได้ออกไปเดินเล่นเพื่อย่อยอาหารนิดหน่อย และอยากจะเก็บบรรยากาศมุมสูงของที่นี่มาให้ดูชมกัน ... คือ แบบว่ามันดีมาก >//<



หากต้องการเที่ยวเมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวาย แนะนำมาเที่ยว Schwäbisch Hall เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

Schwabach city centre

นี่เป็นอีกเมืองหนึ่ง ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นกัน โดยจะมีโซนที่เป็นโซนเมืองเก่า ซึ่งจะสังเกตได้จากสถาปัตยกรรมของบ้าน พื้นถนนที่จะเป็นก้อนอิฐ/หิน ไม่ได้เป็นพื้นปูนแบบสมัยใหม่ เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านงานศิลปะที่ทำมาจากทองคำ โดยเฉพาะทองคำแผ่นบางๆ คล้ายๆทองคำปิดพระบ้านเรา ในเมืองจะมีร้านอาหารร้านหนึ่ง(ประตูสีเขียวๆใกล้น้ำพุของสัตว์*) ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวการทำทอง และมีอุปกรณ์อาหารแบบโบราณให้เชยชมกันด้วย


ใจกลางเมืองจะมีน้ำพุอยู่ 2 จุด : จุดแรกเป็นน้ำพุที่มีรูปปั้นผู้คนรายล้อม ในสมัยก่อน เป็นที่สำหรับดื่มน้ำของผู้คนส่วนอีกจุดหนึ่ง เป็นน้ำพุที่มีหัวม้ารายล้อม* อันนี้เป็นอันที่ไว้ให้สำหรับสัตว์ได้กินน้ำยามกระหาย (แบ่งแยกกันชัดเจนทีเดียว)




สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มเบียร์ ที่นี่มี Beer Garden เยอะพอสมควร รายล้อมอยู่รอบๆใจกลางเมือง แล้วแต่ว่าต้องการทานอาหารเป็นแนวไหน ^^ ......โดยส่วนตัวนี่มากินอาหารจานหลักตัลลอดด อิ่มจนพุงกาง



สิ่งเดียวที่ไม่เคยจดจำได้ ตอนมาเยอรมันก็คือ ชื่ออาหาร คือบับ มันยากที่จะจำจริงๆนะ เพี้ยนเพลีย เรียกได้ว่าไปถึงโน่นแล้วก็ลองซะให้พอเนอะ  เมืองนี้กวางใช้เวลาเดินชมไม่นานมากนัก แต่ก็รับรู้ได้ถึงมนต์เสน่ห์และความเก่าแก่ได้พอควรทีเดียว

Nuremburg city centre

เนื่องจากไปเดินงานที่ Nuremburg จึงขอแวะเที่ยวชม city center ของเมืองนี้สักหน่อย จากคำบอกเล่า เมืองนี้ถือเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ถือว่าเป็นอันดับ 2 ในแคว้นบาวาเรีย รองจาก Munich  

สถานที่ที่เราเข้าไปเยี่ยมชม ก็จะเป็นจุดสำคัญๆของเมือง คือ St. Sebald Church โบสถ์ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แหงนมองจนเมื่อยคอ, City Wall, Nuremburg castle, Marktplatz ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนเมืองเก่า  ที่เมืองแห่งนี้(และคาดว่าน่าจะเกือบทุกที่ในเยอรมัน) มีการรักษาความเป็นเมืองเก่าไว้ได้อย่างดี กฎระเบียบในการตกแต่งต่อเติมบ้านของที่นี่ ต้องไม่ขัดกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เช่น สีหลังคาต้องเป็นโทนสีเดียวกันนะ ห้ามแปลกแยก จึงทำให้เมืองดูสวยงามในแบบที่เห็น






ใน Nuremberg เราไม่ได้ใช้เวลากับการเข้าชมสถาปัตยกรรมมากนัก แต่เป็นการเดินชมเมืองแบบเบาๆ พอเมื่อยก็เดินไปนั่งพัก โดยเพื่อนที่เยอรมันพาไปนั่งด้านหลัง City wall ซึ่งเป็นโซนที่มีการขายเบียร์และของกินเยอะแยะมากมายตรงนั้น มองดูไปคล้ายลานเบียร์บ้านเรา ที่เป็นแนวยาวตามถนนเล็กๆ ผู้คนที่มาดูเน้นนั่งจิบเบียร์เพิ่มความอุ่นให้ร่างกาย และสังสรรค์เฮฮากัน มีดนตรีสดเล่นด้วยนะ ฟังแล้วประมาณว่า เอิ่ม..เพลงลูกทุ่งเยอรมัน อะไรทำนองนั้น

ประสบการณ์การเที่ยวในเมืองเล็กๆ ที่เยอรมัน บอกได้สั้นๆว่า "สุดยอด" คือตอนแรกก็คิดนะ ว่าเมืองเล็กๆจะมีอะไรเที่ยวน๊าา แต่ปรากฎว่า ทุกอย่างที่ได้เห็น ได้ฟัง ได้เรียนรู้ทั้งประวัติศาสตร์ ทั้งผู้คน มันมากกว่าที่คิดไว้มว้ากก ผู้คนที่เยอรมันเองก็มีความน่ารักและมีน้ำใจ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หลงทางแบบจริงจัง คือ หาบ้านพักไม่เจอ พอถามคนแถวนั้น เค้าถึงกับช่วยเดินหา หากันตั้งสักพักนึงจนเจอ ตอนเจอนี่ดีใจกับเรา ราวกับว่ามาด้วยกันเลยทีเดียว ประทับใจมากๆ

***เที่ยวเยอรมัน อย่าลืมแวะเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดากันบ้างนะคะ***
ชื่อสินค้า:   ladiestraveller.wordpress.com
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่